ตอนที่ 1 เจอหน้ากันครั้งแรก
บึงกาฬ
“ขนมไทยไหมจ๊ะ” แม่ค้าสุดสวยกำลังยืนขายขนมไทยอยู่ในตลาด ตอนนี้ใกล้จะหมดแล้ววันนี้ขายหมดเร็วกว่าทุกวัน ที่สำคัญลูกค้าของหญิงสาวส่วนมากจะเป็นผู้ชายมากกว่าเพราะแม่ค้านั้นสวยราวกับนางฟ้า
“ขนมไหมจ๊ะ”
“…” สวย แค่รอยยิ้มก็สะกดเข้าไว้ได้แล้ว อชิระส่งยิ้มให้เล็กน้อยตอนนี้เหมือนว่าเขาไม่ได้ยินเสียงคนรอบข้างเลย นอกจากแม่ค้าคนสวย
“คุณค่ะ คุณ!”
“เหมาหมดนี้แหละเท่าไรครับ” เขาหลุดออกจากภวังค์และเหมาขนมทั้งหมด พร้อมกับยื่นแบงก์สีเทาให้แม่ค้า ที่กำลังเตรียมขนมให้เขา
“450 บาทจ้ะ” แพรพิศชารับเงินมากำลังจะทอนเงินให้เขา
“ไม่ต้องทอนครับ”
“ไม่ได้ค่ะเงินหายากจะตาย”
“เดี๋ยววันหลังผมมาอุดหนุนใหม่” อชิระเดินจากไปเขามาหาซื้อแถวดินแทบนี้เพื่อจะทำรีสอร์ต เขาไม่เคยรู้จักวัฒนธรรมของคนที่นี่ แต่แปลกที่เจอแม่ค้ายื่นขายขนมเขาต้องมาช่วยอุดหนุน
เตฌอน อชิระ วัย 30 ปีลูกชายคนเดียวของคุณหญิงอรนลิน เขาเป็นนักธุรกิจหนุ่มที่ทุกคนกำลังจับตามอง ตั้งแต่พ่อแม่แยกทางกันเขาก็ถูกวางตัวในเป็นทายาทคนต่อไป
แม่ของเขาเจ้าระเบียบมันจู้จี้จุกจิกเรื่องไม่เป็นเรื่อง จนทำให้พ่อทนไม่ไหวเลือกที่จะแยกทางกันตั้งแต่เขาเรียนอยู่เมืองไทย พ่อออกไปแต่ตัวเพราะพ่อของเขาไม่ใช่คนมีเงินอะไร ทำให้แม่มักกดดันในตัวพ่ออยู่เสมอ
“วันนี้ขายขนมหมดเร็วจัง”
“มีคนใจดีมาเหมาขนมจ้ะแม่ พรีนขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะจ๊ะ”
แพรพิศชา ไม่ได้อาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกับแม่ทั้งสองคนแยกบ้านกันอยู่ เพราะแม่แต่งงานใหม่จึงยกบ้านอีกหลังให้แพรพิศชาได้อยู่
พรีน แพรพิชา สาวน้อยวัย 19 ปี ที่ไม่ยอมเรียนหนังสือต่อเพราะที่บ้านยากจน แม่เป็นแม่ค้าทำขนมขายตามตลาด เธอจึงออกมาช่วยแม่ทำงาน สาวน้อยในตาสดใน แก้มป่อง ยิ้มทีโลกสดใสทั้งใบ
“ช่วงนี้ไปไหนมาระวังด้วยนะลูก”
“จ้ะ”
ปัง ปัง
เสียงปืนกระหน่ำยิงท่ามกลางสายฝนที่ตกหนัก ทำให้รถของอชิระเสียหลักตกข้างทาง เขาต้องหนีตายเพราะมีคนจ้องจะกำจัดเขา แปลกที่เขาเพิ่งมาถึงบึงกาฬได้แค่สองวัน กลับมีคนรู้ความเคลื่อนไหวของเขา
“อึก”
“ตามมันไป” คนร้ายหลายคนวิ่งตามชายหนุ่ม ยังไงวันนี้ต้องเด็ดหัวมันมาให้ได้
“…” อชิระพยายามหลบหลังต้นไม้ใหญ่ สภาพเขาตอนนี้ถูกยิงที่ต้นแขนหนึ่งนัด แต่กระสุนไม่ได้ฝังเข้าไปในเนื้อ ที่เขาเจ็บตัวเกิดจากรถที่พลิกคว่ำหลายตลบ
เมื่อเห็นว่าพวกมันวิ่งไปอีกทาง เขาจึงวิ่งหนีออกมาไม่รู้ว่าที่แห่งนี้คือที่ไหน ทุกอย่างมืดมนเพราะท้องฟ้ามืดสนิทมีแต่ป่า
หลายชั่วโมงไม่รู้ว่าตอนนี้เวลาเท่าไร เขาเดินมาเรื่อยๆ ทั้งป่ามีเสียงสัตว์ร้อง แต่เขากลับไม่กลัวเลยสักนิด เขาเห็นเสียงไฟอยู่ไกลริบหรี่จึงดีใจ อย่างน้อยก็เห็นบ้านคนแล้ว
แกร็ก
“เสียงอะไร” แพรพิศชาปิดทีวีตอนนี้เที่ยงคืนพอดี ฝนยังคงตกหนักจึงคิดว่าตัวเองหูฝาด แต่เสียงนั่นก็ยังไม่หายไป หญิงสาวจึงหยิบไม้หน้าสามและเดินไปที่ประตูหน้าบ้าน
“สาธุ อย่าเป็นฝีเลยเจ้าค่ะลูกกลัว”
แกร็ก
แพรพิศชาค่อยๆ เดินมาและเปิดผ้าม่านเล็กน้อยแต่ไม่เห็นมีอะไร บางทีอาจจะหูฝาดไปเอง เธอจึงหมุนตัวจะกลับเข้าไปในบ้าน
“ก กรี๊ด อุปส์”
“เงียบถ้าไม่ยากตาย!”
“อือ”
แพรพิศชาตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า เมื่อชายหนุ่มมีอาวุธในมือกำลังจี้ที่ต้นคอของเธอ หญิงสาวจึงพยักหน้าเป็นการตอบรับ ปลายมีดแหลมๆ จี้ที่ต้นคอขาวเนียน
“ไปเปิดไฟ เร็ว”
เสียงไฟสว่างไปทั่วห้อง หญิงสาวจึงยกมือเพื่อเป็นการบอกว่าเขายอมแล้ว โจรร้ายจึงปล่อยเธอ หญิงสาวกำลังจะยกมือทุบตีดวงตาเบิกกว้าง เหมือนคนเห็นผี
“ช ช่วยผมด้วย ช่วยทำแผลให้ผม โอ๊ย”
“ตายซะไอ้โจรบ้า” หญิงสาวกระหน่ำทุบตีจนไปถูกแผลฟกช้ำ และเขาหมดสติไปแล้วพอมองหน้าดีๆ เขาคือผู้ชายคนนั้นที่มาอุดหนุนขนมเธอ
“คุณ คุณอย่ามาตายที่บ้านฉันนะ” แพรพิศชาใช่เท้าสะกิดตัวเขาเบาๆ แต่เขาไม่ตอบสนองเลือดไหลออกมาจากต้นขน ใบหน้ามีรอยช้ำ เธอกำลังจะกดโทรหาตำรวจคงไม่ดี หากแม่รู้ว่ามีผู้ชายอยู่ในบ้าน
“เอาวะถือว่าทำบุญช่วยคนไว้” หญิงสาวลากเขามากลางห้องและถอดเสื้อออก เพื่อที่จะทำแผลให้ แต่แผลเยอะมากจนเธอเองกลัวว่าจะทำให้เขา หญิงสาวนั่งทำแผลให้เขาเกือบสองชั่วโมง และปล่อยให้เขานอนอยู่อย่างนั้น
อชิระค่อยๆ ได้สติเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งขึ้นอย่างยากลำบาก เขานอนมองเพดานและคิดทบทวนถึงเรื่องเมื่อคืน ข้าวของเครื่องใช้อยู่ในรถหมด
“โอ๊ยยยย” เขามองไปรอบๆ ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนแถมยังนอนอยู่ที่พื้นแข็งๆ ความทรงจำสุดท้ายคือเขาปืนหน้าต่างเข้ามาในบ้านของใครก็ไม่รู้
“ข้าวต้มกินเสร็จแล้วก็ช่วยออกไปจากบ้านฉันด้วย” แสดงว่าเป็นเจ้าของบ้านที่ช่วยเขาไว้ เมื่อคืนเขาเอามีดจ่อที่ต้นคอเพื่อขอความช่วยเหลือ
อชิระจึงกินข้าวต้มชามนั้นจนหมดและยาแก้ปวดที่วางไว้ข้างๆ กัน เขาจะไปไหนได้เงินติดตัวก็ไม่มี และติดต่อใครก็ไม่ได้
“พรีนรีบไปไหน”
“ต่อเค้าต้องกลับก่อนพอดีปวดท้องนิดหน่อย”
“อื้อ กลับดีๆ นะ”
แพรพิศชารีบกลับมาบ้านหลังจากที่ทำธุระเสร็จ ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นออกไปจากบ้านของเธอหรือยัง ถ้ามีคนเห็นต้องซวยแน่ๆ
“กรี๊ดด ไอ้บ้าทำไมไม่ออกไปสักที”
“โอ๊ย ผมเจ็บครับ” อชิระล้มลงกลางพื้นห้องเขาเพิ่งจะอาบน้ำมา เสื้อผ้าไม่มีใส่จึงพันแค่ผ้าเช็ดตัว เจ้าของบ้านก็เข้ามาพอดี
“ทำไมไม่กลับไปสักทีคุณเป็นคนร้ายใช่ไหม ฉันจะโทรแจ้งตำรวจ”
“ผมเปล่า ผม โอ๊ยอย่าทุบผมเจ็บ” จากที่จะตายเพราะถูกยิงจะตายเพราะถูกหญิงสาวทำร้ายร่างกายมากกว่า มือหนักใช้ได้
“แล้วมาแก้ผ้าในบ้านของฉันทำไม”
“ผมไม่เสื้อผ้าใส่ อย่าทำผมเจ็บ” เขาคว้าตัวหญิงสาวมากอดไว้แน่น ทำให้ทั้งสองตัวชิดกันแพรพิศชายิ่งดิ้นเข้าไปใหญ่ สภาพของเขาดูไม่เรียบร้อยเท่าไร
“ปล่อยฉันคุณมันเป็นโจรปล้นสวาทใช่ไหม”
“ฟังผมก่อน”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“พรีนปวดท้องหายหรือยังเราเป็นห่วงเลยตามมา” ต่อยืนเคาะประตูบ้าน เขารีบตามหญิงสาวมาทันกลัวว่าจะเป็นอะไรไป
“อุปส์ ห้ามพูดหลบๆ ไป” เธอรีบลุกขึ้นและเดินไปเปิดประตู “ไม่เป็นอะไรแล้ว”
“ขอเข้าไปหน่อยได้ไหม”
“เค้าไม่สะดวกนะจะออกไปบ้านแม่แล้ว”
“เจอกันที่ตลาดนะ” ต่อต้องหันหลังกลับ เมื่อไรเจ้าตัวจะเข้าใจว่าเขาคิดยังไง เป็นเขาเองที่ไม่กล้าพูดความในใจเพราะกลัวแพรพิศชาจะปฏิเสธ
“ใครเหรอ”
“ว้าย กลับไปได้แล้ว” ตกใจหมดมาไม่ให้สุ้มให้เสียง แถมยังแก้ผ้าเดินในบ้านไปมา ดีที่บ้านเธออยู่ไกลจากบ้านหลังอื่นๆ
“ผมไม่มีเสื้อผ้าครับ”
หญิงสาวหาเสื้อผ้าของเธอให้ แต่มีตัวเล็กๆ เขาใส่ไม่ได้แน่ มีแค่กางเกงบล็อกเซอร์ที่พอจะใส่ได้ ทำไมต้องมาทำอะไรแบบนี้กับคนแปลกหน้าด้วย
“เอาไปใส่ พอเสื้อผ้าคุณแห้งแล้วช่วยออกไปจากบ้านฉันด้วย”
“ขอบคุณครับ ผมอชิระจะเรียกเตฌอนก็ได้”
“ใครเขาอยากรู้ อย่าให้ใครเห็นคุณนะ”
“คุณจะออกไปไหนอีกครับ” เพิ่งกลับมาเองทำไมรีบกลับออกไปอีกแล้ว เขายังไม่รู้ชื่อคนตรงหน้าเลย
“ฉันจะออกไปตลาดกลับมาคงไม่เห็นหน้าคุณแล้วนะ” แพรพิศชาหยิบหมวกเพื่อเตรียมตัวจะออกไปขายของที่ตลาด ไม่เข้าใจตัวเองว่าเชื่อใจเขาได้ยังไง ถ้าเกิดเป็นโจรขึ้นมาเธอจะซวยเอาได้
“ผมขออาศัยบ้านคุณก่อนได้ไหม”
“คุณเป็นใครกันแน่!”
“ผมแค่ขออาศัยแผลผมหายจะไปทันที ผมขอความเมตตาจากคุณ” เกิดมาเพิ่งเคบทำอะไรแบบนี้ ขออ้อนวอนต่อหน้าหญิงสาว หากเขาจะไปตอนนี้เลยก็ย่อมได้แต่เขามีอะไรที่ต้องทำมากกว่านั้น
“…”
“ผมทำงานบ้านเป็นทำกับข้าวเป็นไม่รบกวนคุณเลย”
“…”
“นะครับ”
เขาเอ่ยขอร้องอีกครั้งหลังจากที่เธอเงียบไป เขายิ้มออกมาเมื่อคนตรงหน้าไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ อยู่บ้านหลังเดียวกันแต่ไม่รู้เลยว่าผู้มีพระคุณเขาชื่ออะไร
“ผมอชิระครับ คุณชื่ออะไร”
“พรีน” อยากจะทำอะไรก็ทำไปในเมื่อไล่แล้วก็ยังไม่ยอมไป หญิงสาวจึงออกมาตลาดช่วงนี้ฤดูฝนทำให้ขายของยากนิดหน่อย