ตอนที่4 สร้างความคุ้นชิน#2
ตอนที่4 สร้างความคุ้นชิน#2
“คุณจะนอนค้างที่นี่เหรอคะ” ณิชาที่พึ่งล้างจานเสร็จเดินออกมาจากในครัวก็เจอกับชายหนุ่มเจ้าของห้องยังนั่งทำงานอยู่ที่โซฟาห้องรับแขก
“ถ้าไม่นอนนี่ฉันจะนั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ไหม เสร็จงานแล้วก็เข้านอนพรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้าไม่ใช่หรือไง” เสียงทุ้มดุกลับไปเมื่อเด็กสาวถามคำถามที่ไม่ค่อยถูกใจสักเท่าไหร่
“ค่ะ คุณก็อย่านอนดึกมากนะคะ ฝันดีค่ะ” ณิชาพูดจบก็เดินเข้าห้องนอนตัวเองทันที มือบางกำลังกดล็อกประตูห้องก็ต้องหยุดชะงักเมื่อนึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายอาจจะมานอนกับเธอก็ได้ จึงเพียงแค่ปิดประตูแต่ไม่ได้ล็อกจากด้านใน
“ดวงตากลมโตมองเพดานสีขาวอยู่นานเกือบชั่วโมงก็ไม่สามารถข่มตาหลับลงได้เพราะนึกถึงเหตุการณ์ในห้องน้ำเมื่อช่วงเย็นก็ทำให้เธอนอนไม่หลับ คอยแต่คิดวนซ้ำไปซ้ำมาว่าสิ่งที่เธอกำลังทำนั้นมันถูกต้องแล้วหรือไม่
“ถ้าขอยกเลิกสัญญาตอนนี้จะได้ไหมนะ” เด็กสาวพึมพำกับตัวเอง เป็นจังหวะเดียวกันที่ซันเดย์เปิดประตูเข้ามาพอดี
“เลิกคิดฟุ้งซ่านแล้วนอนได้แล้ว เธอแค่เป็นคู่นอนให้ฉันคนเดียวไม่ได้ไปอ้าขาให้ผู้ชายนับร้อยนับพันคนเอาทั้งคืน ถึงทำอย่างนั้นก็ไม่รู้จะได้เงินเยอะเท่าที่ฉันจ่ายให้ไหม เพราะฉะนั้นเลิกคิดไร้สาระเรื่องที่จะยกเลิกสัญญาเพราะเธอไม่มีปัญญาจ่ายค่ายกเลิกสัญญาก่อนกำหนด”
“แต่ทำแบบนี้มันน่าอายมากเลยนะคะ”
“ก็คิดซะว่าโดนผัวเอาแล้วกันจะได้ไม่ต้องคิดมาก เธออายุสิบเก้าจะยี่สิบปีแล้ว ไม่ใช่เด็กแปดขวบที่จะไม่รู้ว่าสังคมทุกวันนี้เปิดกว้างสำหรับเรื่องเพศมากแค่ไหน ผู้หญิงที่มีแฟนตอนเรียนมหาวิทยาลัยก็มีเยอะแยะถมเถไป คนพวกนั้นโดนเอาฟรีด้วยซ้ำไม่ได้เงินสักบาท ฉันไม่ได้บอกว่าเรื่องที่ฉันและเธอทำอยู่นี้นั้นเป็นเรื่องดี แต่ถ้าเราสองคนตกลงกันได้มันก็ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไร เพราะเธอเองก็ไม่มีแฟนฉันเองก็ไม่ได้มีเมีย เราไม่ได้ทำเรื่องผิดศีลธรรมที่ไปเป็นชู้กับผัวเมียคนอื่น”
“แต่พวกเขาเป็นแฟนกัน และรักกันนะคะถึงทำเรื่องแบบนี้ได้”
“แล้วฉันด่าเธอสักคำหรือยัง ฉันทำไม่ดีกับเธอตรงไหน” ซันเดย์ชักสีหน้าใส่หลังถูกเด็กสาวยัดเยียดข้อหาคนใจร้ายให้ ทั้งที่ทั้งสองตกลงกันเรื่องนี้ตั้งแต่แรกแล้ว และเธอเองก็อ่านสัญญาโดยละเอียดก่อนจะเซนต์รับข้อเสนอโดยมีผลตอบแทนคือเงินตรา ต่างฝ่ายต่างได้ผลประโยชน์ร่วมกันไม่มีใครเสียเปรียบ
“ไม่มีค่ะ” เมื่อนึกย้อนกลับไปวันนี้ก็ถือว่าชายหนุ่มนั้นไม่ได้บังคับขู่เข็ญเธอจนเกินไป ทั้ง ๆ ที่เขามีสิทธิ์ทำแบบนั้น
“จะเลิกฟุ้งซ่านได้หรือยัง ถ้ายังฉันจะทำให้เธอหลับคาอกฉันตอนนี้เลย” ซันเดย์แกล้งขู่ออกไปเสียงเข้ม
“ไม่แล้วค่ะ ฝันดีนะคะ คุณออกไปปิดไฟให้หนูด้วยนะคะ” เด็กสาวรีบมุดตัวเข้าใต้ผ้าห่มผืนหนา นอนตะแคงข้างหันหลังให้ชายหนุ่มและปิดเปลือกตาลงสนิท
“อ้ะ! คุณจะนอนกับหนูที่ห้องนี้เหรอคะ” แขนแกร่งรั้งร่างบางเข้ามากอดแนบอก ความอุ่นจากแผงอกผ่านเสื้อนอนตัวบางสัมผัสแผ่นหลังจนขนลุกซู่เพราะไม่เคยได้รับสัมผัสแบบนี้มาก่อน แม้แต่อ้อมกอดของพ่อกับแม่เธอก็จำไม่ได้แล้วว่าเป็นยังไง เพราะเท่าที่จำความได้ตอนเด็กพ่อกับแม่ก็ทะเลาะกันทุกวันเพราะพ่อของเธอนั้นไปมีผู้หญิงอื่น
“ประหยัดไฟ” ซันเดย์ตอบเพียงแค่นั้นไฟหัวเตียงก็ดับลง ไม่นานทั้งสองก็หลับไป
ณิชาตื่นขึ้นมาตอนเช้ามืดด้วยความเคยชินของร่างกายที่จะตื่นขึ้นมารดน้ำผักและเก็บผักไปขายที่ตลาด เมื่อร่างบางในอ้อมกอดขยับตัวซันเดย์ก็รู้สึกตัวตาม
“จะตื่นไปไหนตั้งแต่เช้า เธอมีเรียนตอนตีห้าหรือไง” เสียงแหบพร่าของคนที่กำลังหลับสบายถูกปลุกให้ตื่นมาตอนเช้ามืด เอ่ยถามขึ้นเมื่อมองนาฬิกาบนฝาผนังก็พบว่าตอนนี้พึ่งจะตีหน้าครึ่ง
“หนูชินค่ะ คุณนอนต่อก็ได้นะคะเดี๋ยวหนูจะออกไปเตรียมอาหารเช้า คุณทานข้าวต้มหรือเป็นขนมปังกับกาแฟคะ”
“ข้าวต้ม ไม่ใส่ผัก ชงกาแฟให้ฉันด้วย”
“ค่ะ นอนต่อเถอะนะคะ เสร็จแล้วหนูจะเข้ามาปลุก” เท้าเล็กก้าวลงจากที่นอนคว้าชุดคลุมที่แขวนอยู่ราวใกล้ ๆ มาสวมทับชุดนอน ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องครัว
ณิชาเปิดตู้เย็นสำรวจวัตถุดิบที่จะทำมื้อเช้าวันนี้สำหรับเธอและชายหนุ่ม หมูสับ กุ้งสดที่แกะเปลือกล้างทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วถูกแพ็กใส่กล่องอย่างเป็นระเบียบ รวมทั้งผักต่าง ๆ ก็ถูกล้างและห่อใส่ถุงเรียงกันในช่องผักเช่นกัน
“อืม..ทำข้าวต้มหมูสับผสมกุ้งดีกว่านะ” ณิชาหยิบหมูสับและกุ้งออกมาจากตู้ จัดการบดกุ้งให้ละเอียดและนำไปผสมกับหมูสับและเครื่องเทศที่ซื้อสำเร็จมาจากซูเปอร์มาร์เก็ต เมื่อเตรียมวัตถุดิบเรียบร้อยน้ำในหม้อที่ต้มไว้ก็เดือดพอดี ผงปรุงรสแบบก้อนและน้ำสต๊อกที่เตรียมไว้ถูกเทลงหม้อส่งกลิ่นหอมไปทั่วห้องครัวเล็ก เมื่อน้ำเดือดได้ที่เธอก็เติมเนื้อหมูและกุ้งที่คลุกรวมกันปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ พอดีคำใส่ลงในหม้อ รอสักพักเมื่อเนื้อสัตว์ที่เธอใส่ลงไปสุกได้ที่ก็เติมข้าวสวยที่เตรียมไว้เทใส่ลงในหม้อและคนให้เข้ากัน จากนั้นก็ลดระดับไฟลงมาเป็นโหมดอุ่นอาหาร
เมื่อข้าวต้มเสร็จแล้วก็หันมาเตรียมกระเทียมเจียวสำหรับโรยหน้าข้าวต้มเพื่อจะได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ให้น่ารับประทาน น้ำมันมะกอกถูกโรยลงกระทะเล็กน้อยและตามด้วยกระเทียมสับที่เธอสับเตรียมไว้ ผัดพอให้กระเทียมเปลี่ยนเป็นสีเหลืองก็ตักใส่ถ้วยใบเล็กที่เตรียมไว้
ข้าวต้มหมูสับรวมกุ้งถูกตักใส่ชามใบใหญ่ยกไปตั้งบนโต๊ะอาหาร พร้อมกับถ้วยกระเทียมเจียวและต้นหอมผักชีสำหรับเธอที่ชอบทานผัก เมื่อตั้งโต๊ะเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินกลับเข้าห้องจัดการอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปเรียนเช้าวันนี้
“เตรียมเสื้อผ้าให้ฉันด้วย” เสียงทุ้มเอ่ยบอกขณะที่กำลังสนใจมือถือในมือ
“ค่ะ”
ณิชากลับเข้ามาในห้องอีกครั้งก็พบว่าเจ้าของเสียงดุที่ชอบทำใส่เธอนั้นไม่ได้อยู่บนที่นอน มีเพียงเสียงน้ำดังเล็ดลอดออกมาจากห้องน้ำให้ได้ยิน ชุดทำงานของชายหนุ่มถูกแขวนไว้ราวอเนกประสงค์ข้างตู้เสื้อผ้า พร้อมกับเนกไท จากนั้นณิชาก็หยิบกระเป๋าและเดินออกมานั่งรอชายหนุ่มที่โต๊ะทานข้าว นั่งคิดอยู่ประมาณห้านาทีก็นึกขึ้นได้ว่าเธอลืมชงกาแฟให้ชายหนุ่มก็รีบสาวเท้าเข้าห้องครัวและจัดการชงกาแฟร้อนที่เสียบกาน้ำร้อนทิ้งไว้ตั้งแต่ตอนทำกับข้าว
ข้าวต้มร้อน ๆ ส่งกลิ่นหอมไปทั่วห้อง กลิ่นกาแฟคั่วบดละเอียดที่สั่งมาพิเศษจากทางเหนือส่งกลิ่นหอมเช่นกัน
“ฉันไม่กินผัก เอามาทำไม”
“อันนี้ของหนูค่ะ คุณใส่กระเทียมเจียวไหมคะ”
“ใส่แค่นิดเดียว”
ข้าวต้มร้อน ๆ ถูกตักเข้าปากคำแรกเคี้ยวอยู่นานก่อนจะตักคำต่อไป ณิชารอลุ้นว่าชายหนุ่มจะคอมเมนต์รสชาติว่าอย่างไร แต่เงียบไร้คำติชม สองคนนั่งทานมื้อเช้าเงียบ ๆ จนข้าวต้มในชามของซันเดย์ถูกตักทานไปจนหมด
“คุณรับเพิ่มอีกไหมคะ”
“ฉันเป็นคนนะไม่ใช่ช้างจะได้กินเยอะขนาดนั้น”
“เดี๋ยวหนูไปหยิบนมมาให้นะคะ อุ่นไว้ในไมโครเวฟ รอสักครู่ค่ะ”
วันนี้ซันเดย์เจริญอาหารมากกว่าปกติ ทั้งทานข้าว ทานนม และปิดท้ายด้วยกาแฟที่รสชาติแปลกไปจากเตมินที่เคยชงให้เขาทานประจำ
“เธอชงกาแฟยังไง”
“คะ? ไม่อร่อยเหรอคะ หนูก็ทำตามสูตรเป๊ะ ๆ นะคะ”
“ทำตามสูตร”
“ใช่ค่ะ เติมน้ำ 1:15 ส่วน ทิ้งไว้ 4 นาที จะได้รสชาติและกลิ่นของกาแฟจริง ๆ ตามสูตรที่บอกไว้ข้างกล่องเป๊ะ มันไม่อร่อยเหรอคะ”
“เปล่า วันหลังสอนเตมินมันบ้างนะ”