บทที่ 3 - อ้อนคุณเธียร
-หลังเลิกเรียน-
“จ๊ะเอ๋! มายืนทำอะไรลับๆ ล่อๆ อยู่แถวนี้ย่ะ”
ร่างเล็กสะดุ้งด้วยความตกใจในขณะที่กำลังยืนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
“ตกใจหมดเลยสายธาร! เรามายืนรอปาลินน่ะ เห็นบอกว่ากำลังมาแต่ยังมาไม่ถึงสักทีเลยเนี่ย” ปาลิดาบ่นหน้างอพลางก้มมองนาฬิกาข้อมือ จนแล้วจนเล่าก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของน้องสาว
“งั้นกลับบ้านด้วยกันไหมเดี๋ยวธารขับรถไปส่ง”
“ไม่เป็นไร สงสัยปาลินไปจีบหนุ่มช่างยนต์อยู่แน่เลย เดี๋ยวอีกสักพักก็คงมา”
“คืนนี้ออกไปนั่งดื่มชิลๆ กันไหม?”
“ธารหมายถึงพวกคลับพวกบาร์อะไรแบบนั้นใช่ไหม”
“ถูกต้องที่สุด”
“เราไม่ชอบไปสถานที่แบบนั้นธารก็รู้”
“ก็ลองไปเปิดหูเปิดตาดูซะบ้างสิ จะได้รู้ว่าโลกภายนอกเขาไปถึงไหนแล้ว”
“…..” คนตัวเล็กทำท่าทางครุ่นคิด ในชีวิตตั้งแต่เกิดมาเคยไปเที่ยวสถานบันเทิงจนนับครั้งได้ เพราะเธอชอบเก็บตัวอยู่แต่บ้านมากกว่า
“ไปเถอะน่า ฉันได้ข่าวว่าพี่เธียรก็ไปด้วยนะ”
“งั้นไปก็ได้”
“พอได้ยินชื่อผู้ชายนี่เร็วเชียวนะย่ะ” สายธารยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มองเพื่อนสนิทอย่างหมั่นไส้
“…..” ใบหน้าแสนหวานค่อยๆ แดงระเรื่อด้วยความเขินอาย เธอยอมรับในสิ่งที่สายธารพูดทุกอย่างโดยไม่มีข้อโต้แย้ง
-บาร์แห่งหนึ่ง-
ดวงตาคู่สวยวาดสายตามองไปรอบๆ บริเวณเพื่อมองหาใครบางคน แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อไม่เห็นเขาอยู่ในนี้
“ไหนบอกว่าพี่เธียรจะมาไง ยังไม่เห็นแม้แต่เงาเลย”
“เพิ่งจะสามทุ่มครึ่งเอง แกจะรีบไปไหน”
“…..”
“ไหนๆ พรุ่งนี้ก็วันหยุด งั้นอยู่ดึกสักหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกใช่ไหม”
“แต่เราบอกพ่อไว้แล้วว่าไม่เกินเที่ยงคืนนะ”
“ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว เดี๋ยวฉันไปส่งแกเอง”
“…..” คนตัวเล็กพยักหน้ารับอย่างไม่เรื่องมาก ก่อนจะนั่งทานอาหารว่างที่สายธารสั่งมาให้อย่างเอร็ดอร่อย
“ดื่มหน่อยไหม แค่จิบๆ ไม่เมาหรอก ฉันสั่งแบบไม่แรงมาให้แก”
“ขอบใจนะ”
แก้วค็อกเทลสีสวยถูกยื่นให้คนตัวเล็กครั้งแล้วครั้งเล่า เนื่องจากรสชาติหวานเย็นดื่มง่าย เธอจึงดื่มมันหมดไปหลายแก้วจนเริ่มรู้สึกมึนหัวบ้างแล้ว
“เมาป่ะ ทำไมตัวแดง” สายธารจิ้มไปที่แก้มนิ่มๆ ของเพื่อนสาว
“คิดว่าเมานะ”
“ไม่เมาสิแปลก แกกินไปตั้งหลายแก้วแล้วเนี่ย”
“ฉันโอเค ยังไหว”
“พี่เธียร!”
ใบหน้าหล่อเหลาหันไปตามเสียงเรียกที่คุ้นเคย เรียวคิ้วขมวดปมเข้าหากันด้วยความสงสัยเมื่อเห็นน้องสาวกับเพื่อนสนิทนั่งดื่มอยู่ด้วยกัน
หัวใจดวงน้อยเต้นแรงในขณะที่เธียรธรรมเดินเข้ามาใกล้ ก่อนที่คนทั้งสองจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากัน
“น้องจะมาที่นี่ทำไมไม่บอก?” เธียรธรรมพูดอย่างหัวเสีย
“ขืนบอกก็ไม่ได้มาน่ะสิ” สายธารปิดปากหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ
“…..” ถึงแม้จะพูดกับน้องสาว แต่สายตากลับมองไปยังคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆ
“ทำไมแต่งตัวแบบนี้ คิดจะแต่งมาอ่อยผู้ชายหรือไง?”
“น้องก็แต่งตามปกตินะ พี่ว่ามันโป๊ไปเหรอ?”
ผู้เป็นน้องรีบก้มหน้ามองเพื่อสำรวจตัวเองตามที่พี่ชายบอก แต่ก็ไม่เห็นสิ่งผิดปกติอะไร
“พี่หมายถึงคนที่นั่งข้างๆ น้อง”
“…..” ปริมก้มหน้างุดไม่กล้าพูดอะไรไปมากกว่านั้น พอเอาเข้าจริงเธอกลับไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยคำทักทาย
“ปริมไม่เห็นจะแต่งตัวโป๊ตรงไหนเลย พี่อย่าดุนักสิ!” เป็นอย่างที่เธอบอก ปริมแค่ใส่เสื้อเปิดไหล่กับกระโปรงยีนที่เลยหัวเข่าขึ้นมานิดหน่อยแต่พี่ชายกลับมองว่าโป๊
“ไหนๆ ก็มาแล้ว น้องขอไปนั่งโต๊ะพี่ด้วยได้ไหม”
“…..”
“ไปนั่งกับพี่เธียรกัน” สายธารสะกิดเพื่อนสาวเบาๆ ในขณะมองตามแผ่นหลังพี่ชายที่เดินออกไป
“พี่เธียรอนุญาตแล้วเหรอ?”
“ถ้าเขาไม่พูดแสดงว่าอนุญาต”
ในระหว่างที่นั่งอยู่ด้วยกัน ร่างบางเผลอเหลือบสายตามองไปยังใบหน้าหล่อเหลาอยู่บ่อยๆ แบบไม่รู้ตัว
ทรงผมด้านหน้าของชายหนุ่มถูกเสยขึ้นอย่างตั้งใจ เส้นผมสีดำยาวตรงระต้นคอรับกับใบหน้าหล่อเหลาแบบพอดิบพอดี
เสื้อเชิ้ตสีดำที่เขาสวมใส่กับกางเกงยีนสีซีดพอดีตัวมันค่อนข้างแปลกตาและไม่ค่อยได้เห็นบ่อยมากนัก เขาดูร้อนแรงเป็นบ้าเลย!
“แล้วเรื่องฝึกงาน พี่เธียรจะรับเพื่อนน้องหรือเปล่าคะ?”
“เท่าที่จำได้ พี่เคยให้คำตอบไปแล้ว”
“พี่เธียรใจร้าย ถ้าปริมไม่ได้ฝึกงานที่บริษัทเรา งั้นธารก็ไม่ฝึกเหมือนกัน” สายธารเริ่มมีท่าทางงอแงไม่พอใจ ไม่รู้ว่าเธียรธรรมจะจงเกลียด
จงชังอะไรเพื่อนเธอนักหนา
“พี่ว่าเหตุผลของน้องมันฟังดูไร้สาระไปหน่อยนะ”
“ไม่เป็นไรนะธาร แยกกันฝึกงานแค่แป๊บเดียวเอง เดี๋ยวก็ได้เจอกันแล้ว” ปริมพูดเพื่อปลอบใจเพื่อนสาว ถึงแม้ว่าคำตอบจะฟังดูน่าผิดหวังแต่ก็ทำใจไว้บ้างแล้ว
“ไม่เอาหรอก แกอยู่ที่ไหนฉันก็จะอยู่ที่นั่น ต่อให้บริษัทพี่เธียรไม่รับ เราค่อยไปหาที่อื่นก็ได้”
“แต่พี่ไม่อนุญาตให้น้องไปฝึกงานที่อื่น”
“พี่เธียร!”
“ลองให้เพื่อนน้องเป็นฝ่ายมาขอร้องดูสิ เพื่อบางทีพี่อาจจะเปลี่ยนใจ”
“เดี๋ยวเราลองขอคุณเธียรดูก็ได้”
คนตัวเล็กรวบรวมความกล้าที่มี เดินเข้ามาหยุดตรงหน้าของร่างสูงที่นั่งอยู่
“นะคะคุณเธียร รับปริมเข้าฝึกงานที่บริษัทหน่อยได้ไหม”
“ลองบอกเหตุผลดีๆ ของเธอมาสักข้อสองข้อ ว่าทำไมฉันถึงต้องรับเธอเข้าฝึกงาน”
“ปริมอยากอยู่กับสายธารค่ะ ไม่อยากแยกกัน”
“เหตุผลแค่นี้?”
“ยังมีอีกอย่างค่ะ”
“ว่ามาสิ”
ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นอย่างชั่งใจว่าควรพูดมันออกไปดีไหม ความรู้สึกที่มีต่อเธียรธรรมเธอไม่อยากเก็บมันไว้อีกแล้ว
ปาลิดาเดินเข้าไปใกล้พร้อมย่อตัวนั่งลงกลางหว่างขาของชายหนุ่ม ก่อนจะมองหน้าเขาตรงๆ แบบไม่หลบสายตา
“เพราะปริมชะ…ชอบคุณเธียร อยากอยู่ใกล้ๆ คุณเธียร”
“นิสัยของเธอคงชอบผู้ชายคนอื่นไปทั่วด้วยสินะ” ใบหน้าหล่อเหลาโน้มต่ำลงไปหา พร้อมใช้มือสากบีบที่ปลายคางของเธอแบบไม่แรงนักอย่างต้องการคำตอบ
“ไม่ใช่นะคะ ที่ผ่านมาปริมชอบคุณเธียรคนเดียว”
ร่างบางรีบส่ายหน้าปฏิเสธ อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ในตัวที่สูงเกินไป เลยทำให้เธอกล้าเป็นฝ่ายสารภาพรักกับเขาก่อน
“เวลาพูดทำไมไม่สบตาฉัน! หรือว่ากำลังโกหก”
“ไม่ได้โกหก ปริมชอบคุณเธียรคนเดียวค่ะ”
“ฉันจะเห็นแก่ความใจกล้าของเธอแล้วกัน”
“…..”
“พรุ่งนี้สิบโมงเช้าเข้าไปกรอกเอกสารเตรียมฝึกงานที่บริษัท” ใบหน้าแสนหวานเผยรอยยิ้มกว้างเมื่อได้ยินคำตอบ ในที่สุดเขาก็ยอมรับเธอเข้าฝึกงาน
“ห้ามมาช้าแม้แต่นาทีเดียวเข้าใจหรือเปล่า?”
“ขะ…เข้าใจค่ะ”