ครูห้าวสอนสวาท บทที่3.พี่ห้าวลึกสุดใจ
“เอาวะ ดีกว่าแก้ผ้าอาบน้ำล่ะ”
ถึงจะเป็นลูกเศรษฐี ไม่ได้ทำงานหนัก แต่ทิพย์นรีก็ไม่ได้สำรวยถึงขนาดทนความลำบากนิดๆ หน่อยๆ ไม่ได้ เธอค่อนไปทางลูกทุ่งด้วยซ้ำ เพียงแต่เกิดมามีบิดา มารดามีฐานะ นอกนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับคนทั่วไป
มันทุลักทุเลนิดๆ กว่าจะเปลี่ยนผ้าได้ก็เล่นเอาเหงื่อตกไปเหมือนกัน
แต่น้ำเย็นๆ ทำให้ความหงุดหงิดของเธอหายไป หญิงสาวโผไปโผมา ท่ามกลางน้ำใสเย็นฉ่ำ หัวเราะคิกคักในความสบายส่วนตัวเหมือนนั่งอยู่ในออนเซ็นที่ประเทศญี่ปุ่นทีเดียว
“นังเหมียวอิจฉาตายเลยถ้ารู้ว่าฉันมีที่อาบน้ำสวยปานนี้”
หญิงสาวรำพึงถึงเพื่อนสนิท สาวเปรี้ยวคู่ซี้ที่ลุยไหนลุยกัน
“แหมไม่ได้เอาโทรศัพท์มาด้วย วันหลังค่อยถ่ายรูปก็ได้” หญิงสาวบ่นพึม เมื่อตนเองดันลืมพกโทรศัพท์ติดตัวมาด้วย เลยอดเก็บภาพที่ต้องการเอาไว้อวดเพื่อนๆ
“อุ้ย!”
ทิพย์นรีผวา ใครบางคนโผล่พรวดขึ้นมาจากน้ำ ตอนที่เธอกำลังดำผุดดำว่ายอยู่พอดี
ห้าวยกมือขึ้นลูบหน้า ไล่หยดน้ำที่ยังค้างอยู่บนเปลือกตาออกไป
หญิงสาวขยับถอยหลัง ไม่ได้ตกใจแค่ขอจังหวะตั้งตัว
“ผมกลัวคุณเป็นอะไร เลยย้อนกลับมาดูหน่ะ”
ห้าวเปรย เพราะสีหน้าของทิพย์นรีเหมือนต้องการจะถาม
กลีบปากสีซีดเพราะแช่น้ำอยู่นานขยับถาม “ฉันจะเป็นอะไรได้ล่ะ?”
มุมปากสีเข้มกดลง “เป็นตะคริวไงครู น้ำเย็นแบบนี้คนไม่ชินมักเป็นทุกคน ช่วงเวลาตอนนี้ยังไม่มีชาวบ้านคนไหนมาที่ลำธาร กว่าจะมีคนมาเห็นครูก็คงกลายเป็นศพไปแล้ว” ห้าวอธิบาย เขาเดินขึ้นจากน้ำ แต่...
“โอ้ยยยย!” เขาพูดยังไม่ขาดคำดี ทิพย์นรีก็ร้องลั่นขึ้นมา
ปลีน่องของหล่อนแข็งเกร็งเป็นลูกๆ การทรงตัวเป็นไปได้ยาก มันเจ็บมากจนเธอร้องเสียงหลง
“ไหมล่ะ” ห้าวบ่นพึม เดินย้อนกลับมาที่เดิม เขารั้งทิพย์นรีมาใกล้ๆ และหล่อนก็ไม่ได้ขัดขืน
ห้าวประคองคนตัวเล็กแต่อวบอัดไปทุกส่วนขึ้นมาจากน้ำ เขายกเอวหล่อนขึ้นนั่งบนชะง่อนหิน...ส่วนตัวเองยังแช่อยู่ในน้ำเหมือนเดิม
“อูยยยย” กล้ามเนื้อหดเกร็งจนเจ็บร้าวไปทั้งหน้าขา ห้าวยกเรียวขาขาวขึ้นพาดไว้บนบ่า มือกร้านๆ บีบนวดไปตามปลีน่องที่ขึ้นเป็นลูก “ทนหน่อยนะครู เดี๋ยวก็หาย” เสียงของเขาสั่นเล็กน้อย เมื่อชายผ้าถุงถลกขึ้นสูง จนมองเห็นโคนขาของครูสาวรำไร
ห้าวไม่ได้มีเจตนา และทิพย์นรีเองก็ไม่รู้ตัว
การกระทำของเขาทำให้เขาเห็นโหนกนูนกลางหว่างขาเรียวของครูสาวคนใหม่ ห้าวพยายามข่มใจ ท่อนลำกลางล่างเกิดแข็งตัวขึ้นมาเสียอย่างเอง มันชี้เด่แข็งไปตลอดลำ
“อูยยย ซี๊ดดด” ทิพย์นรีสูดปากครางเหมือนกินของเผ็ด
เสียงของหล่อนไปกระตุ้นความหวั่นไหวของห้าวเพิ่มขึ้นมาอีก
“ครู อย่าครางแบบนี้ได้ไหม?”
ห้าวปรามครูสาวเสียงแหบ รีบกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ เมื่อสายตาตวัดผ่านกลางเงาดำๆ กลางหว่างขา
ทิพย์นรีรู้สึกตัวมาสักพัก ความเจ็บตึงเริ่มทุเลา มีความรู้สึกอย่างอื่นแทรกเขามาแทนที่ เธอสยิวจนขนลุก เมื่อมือหยาบกร้านลูบคลำอยู่ที่ปลีน่อง มันเสียวจี๊ดบอกไม่ถูก เสียวจนอยากแบะหน้าขา พิสูจน์ความใหญ่ยาวที่คะเนไว้
“ทำไมล่ะ?”
เธอแสร้งถาม “อูยยยย ซี๊ดดด” แถมยังแสร้งครางต่อ ขยับบั้นเอวหน่อยๆ จนช่องว่างกลางหน้าขาขยับเปิดกว้างมากขึ้น
“แหม” ห้าวไม่รู้จะพูดยังไง เขาเริ่มแน่ใจว่าคนตรงหน้าจงใจทำ
หล่อนปรือตา ท่าทางเหมือนตั้งใจยั่ว
ชายหนุ่มจึงทดสอบ เขาเปลี่ยนจากการบีบมาเป็นการลูบไปมาเบาๆ แทน ซึ่งครูสาวคนสวยก็ยังหลับตาครางอืออาเหมือนเดิม
ห้าวขยับมือสูงขึ้น จนเกือบถึงโคนขาด้านใน
ไม่มีเสียงร้องห้ามมีแต่เสียงครางเร้าอารมณ์เช่นเดิม
“อือออ ซูดดดด อ่าว์”
หนุ่มดอยฉกมือล้วงตะปบลงกลางโหนกนูนอวบอิ่ม
“อูยยยยย!” เสียงครางทวีดังขึ้น แต่ก็เหมือนเดิม ครูคนสวยไม่ได้ห้ามเขา
ห้าวเลยสอดมือสะกิดที่ติ่งเสียวกลางร่องฉ่ำแฉะ ครูสาวตัวอ่อนยวบ ลมหายใจถี่กระชั้นมากขึ้น หน้าขาเธอแบะมากกว่าเก่า ห้าวเลยดันตัวขึ้นจากน้ำ ใช้ปลายนิ้วแหวกแคมเนื้อให้อ้าออกจากกัน เขามองเห็นเม็ดเสียวที่โผล่ออกมาแดงๆ ตาแทบถลน