ตอนที่ 2 บอกให้เรียกพี่
แพรพิศชาคิดบ้าอะไรอยู่ถึงมาเดินเลือกซื้อเสื้อผ้าผู้ชาย ลำพังก็ลำบากอยู่แล้วยังจะมาเป็นห่วงเขาอีก ก็ถือว่าทำบุญให้เขาไป จะได้ไม่ต้องเดินโชว์ตัวไปมาๆ เห็นแล้วรำคาญลูกตามาก
“ทำไมวันนี้แปลกมาซื้อเสื้อผ้าตัวใหญ่ๆ”
“เอาไปฝากพ่อเลี้ยงจ้ะป้า” เธอรีบจ่ายเงินและรีบออกไปทันทีตอนนี้เป็นเวลาสองทุ่มแล้ว ทางกลับบ้านก็มืดไม่น้อย หญิงสาวรีบควบจักรยานยนต์คู่ใจกลับบ้านทันที
“ทำไมกลับมาช้าจังเลยครับ”
“ใครให้คุณมานั่งหน้าบ้านเข้าไปเลยนะ” เธอรีบผลักเขาเข้าไปในบ้านเกิดแม่มาเห็นเป็นเรื่องใหญ่แน่ เพิ่งจะวันเดียวก็สร้างความปวดหัวให้เธอแล้ว
“พี่ช่วยครับ”
“เมื่อกี้คุณพูดอะไรนะ”
“พี่ครับพี่อายุเยอะกว่าเรา” เยอะแบบที่ว่าไม่คิดว่าเขาจะมาวอแวกับเด็กอายุ 19 เขารู้อายุเธอได้ยังไงก็เขาแอบค้นหาเอกสารและเจอพอดี แพรพิศชา สิงห์ขาว
“คุณแอบรื้อข้าวของบ้านฉันเหรอ”
“พี่ฌอนครับน้องพรีน” เป็นครั้งแรกที่เขายิ้มออกมาจากหัวใจ อยู่กับคุณหญิงอรนลิน เขาแทบไม่เคยแสดงมุมนี้ออกมาหรือแม้แต่กับเพื่อนๆ ของเขา
“ถอยฉันจะไปทำกับข้าว อุ้ย”
“เรียกพี่ก่อนสิครับแทนตัวเองว่าพรีนด้วย”
ผลัวะ
เห็นดาวเลยทันทีมือหนักใช้ได้เลย ต่อยเขามาได้แค่หอมแก้มนิดเดียวเอง เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กจะเดินไปที่ห้องครัวเขาคว้าตัวไว้ก่อน
“พี่เตรียมไว้รอแล้วครับ”
“คุณดังไฟเป็นเหรอคะ” (ดังไฟคือก่อไฟ) บ้านเธอส่วนมากจะใช้เตาถ่าน เพราะแก๊สหมดหลายวันแล้ว
“ดังอะไรนะ”
“หมายถึงก่อไฟเป็นเหรอ”
“เอ่อ เป็นครับพี่ทำกับข้าวไว้รอด้วย” เขาลุกมาก่อไฟตั้งแต่บ่ายโมงกว่าจะติด นั่งหุงข้าวกับกับข้าวก็เสร็จตอนทุ่มกว่าๆ ดีที่ตอนวัยรุ่นเขาเคยไปแคมปิ้งเลยได้ความรู้มาบ้าง
“เอาเสื้อไปใส่ซะ”
“ขอบคุณครับคนสวย” เขารีบใส่เสื้อทันที เป็นเสื้อยืดตัวใหญ่ที่เขาไม่เคยสวมใส่มาก่อน อยู่แบบนี้ก็ทำให้เขาสบายใจไปอีกแบบ
แพรพิศชานั่งกินข้าวฝีมือเขาถือว่าไม่เลว เขาคำสุดท้ายกำลังจะเข้าปากแม่ดันมาเคาะประตูที่บ้านพอดี เอจึงให้เขาไปหลบในห้องนอน
“จ้ะแม่”
“แม่เอากับข้าวมาฝากกินข้าวแล้วเหรอ”
“กินเสร็จแล้ว”
“ทำไมมี 2 ถ้วยแอบเอาหนุ่มๆ เข้าบ้านป่ะเนี้ย” บังอรแซวลูกสาว อยากให้ลูกมีสามีเหมือนกันจะได้มาช่วยกันทำมาหากิน
“เปล่าจ้ะ พอดีมีแมวที่ไหนไม่รู้หลุดมาเลยให้ข้าวมันกิน”
“จะมีแฟนพามาให้แม่รู้จักบ้างนะ”
เคล้ง
“เสียงอะไร”
“เสียงแมวแหละจ้ะ ดึกแล้วแม่กลับเลยก็ได้จ้ะ” หญิงสาวรีบปิดประตู ต้องเป็นฝีมือเขาแน่ๆ จงใจแกล้งเธอมากกว่า
“คุณแกล้งฉันเหรอ”
“พี่บอกให้เรียกยังไงครับ” เขาตั้งใจทำของเล่นเพื่ออยากให้แม่ของเธอรู้ ที่เขาอยู่ที่นี่ก็เพื่ออยากจีบคนตรงหน้าต่างหาก
“ไม่เช่นนั้นพี่จูบนะ”
“พี่ฌอน” เขาจงใจแกล้งเธอ คนตัวเล็กมองเขาอย่างคาดโทษอยู่ดีไม่ว่าดีหาเรื่องใส่ตัว ถ้าชาวบ้านรู้เธอตกเป็นจำเลยสังคมแน่
“น้องพรีนไปอาบน้ำเลยครับพี่จะไปล้างถ้วยเอง”
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จเขาจึงมานั่งดูทีวี มือถือเขาหายตอนที่หนีตายออกมา เขามองไปรอบๆ บ้านของหญิงสาวเป็นบ้านชั้นเดียวหลังเล็ก ในตัวบ้านตกแต่งวางของอย่างเป็นระเบียบทำไมถึงได้มาอยู่คนเดียวกันนะ
“ข่าวด่วนนักธุรกิจหายตัวปริศนาตำรวจเผยอาจโดนลักพาตัว อชิระ จิตราพรชัยวัฒน์ นักธุรกิจในเครือ AJ หายตัวปริศนาติดต่อไม่ได้ ตำรวจรับแจ้งพบรถของชายหนุ่ม แต่เจ้าตัวหายไป รถหรูพังและทั้งคันและมีรอยเลือดกระสุนหลายนัด ใครพบเห็นโปรดแจ้งสายด่วน”
“ทำอะไร”
อชิระตกใจรีบปิดทีวีทันทีเขาไม่อยากให้คนตรงหน้ารู้ว่าเขาเป็นใคร รอให้เขาจีบเธอติดก่อนค่อยว่ากัน อยู่ใกล้กันทุกวันต้องมีหวั่นไหวบ้าง
“เปล่า ถืออะไรออกมา”
“หมอนผ้าห่มอยากนอนตรงไหนก็เลือกเอา”
“จะให้พี่นอนข้างนอกเหรอครับ” เมื่อคืนก็ปวดทั้งแผลทั้งหลังเพราะพื้นแข็งมาก แถมไม่มีโชฟาหรืออะไรปูนอนอีก
“ที่นอนปิคนิคแล้วนั่นพัดลมกรุณาอย่าเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวของพรีน”
เขาต้องยอมรับหมอนกับผ้าห่ม อากาศกลางคืนไม่ร้อนมากช่วงนี้ฤดูฝนด้วย เขาไม่ใช่คนเรื่องมากถึงไม่มีแอร์ก็อยู่ได้
“ก็ได้ครับ”
“กินยาฆ่าเชื้อให้หมดยาแก้ปวดด้วย”
“ขอบคุณครับที่เป็นห่วง”
“กลัวคุณตายต่างหากไม่อยากให้ใครมาตายที่บ้าน” เธอยิ่งกลัวผีอยู่ ทำไมต้องไว้ใจให้เขาอยู่บ้านกับเธอด้วยนะ หัวใจกลับรู้สึกแปลกๆ
“ขอบคุณมากนะครับ”
อชิระนอนหลับไปเขาต้องหาทางส่งข่าวให้ลูกน้องได้รับรู้ ว่าเขายังไม่ตายพวกมันรู้ได้ยังไงว่าเขาอยู่ที่ไหน ตามาฆ่าเขาถึงที่ ตอนนี้เขาคงไว้ใจใครไม่ได้เลยสินะ เขายังไม่อยากกลับบ้านตอนนี้ เพราะยังไงก็มีเรื่องปวดหัวรออยู่แพรพิศชามีใบหน้าคล้ายกับใครคนหนึ่งที่เขาไม่เคยลืม
“ตื่นเช้าจังเลยนะมอร์นิ่ง”
“พี่จะอยู่ที่นี่อีกนานแค่ไหน?”
“ทำไมขยันไล่จังเลย”
“พรีนกลัวว่าคุณจะเบื่อค่ะ ห้ามออกไปให้ใครเห็นเด็ดขาดว่าเราอยู่ด้วยกัน”
“ถ้าเห็นจะเกิดอะไรขึ้นครับ” เขาสงสัยเหมือนกันหญิงสาวย้ำเขานักหนา หรือว่าคนตรงหน้าจะมีคนของใจแล้วแบบนี้ก็เท่าจีบคนมีเจ้าของสิ
“พี่ไม่รู้อะไรเหรอว่าชายหญิงอยู่ด้วยกันต้องเป็นสามีภรรยากันเท่านั้น ถ้าชาวบ้านรู้พวกเขาต้องเอาไปนินทาแน่ว่าอยู่กับผู้ชาย”
“นั้นทำให้มันถูกต้องก็ได้” เขาพอเข้าใจว่าหากชายหญิงอยู่ด้วยกันต้องมีพิธีผูกแขน หรือไม่ก็แต่งงานซึ่งเขาก็ไม่ได้ขัดอะไร
“ว่าอะไรนะ”
“เปล่าครับแล้วจะไปไหนครับ”
“ไปหาแม่จ้ะ จะไปด้วยกันไหม” ถามอยู่ได้คิดว่าเป็นสามี แพรพิศชาเดินหนีออกมาบ้านของแม่อยู่ไม่ไกลมากนัก เธอไม่ถูกกันกับพ่อเลี้ยงจึงปลีกตัวออกมาอยู่คนเดียว
อชิระเห็นหญิงสาวปั่นจักรยานออกไปแล้ว โชคเข้าข้างที่เธอลืมโทรศัพท์ไว้ เขาจึงหยิบขึ้นมาติดต่อหาคนที่ไว้ใจที่สุด เล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง ละกำชับว่าห้ามบอกใครเมื่อพร้อมเขาจะกลับไปเอง
ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงคนที่เขาคิดถึงก็กลับมาพร้อมกับชายหนุ่มรุ่นราวเดียวกันปั่นจักรยานมาส่ง ทั้งสองยิ้มให้กันโบกมือลากัน ยังกับจะไม่ได้เจอหน้ากันอีก
“มันเป็นใคร!”
“ตกใจหมดเลยอะไรของพี่ฌอน”
“มันเป็นใครหลายครั้งแล้วที่มันมาบ้าน” ครั้งนั้นก็มายังครั้งนี้อีก ไหนบอกว่าไม่อยากให้ใครมาบ้านแต่มันทำไมมาได้ สายตาของมันบ่งบอกว่าคิดมากกว่าเพื่อน
“เขาจะเป็นใครแล้วเกี่ยวอะไรด้วย”
“วันข้างหน้าต้องเกี่ยว” เพราะยังไงแพรพิศชาก็หนีเขาไม่พ้น ยิ่งกระตุ้นเขาแบบนี้เขาต้องรีบลงมือจะไม่ปล่อยให้ใครเข้ามาวุ่นวายกับคนที่เขาหมายปองเด็ดขาด