ครูห้าวสอนสวาท บทที่2.เรื่องมันเกิดขึ้นริมลำธาร
หลังสำรวจจนทั่วบ้านทั้งหลัง มีห้องน้ำที่ถือว่าพอดูได้สำหรับบ้านเก่าๆ ไกลความเจริญ แม้จะห่างกับความสะดวกสบายที่ทิพย์นรีได้รับมาตั้งแต่เกิด
“เวลาอาบน้ำ เราอาบน้ำกันที่ไหนเหรอ?”
หญิงสาวเอ่ยถามแม่สาวหน้าใสที่ยังรีๆ รอๆ อยู่หน้าบ้าน
มะแดยิ้มกว้าง ชี้มือไปทางด้านหลัง ตรงดงไม้หน้าทึบ
“มีลำธารอยู่ตรงนั้นค่ะครู”
“ที่นี่มีร้านขายของไหม?” ทิพย์นรีถามต่อ เธอต้องการอุปกรณ์ทำความสะอาดห้องน้ำ และผงซักฟอกสำหรับซักมุ้งสีคล้ำๆ นั่น
“มีจ้ะ มีร้านค้าของหมู่บ้านอยู่เลยบ้านครูไปประมาณ200เมตร” มันก็ไม่ไกลนัก หากการเดินทางในหมู่บ้านต้องใช้สองเท้าที่มี
“อืม พาฉันไปหน่อยสิ เดี๋ยวเลี้ยงน้ำแก้เหนื่อย”
มะแดช่วยงานที่ออกแรงทั้งหมด ผ่อนแรงทิพย์นรีได้เยอะ เธอเลยอยากตอบแทน
เด็กสาวไม่ได้ค้าน หล่อนเดินนำหน้า ทิพย์นรีจึงรีบฉวยกระเป๋าสตางค์ เดินตามไปติดๆ
เธอได้ของที่ต้องการมาเกือบครบ เพราะเท่าที่มีก็กวาดซื้อมาเกือบหมด จนแม่ค้ายิ้มหน้าบาน ไม่ว่าจะแปรงขัดส้วม รวมถึงน้ำยาทำความสะอาด
“นึกว่าจะขายไม่ได้ ซื้อมาหลายเดือนแล้ว” เสียงบ่นของแม่ค้าที่เป็นชาวเขาเช่นเดียวกัน
ทิพย์นรีขมวดคิ้ว หากไม่ใช้น้ำยาทำความสะอาด คนเหล่านี้ใช้อะไรล้างห้องน้ำ
“ส่วนมาก คนที่นี่ไม่นิยมใช้ห้องน้ำกันค่ะ” มะแดกระซิบบอก เธอเลยถึงบางอ้อ ความเจริญกับส่วนข้าราชการคงยังเข้ามาไม่ถึง คนสวนใหญ่เลยยังไม่รู้จักวิธีรักษาความสะอาด
“บ้านมะแดมีส้วมไหม?”
เด็กหญิงพยักหน้ารัวๆ “พี่ห้าวมาช่วยทำให้พ่อจ้ะ มีบ้านหลายหลังที่มีส้วมแล้ว แต่ก็มีอีกหลายหลังเหมือนกันที่ไม่สนใจที่จะทำส้วมในบ้าน”
ทิพย์นรีสะดุดใจนิดๆ คนชื่อห้าวคือใคร? ทำไมเขาถึงรู้จักเรื่องสาธารณสุขพื้นฐาน
คำตอบตามมาไม่นาน “พี่ห้าวเป็นคนดอยเหมือนมะแดจ้ะ แต่พี่ห้าวไปเรียนในเมือง ตอนนี้ทำสวนสตรอว์เบอรี่อยู่ที่นี่ พี่ห้าวสอนให้คนดอยรู้เรื่องการรักษาความสะอาด สอนในหลายๆ เรื่องแต่ไม่ยอมมาเป็นครู”
ทิพย์นรีพยักหน้าเข้าใจ คนชื่อห้าวเคยใช้ชีวิตในเมือง เขาเลยมีความรู้ และพยายามพัฒนาพื้นฐานความรู้ให้คนบ้านเดียวกัน ...นับว่าเป็นคนรักถิ่นเกิดไม่น้อย
“มะแดจะกลับก่อนก็ได้นะ ฉันจะไปซักมุ้ง”
หลายชั่วโมงที่มะแดขลุกอยู่กับเธอ แม้จะซื้อน้ำกับขนมตอบแทน ทิพย์นรีก็ยังรู้สึกไม่สบายใจ
“มะแดจะไปช่วยครูซักมุ้งจ้ะ”
เด็กสาวตอบประสาซื่อ...ไม่ได้เรียนหนังสือ เมื่อมีครูมาอยู่ด้วย มะแดก็อยากให้ครูอยู่นานๆ
ทางเดินเป็นทางดินสีน้ำตาลอ่อน มีต้นไม้สูงท่วมหัวปกคลุมตลอดทาง อากาศยังคงความเย็นแม้พระอาทิตย์จะขึ้นตรงศรีษะ แดดเปรี้ยงๆ ส่องลอดใบไม้มาแค่เพียงรำไร
“ว้าว!” สาวเมืองกรุงอุทานเสียงแหลม
เมื่อมองเห็นลำธารขนาดใหญ่แหล่งน้ำที่คนทั้งหมู่บ้านใช้สอย ต้นน้ำคงมาจากภูเขาลูกใหญ่ที่มองเห็นรางๆ น้ำสะอาดและเย็นฉ่ำ จนคนขี้ร้อนอย่างทิพย์นรีนึกชอบในใจ
“สวยจังเลย...”
เธอครางเบาๆ หลังหย่อนก้นนั่งบนชะง่อนหินริมน้ำ วักน้ำใสใสขึ้นมาลูบหน้า
มะแดยิ้มจนตาหยี รีบฉวยกะมังพลาสติกตักน้ำในลำธารขึ้นมาตั้งไว้บนชะง่อนหิน เด็กสาวลงมือซักมุ้งสีคล้ำอย่างขมักเขม่น ปล่อยให้ครูสาวได้สำรวจรอบตัวตามความต้องการ
“พี่ห้าว ทำอะไรอะ?”
เสียงใสใสของมะแดดึงทิพย์นรีออกมาจากการมองน้ำใส
หญิงสาวทอดสายตามองเงาตะคุ่มๆ ห่างไปประมาณ400เมตรด้วยความสนใจ
ชายตัวใหญ่เปลือยแผงอกล่ำๆ กำลังดำผุดดำว่ายอยู่ตรงนั้น เขาโผเข้ามาหาหลังทำอะไรบางอย่างเสร็จ
“เราล่ะมาทำอะไร พี่มาเก็บลอบที่วางไว้เมื่อคืน”
ชายคนนั้นถามกลับ เขายกอุปกรณ์หาปลาขึ้นประกอบคำพูด พร้อมกับชำเรืองมองทิพย์นรีแต่กลับไม่เอ่ยปากถาม
“ขยันจังพี่ห้าว...นี่ครูคนใหม่ เพิ่งมาถึงเมื่อเช้าจ้ะ”
มะแดแนะนำทิพย์นรีให้รู้จักกับคนแปลกหน้า
“อ้อ...มาอยู่กี่วันล่ะคราวนี้”