ตอนที่4[เฝ้าตอกย้ำ]
คลั่งรักพายุร้าย
ตอนที่4
[เฝ้าตอกย้ำ]
ฉันนอนไม่หลับเอาแต่คิดถึงเรื่องราวที่เพิ่งผ่านมา น้ำตาก็พาลจะไหลตลอด หมดสิ้นแล้ว ความสาวที่ฉันหวงแหนมาตลอดชีวิต ว่าจะเก็บเอาไว้ให้คนที่ฉันรักและเขาก็รักฉัน แต่เวลานี้ขณะนี้ฉันก็ไม่มีความสามารถ ที่จะเก็บรักษาและดูแลมันไว้ได้ ชีวิตนี้มันช่างโหดร้ายสิ้นดี
เมื่อรุ่งอรุณของวันใหม่ที่สดใสได้ผ่านลอดกระจกเข้ามา ฉันรีบพยุงกายที่บอบช้ำแล้วเดินไปเข้าห้องอาบน้ำ ฉันลูบคลำถูไถจนเนื้อตัวฉันแดงไปหมดทั้งร่าง แต่ทุกอย่างก็ไม่อาจหวนกลับคืนมาเหมือนดังเดิม ฉันรีบทำใจให้ยอมรับกับเรื่องที่เกิดขึ้น จึงรีบอาบน้ำให้เสร็จ และออกมาแต่งตัวแล้วเดินลงมาชั้นล่าง
ฉันเดินลงมาถึงชั้นล่าง ด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว แล้วไปยืนเกาะหน้าต่างทอดมองออกไป ด้านหน้าอย่างไร้จุดหมายปลายทาง แล้วฉันก็ต้องสะดุ้งสุดตัวอีกครั้ง เมื่อมีเสียงทุ้มดังกังวานอยู่ด้านหลังเอ่ยขึ้น
"สาวน้อยของพี่มายืนเหม่อทำอะไรอยู่ตรงนี้ละคะ" เสียงทุ้มของพี่ใหญ่กล่าวทักทายด้วยความห่วงใย พร้อมกับก้าวเดินมาหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ ฉันเงยหน้าขึ้นสบตาคู่คมของพี่ชาย ด้วยดวงตาที่สั่นระริก
"เป็นอะไรล่ะฮึ! ตาแดงเชียว เหมือนคนผ่านการร้องไห้มาทั้งคืนเลย" เสียงที่อบอุ่นเอ่ยอีกครั้ง ทำให้น้ำตาของฉันที่พยายามอดกลั้นเอาไว้ ก็รินไหลลงมาเป็นสายเมื่อฉันไม่สามารถเก็บกักมันเอาไว้ได้อีก
"ฮึก…ฮือ พี่ใหญ่" ว่าจบฉันกับพี่ใหญ่ก็โผเข้าสวมกอดกันโดยอัตโนมัติทันที
"ไม่ร้องนะครับ เป็นอะไรล่ะฮึ! ทำไมน้องสาวพี่ขี้แยจัง" ฉันยังไม่ได้ตอบคำถามของพี่ใหญ่ แต่เสียงของใครอีกคนก็ดังแทรกขึ้นมาเสียก่อน
"ทำไมต้องกอดกันกลมขนาดนั้นด้วย" เสียงเข้มห้วนจัดเอ่ยอยู่ด้านหลัง
"พี่ชายกับน้องสาวกอดกัน มันจะผิดตรงไหนละฮึ! พายุ" เสียงทุ้มถามกลับ
"แต่นี่! ไม่ใช่! หรือเธอคิดจะจับพี่ใหญ่ใช่ไหม ยัยหนอนชาเขียว" พี่พายุเอ่ยคำนี้ออกมา มันช่างกระแทกตอกย้ำ ให้ในหัวใจของฉันได้เจ็บดีพิลึก
"นี่! นายพูดบ้าอะไรออกมา รู้ตัวบ้างหรือเปล่ายุ" พี่ใหญ่ตวาดเสียงเข้ม จนฉันรู้สึกใจหาย
"เอ่อ! พี่ยุเข้าใจผิดแล้วค่ะ พร้อมแค่คิดถึงคุณพ่อคุณแม่ แค่นั้นเองนะคะ" ฉันเอ่ยตัดบทเพื่อไม่ให้พี่น้องผิดใจกัน
"จริงเหรอ เดี๋ยวเย็นนี้ท่านก็กลับมาแล้วนะ" พี่ใหญ่หันมาพูดกับฉันต่อ
"อยู่บ้านเหงาละสิ ไปทานข้าวกัน เดี๋ยวไปนั่งเล่นที่บริษัทกับพี่" เขาว่า แล้วมือหนาก็ยกขึ้นมาใช้นิ้วโป้งปาดเกลี่ยน้ำตาให้ฉัน และก็จับจูงแขนฉันให้เดินตามมานั่งที่โต๊ะอาหาร
ส่วนพี่พายุได้แต่มองด้วยสายตาที่เรียบนิ่ง เย็นชาจนฉันนึกเดาใจของเขาไม่ออก
เมื่อเราสามคนนั่งทานอาหารกันเงียบ ๆ ไม่มีใครกล่าวอะไรออกมาจนมื้อนี้ผ่านพ้นไป
"หนูพร้อมขึ้นไปเปลี่ยนชุดกระโปรงสวย ๆ นะคะ พี่จะพาน้องสาวไปโชว์ที่บริษัทหน่อย แล้วตอนเย็นจะเลยไปช้อปปิ้งกันด้วย" พี่ใหญ่ว่าจบฉันก็รีบก้าวขึ้นชั้นบน เพื่อเปลี่ยนจากกางเกงมาเป็นชุดเดรสสีครีมที่ยาวเหนือเข่า แล้วหันไปดึงประตู
พอฉันเปิดประตูห้องออกมา ฉันก็ต้องตกใจดวงตาเบิกโพรง เมื่อร่างโตของอีกคนแทรกเข้ามาในห้องนอนของฉันอีก
"อื้อ! พี่พายุเข้ามาอีกทำไหมคะ" ฉันรีบผลักอกเขาให้ออกนอกห้อง แต่มือหนาที่แข็งแกร่งของเขา ก็ดึงร่างฉันให้ถอยรนเข้าไปจนชิดขอบผนังห้องนอน
เขาไม่พูดตอบโต้ฉันสักคำ แต่โน้มใบหน้าหล่อมาประชิดแล้วประกบปิดปากฉันเอาไว้แทน
"อื้อ!" ฉันร้องครางอื้ออึง เมื่อเขาดันลิ้นเข้ามาแล้วดูดดึง เรียวปากอิ่มของฉันแรง ๆ แล้วดันลิ้นโตเข้ามาเกาะเกี่ยว ลิ้นของฉันพร้อมดูดกลืนลงคออย่างหิวกระหาย สักครู่จึงถอดถอนออกมาอย่างอ้อยอิ่ง
"อืม! น่าเสียดายเวลาน้อยไป" เขาว่า แล้วก็แลบลิ้นยาวออกมาวนเลียริมฝีปากตัวเองแผ่ว ๆ พร้อมส่งสายตาคมปลาบมาให้ฉัน ก่อนจะก้าวออกจากห้องแล้วลงเดินไปชั้นล่าง ส่วนฉันได้แต่ชะงักงันอยู่สักครู่ ก่อนจะก้าวตามหลังเขามาติด ๆ
"อื้อ! น้องสาวของพี่สวยน่ารัก จังเลยครับสาวน้อย" พี่ใหญ่ว่าจบก็จับจูงแขนฉันพาเดินมาขึ้นรถ
ส่วนพี่พายุก็ก้าวตามเรามาติด ๆ แล้วแยกไปขึ้นรถของเขาเหมือนกัน
พี่พีรพัฒน์ขับรถออกจากบ้าน ใช้เวลาเกือบชั่วโมง เพราะช่วงเช้าการจราจรติดขัดน่าดู แต่ไม่นานเท่าไหร่ ฉันก็มองเห็นชื่อป้าย บริษัทPP. กรุ๊ปขนาดใหญ่อยู่ทางซ้ายมือ สักครู่พี่ใหญ่ก็เลี้ยวรถเข้าไปในบริษัททันที
"ถึงแล้วครับสาวน้อย" พี่ใหญ่หันมาบอกฉัน แล้วเขาก็จัดการปลดดึงเข็มขัดนีรภัยออกให้ พี่ใหญ่ก้าวลงจากรถแล้วเดินอ้อมมาหาฉัน มือหนาก็จับจูงมือของฉันแล้วพาเดินเข้าด้านใน
"เข้าด้านในกันเลยครับ"
"หนูตื่นเต้นจังเลยค่ะพี่ใหญ่" ฉันรู้สึกตื่นเต้นกับสถานที่ ตึกที่ใหญ่โตสูงถึงห้าชั้น และพนักงานจำนวนไม่น้อย ที่ส่งสายตามามองฉันกับพี่ใหญ่
ร่างโตกระชับมือฉันแน่นขึ้นกว่าเดิม
"หายตื่นเต้นหรือยังสาวน้อย"
"ทำไมคนเขาถึงมองเราขนาดนั้นละคะ" ฉันเอ่ยถามด้วยความประหม่า
"เขาคงไม่เคยเห็นคนสวยมั้งครับ" พี่ใหญ่หันมาตอบฉัน ด้วยดวงตาวาววับเหมือนล้อเลียนฉัน ฉันที่เงยหน้าขึ้นสบตาคมของพี่ใหญ่จนปวดคอน่าดูกับส่วนสูงของเขา ฉันกับพี่ใหญ่สนิทกันในระดับหนึ่ง ต่างจากอีกคนที่วัน ๆ แทบจะไม่เคยคุยกันเลย
พี่ใหญ่พาฉันเดินเข้าลิฟต์แล้วกดขึ้นชั้นบนสุด ชั้นที่ห้าเป็นชั้นของผู้บริหาร ร่างสูงดึงแขนฉันเดินออกจากลิฟต์ แล้วพามาหยุดยืนที่หน้าห้องทำงาน
"สวัสดีครับคุณใหญ่ ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ" หนุ่มร่างเพรียวหน้าตาดีเอ่ยถามอยู่หน้าห้อง
"อ้อ! คุณภีมนี่! หนูพร้อมรัก น้องสาวผมครับ"
"เอ่อ! สวัสดีครับคุณพร้อมรัก" กล่าวทักพร้อมยกมือไหว้
"พี่ไม่ต้องไหว้หนูเลย หนูอ่อนกว่าพี่ตั้งเยอะ" ฉันส่งยิ้มกันเอง ไปให้พี่ภีมเลขาของพี่ใหญ่ทันที
"อ้อ! เดี๋ยวฝากนายช่วยพาหนูพร้อม เดินชมบริษัทเราด้วยนะ" พี่ใหญ่เอ่ยต่อ
"ด้วยความเต็มใจครับคุณใหญ่" ว่าจบพี่ใหญ่ก็ผลักประตูเข้าห้องทำงาน ส่วนพี่ภีมเลขาส่วนตัว ก็พาฉันเดินชมบริษัทยักษ์ใหญ่ ของตระกูล 'ศิปลการสกุล' จนฉันรู้สึกเหนื่อยล้า แต่ก็สนุกดีทำให้ฉันเพลิดเพลินจนลืมเรื่องราวของคืนที่ผ่านมาอย่างสนิท
"คุณพร้อมเหนื่อยไหมนั่งพักก่อนก็ได้นะครับ เดี๋ยวผมไปเอาน้ำมาให้" ว่าจบพี่ภีมก็เดินจากไป ปล่อยให้ฉันนั่งอยู่ตรงโซฟามุมรับแขกของชั้นที่ห้า
ฉันลุกไปยืนเกาะขอบหน้าต่างกระจกใสที่มีเหล็กดัดติดอยู่ด้านนอก ทอดมองไปด้านหน้าที่มีวิวสวย ๆ เมื่อยามมองจากที่สูงลงไปด้านล่าง ช่างสวยงามเหลือเกิน นี่! ถ้าเป็นเวลากลางคืนคงจะสวยกว่านี้แน่ ๆ
"เวลาอยู่ใกล้ผู้ชายนี่! หน้าระรื่นเชียวนะ" เสียงเข้มคุ้นหูเอ่ยขึ้นด้านหลัง จนฉันต้องรีบหันกลับไปมองเจ้าของเสียงนั้น
"พี่ยุ! เอ่อ! พร้อมขอตัวนะคะ" พอฉันเห็นว่าเป็นพี่พายุ ฉันก็จะรีบหนีจากมุมนั้น เพราะไม่อยากอยู่ตามลำพังกับเขา
"จะรีบไปไหนละ ไม่อยู่คุยกับพี่ชายก่อนเหรอฮึ!" ว่าจบเขาก็คว้ามาจับแขนฉันทันที
"คือพร้อม อยู่ตรงนี้มาพักหนึ่งแล้ว จะกลับไปหาพี่ใหญ่คะ" ฉันรีบตอบออกไปอย่างไว
"ดูท่าทางหนูพร้อมจะติดพี่ใหญ่แจเลยนะ แล้วไม่คิดจะแบ่งเวลา ให้พี่ชายคนนี้บ้างเหรอ" คำพูดเหมือนเยาะหยัน พร้อมริมฝีปากหยักสวยที่แสยะยิ้ม ออกมามันช่างดูน่ากลัวเหลือเกิน
"พี่ยุ! ปล่อยแขนพร้อมเถอะค่ะ พร้อมเจ็บ โอ้ย!" เขาบีบแขนฉันแรงจนฉันหลุดปากร้องออกมา
"จะได้จำเอาไว้ ใส่สมองของเธอไง ว่าอย่าไปออดอ้อนใส่ พี่ใหญ่อีกฉันไม่ชอบ" เสียงเข้มเน้นหนักจนฉันร้อน ๆ หนาว ๆ เพราะความกลัวเขา
"คุณพร้อมครับ เอ่อ! ขอโทษครับ ผมไม่ทราบว่าคุณพายุ ก็มาอยู่ตรงนี้ด้วย" เสียงพี่ภีมเอ่ยขึ้น ทำให้พี่พายุปล่อยแขนฉันให้เป็นอิสระ โชคดีของฉันที่มีพี่ภีมเข้ามาขัดเสียก่อน
จากนั้นพี่พายุก็เดินกลับเข้าห้องทำงานของเขา ส่วนฉันกับพี่ภีมก็พากันเดินกลับมาที่ออฟฟิศของพี่ใหญ่ พอพักเที่ยงพี่ใหญ่ก็พาฉันออกไปนั่งทานอาหารตามสั่งที่ร้านใกล้ ๆ บริษัท
พอถึงตอนเย็นได้เวลาเลิกงาน พี่ใหญ่ก็เดินจับจูงมือฉันเข้ามาในลิฟต์ เพื่อลงมาชั้นล่าง ฉันกับพี่ใหญ่ลงมาถึงลานจอดรถ แล้ว เราก็ขึ้นมานั่งในรถเรียบร้อย ก่อนพี่ใหญ่จะติดเครื่องยนต์ ขับออกไปตามท้องถนน ที่มีรถราแน่นเต็มไปหมด ไม่นานก็มาถึงห้างสรรพสินค้าชื่อดัง
เราเปิดประตูลงพร้อมกัน แล้วพี่ใหญ่ก็เข้ามาจับแขนฉันเหมือนเดิม ก่อนจะพาฉันก้าวเดินเข้าไปในห้าง เราเดินดูของเข้าร้านโน้นออกร้านนี้จนพอใจ ฉันจึงตัดสินใจเดินไปซื้อของใช้ส่วนตัว
"หนูพร้อมเอาแค่นี้เหรอ แล้วเสื้อผ้า ชุดสวย ๆ นี่! ละพี่ว่าเข้ากับหนูพอดีเลยนะ" พี่ใหญ่หยิบชุดเดรสน่ารักให้ฉันดู
"พอแล้วค่ะ พร้อมมีเต็มตู้แล้ว" ฉันรีบส่ายหน้าปฏิเสธไว ๆ ไม่อยากให้พี่ใหญ่สิ้นเปลื้องไปกว่านี้
ทำไม! ซื้อเสื้อผ้าให้น้องสาวแค่นี้ ไม่ทำให้พี่ถึงกับจนหรอกมั้ง" ว่าจบพี่ใหญ่ก็หยิบชุดมาสามชุดส่งให้แม่ค้าใส่ถุงให้ ฉันได้แต่ส่ายหน้ากับความดื้อรั้นของพี่ชาย
เราเดินเอาของไปเก็บไว้ในรถ ก่อนฉันกับพี่ใหญ่จะเดินกลับมาด้านในอีกครั้ง และหาร้านอาหารที่ถูกใจ ก่อนจะเข้ามานั่งทานอาหารต่อเพราะพี่ชายบ่นหิวข้าว
ฉันนั่งทานข้าวอยู่ และสายตาก็เหลือบไปสบตาคมร่างคุ้น ที่นั่งทานอาหารอยู่กับผู้หญิงหน้าตาสวยจัดจ้าน ที่ห่างโต๊ะฉันไปสี่โต๊ะ พี่พายุกำลังมองมาที่โต๊ะของฉันกับพี่ใหญ่ อย่างไม่วางตา เมื่อเขารู้ว่าฉันเห็นเขา เขาก็หันไปตักกับข้าวใส่จานให้ผู้หญิงของเขาอย่างเอาใจ เหมือนผู้หญิงตรงหน้าเป็นคนพิเศษของเขา
เมื่อฉันเห็นว่าพี่ใหญ่ทานข้าวอิ่มแล้ว ฉันจึงรีบชวนพี่ใหญ่กลับบ้านทันที
"พี่ใหญ่หนูอยากกลับบ้านแล้วคะ" ฉันเอ่ยบอกเขา
"อืม! ก็กลับสิ ป่านนี้คุณพ่อคุณแม่น่าจะถึงบ้านแล้วละ" พี่ชายยกนาฬิกาขึ้นดูเวลาแล้วบอกฉัน พี่ใหญ่จ่ายค่าอาหาร แล้วมาจับมือฉันพาก้าวเดินไปขึ้นรถกลับบ้าน