บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 คุณหนูใหญ่ ฟางหยุนเฟย

“เปรียบตัวเจ้าดุจจันทรา ตัวข้าขอเป็นเมฆาที่โอบกอดเจ้าไว้”

เสียงอึกทึกครึกโครมรอบจวนราชครู “ฟางหลี่ถง” ดังขึ้นจนทำให้ผู้ที่นอนอยู่บนเตียงตื่นจากนิทราที่แสนยาวนาน ร่างกายหนักราวกับถูกรถบรรทุกทับมาทั้งคันเมื่อเริ่มกะพริบตาไล่แสงที่ส่องเข้ามาพร้อมกับสภาพห้องที่ไม่คุ้นเคย

“เสียงดังจังเลย นี่มันอะไรกัน”

“คุณหนูฟื้นแล้ว เร็ว ๆ เข้าส่งคนไปแจ้งท่านราชครูเร็ว ๆ เข้าเถิด”

“เจ้าค่ะแม่นมถง”

อะไรกัน เมื่อครู่นี้พวกเขาบอกว่ายังไงนะ “ราชครู” แล้วก็ยังมี “แม่นม” อีกงั้นหรือ ที่นี่ไม่ใช่หน้าโรงเรียนอนุบาลหรือ ฉันกำลังจะได้บรรจุเป็นข้าราชการครูวันแรก แต่ก็ต้องกระโดดน้ำลงไปช่วยเด็กน้อยที่กำลังจมน้ำอยู่ แล้ว….หลังจากนั้นเล่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

“เอายามาหน่อยแล้วเตรียมชุดใหม่เอาไว้ให้คุณหนูด้วย เงียบ ๆ ละ”

“ทราบแล้วเจ้าค่ะ”

เสียงกระซิบกระซาบที่ราวกับเกรงว่าจะทำให้ผู้ที่นอนอยู่ไม่พอใจยิ่งทำให้ผู้ที่นอนอยู่เริ่มสับสนยิ่งนักเมื่อค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ดูเหมือนจะมีบางอย่างไม่ถูกต้องเมื่อค่อย ๆ แหงนมองที่เพดานที่เป็นไม้หรูหราและเตียงสี่เสาที่มีผ้าม่านสีสดล้อมรอบ

“นี่มันอะไรกัน ที่นี่คือที่ไหน”

“คุณหนู ตื่นแล้วงั้นหรือเจ้าคะ อย่าทำให้บ่าวตกใจเช่นนี้สิเจ้าคะหากว่าท่านแม่ทัพฉินไม่อยู่ตรงนั้นแล้วละก็ เกรงว่า….”

“แม่ทัพฉิน….โอ๊ย!!”

“ช่วยข้า ช่วยตามหาผู้ที่ฆ่าข้าด้วย”

ความทรงจำบางอย่างไหลเข้ามาโดยที่ไม่ทันตั้งตัว นางชื่อ “ฟางหยุนเฟย” เป็นบุตรสาวคนโตของท่านราชครูฟางหลี่ถง นางเป็นว่าที่คู่หมั้นของท่านอ๋อง “หมิงเว่ยหราน” ซึ่งเป็นพระราชนัดดาของฝ่าบาทจวินอ้ายอี้เหริน

“ทำไมถึงคุ้นชื่อพวกนี้จังเลยนะ…เดี๋ยวนะ!!”

“เจ้าคะคุณหนู บ่าวขอโทษเจ้าค่ะ บ่าว….”

สาวใช้ที่ตกใจเมื่อนางตะโกนออกมาจนทำน้ำที่จะให้นางล้างหน้าคว่ำลงจนหกกระจายที่พื้นคุกเข่าด้วยตัวที่เปียกและนั่งตัวสั่นหันมามองนางด้วยความกลัว มิใช่เพียงนางแต่เป็นสาวใช้เกือบห้าคนที่อยู่ในนี้ที่ตัวสั่นเพราะความกลัว

“ขอโทษที ๆ คือว่าตกใจไปหน่อย ที่นี่….เอ่อ…คือที่ใด”

“คะ…คุณหนู ที่นี่เป็นห้องของคุณหนูเจ้าค่ะ”

“รู้แล้ว ๆ ข้าหมายถึง….ข้า…ข้าคือ ฟางหยุนเฟย!!….งั้นหรือ!!”

“คุณหนู เจ้าน่ะรีบไปเรียกท่านหมอมาเร็วเข้า บอกว่าคุณหนูฟื้นแล้ว…โธ่คุณหนู”

“ท่านคือ….”

“คุณหนู ข้าคือแม่นมถงอย่างไรเจ้าคะ”

“แม่นมถง ไม่ผิดแน่ ข้าคือ….กระจก…ขอกระจกให้ข้าหน่อย ไม่สิ ข้าจะไปดูเอง”

นางเห็นแล้ว กระจกบานใหญ่ที่อยู่ถัดออกไปอีกที่หนึ่งจากห้องของนาง เมื่อเดินไปแล้วนางจึงเริ่มส่องดูตัวเอง

“เป็นไปได้อย่างไร ชุดข้าราชการที่ภาคภูมิใจนั่นล่ะ เด็ก ๆ ละ ไม่นะ น้ำหวาน ภูมิ ต้นหอม วายุ นิค กลับ….กลับไปไม่ได้แล้วงั้นหรือ”

น้ำตาเริ่มไหลรินเมื่อนึกถึงว่าตนเคยเป็นอะไรก่อนหน้านี้ “ลูกตาล” พึ่งจะสอบบรรจุข้าราชการครูได้สำเร็จ และวันนี้เป็นวันแรกที่ได้สวมชุดเครื่องแบบที่แสนจะภูมิใจ ก่อนข้ามถนนไปที่โรงเรียนได้ยินเสียงคนร้องให้ช่วยเพราะมีเด็กตกน้ำ

ด้วยสัญชาตญาณของครูอนุบาล เธอวิ่งลงไปทันที นึกไม่ถึงว่าสามารถช่วยเด็กขึ้นมาได้ แต่กลับแลกมาด้วยชีวิตของเธอเอง สวรรค์คงเห็นใจเธอกระมังถึงได้ส่งเธอมาเกิดใหม่ยังที่แห่งนี้

“แต่ว่า….ทำไมถึงส่งมาในนิยายนี่กันละ แว่นละ แว่นตา…ไม่ต้องใช้งั้นหรือ นี่…ว้าว….นึกไม่ถึงว่าฟางหยุนเฟยจะรูปร่างดีเอวบางร่างเล็กถึงเพียงนี้ พระเจ้างดงามมากจริง ๆ แต่ว่า….แย่แล้ว!!”

ใช่แล้ว นางข้ามมิติมาจริง ๆ มิใช่ฝัน เรื่องนี้นางเริ่มรู้แล้วเพียงแต่ฟางหยุนเฟยตามนิยายที่นางเคยอ่าน ดูเหมือนว่านางจะมีบทอยู่เพียงไม่กี่หน้า

ซึ่งในเวลาต่อมาก็ถูกพระเอกของเรื่องสั่งฆ่าเพราะบังอาจไปวางยาเขาด้วยความโง่เขลาที่หลงเชื่อตัวร้ายในนิยาย เช่นนั้นเรื่องนี้มันเกิดขึ้นตอนไหนกันเล่า แล้วตอนนี้นางอายุเท่าใดแล้ว….

“คุณหนูอายุเต็มสิบเก้าปีไปเมื่อสองเดือนที่ผ่านมา และวันนั้นก็เป็นวันที่คุณหนูประกาศว่าจะหมั้นหมายกับท่านอ๋องหมิงเว่ยหรานด้วยอย่างไรเล่าเจ้าคะ”

“แม่นม ท่านอ๋องผู้นั้น….เขาชอบพอข้างั้นหรือ”

หวีในมือแม่นมสะดุดลงเมื่อถูก “ฟางหยุนเฟย” เอ่ยถามเรื่องนี้ขึ้นมา แต่ว่านางพึ่งฟื้นหลังจากที่ตกน้ำในสระบัวหลวงในวังโดยไม่ทราบว่าตกลงไปได้เช่นไร ตอนนี้ทั้งวังหลวงกำลังสืบหาสาเหตุอยู่เช่นกัน

“ลูกตาล” ในร่างของฟางหยุนเฟยพยายามผูกเรื่องที่เคยอ่านในนิยายกับข้อมูลที่เจ้าของร่างให้นางมาและทำให้แม่นมเริ่มไม่สงสัยและเล่าเรื่องราวก่อนหน้านี้ให้นางฟัง

“คือว่า…ถึงอย่างไรในตอนนี้ท่านอ๋องกับคุณหนูก็นับได้ว่าเป็น….”

“เมื่อครู่ท่านบอกว่า อีตาอ๋องนั่น…ชื่ออะไรนะ”

“คุณหนู เหตุใดเรียกขานเช่นนั้นเจ้าคะพระองค์เป็นถึงพระราชนัดดาของฝ่าบาท มียศเท่าเทียมองค์ชายและเป็นคนที่ฝ่าบาททรงโปรดนะเพคะ”

“ใช่เขาจริง ๆ และอีกไม่นานก็จะสั่งฆ่าข้าสินะเพราะอยากแต่งกับนางเอกอย่างไรเล่า”

“อะไรนะเจ้าคะ คุณหนูท่านว่าอะไรเจ้าคะ”

“เปล่าเจ้าค่ะ แม่นมแล้วโดยปกติข้า…เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ หมายถึง…ทั่ว ๆ ไป ข้าทำอะไรบ้างและเก่งอะไรบ้าง”

ฟางหยุนเฟยถามไปเช่นนั้นเพราะในนิยายแทบจะไม่ได้บอกเรื่องราวของนางเอาไว้เลยเพราะนางไม่ใช่นางเอก ไม่ใช่นางร้าย ตัวอิจฉาหรือเพื่อนนางเอก

เป็นเพียงแค่โคตรของโคตรตัวประกอบที่โผล่มาเพียงสามหน้ากระดาษในฐานะว่าที่คู่หมั้นของพระเอกนางตายเพราะวางแผนวางยาพระเอกและถูกจับได้จนถูกสั่งประหาร และเรื่องราวก็ดำเนินไปจนจบที่พระเอกนางเอกครองคู่กัน แต่หากนับในตอนนี้ที่นางอยู่ในตอนนี้ เรื่องราวในนิยายยังไม่ได้เกิดขึ้นเลย

“แม่นม เหตุใดท่านจึงเงียบไปเล่าเจ้าคะ ช่วยเล่าให้ข้าฟังหน่อยสิเจ้าคะ”

“คือว่า คุณหนูสูญเสียท่านแม่ไปตั้งแต่ตอนห้าขวบ หลังจากนั้นท่านราชครูก็เอาใจใส่เลี้ยงดูท่านมาด้วยความรักและคอยตามใจท่านมาเสมอ จนกระทั่ง….ฮูหยินจากไปสองปี นายท่านจึงได้รับฮูหยินหลานอี้เหนียงเข้ามาในจวนทำให้ท่านไม่พอใจ หลัยิ่งได้ทราบว่าฮูหยินมีบุตรสาวอีกคน จากนั้นท่านก็….”

วีรกรรมที่แม่นมเล่าให้นางฟังนั้นไม่ธรรมดาเลย แม้ว่าเรื่องราวของหยุนเฟยจะมิได้ถูกเขียนไว้มากนัก แต่ที่แม่นมเล่ามา นางมิใช่คนดีอะไร ที่จริงต้องบอกว่าหากไม่ถูกฆ่าให้ตาย นางเป็นนางร้ายได้อย่างสบาย ๆ เลยล่ะ

“ทั้งเอาแต่ใจ ขี้วีนและโวยวายแล้วยังตบตีสตรีไปทั่วเมืองหลวงเพื่อผู้ชายคนเดียวเนี่ยนะ!!”

“แต่คุณหนูก็มีข้อดีหลายอย่างนะเจ้าคะ”

“อะไรงั้นหรือแม่นม”

ฟางหยุนเฟยหันไปมองแม่นมพร้อมกับยิ้มอย่างมีความหวังเมื่อนางกำลังจะเอ่ยข้อดีของฟางหยุนเฟยให้ฟัง

“ท่านรักสวยรักงาม ชอบแต่งตัวสวย ๆ ซึ่งสตรีหลายคนในเมืองหลวงต่างล้วนพากันอิจฉา เพราะท่านมักจะมีชุดสวย ๆ เครื่องประดับใหม่ ๆ ที่พวกนางอยากได้แต่ก็ได้เพียงแค่มองเจ้าค่ะ”

“นั่นน่ะหรือที่ท่านเรียกว่าข้อดี!!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel