บทที่ 3 แค่หนึ่งปี
“ไม่ ไม่ดื้อแล้ว” ดวงตากลมโตมองหน้าหล่อคมคายพร้อมกับส่ายหน้ารัวๆ
“ดี! เข้าไปรอในห้องก่อน”
ดารินพยักหน้าเข้าใจแล้วพาตัวเองเดินมุ่งหน้าไปยังห้องนอนตามที่เขาสั่งด้วยหัวใจสั่นระรัวจนแทบจะหายใจไม่ออก
หญิงสาวเดินไปนั่งลงบนเตียงนุ่มสีขาวสะอาดแล้วยกมือขึ้นมาสัมผัสใบหน้าร้อนฉ่าของตัวเองเบาๆ พร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาอย่างแรงเป็นการเรียกสติ นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มกวาดมองไปยังข้าวของภายในห้องอีกครั้งเพื่อเป็นการฆ่าเวลารอชายหนุ่ม
ดารินนั่งรอไปสักพักก็เริ่มรู้สึกหนาวจนขนกายชูชัน รีบดึงผ้านวมผืนหนาขึ้นมาคลุมไว้บนไหล่เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น
“ฮัดชิ่ว!” หญิงสาวจามออกมาอย่างแรงพร้อมกับใช้หลังมือถูไปมาที่จมูกจนแดงก่ำ
สักพักภาคินัยก็เดินเข้ามาพร้อมกับถ้วยใส่ยาและน้ำเปล่าอีกหนึ่งแก้วยื่นให้เธอ หญิงสาวรับมันมาส่งยาเข้าปาก จากนั้นก็เอ่ยขอบคุณเขาแล้วล้มตัวลงนอนเพราะเริ่มรู้สึกปวดหัว
“โดนฝนนิดหน่อยก็ป่วยแล้ว เด็กน้อยจริงๆ” ชายหนุ่มที่ยืนมองเธออยู่พึมพำออกมาเบาๆ ทว่าหญิงสาวกลับได้ยินอย่างชัดเจน
"ถ้าจะว่ากัน ทีหลังก็พูดเบาๆหน่อยสิคะ"
ดารินพูดน้ำเสียงประชดเล็กน้อย ทว่าดวงตากลมโตมองไปที่ใบหน้าของเขาด้วยความรู้สึกขอบคุณ อย่างน้อยๆเขาก็ยังใจดีเตรียมยามาให้
“ง่วงจัง” ดูเหมือนว่ายาที่เธอกินเข้าไปจะเริ่มออกฤทธิ์ เปลือกตาเล็กที่มีแพขนตางอนสวยปิดลงอย่างช้าๆ ไม่นานก็หลับใหลเข้าสู่หวงนิทราอย่างง่ายดาย
ชายหนุ่มที่ยืนมองเธอในตอนแรกเลื่อนตัวลงมานั่งที่ว่างข้างกายคนตัวเล็ก แล้วใช้นิ้วเกลี่ยเส้นผมที่ปิดหน้าเธอออก จนเห็นใบหน้าสวยหวานอย่างชัดเจน ความคิดของเขานึกย้อนกลับไปถึงเรื่องเมื่อเกือบสองเดือนก่อนอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้เขาให้เลขาคนสนิทคอยตามดูเธอเพราะตัวเองต้องไปทำงานที่ต่างประเทศและพึ่งกลับมาได้ไม่กี่วัน หลังกลับมาเขาก็รีบให้อคินพาเธอมาหาในทันที
ช่วงที่เขาใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศจะมีอคินคอยถ่ายรูปเธอส่งมารายงานไม่ขาด จนเขาได้เห็นบทบาทต่างๆในชีวิตของเธอคนนี้
ชายหนุ่มไม่เข้าใจตัวเองในเรื่องนี้เหมือนกันว่าทำไมต้องทำอย่างที่ทำอยู่ เพราะที่ผ่านมาก็ไม่ได้ให้ความสนใจผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษ หรือเพราะเธอไม่เหมือนพวกผู้หญิงที่เขาเคยเจอ
นิ้วเรียวยาวค่อยๆ เลื่อนไปหยุดยังแก้มสีระเรื่อของคนที่หลับอยู่พร้อมกับคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอีกสักพัก จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องเพื่อให้หญิงสาวได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
เช้าวันต่อมา...
เปลือกตาเล็กค่อยๆ ลืมขึ้นพร้อมกับบิดกายขี้เกียจอย่างที่เคยทำเป็นประจำ แล้วหันไปมองบริเวณรอบๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าเธอไม่ได้อยู่บ้านของตัวเองจึงรีบลุกขึ้นนั่งแล้วใช้มือเล็กยกขึ้นแตะหน้าผาก ลากลงมาบริเวณลำคอก็รู้ว่าตัวไม่ร้อนอย่างเมื่อคืนแล้วและอาการปวดหัวก็ดีขึ้นมาก เธอจึงรีบลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินออกไป
กลิ่นกาแฟลอยตลบอบอวลไปทั่วบริเวณทันทีที่เธอเปิดประตูก้าวออกมาจากห้อง คนตัวเล็กเดินไปตามกลิ่นนั้นจนหยุดยืนอยู่บริเวณห้องนั่งเล่นก็ได้ยินเสียงจามดังมาจากร่างสูงที่กำลังนั่งถือไอแพดอยู่ เธอจึงเดินเข้าไปใกล้
ภาคินัยในชุดนอนผ้าซาตินสีน้ำเงิน เงยหน้ามองเธอพร้อมกับจามออกมาอีกครั้ง แล้วถามไถ่อาการของดารินโดยไม่ได้สนใจจมูกที่แดงก่ำของตัวเองแม้แต่น้อย
“ดีขึ้นแล้วเหรอ ทำไมไม่นอนต่อ ฮัดชิ่ว!”
“ดีขึ้นแล้วค่ะ ตอนนี้เหมือนคุณจะป่วยแทนฉันนะ”
“ติดมาจากคุณนะสิ”
“เด็กน้อยจริงๆ” เธอพึมพำคำเดียวกันกับที่เขาว่าเมื่อคืน ชายหนุ่มได้ยินดังนั้นก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินเข้าไปประชิดร่างเล็ก
“ว่าไงนะ!”
“แค่บอกว่าเดี๋ยวจะไปเตรียมยามาให้ค่ะ” เธอแก้ตัวข้างๆคูๆ ครั้นเห็นว่าเขามองเธออย่างคาดโทษ
“ไม่ต้อง เพราะผมดูแลตัวเองได้” เขาแสร้งเชื่อในสิ่งที่เธอพูดแล้วไม่ลืมที่จะปฏิเสธเสียงแข็ง
“แต่คุณจมูกแดงมากเลยนะคะ กินยาหรือยัง"
“ทำไม? อยากรับผิดชอบรึไง” เขาก้มมองใบหน้าหวานพร้อมกับเลิกคิ้วถามแล้วจับมือของดารินขึ้นมาสัมผัสที่หน้าผากของเขา
“ตัวผมร้อนมั้ย” ดารินสบตากับเขาแวบหนึ่งแล้วหันไปมองทางอื่นโดยมือยังคงสัมผัสหน้าผากเขาอยู่อย่างนั้น แต่กลับไม่ตอบคำถามที่ชายหนุ่มรอฟัง เขาจึงพูดขึ้นอีกครั้ง
“หน้าแดงเก่ง ไม่รู้เพราะป่วยหรือเขินกันแน่"รอยยิ้มร้ายผุดขึ้นมาบนใบหน้าหล่อเหลา
“ไม่ได้เขินซะหน่อย”
“อืม แต่เหมือนจะหน้าแดงทุกครั้ง เวลาอยู่ใกล้ผม” เขาพูดน้ำเสียงกระเส่าพร้อมกับยกมืออีกข้างทัดผมไปหลังหูเธอ
“ไม่จริง” ตอบโดยพยายามไม่สบตา
“แล้วหัวใจก็เต้นแรงด้วย”
“ไม่ใช่”
“อย่างนั้นเหรอ?” สายตาคมวาวเพ่งมองเธออย่างคาดคั้นโดยไม่จริงจังนัก
"คะ..ค่ะ"
"หึ!"ชายหนุ่มมองอาการประหม่าของคนตัวเล็กอย่างนึกสนุก จากนั้นก็เดินกลับไปนั่งที่เดิมเพื่อปล่อยให้เธอได้เป็นอิสระ
"พร้อมเซ็นสัญญาหรือยัง"
"เอ่อ.. ตอนนี้เลยเหรอคะ"เธอถามเขาน้ำเสียงเริ่มไม่มั่นใจ
"ทำไม จะเปลี่ยนใจหรือไม่ชอบที่ผมใส่ชุดไม่เป็นทางการ เดี๋ยวถอดออกก็ได้นะ"ภาคินัยพูดแล้วยกมือขึ้นมาจะปลดกระดุมต่อหน้าเธอ
"ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ"ดารินเห็นดังนั้นก็รีบห้ามเขาอย่างไว
"งั้นก็นั่งลง แล้วอ่านสัญญาให้ละเอียด ผมเตือนแล้วนะ"เขาบอกแล้วมองหน้าเธออย่างจริงจัง
หญิงสาวนั่งลงตรงข้ามเขาพร้อมกับหยิบเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาแล้วอ่านมันอย่างตั้งใจโดยมีแววตาลึกล้ำจับจ้องอยู่ที่ดวงหน้างามตลอดเวลา คิ้วสวยเริ่มขมวดเข้าหากันเมื่ออ่านไปถึงค่าตอบแทนที่เธอจะได้ เพราะมันมากจนน่าแปลกใจซึ่งเป็นเงินจำนวนถึงสองล้านบาท!
"ทำไมค่าตอบแทนมันเยอะขนาดนี้คะ"เธอเงยหน้าจากเอกสารเพื่อถามเขาซึ่งเขาเองก็มองเธออยู่ก่อนแล้ว
"อ่านข้อต่อไปสิ"
"สัญญาหนึ่งปี?"
"ใช่ หนึ่งปีที่คุณต้องอยู่ที่นี่ และผมให้เงินคุณมากกว่านั้นอย่างแน่นอน"แววตาเจ้าเล่ห์แฝงรอยยิ้มน้อยๆมองไปที่เธอ
"คุณต้องการให้ฉันมาทำงานจริงๆเหรอคะ"
"ทำไม หรือคุณกลัวอะไร?"
ดารินมองหน้าเขาแล้วก้มลงอ่านเอกสารในมืออีกครั้ง โดยใจเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว 'หนึ่งปีเลยเหรอ แต่เงินที่ได้ก็เยอะมากเลยนะ' ความคิดของเธอเริ่มตีกันเอง แต่ถึงตอนนั้นเธอคงจะเรียนจบพอดีและเงินก้อนนี้สามารถพาเธอไปท่องเที่ยวได้อีกหลายประเทศอย่างแน่นอนเพราะความฝันของเธอนอกจากได้ทำงานในบริษัทใหญ่ๆก็มีอีกหลายประเทศที่ต้องการไปเยือนสักครั้งในชีวิต
ครั้นพอนึกถึงความสนุกของการไปใช้ชีวิตในประเทศอื่นก็ทำให้เธอเซ็นสัญญาอย่างไม่ลังเลเหมือนตอนแรก
"เรียบร้อยแล้วค่ะ"
เธอจรดปลายปากกาเสร็จก็เงยหน้าขึ้นมองเขาแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ
"หวังว่าคุณจะมีความสุขตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่อยู่กับผม และในสัญญาก็ระบุไว้ว่า คุณต้องทำทุกอย่างที่ผมต้องการโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆทั้งสิ้น"ประกายตาของเขาวาวด้วยความพึงพอใจ
“ค่ะ ฉันเห็นแล้ว” เธอพยักหน้าเข้าใจเพราะเห็นสัญญาข้อนี้แล้วและก็ไม่ได้คิดอะไร
ชายหนุ่มมองหน้าเธอแล้วกระตุกยิ้มร้าย เขาไม่ใช่คนดีอะไรมากมายและต้องได้ทุกอย่างที่อยากได้ ทว่าไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล
เพราะเขาต้องการให้เธอมาอยู่ด้วยกันหนึ่งปี แค่หนึ่งปีเท่านั้น!
“ทุกอย่างที่ว่านี้ รวมถึงเรื่องบนเตียงด้วยนะ สาวน้อย”