บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 เด็กดื้อ

หลังจากภาคินัยพูดจบ เขาก็เดินออกไปจากห้องทันทีเพื่อให้หญิงสาวได้ใช้เวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ดารินยืนมองเสื้อผ้าแต่ละตัวด้วยความรู้สึกแปลกใจ เนื่องจากเธอเป็นคนรูปร่างเล็กและชุดต่างๆในตู้นี้ก็ล้วนแต่เป็นไซต์เธอทั้งนั้น หญิงสาวไม่รอช้ารีบเลือกชุดที่คิดว่าใส่สบายที่สุดออกมาแล้วเปลี่ยนมันโดยใช้เวลาแค่ไม่นาน

และด้วยความอยากรู้อยากเห็นทำให้เธอแอบเดินสำรวจห้องนั้นในเวลาต่อมา ตอนแรกเธอคิดว่าเป็นห้องนอนของชายหนุ่ม แต่ทว่ามันกลับไม่ใช่อย่างที่คิดเพราะดูเหมือนห้องนี้แทบไม่ได้ใช้งานด้วยซ้ำ ดารินได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจแล้วเดินออกไปจากห้อง

หญิงสาวในชุดเสื้อยืดสีขาวพอดีตัวกับกางเกงวอร์มขายาวสีเทาเดินไปนั่งลงตรงข้ามภาคินัยที่กำลังมองเธออยู่อย่างไม่ละสายตา ดารินเห็นดังนั้นก็มองเขากลับเช่นเดียวกันพร้อมกับถามในสิ่งที่เธอรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก

“ทำไมต้องให้คนของคุณคอยตามฉันด้วยคะ”

ชายหนุ่มที่ได้ยินคำถามนั้นนิ่งไปครู่หนึ่งเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง เขาตอบออกมาด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งในข้ออ้างที่เขาพึ่งคิดได้

“ผมแค่อยากมั่นใจว่าไม่ได้มีลูกของผมติดท้องคุณไปด้วย”

“ถ้าเป็นเรื่องนั้นสบายใจได้ค่ะ ไม่มีแน่นอน” ริมฝีปากบางเผยรอยยิ้มจางๆ มองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาเพื่อบอกกับเขาว่าไม่ต้องกังวล

แค่เพียงเห็นรอยยิ้มของเธอ เขากลับรู้สึกถูกดึงดูดใจไม่น้อย ความเงียบเริ่มปกคลุมคนทั้งสองและก่อนที่บรรยากาศจะอึดอัดไปมากกว่านี้ ภาคินัยจึงเป็นฝ่ายพูดในสิ่งที่เขาต้องการออกมา

“ผมให้อคินพามาคุณมา เพราะต้องการให้คุณมาช่วยงาน”

“คะ?” ดารินมองหน้าเขาอย่างไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก

“ปกติคุณก็ทำพาร์ทไทม์ไม่ใช่เหรอ มาทำกับผม รับรองว่าเงินดีกว่างานที่ทำอยู่เป็นสิบเท่า” เขายื่นข้อเสนอที่คิดว่าเธออาจจะสนใจ

“งานอะไรเหรอคะ” ริมฝีปากเล็กเอ่ยถามพร้อมกับมองเขาอย่างรอคอยคำตอบ ทว่าชายหนุ่มไม่ตอบคำถามนั้นแต่เป็นฝ่ายถามกลับแทน

“คิดว่างานอะไรล่ะ”

เธอทำท่าครุ่นคิด สักพักดวงตาก็ค่อยๆเบิกกว้างเมื่อสมองคิดไปไกล เนื่องจากเธอเคยเห็นเพื่อนในสาขาเดียวกันมีบรรดาผู้ชายคอยเลี้ยงดูจึงคิดว่าเขาอาจจะต้องการแบบนั้น เพราะดูแล้วคนตรงหน้าคงจะร่ำรวยมาก

“คงไม่ได้ให้ฉัน...”

ภาคินัยเห็นปฏิกิริยาที่แสดงออกผ่านใบหน้านั้นพร้อมกับสิ่งที่เธอกำลังพึมพำออกจากปาก ก็รีบพูดขึ้น

“คิดไม่ดีอยู่ล่ะสิ”

“ปะ เปล่านะคะ ไม่ได้คิด” เธอยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาเป็นเชิงปฏิเสธ ทว่าสายตาไม่รักดีกลับหยุดอยู่ที่ริมฝีปากหนาอมชมพูของเขา เรื่องราวที่เกิดขึ้นในคืนนั้นแล่นเข้ามาในความคิดอีกครั้งพร้อมกับใบหน้าหวานที่ขึ้นสีระเรื่ออย่างห้ามไม่อยู่

“หึ ไม่คิด หน้านี่แดงเชียว” เขาหัวเราะในลำคอเมื่อเห็นสีหน้าของเธอ

แม้เธอจะปฏิเสธไปแบบนั้นแต่ทว่าสมองกลับคิดเตลิดไปไกลอย่างที่เขาว่าจริงๆ หญิงสาวยกมือเล็กขึ้นลูบคอตัวเองไปมาพร้อมกับส่งรอยยิ้มแห้งให้เขาอีกครั้ง ราวกับเด็กที่ถูกจับได้ว่าไปทำอะไรผิดมา

“ผมแค่อยากให้มาช่วยงานเอกสาร แต่ต้องพักที่นี่เท่านั้น” ตาทั้งสองข้างของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าของเธออย่างจริงจัง

“เอากลับไปทำที่บ้านไม่ได้เหรอคะ” ดารินรู้สึกสนใจงานที่เขาเสนอไม่น้อย เพราะหลังจากสอบเสร็จเธอก็ต้องหางานทำเพิ่มอยู่ดี

“ไม่ได้ เพราะข้อมูลบางอย่างมันสำคัญมาก หายขึ้นมาเรื่องใหญ่เลยนะ”

“ถ้าอย่างนั้นฉันขอไปคิดก่อนได้มั้ยคะ” ดวงตากลมโตมองคนตรงหน้าอย่างใสซื่อพร้อมกับรอฟังคำตอบเผื่อว่าเขาอาจจะใจดีให้เวลาเธอได้ตัดสินใจ

“ผมรอไม่ได้ด้วยสิและดูเหมือนว่าจะมีคนส่งใบสมัครมาเยอะเลย” เขาพูดแล้วทำทีเป็นหยิบไอแพดที่วางอยู่ข้างๆขึ้นมาเลื่อนดูอย่างตั้งใจ

หญิงสาวเม้มริมฝีปากเข้ากันอย่างใช้ความคิด งานก็อยากได้แต่ทว่าเธอไม่อยากอยู่ใกล้เขามากเกินไปเพราะผู้ชายคนนี้อันตรายต่อหัวใจจริงๆ!

เขาเห็นเธอเงียบไปก็พูดออกมาอีกครั้ง ราวกับว่ากำลังกดดัน

“ถ้าคุณไม่อยากทำ..”

“ทำค่ะ ทำ!” หญิงสาวโพล่งออกมาก่อนที่เขาจะพูดจบ ชายหนุ่มได้ยินดังนั้นก็ยกยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ

“ดีมาก คุณเป็นคนเห็นคุณค่าของโอกาส”

“แต่ฉันขอเริ่มงานหลังจากสอบเสร็จได้มั้ยคะ”

เขาแสร้งทำท่าครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วตอบเธอ

“ก็ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะทำสัญญากัน”

“ค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ มันดึกมากแล้ว”

“ฝนยังตกหนักอยู่เลย นอนนี่สิ” หญิงสาวมองไปยังกระจกบานใหญ่ก็เห็นว่าด้านนอกฝนตกหนักและลมแรงอย่างที่เขาว่าจริงๆ

“ผมไม่ทำอะไรหรอกน่า”

หญิงสาวมองหน้าเขาเล็กน้อย แล้วตัดสินใจลุกขึ้นยืนพร้อมกับก้มหัวให้เป็นการบอกลา จากนั้นก็เดินไปที่ลิฟต์ส่วนตัวเพื่อลงไปชั้นล่าง ชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็รีบเดินตามหลังแล้วคว้าหมับไปที่แขนของเธอ แต่เขาถึงกับชะงักเพราะไอความร้อนที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างเล็ก

“คุณตัวร้อนนี่”

หญิงสาวดึงแขนตัวเองกลับมา แต่ชายหนุ่มไม่ได้สนใจการกระทำของเธอแม้แต่น้อย มือใหญ่ยกขึ้นไปแตะหน้าผากของดารินแผ่วเบา เพื่อเป็นการตรวจดูว่าเธอตัวร้อนจริงๆ

ใบหน้าหวานเริ่มขึ้นสีระเรื่อเมื่อสายตาของเขายังคงจับจ้องอยู่บนหน้าเธออย่างนั้น

“ฉะ ฉันไม่ได้เป็นอะไรค่ะ ปล่อยได้แล้ว”

“คุณมีไข้ ไม่ต้องกลับแล้ว นอนที่นี่แหละ”

เธอส่ายหน้ารัวๆแล้วก้าวถอยหลังหลังเพื่อเว้นระยะห่างจากเขา แต่ทว่าชายหนุ่มกลับเดินเข้ามาใกล้เหมือนเดิมพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงดุเล็กน้อย

“อย่าดื้อ”

“ไม่ได้ดื้อค่ะ แค่จะกลับบ้าน”

“เถียงเก่งด้วย”

“ไม่ได้เถียงค่ะ แค่บอก”

“หยุดพูดแล้วไปกินยาเดี๋ยวนี้”ภาคินัยจับมือเธอให้เดินตามเขามา แต่หญิงสาวยังคงดื้อรั้นยื้อตัวเองไว้ที่เดิม

“ไม่ไปค่ะ จะกลับ บ้า..จุ๊บ~” ชายหนุ่มไม่พูดพร่ำทำเพลงประทับริมฝีปากลงบนปากเล็กเบาๆ

ดวงตาทั้งสองข้างของเธอเบิกกว้างแล้วยืนนิ่งด้วยความตกใจ ภาคินัยรู้สึกว่าคนตัวเล็กแน่นิ่งไปชั่วขณะจึงก้มลงใช้ปากแตะปากเธออีกครั้งราวกับเป็นการเรียกสติ แต่หารู้ไม่ว่ามันยิ่งทำให้เธอไม่มีสติ!

"จะดื้ออีกมั้ยครับ หืม?"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel