บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 แม่เลี้ยงของข้า

แม่นมถงหันมายิ้มให้นางอย่างเสียมิได้ ที่จริงนางไม่อยากจะพูดเลยว่าฟางหยุนเฟยนอกจากจะเป็นบุตรีของท่านราชครูที่มั่งมีอำนาจและเงินทองแล้ว นอกนั้นนางแทบจะ “ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง” เป็นเพียงบุตรีที่เอาแต่ใจและไม่น่าคบหาของผู้ที่พบเห็นเท่านั้น แม้ว่านางจะสวยแต่ก็มักจะชอบทำตัวโดดเด่นจนน่าหมั่นไส้

“ถึงว่าเล่านางเลยตายไปเงียบ ๆ ไร้คนสนใจ เพราะแบบนี้นี่เอง”

“อะไรนะเจ้าคะ ผู้ใดตายเจ้าคะคุณหนู”

“ไม่มี ๆ เจ้าค่ะแม่นม ท่านใจเย็น ๆ นะเจ้าคะ ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว เช่นนั้นข้ามีสาวใช้ส่วนตัวบ้างหรือไม่เจ้าคะ”

“คือว่าเรื่องนี้…..”

“แม่นม ท่านอย่าบอกนะว่าข้าเป็นคนเอาแต่ใจจนแม้แต่สาวใช้ก็หนีเตลิดไปหมด”

“เป็น….เป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ”

“เฮ้อ ดูท่าจะใช้ชีวิตยากเสียจริง ทำไมไม่มาให้ดี ๆ หน่อยละเนี่ย….”

“เจ้าคะคุณหนู เหตุใดคุณหนูดู…แปลก ๆ ไปเจ้าคะ”

“แม่นมเจ้าคะ”

สาวใช้คนหนึ่งเดินมาที่หน้าห้องของนาง เมื่อฟางหยุนเฟยหันไปมอง นางน่าจะอายุน้อยกว่าหยุนเฟยไปไม่กี่ขวบปีซึ่งดูแล้วถูกชะตายิ่งนัก แม่นมถงเดินออกไป สาวใช้กระซิบบางอย่างทำให้แม่นมถงเริ่มลำบากใจแต่ก็ต้องเดินมาแจ้ง

“คุณหนูเจ้าคะ คือว่า….ฮูหยิน…อยากมาเยี่ยมท่านเจ้าค่ะ”

“ฮูหยินงั้นหรือ ท่านหมายถึง…”

"ฮูหยินรองของท่านราชครู “หลานอี้เหนียง” เจ้าค่ะ คุณหนูเจ้าคะ นี่ก็ผ่านมาหลายปีแล้ว…."

“ให้นางเข้ามาเถอะ”

ฮูหยินของท่านราชครูเป็นอีกคนที่ในนิยายเรื่อง “เมฆาล้อมจันทร์” ที่นางอ่านมิได้เอ่ยถึงมากนัก พูดเพียงว่าหยุนเฟยไม่ชอบฮูหยินใหม่ของบิดาจึงได้มีท่าทีเอาแต่ใจเป็นขาวีนแห่งเมืองหลวงจนคนรังเกียจไปทั่วแม้จะมีใบหน้าที่งดงาม

นางยังริษยาน้องสาวต่างมารดาอีกด้วยเพราะบังอาจมาแย่งความสนใจจากทุกคนที่เข้ามาในจวนทั้ง ๆ ที่นางคือคุณหนูใหญ่

“วะ….ว่าอย่างไรนะเจ้าคะ”

“อืม ท่านฟังไม่ผิดหรอก ท่านพูดถูกมันผ่านมาหลายปีแล้ว”

“เจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าจะรีบไปเชิญฮูหยินเข้ามาเองเจ้าค่ะ”

หลานอี้เหนียงเดินเข้ามาในห้องของนางอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ท่าทางของนางมิได้บ่งบอกว่ามาเพื่อเบ่งอำนาจหรือมาเพื่อสมน้ำหน้า ด้านหลังนางยังมีหญิงสาวอายุน้อยอีกคนที่เดินตัวลีบตามนางมา ดูจากการแต่งกายนางคงจะเป็นบุตรสาวของท่านราชครูอีกคนเป็นแน่

“คุณหนูใหญ่ท่านฟื้นแล้ว ข้าตุ๋นไก่ผสมโสมมาให้ท่านบำรุง…หวังว่าท่าน…จะรับเอาไว้”

หยุนเฟยหันไปมองใบหน้าที่ตื่นกลัวของสองแม่ลูกที่เ่ดินเข้ามา ผู้ที่เรียกได้ว่าเป็นน้องสาวนางแทบจะไม่เงยหน้าขึ้นมามองนางเลยด้วยซ้ำ ฮูหยินที่นั่งตรงหน้าก็ยิ้มอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ จนน่าอึดอัด เช่นนี้นางจะพูดอะไรต่อได้กันเล่า

“เอ่อ….ฮูหยิน ท่านทำตัวตามสบายเถอะ ขอบคุณมากสำหรับ…ไก่ตุ๋นนี่ ข้าหิวพอดีเช่นนั้นแม่นม..ช่วยตักให้ข้าทีได้หรือไม่”

สีหน้าราวกับได้ยินเสียงสวรรค์ของคนตรงหน้าเก็บอาการดีใจนั้นแทบไม่ทันเมื่อหยุนเฟยเอ่ยว่าอยากกินไก่ตุ๋นโสมของนาง ฮูหยินกระวีกระวาดนำถ้วยมาตักชามไก่ตุ๋นนั้นและส่งให้นางด้วยมือสั่น ๆ มือของนางเหมือนกับมีผ้าพันแผลเต็มไปหมด

“ท่าน….ท่านน้า มือของท่าน”

“อ้อ นี่ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร คือว่าข้า…”

“ท่านแม่เป็นผู้ตื่นมาต้มไก่ตุ๋นให้ท่านตั้งแต่เช้ามืด แสงไฟไม่ค่อยมีก็เลย..ถูกมีดบาด”

“แย่จริง แม่นมท่านรีบไปเอายามาทาให้ฮูหยินหน่อยสิเร็ว ๆ เข้า ไม่ได้นะ บาดแผลเช่นนี้ทิ้งเอาไว้นานเดี๋ยวก็เป็นบาดทะยักเอาได้”

คำว่า “บาดทะยัก” ทำเอาทั้งฮูหยิน และแม่นมถงหันมามองหน้ากันด้วยความงุนงง แม้แต่เด็กผู้หญิงด้านหลังก็พลันหันมามองนางด้วยความสงสัยด้วยเช่นกัน หยุนเฟยกะพริบตาถี่เพราะคิดว่าคนในยุคโบราณคงไม่รู้จักเป็นแน่

“เอ่อ…ช่างเถอะ ๆ ทำแผลแล้วค่อยว่ากัน พวกท่าน…นั่งสินั่งเหตุใดยืนเกร็งแบบนั้น เจ้าด้วยนั่งก่อน ข้าเลยพลอยเกร็งไปด้วยจนทำตัวไม่ถูกแล้ว”

“ขะ…ข้าหรือ…ข้าหรือเจ้าคะคุณหนูใหญ่”

สตรีอ่อนวัยหันมาถามให้แน่ใจ นางคิดว่าฟังผิดไปเมื่อฟางหยุนเฟยผู้เอาแต่ใจ เห็นหน้านางเมื่อใดไม่หาเรื่องแกล้งก็จะพูดจาว่าร้ายจนนางทนไม่ได้ทุกครั้ง แต่วันนี้นางกลับชวน “ฟางหลีเม่ย” นั่งในห้องของนางงั้นหรือ

“คุณหนูใหญ่…นี่ท่าน…”

“แปลกใจอะไรกัน นั่งก่อนสิ เช่นนี้แล้วข้าจะกล้ากินไก่ตุ๋นนี่ได้งั้นหรือ”

“เจ้าค่ะ ๆ หลีเม่ยมาเถอะนั่งลง”

ฮูหยินหลานอี้เหนียงแทบจะร้องไห้อยู่แล้วเมื่อนางได้นั่งลงและเริ่มเห็นว่าหยุนเฟยนั่งตักไก่ตุ๋นเข้าปาก พร้อมกับยิ้มอย่างพอใจ

“อื้ม โคตรอร่อยเลย….อุ่ย”

เป็นอีกครั้งที่น้องสาวต่างมารดามองนางด้วยแววตาที่แปลกใจจนทำให้หยุนเฟยอดยิ้มกับท่าทีตลกของนางไม่ได้ มีน้องสาวน่ารักถึงเพียงนี้เหตุใดถึงได้เกลียดลงกันนะ ไม่ไหวเลยฟางหยุนเฟย

“เจ้าจ้องหน้าข้าทำไมหรือ”

เมื่อถูกเอ่ยทัก ผู้เป็นน้องก็รีบหลบสายตานางทันที นางกลับไปนั่งตัวลีบอีกครั้งเพราะความกลัว หยุนเฟยถึงกับตกใจกับท่าทางที่นางเป็นจนหันไปมองฮูหยินข้าง ๆ

“นี่ข้า…พูดสิ่งใดผิดไปงั้นหรือเจ้าคะ”

ไม่เพียงแค่น้องสาว แต่บัดนี้ฮูหยินเองก็หันมามองหยุนเฟยที่คุยกับนางและลงท้ายด้วยคำพูดที่ให้เกียรติพวกนางราวกับไม่เคยได้ยินมาก่อน

“คุณหนู….”

“เดี๋ยวก่อนนะท่านน้า เอาแต่เรียกข้าว่าคุณหนูแบบนี้มันไม่ประหลาดเกินไปหรอกหรือ”

ท่าทางที่พวกนางมองหยุนเฟยในยามนี้เริ่มทำให้นางรู้สึกอึดอัด เพราะนอกจากจะไม่พูดแล้วยังกลัวว่านางจะต่อว่าหรือตบตี แต่พอนางพูดดีด้วยกลับหันมามองราวกับไม่เคยเจอกันมาก่อนจนหยุนเฟยทำตัวไม่ถูก

“เอาละ ๆ ช่างเถอะ ๆ คือว่าข้าพึ่งจะฟื้นขึ้นมา เรื่องบางอย่างก่อนหน้านี้….ข้าเองก็จำไม่ได้แล้ว”

“คุณหนู ท่านยังต้องพักให้มาก ๆ ท่านจะได้แข็งแรง ท่านพี่…เอ่อ ท่านราชครูจะได้คลายกังวลไปได้บ้าง”

“ขอบคุณท่านน้า ไก่ตุ๋นนี่อร่อยมาก เจ้าไม่กินด้วยกันกับข้าหรือ….หลีเม่ย….ใช่หรือไม่”

ฟางหลีเม่ยถึงกับสะดุ้งเมื่อถูกนางเรียกโดยตรงเช่นนี้ น้องสาวหันมามองใบหน้าของหยุนเฟยที่หันมามองนางอย่างเป็นมิตรอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

“ขะ….ข้า….คือว่าท่านแม่ตั้งใจ ต้มไก่นี้…เพื่อท่าน”

“ไม่เห็นเป็นอะไรเลย มีตั้งมากมายข้ากินคนเดียวไม่หมดหรอก มาเถอะท่านน้าตักให้นางกินเป็นเพื่อนข้าทีสิ นั่งกินคนเดียวให้พวกท่านมองเช่นนี้ข้าก็อายเป็นนะ”

“นี่…เช่นนั้น…”

“ท่านเองก็กินด้วยกันสิ นี่ยังเช้าอยู่เลยท่านก็คงยังไม่ได้กิน น้ำแกงนี่อร่อยมากจริง ๆ นะ เร็วเข้าสิ”

“เจ้าค่ะ เจ้าค่ะ ข้าตัก…ตักตอนนี้เลย”

อี้เหนียงไม่เคยนึกว่าจะมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นในจวนสกุลฟาง ตั้งแต่นางแต่งเข้ามาทั้งถูกทำร้าย ตบตีและดูหมิ่นเหยียดหยามว่านางเป็นเพียงสาวบุตรขุนนางชั้นผู้น้อยที่ท่านราชครูแต่งเข้ามา นางไม่ได้ถูกฟางหยุน เฟยยอมรับ และเมื่อนางรู้ว่าอีเหนียงมีบุตรสาวอีกคน นั่นยิ่งทำให้หยุนเฟยเกลียดนางมากยิ่งขึ้น

“อร่อยหรือไม่”

“อร่อยเจ้าค่ะ อร่อยมากจริง ๆ เจ้าค่ะท่านแม่”

“กินเยอะ ๆ นะ”

“ไม่ได้นะ!!”

สองแม่ลูกต้องตกใจอีกครั้งเมื่อหยุนเฟยเอ่ยทักขึ้นมา พวกนางแทบจะวางชามน้ำแกงทันทีเมื่อได้ยินเสียงนางเอ่ยทัก หยุนเฟยนึกไม่ถึงว่าสองแม่ลูกจะกลัวนางถึงเพียงนี้ นางคงต้องค่อยเป็นค่อยไปแล้วละกับแผนผูกมิตรกับผู้อื่น

“ข้าหมายถึง มันอร่อยขนาดนี้ ข้ากินจุ เจ้าตัวเล็กนิดเดียวจะแย่งข้ากินหมดนี่เลยงั้นหรือ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel