บท
ตั้งค่า

ครูห้าวสอนสวาท บทที่2.เรื่องมันเกิดขึ้นริมลำธาร...

มันเป็นแค่ศูนย์ฝึกการเรียน ไม่ใช่โรงเรียนเลยไม่มีครูมาประจำ นานๆ ทางการจะส่งใครสักคนมา แต่ก็ไม่ได้ยืดยาว เดือน 2เดือน หรืออาจสั้นกว่านั้น

“15วัน” บทลงโทษของเธอมีแค่นั้น กับการเป็นจิตอาสา

“สั้นจัง เด็กจะได้เรียนเป็นชิ้นเป็นอันอะไร!!”

มันเหมือนคำตำหนิ แต่ทิพย์นรีไม่สนใจ

สำหรับคนพื้นที่มันอาจจะเป็นเวลาสั้นๆ แต่สำหรับคนไกลอย่างเธอ มันยาวนานแทบทนไม่ไหวทีเดียว

หญิงสาวพยายามไม่สนใจคนตรงหน้า แม้ความล่ำของเขาจะทิ่มแทงนัยน์ของเธออยู่ ผู้ชายผิวเข้ม กล้ามโป่งพอๆ กับกล้ามปู ไม่ว่าจะแผงอก หรือแม้แต่...

ทิพย์นรีพยายามไม่คิดต่อ เธอเผลอมองคนตรงหน้าจนหัวใจสั่น ยิ่งลดสายตาต่ำลงเท่าใด หัวใจของเธอก็ยิ่งเต้นผิดจังหวะ

มันเหมือนนั่งดูโฮสหล่อๆ ในผับที่มีโชว์เฉพาะผู้หญิง

ผู้ชายหุ่นเอ็กซ์ อวดสรีระในร่างกาย ของดีมีเท่าไหร่ก็เอามาอวดประชัน เพียงแต่ที่เธอนั่งมองอยู่นี่มีแผ่นน้ำใสใสกางกั้น มันทำให้ต่อมกระหายรู้ของเธอทำงานหนัก เมื่อน้ำใสใสขยับไหวเป็นระลอกคลื่น จนสิ่งที่อยู่กึ่งหว่างขาของคนตรงหน้า เคลื่อนไปเคลื่อนมา คาดคะเนไม่ถูก

“อะแห้ม!”

เสียงกระแอมของคนตัวใหญ่ทำให้ทิพย์นรีสะดุ้ง

เธอดึงสายตากลับมา แบบเสียดายหน่อยๆ

สิ่งที่ทำลำดับต่อไปคือการสูดน้ำลายในอุ้งปาก ที่ไหลเอ่อออกมาจวนจะหยดเข้าไปเก็บไว้ที่เดิม

“ซืดดดด”

ห้าวแอบขำ แววตาของเขาเต้นระริก แต่สีหน้ายังสงบเงียบเช่นเดิม

“เอาปลาไว้กินไหมครู”

ชายหนุ่มจับปลาตัวใหญ่ยื่นส่งให้ ทิพย์นรีเตรียมจะส่ายหน้าปฏิเสธ

“ที่นี่ไม่มีตลาด ครูคงยังไม่รู้ เอาไปเถอะเย็นนี้จะได้มีอะไรกิน”

คนตัวใหญ่พูดสอดจนหญิงสาวรีบกลืนคำปฏิเสธกลับไป เธอเริ่มหิวหน่อยๆ และความกังวลเริ่มคืบคลานเข้ามา ถึงทิพย์นรีจะไม่สะทกสะท้านเรื่องที่อยู่ แต่เรื่องกินนี่สิ เธอจะเอาไงดีหากไม่มีที่ขายอาหาร

ห้าวจัดการใช้มีดที่เหน็บเอวมาขอดเกล็ดปลา ล้างจนสะอาดใช้ต้นหญ้าริมน้ำร้อยที่หัวปลายื่นส่งให้ทิพย์นรีหลังเสร็จธุระของเขา

หญิงสาวยิ้มแหยๆ ยื่นมือไปรับแบบเสียไม่ได้

“เดี๋ยวมะแดเอากลับไปย่างที่บ้าน แล้วค่อยมาให้ครูนะจ้ะ”

ทิพย์นรีโล่งใจไปหนึ่งเปราะ วันแรกเธอมีอาหารใส่ท้อง แต่มื้อต่อไปล่ะ จะไปหาจากไหน

นั่นคือปัญหาที่เธอต้องคิดอีกที

แต่...

คนในน้ำเดินขึ้นจากน้ำดื้อๆ ผ้าที่เขานุ่งไว้ช่วงล่างคล้ายๆ ผ้าข้าวม้าที่เธอเคยเห็นคนในชนบทใช้เป็นเครื่องนุ่งห่ม แต่ที่เห็นนี่ไร้สีสัน เป็นแค่ผ้าสีน้ำตาลไหม้ที่ออกจะซีดไปมากเพราะผ่านการใช้งานมานาน แต่ที่ทำให้ทิพย์นรีสะดุดลมหายใจคือผ้าเปียกๆ นั่นแนบไปกับลำตัว รวมทั้งกึ่งกลางร่างของชายผู้นั้นด้วย ห้าวดูไม่ยี่หระกับการถูกแอบมอง เขาสะบัดผ้าเปียกๆ และพยายามบิดน้ำให้ผ้าหมาดน้ำมากขึ้น ก่อนจะตลบชายผ้ากลับไปไว้ที่เดิม ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นเลยในความคิดของทิพย์นรี

เมื่อขนาดที่มองเห็น ท่อนลำที่พาดฉียงเอียงไปทางซ้ายนั่น ก็ยังมีขนาดเท่าเดิม

เธอกัดปากคิดในใจเล่นๆ หากเป็นไปได้ เธออยากจะกระชากผ้าผืนนั้นทิ้ง และจ้องมองความอลังการนั่นด้วยสองตา อยากรู้นักมามันคือภาพลวงตา หรือของจริงกันแน่

“ครูๆ” เสียงมะแดเรียกเบาๆ ทิพย์นรีรีบกะพริบเปลือกตาปริบๆ เธอชักสายตากลับมาจากเป้าตุงๆ พอดีกับที่ห้าวหมุนตัวเดินจากไป

“ครูจะกลับบ้านเลยไหมจ้ะ”

“ไม่ล่ะ ขอฉันอาบน้ำก่อนดีกว่า”

หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ เธอร้อนวูบวาบไปทั้งตัว รวมถึงกึ่งกลางร่างที่เต้นตุ๊บๆ ร่องสาวขมิบยิบๆ เมื่อเผลอมโนถึงคนที่เพิ่งเดินจากไป

“มะแดกลับก่อนนะครู มะแดจะไปตากมุ้ง แล้วก็จะรีบไปย่างปลามาให้ครูด้วย”

สาวละอ่อนไม่ได้ติดใจ หล่อนฉวยกะมังที่ซักมุ้งเสร็จ เดินตัวปลิวจากไปทันทีที่พูดจบ

ทิพย์นรีฉวยผ้าที่มะแดเอามาให้ยกขึ้นทาบลำตัวขำๆ

ไม่คิดว่าวันหนึ่งตนเองจะได้ใช้ผ้าพวกนี้คลุมตัวเหมือนที่เคยเห็นผ่านตาเวลานั่งเรือผ่านบ้านริมน้ำแถวๆ ชนบท

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel