ตอนที่2 ทำหน้าที่
ตอนที่2 ทำหน้าที่
เตมินกลับเข้าบ้านก็เจอกับเจ้าของบ้านนั่งรออยู่ห้องรับแขกสีหน้าเรียบนิ่ง ทั้งที่ปกติเวลานี้จะนั่งทำงานอยู่ในห้องหรือไม่ก็พักผ่อนอยู่บนเตียง
“มึงไปไหนมาทำไมกลับมาเอาป่านนี้”
“นายถามเหมือนเป็นเมียผมเลยนะครับ นายลืมไปหรือเปล่าว่านายเป็นคนไล่ผมลงจากรถ” เลขาหนุ่มหันไปตอบคนเป็นนายขณะที่เดินเข้าบ้านมาสีหน้าดูมีความสุข
“จากสาทรมาบ้านนั่งแท็กซี่แค่ครึ่งชั่วโมง แล้วตอนนี้เกือบเที่ยงคืนมึงหายหัวไปตั้งสองชั่วโมง”
“ผมก็ไปหาข้าวกินมาสิครับ แล้วอีกอย่างผมบังเอิญเจอณิชาก็เลยนั่งทานข้าวแล้วก็คุยกับเธอเพลินไปหน่อย”
“เจอณิชา”
“ครับ เจอณิชาออกมาหาอะไรทานที่ตลาดพอดี”
“เด็กนั่นออกมาหาอะไรทานตอนสี่ทุ่มเนี่ยนะ มาอยู่กรุงเทพฯ ได้ยังไม่ถึงวันออกมาเดินเที่ยวเพ่นพ่านแล้วอย่างนั้นเหรอ”
“เธอคงหิวน่ะครับ ที่ห้องผมไม่ได้ซื้ออะไรเข้าไปไว้ให้”
“แล้วทำไมแกไม่ซื้อ ฉันสั่งให้ซื้อทุกอย่างที่จำเป็นไม่ใช่หรือไง”
“ก็เธอบอกว่ายังไม่ได้ย้ายเข้ามาอยู่ตอนนี้ผมเลยยังไม่ซื้อของสดเข้าไปไว้น่ะครับ”
“แล้วเธอกลับห้องยังไง”
“ผมนั่งแท็กซี่ไปส่งเธอครับ”
“พรุ่งนี้เอารถของที่บ้านไปส่งเธอที่ต่างจังหวัดด้วยเผื่อต้องการขนอะไรมาจะได้ไม่ต้องหอบขึ้นรถทัวร์มา ตรวจดูความเรียบร้อยที่โน่นด้วยว่าคนแก่จะสามารถอยู่ตัวคนเดียวได้ไหม มีอันไหนที่จำเป็นต้องจัดหาก็ซื้อไปให้ครบ ต่อไปจะได้ไม่มีข้ออ้างว่าต้องกลับไปดูแลยายอย่างโน้นอย่างนี้อีก”
“ครับนาย พรุ่งนี้วันหยุดนายไม่ได้มีธุระที่ไหนใช่ไหมครับ”
“ไม่มี แกถามทำไม”
“เผื่อนายอยากไปเที่ยวต่างจังหวัดไปสูดอากาศบริสุทธิ์สักหน่อย”
“ฉันไม่ได้ว่างขนาดนั้น”
ก่อนหน้านั้น
ซันเดย์เปิดดูรูปถ่ายบ้านที่เด็กสาวอาศัยอยู่และประวัติครอบครัวคร่าว ๆ ก็ได้รู้ว่าเด็กสาวในการปกครองนั้นอาศัยอยู่กับยายแค่สองคนตั้งแต่เด็กเพราะพ่อแม่ของเธอนั้นประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตตั้งแต่เธออายุแค่เก้าขวบ เด็กสาวทำงานหาเงินเลี้ยงดูยายที่แก่ชราตั้งแต่อายุ 13 รวมถึงต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนตัวทั้งค่าใช้จ่ายในการเรียนเองทั้งหมด ไม่แปลกที่เด็กคนหนึ่งที่รักศักดิ์ศรีมากจะยอมลดศักดิ์ศรีตัวเองลงเพื่อมาทำเรื่องแบบนี้ เพราะความลำบากที่เธอได้รับและสู้มาตลอดนั้นมันอาจจะหนักหนาเกินกว่าที่เธอจะต่อสู้เพียงลำพังต่อไปได้
เช้าวันรุ่งขึ้น
ณิชากลับบ้านต่างจังหวัดเพื่อนำเงินที่เธอได้มาจากชายหนุ่มไปซื้อของใช้จำเป็นสำหรับยายของเธอที่ต้องอาศัยอยู่บ้านคนเดียวต่อจากนี้
บ้านปูนชั้นเดียวหลังเล็กสภาพเก่าทรุดโทรมตามกาลเวลา บริเวณโดยรอบถูกรายล้อมไปด้วยสวนผักที่เด็กสาวและผู้เป็นยายปลูกไว้เพื่อขายให้กับชาวบ้านในหมู่บ้านที่ชอบมาอุดหนุนผักปลอดสารพิษของเธอประจำ และทุกเช้าเด็กสาวจะนำผักไปวางขายที่ตลาดตอนเช้าด้วย
“ยายขาณิชากลับมาแล้วค่ะ” เสียงหวานเอ่ยเรียกคนเป็นยายที่นั่งชะเง้อรอหลานสาวอยู่แคร่หน้าบ้าน
“กลับมาแล้วเหรอลูก แล้วนี่มากับใครล่ะ” หญิงสูงวัยยิ้มให้กับหลานสาวฉายแววดีใจบนใบหน้าเหี่ยวย่น
“สวัสดีครับ ผมชื่อเตมินเป็นเลขาของคุณซันเดย์ที่เป็นเจ้านายคนใหม่ของณิชาครับ”
“สวัสดีจ้าพ่อหนุ่ม ยังไงยายก็ฝากณิชามันด้วยนะ แล้วก็ฝากขอบคุณเจ้านายคุณด้วยที่รับณิชามันเข้าทำงาน”
“ณิชาเป็นเด็กดีครับ”
หลังจากที่เตมินเดินสำรวจบริเวณภายในบ้านและบริเวณรอบ ๆ บ้านทั้งหมดแล้วก็หันมาพูดกับเด็กสาว
“พี่ว่าภายในบ้านก็โอเคนะครับ แต่เราอาจจะต้องติดกล้องวงจรปิดภายในบ้านและบริเวณรอบ ๆ บ้านนะครับ ณิชาจะได้เปิดดูยายได้ตลอดเวลา”
“ณิชาไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้เลยค่ะ”
“เดี๋ยวพี่จัดการให้คนมาติดให้ครับ และอีกอย่างเรื่องงานสวนพี่ว่าต่อไปอาจจะให้ยายลดลงหน่อยให้ทำเฉพาะที่ยายทำไหว เพราะต่อไปณิชาไม่ได้อยู่ช่วยยายแล้ว อันไหนห้ามท่านได้ก็ควรห้ามเพราะสุขภาพของคนแก่ก็อ่อนแรงลงทุกวัน” เตมินพูดไปตามที่เขาคิดเพราะคนแก่จะสั่งให้เลิกทำเลยคงไม่ได้ แต่ถ้าให้ทำที่พอเหมาะพอควรก็น่าจะพอพูดคุยกันได้
“เดี๋ยวหนูจะคุยกับยายดูนะคะ ส่วนเรื่องติดกล้องค่าใช้จ่ายเท่าไหร่พี่เตมินแจ้งหนูมาเลยนะคะ”
“เรื่องค่าใช้จ่ายนายออกให้ทั้งหมดครับ”
“ฝากขอบคุณ คุณซันเดย์ด้วยนะคะ”
“ครับ พี่จะแจ้งนายให้”
วันเปิดเทอม
ณิชาในชุดนักศึกษาถูกระเบียบเดินไปยังปากซอยเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าไปยังมหาวิทยาลัย เช้าวันใหม่ที่แสนวุ่นวายของคนเมืองกรุง ผู้คนต่างเร่งรีบออกไปทำหน้าที่ของตัวเอง บางคนเดินทางไปเรียน บางคนเดินทางไปทำงาน บางคนเดินทางไปทำธุระ ชีวิตที่แสนเรียบง่ายของเธอหมดลงตั้งแต่ตัดสินใจเข้ามาอยู่ที่นี่ที่เรียกกันว่าเมืองกรุง
คณะบริหารธุรกิจ
เด็กสาวเดินมาด้วยสีหน้ามุ่งมั่นตั้งใจเพื่อศึกษาหาความรู้และเดินตามฝันที่เธอตั้งใจไว้ การใช้ชีวิตวันแรกในรั้วมหาลัยก็ผ่านไปได้ด้วยดี รอยยิ้ม เสียงหัวเราะที่เธอได้รับจากเพื่อนใหม่สร้างความสุขและคลายความกังวลของเธอลงมากทีเดียว
ติ้ง!
{ฉันรออยู่ที่ห้อง ฉันให้เวลาสามสิบนาที} เสียงแจ้งเตือนข้อความโทรศัพท์มือถือดังแจ้งเตือนขึ้น เป็นข้อความจากเบอร์ที่เธอไม่อยากเห็น เด็กสาวยืนทำใจอยู่แป๊บเดียวก็ต้องรีบเดินไปโบกแท็กซี่ด้านหน้ามหาวิทยาลัยเพราะเวลาที่เขาให้มานั้นไม่เพียงพอที่เธอจะเดินทางด้วยรถไฟฟ้าหรือรถเมล์
ติ้ด! ติ้ด! ติ้ด! ติ้ด! ติ้ด! ติ้ด! แกร๊ก!
เสียงกดรหัสผ่านประตูและเปิดเข้ามาก็เจอกับอุณหภูมิภายในห้องที่เย็นเฉียบกระทบผิวกายขนลุกซู่ มือเล็กเปิดตู้รองเท้าที่วางอยู่ข้างประตูหน้าห้องด้วยอาการสั่นเทาเล็กน้อย ยิ่งเจอกับรองเท้าหนังแบรนด์ดังขัดมันวาว คาดว่าเป็นของชายหนุ่มเจ้าของห้องวางอยู่ในตู้อย่างเป็นระเบียบหัวใจก็เกิดอาการเต้นแรงขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ หลังจากถอดรองเท้าเก็บในตู้เรียบร้อยแล้วเท้าเล็กค่อย ๆ เดินเข้าไปภายในห้องนอนของเธอ
แอ๊ด~
มือเล็กค่อย ๆ แง้มประตูห้องออกทีละนิด ดวงตากลมโตสอดส่องบริเวณรอบห้องก็ไร้เงาของชายหนุ่ม จากนั้นก็วางกระเป๋าลงบนโต๊ะเขียนหนังสือและเดินเข้าห้องแต่งตัวเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
ว๊าย!!
เสียงร้องตกใจเมื่อเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปก็เจอกับชายหนุ่มเจ้าของห้องยืนพิงเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าโดยมีผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่พันรอบเอวในสภาพหมิ่นเหม่ สายตาคมจ้องมองมาที่เธอ
“ขอโทษค่ะ หนูไม่รู้ว่าคุณอยู่ในห้องน้ำ”
“เดี๋ยว! มาโกนหนวดให้ฉันหน่อย” ยังไม่ทันที่เด็กสาวจะเอี้ยวตัวหันหลังกลับ เสียงราบเรียบก็พูดขึ้นจนเท้าเล็กต้องหยุดชะงักและเดินตรงเข้าหาชายหนุ่ม
เด็กสาวเดินไปหยุดตรงหน้าชายหนุ่มเว้นระยะห่างพอสมควร อาการกลัวบวกอาการประหม่าเมื่อต้องเข้าใกล้ชายหนุ่ม ส่งผลให้ขาเรียวเล็กทั้งสองข้างออกอาการสั่นเล็กน้อยทั้งที่เตรียมใจมาก่อนหน้านั้นแล้ว
“ขยับเข้ามา ยืนห่างขนาดนั้นมือเธอถึงหรือไงตัวก็สั้นแค่นั้น”
“ต้องทำยังไงบ้างคะ หนูทำไม่เป็น” เด็กสาวเอ่ยถามไม่เต็มเสียงนัก สายตาก้มมองแผงอกตรงหน้าที่เต็มไปด้วยซิกแพค
“ถ้าคิดจะรับงานแบบนี้ เรื่องพวกนี้ควรศึกษาไว้บ้างนะ บางครั้งความใสซื่อบริสุทธิ์ก็ไม่ได้ทำให้คนที่จ่ายเงินเธอพอใจสักเท่าไหร่” คำตำหนิของชายหนุ่มยิ่งเพิ่มอาการประหม่าและเกร็งเพิ่มขึ้นจากเดิม
“ขอโทษค่ะ”
“นั่นครีมแล้วก็มีดโกน” ใบหน้าคมพยักหน้าไปทางหลอดครีมโกนหนวดและมีดโกนไฟฟ้า เด็กสาวยื่นมือไปหยิบและลงมือบีบครีมลงบนใบหน้าคมอย่างเงอะ ๆ งะ ๆ แต่เธอก็ค่อย ๆ ทำอย่างเบามือ
ด้วยความสูงที่ต่างกันมากณิชาจึงต้องเขย่งปลายเท้าขึ้นจนสุดเพื่อที่เธอจะโกนหนวดให้เขาได้ถนัดเพราะตอนนี้ชายหนุ่มนั่งบนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าโดยมีเด็กสาวยืนตรงกลางหว่างขาของชายหนุ่ม
กลิ่นหอมอ่อน ๆ ซึ่งไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่ผู้หญิงส่วนมากนิยมใช้กัน แต่เป็นกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากแป้งฝุ่นธรรมดาที่พอไปอยู่บนตัวเด็กสาวแล้วเปลี่ยนเป็นกลิ่นใหม่ขึ้นมา ซันเดย์ผ่อนคลายไปกับการปรนนิบัติของเด็กสาว
ณิชาที่กำลังตั้งใจกับงานใหม่ที่เธอได้รับมอบหมาย ใบหน้าเรียวเล็กขยับเข้าใกล้ใบหน้าคมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่รู้ตัว เมื่อโกนเสร็จเรียบร้อยก็ใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กค่อย ๆ เช็ดทำความสะอาดคราบครีมออกจนหมดเกลี้ยง หนวดเคราที่ขึ้นเป็นตอดำก่อนหน้าถูกโกนหายหมดเกลี้ยงด้วยฝีมือของเด็กสาว
“เสร็จแล้วค่ะ”
“อ้ะ! / จะไปไหน..ทำหน้าที่ของเธอซะ” เสียงร้องตกใจขณะกำลังถอยหลังกลับ จู่ ๆ วงแขนแกร่งก็รั้งเอวคอดเข้าหาตัว ชุดนักศึกษาที่ตอนนี้ดึงชายเสื้อออกด้านนอกถูกฝ่ามือหนาสอดเข้าด้านในสัมผัสผิวเนียนด้านหลัง