คนโปรดของคุณเธียร

110.0K · จบแล้ว
ฮิวโก้
55
บท
13.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“คุณเธียรกำลังเข้าใจผิด” “เข้าใจผิดอะไร ก็เห็นอยู่” “ปริมกับกรณ์เป็นเพื่อนกัน ไม่ได้เป็นเหมือนที่คุณคิดสักหน่อย” “พวกเธอจะเป็นอะไรกันก็ช่าง ฉันไม่ได้อยากรู้” “แต่ดูเหมือนว่าคุณเธียรกำลังหึงปริมเลยนะ” “อย่าเข้าข้างตัวเอง” “ไม่ได้เข้าข้างตัวเอง แต่ตอนที่ปริมหึงคุณเธียรก็มีอาการนี้แหละ” “ทำไมต้องหึง ฉันไม่ได้คิดอะไรกับเธอ” “ถ้าไม่ได้คิดแล้วจูบปริมทำไม?” “ก็แค่จูบ จะไปสนใจทำไม” รอยยิ้มก่อนหน้านั้นๆ ค่อยๆ เลือนหายไป สำหรับเขามันอาจจะไม่ได้สำคัญอะไร แต่กับเธอมันคือจูบแรกของคนที่รัก “คุณเธียรไม่ได้คิดอะไรกับปริมจริงๆ เหรอคะ?” “…..” ไม่น่าไปคิดเข้าข้างตัวเองตั้งแต่แรกเลยจริงๆ ว่าที่เขาจูบเพราะอาจจะมีใจ “คุณเธียรคงจูบกับผู้หญิงคนอื่นแบบนี้ด้วยใช่ไหม” “…..” “ถ้างั้นคุณช่วยจูบปริมอีกได้ไหม ปริมอยากให้คุณเธียรสนใจปริมมากกว่านี้”

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักประธานรักหวานๆโรงแรม/มหาลัยโรแมนติกนักศึกษาฟินๆ18+

บทที่1 - วุ่นวาย

-บริษัทธราธร-

‘เธียรธรรม’ ประธานเจ้าหน้าที่บริษัทธราธร จำกัด(มหาชน) ก้าวเข้ามารับช่วงต่อยอดธุรกิจของครอบครัวได้ใช้ความสามารถจนนำพาธุรกิจให้เติบโตยืนอยู่ในแถวหน้าของวงการอสังหาริมทรัพย์ในวัยเพียง28ปี โดยมีทรัพย์สินเข้าตลาดหลักทรัพย์มูลค่ากว่าสองแสนล้านบาทในปีนี้

“ข่าวของพี่ขึ้นหนังสือพิมพ์หน้าแรกเกือบทุกฉบับเลยค่ะ”

“…..” เจ้าของเรื่องที่ถูกพูดถึงพ่นควันบุหรี่ออกทางริมฝีปากหนาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ถึงแม้คนอื่นจะเชิญชมและเยินยอแต่เขากลับรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

“พี่ชายของน้องเก่งที่สุด ธารภูมิใจในตัวพี่มากเลยนะ ถ้าพ่อกับแม่รู้พวกท่านคงดีใจมากเหมือนกัน”

สายธารพูดด้วยแววตาเป็นประกาย เธอเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเธียรธรรมที่มีอายุห่างกันมากถึงหกปี

พ่อกับแม่ประสบอุบัติเหตุทางเครื่องบินเสียชีวิตเมื่อหลายปีก่อน ทำให้เธอต้องอาศัยอยู่กับพี่ชายกันตามลำพัง เลยทำให้นับถือพี่ชายเปรียบเสมือนพ่อแม่อีกคนที่ช่วยเลี้ยงดูเธอมา

“อย่ามัวแต่ชมคนอื่น แล้วเรื่องเรียนของตัวเองไปถึงไหนแล้ว”

“วิชาภาษาไทยน้องตั้ง96เลยนะ”

“แล้วทำไมไม่ทำให้ได้100คะแนนเต็ม?” ชายหนุ่มมองไปยังน้องสาวด้วยสายตาคาดโทษ เพราะตอนที่เขายังเรียนมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะปริญญาตรีหรือปริญญาโทก็ได้ถึงเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง

คนตัวเล็กแสดงสีหน้าเจื่อนลงเมื่อได้ยินแบบนั้น ถึงแม้จะพยายามมากแค่ไหนแต่มันก็ยังไม่พอสำหรับเขาอยู่ดี

“เอ่อ…ก็วิชานี้มันยาก ธารก็ทำเต็มที่แล้วนะ”

“ตั้งใจเรียนให้มากกว่านี้หน่อย ถ้ามัวแต่ทำตัวแบบนี้ อนาคตโตขึ้นมาจะเป็นยังไง”

“…..”

“หวังว่าครั้งหน้าธารคงไม่ทำให้พี่ผิดหวังนะ”

“คะ…ค่ะ”

บทสนทนาเมื่อสักครู่เป็นของพี่ชายฉันเอง เขาชื่อเธียร หรือเธียรธรรม ธราธร ผู้บริหารสุดเนี๊ยบแห่งบริษัทยักษ์ใหญ่เบอร์ต้นๆ ของประเทศแถมยังดุเหมือนหมาแม่ลูกอ่อน

พนักงานในบริษัทต่างพากันเกรงกลัวจนเยี่ยวเล็ดเพราะเขาเป็นคนที่เด็ดขาดมาก มากจนทำให้คนรอบข้างเครียดตามไปด้วย รวมถึงฉันอีกคน!

“พรุ่งนี้วันเกิดพี่ ธารขอชวนเพื่อนมากินข้าวที่บ้านเราด้วยได้ไหม”

ฉันส่งสายตาออดอ้อนเพื่อว่าเขาจะยอมเห็นใจ

“ใคร?”

“ยัยปริมค่ะ”

“…..” พี่เธียรเงียบไปเมื่อได้ยินชื่อของปริมที่เป็นเพื่อนฉันเอง

ความจริงพี่เธียรกับปริมก็เคยเห็นหน้าค่าตากันมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่ได้ทำความรู้จักอะไรกันมากมาย

“นะพี่เธียร ให้เพื่อนน้องมางานวันเกิดพี่ด้วยได้ไหม พี่ก็รู้ว่านอกจากปริมแล้ว น้องไม่มีเพื่อนที่ไหนอีก”

“ถ้าน้องจะชวนเพื่อนมาก็ได้ แต่อย่าให้มาวุ่นวายกับพี่ก็แล้วกัน”

“ไม่วุ่นวายแน่นอน” ฉันรีบรับปากในทันทีเพราะกลัวพี่ชายตัวดีจะเปลี่ยนใจ

“คุณเธียรครับ อีกสิบนาทีได้เวลาประชุมแล้วครับ”

“ขอบใจมาก เดี๋ยวฉันตามไป”

-มหาวิทยาลัย-

“แกชวนฉันไปงานวันเกิดพี่เธียรจริงๆ เหรอ?” ปริมดูดีใจไม่น้อยหลังจากที่ฉันออกปากชวนไปงานวันเกิดของพี่เธียรคืนนี้ เป็นแค่การทานมื้อค่ำด้วยกันนิดๆ หน่อยๆ

“ก็ใช่น่ะสิ แกห้ามปฏิเสธนะ เพราะพี่ฉันอนุญาตแล้ว”

“…..” ปริมเอาแต่ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เพราะเพื่อนฉันแอบชอบพี่เธียรมาตั้งนานแล้ว

“ชอบพี่เธียรไม่ใช่เหรอ เวลานี้เหมาะสมที่สุดแล้ว จะได้อยู่ใกล้ชิดกันไง”

“แต่พี่แกดุมากเลยนะ แถมยังชอบทำเหมือนรำคาญฉันอีกด้วย” สีหน้ากังวลของปริมแสดงขึ้นมาอย่างชัดเจน

“เขาก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ไม่มีอะไรหรอก แกอย่าคิดมาก”

“งั้นไปก็ได้” พอได้ยินแบบนั้นพิมพ์จึงรีบตอบตกลงในทันที

“งั้นสองทุ่มเจอกันนะ ห้ามมาช้าด้วย”

“แล้วเจอกัน”

-บ้านสิริรัฐภาค-

“วันนี้แต่งตัวซะสวยเชียวนะยัยผีแม่ชี” ปาลินออกปากชมพี่สาวเมื่อเห็นปริมกำลังยืนแต่งตัวทำผมอยู่หน้ากระจกภายในห้อง

“ลินว่าใครเป็นผีแม่ชี”

“ว่าตัวนั่นแหละ ขนาดจะออกไปเที่ยวยังใส่ชุดคลุมหัวเข่า กลัวผู้ชายเห็นขาอ่อนหรือไงย่ะ”

“วันนี้อารมณ์ดีไม่อยากทะเลาะกับลินนะ”

“ว่าแต่แต่งตัวสวยจัดเต็มขนาดนี้ จะไปเที่ยวไหนไม่ทราบคะ” ปาลินเดินเข้ามาชะโงกหน้าใกล้ๆ พี่สาวด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“ไปงานวันเกิดเพื่อน”

“ขออนุญาตพ่อหรือยัง”

“ขอแล้ว พ่อบอกห้ามกลับเกินห้าทุ่ม”

“ลองเอาชุดลินไปใส่ไหม จะได้แซ่บให้ผู้ตะลึง แย่งซีนเจ้าของงานไปเลย”

“ไม่เอาหรอก ชุดลินมีแต่โป๊ๆ ทั้งนั้น” ปริมรีบยกมือห้าม ก่อนจะรีบเก็บข้าวของที่จำเป็นยัดใส่กระเป๋าใบหรูที่แม่เพิ่งซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด

“ใครๆ เขาก็ใส่กันทั้งนั้น ไม่เรียกว่าโป๊หรอก”

“ได้เวลาแล้ว ปริมไปก่อนนะ”

“แล้วจะไปยังไง ใครมารับ?”

“ขับรถไปเอง”

“อย่าลืมเอาแว่นไปด้วยนะ สายตาปริมไม่ค่อยดี ขับรถกลางคืนมันอันตราย”

“ใส่คอนแทคเลนส์แล้วไม่เป็นไรหรอก”

“ดูแลตัวเองดีๆ ถ้ามีปัญหาให้โทรหาลินเลยนะ”

“โอเค พี่ดูแลตัวเองได้” ร่างบางพยักหน้ารับพร้อมเดินเข้าไปกอดน้องสาวเหมือนทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน

-บ้านธราธร-

“ทางนี้ยัยปริม”

ใช้เวลาขับรถราวๆ เกือบสี่สิบนาทีก็มาถึงสถานที่นัดหมายคือคฤหาสน์หลังใหญ่ใจกลางกรุง

คนตัวเล็กกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปหาเพื่อนสาวด้วยท่าทางรีบร้อนเมื่อรู้ตัวว่ามาสายเกินเวลานัด

“เราคงไม่ได้มาช้าไปใช่ไหม”

“ไม่ช้าหรอก รีบไปหาพี่เธียรกัน”

หัวใจดวงน้อยพองโตหลังจากได้ยินชื่อของเธียรธรรม พี่ชายของเพื่อนที่เธอแอบรักมาเกือบสองปี

“เดี๋ยวก่อนสายธาร”

“มีอะไร?”

“ปริมดูโอเคไหม?” เธอพูดอย่างไม่มั่นใจก่อนจะหมุนรอบโตเพื่อให้สายธารช่วยดูความเรียบร้อย

“สวยแล้ว แกน่ะสวยที่สุด”

เมื่อทุกอย่างโอเคราบรื่น หญิงสาวทั้งสองจึงจับมือกันไว้แน่นแล้วรีบเดินไปยังห้องรับประทานอาหาร

“พี่เธียร! เพื่อนน้องมาแล้วค่ะ”

“สวัสดีค่ะ ดีใจที่ได้เจอพี่อีกครั้งนะคะ” ปริมยกมือไหว้พร้อมยิ้มกว้างทักทาย เธอหย่อนตัวนั่งลงข้างๆ สายธารโดยมีเธียรธรรมนั่งอยู่หัวโต๊ะ

“ไม่รู้จักมารยาทหรือไง ถึงได้มาสายไปตั้งสิบห้านาที” ชายหนุ่มหยิบแก้วไวน์ขึ้นจิบอย่างละเมียดละไมก่อนจะมองไปยังคนที่เพิ่งมาใหม่ด้วยสายตาเรียบเฉย

“สิบห้านาทีเองพี่เธียร ยัยปริมขับรถไม่ค่อยเก่งเลยมาถึงช้าหน่อยค่ะ”

“ถ้ารู้ว่าช้าก็ควรเพื่อเวลา ไม่ใช่ให้ผู้ใหญ่มานั่งรอแบบนี้”

“ปริมขอโทษค่ะพี่เธียร” คนตัวเล็กยกมือไหว้ขอโทษด้วยความรู้สึกผิดโดยไม่มีข้อโต้แย้ง

“เราไม่ได้สนิทกัน ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพี่”

“เอ่อ…” คนกลางอย่างสายธารถึงกลับลำบากใจทำอะไรไม่ถูก แต่ก็พอเข้าใจได้ว่าพี่ชายเป็นคนแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

“ปริมขอโทษค่ะคุณเธียร”

“ไม่เป็นไรนะปริม กินข้าวกัน” เมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนไม่ดี สายธารจึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อทำลายบรรยากาศที่น่าอึดอัด

“…..” ปาลิดาก้มหน้าก้มตาทานอาหารของตัวเองแบบเงียบๆ การนั่งร่วมโต๊ะกับเธียรธรรมในครั้งแรก ทำให้รู้สึกเกร็งไม่เป็นตัวของตัวเอง แต่กลับต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงของสายธารที่กระซิบอยู่ข้างหู

“เมื่อกี้ฉันเห็นพี่เธียรแอบมองแกอยู่บ่อยๆ ด้วยนะ”

“มีอะไรหรือเปล่า?”

“เขาชอบกินปลา แกลองตักปลาให้เขาดูสิ”

“จะดีเหรอธาร ปริมไม่กล้า” ร่างบางส่ายหน้าปฏิเสธพร้อมหรี่สายตามองไปยังเธียรธรรมอย่างกล้าๆ กลัว

“เอาเลย ตักเลย เอาใจพี่เธียรไง”

“คุณเธียรทานปลาไหม เดี๋ยวปริมตักให้”

คนตัวเล็กรวบรวมความกล้าก่อนจะใช้ช้อนกลางตักปลานึ่งชิ้นโตใส่จานให้ชายหนุ่ม แต่สิ่งที่เขาทำคือเขี่ยมันออกไปไว้ข้างจานอย่างที่ไม่คิดจะกินมัน

“ถ้าคุณเธียรไม่ชอบปลา งั้นเอากุ้งไหมคะ”

“อย่ามายุ่งกับฉัน!”

“…..” ร่างบางสะดุ้งด้วยความตกใจเมื่อถูกตอกกลับใส่หน้ามาแบบนั้น เธอรีบชักมือกลับแล้ววางกุ้งใส่จานของตัวเอง

“พี่เธียรอย่าดุเพื่อนน้อง”

“งั้นก็บอกเพื่อนน้องสิ ว่าอย่ามาวุ่นวายกับพี่”

คนที่ได้ฟังถึงกลับก้มหน้าน้ำตก เธอแค่หวังดีแต่มันกลับกลายเป็นความรำคาญ

“พี่เธียรใจร้าย ดูสิ! เพื่อนน้องจะร้องไห้แล้วนะ”

สายธารยกมือลูบหลังเพื่อนสาวเพื่อเป็นการปลอบ ทั้งๆ ที่ภายในใจอยากตะโกนใส่หน้าพี่ชายดังๆ แต่ก็ต้องเก็บมันไว้

“อะ…อันนี้เป็นของขวัญวันเกิดจากปริมเองค่ะ สุขสันต์วันเกิดนะคะ”

ปริมหยิบกล่องของขวัญขนาดพอดีที่อยู่ในกระเป๋าวางลงบนโต๊ะ เธอตั้งใจจะเอามาให้เขา แต่ดูเหมือนว่าเขาจะรังเกียจเธอนักหนา

“เราขอตัวกลับก่อนนะธาร”

“จะไปไหน?”

สองขาเรียวหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงของเธียรธรรมที่พูดตามหลังมา ครั้งนี้เธอค่อยๆ หันกลับไปสบตากับเขาแบบตรงๆ

“ปริมจะกลับบ้านค่ะ”

“คิดจะไปจะมาตามใจตัวเองหรือยังไง หรือว่าไม่เห็นหัวฉันแล้ว”

“เปล่านะคะ ปริมไม่ได้คิดแบบนั้น”

“กลับมานั่งที่เดิม”

“…..” ด้วยความเกรงใจเพื่อน เธอเลยยอมเดินกลับมา ก่อนจะยืนคิดอยู่ชั่วครู่ว่าควรจะทำยังไงต่อไปดี

“ไม่ได้ยินที่ฉันบอกหรือไง นั่งลง!”