บทที่ 2 - ขอความช่วยเหลือ
“อย่าเพิ่งรีบกลับเลยปริม รอเป่าเค้กอวยพรให้พี่เธียรก่อนสิ”
“…..” ร่างบางหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิมอย่างไม่เรื่องมาก ทั้งๆ ที่ทำเหมือนว่ารำคาญเธอนักหนาแต่ทำไมถึงอยากให้เธออยู่ต่อ
“ตอนนี้สองทุ่มครึ่งแล้ว รอแป๊บนึงนะคะ เดี๋ยวธารไปเตรียมเค้กมาให้พี่เป่า”
“เดี๋ยวเราไปช่วยนะ”
“ไม่เป็นไรปริม แกนั่งรอตรงนี้เป็นเพื่อนพี่เธียรน่ะดีแล้ว เดี๋ยวฉันรีบไปรีบมา”
“…..” หญิงสาวมีสีหน้าหนักใจเมื่อต้องอยู่กับเธียรธรรมตามลำพัง ไม่รู้ว่าควรทำตัวแบบไหนเมื่อเห็นสายตาคู่คมที่มองมา
ปกติเธอเป็นคนช่างพูดช่างคุยแต่พออยู่กับเขาสองคน ลิ้นมันดังแข็งขึ้นมาดื้อๆ ซะงั้น
“หน้าปริมมีอะไรติดหรือเปล่าคะ?”
“ไม่มี”
“อ่อ…ค่ะ” ถึงแม้ว่าเขาจะตอบแบบนั้น แต่สายตายังคงมองจ้องเธออยู่ดี ทำเอาคนที่ถูกมองถึงกลับต้องรีบเบือนหน้าหันหนี
“อยู่ที่มหาวิทยาลัยสายธารเป็นยังไงบ้าง ออกนอกลู่นอกทางหรือเปล่า?”
เธียรธรรมเอ่ยถามพลางหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาจิบอีกครั้ง จนเริ่มรู้สึกเมาขึ้นมาบ้างแล้ว
“ไม่เลยค่ะ สายธารเข้าเรียนตรงเวลา ทำงานส่งอาจารย์ทุกวิชา”
“แล้วเรื่องผู้ชายมีมาเกาะแกะบ้างไหม”
“สายธารเป็นคนสวยค่ะ เลยมีหนุ่มๆ มาจีบเยอะ”
คนตัวเล็กเริ่มพูดคุยมากขึ้น อาจจะรู้สึกเกร็งแต่ก็ไม่มากเท่าไหร่แล้ว
“แล้วเธอล่ะ มีผู้ชายมาจีบบ้างหรือเปล่า?”
“ปริมไม่ใช่คนสวย ไม่มีใครมาจีบหรอกค่ะ”
“…..” นิ้วเรียวยาวเคาะลงบนโต๊ะอย่างใจเย็นพร้อมพิจารณาคนตรงหน้า คำตอบของเธอถือว่าน่าพึงพอใจ
พูดคุยกันได้ไม่นานนัก สายธารจึงเดินกลับมาพร้อมเค้กก้อนเล็กที่ตั้งใจทำมอบให้พี่ชายเหมือนทุกปี
“Happy Birthday นะคะพี่ชายของน้อง”
“Happy Birthday นะคะคุณเธียร ปริมขอให้คุณเธียรมีความสุขมากๆ สุขภาพร่างกายแข็งแรง คิดสิ่งใดขอให้สมปรารถนานะ” ใบหน้าแสนหวานเผยรอยยิ้มกว้าง หัวใจดวงน้อยเต้นแรงเมื่อชายหนุ่มขยับเข้าใกล้จนได้กลิ่นกายหอมอ่อนๆ
“เป่าเทียนสิคะ มัวแต่มองเพื่อนน้องอยู่ได้ เทียนมันละลายหมดแล้ว”
เธียรธรรมหลับตาลงชั่วครู่เพื่ออธิษฐานก่อนจะเป่าเทียนที่อยู่บนเค้กจนดับไป
“กินเค้กไหมปริม เดี๋ยวฉันตักให้”
“เอาๆ ขออันที่มีสตรอว์เบอร์รี่ด้วยได้ไหม เราชอบกิน” เหมือนเด็กน้อยที่กำลังจะได้กินของโปรด ปริมชี้ไปยังสตรอว์เบอร์รี่ลูกใหญ่ที่วางอยู่ตรงกลาง
“สตรอว์เบอร์รี่มีแค่ลูกเดียว พี่เธียรก็ชอบกินเหมือนกัน งั้นคงต้องเป่ายิ้งฉุบกันแล้วล่ะ”
“ไม่เป็นไร ให้พี่เธียรกินเลย” คนตัวเล็กพูดอย่างเสียดาย แต่ไม่เป็นไรยอมเสียสละให้เจ้าของวันเกิด
“…..” ชายหนุ่มเลื่อนจานเค้กที่มีสตรอว์เบอร์รี่ให้คนตัวเล็ก
“ให้ปริมเหรอคะ”
“ฉันไม่อยากแย่งเด็กกิน ถ้าเธอชอบก็กินสิ”
“ขอบคุณค่ะ”
“อะไรกันพี่เธียร ขนาดน้องขอสตรอว์เบอร์รี่ทุกปี พี่ยังไม่เคยแบ่งให้ใครเลยนะ แล้วทำไมถึงแบ่งให้ปริมล่ะ” สายธารแย้งขึ้นอย่างไม่เข้าใจในความคิดของพี่ชาย
“ปีนี้พี่ไม่อยากกิน ถ้าแบ่งให้คนอื่นคงไม่เป็นไร”
“สองมาตราฐานชัดๆ เลย”
“ไม่ต้องพูดมาก รีบกินให้เสร็จ พรุ่งนี้น้องมีเรียนเช้าจะได้รีบเข้านอน”
“มีอีกเรื่องที่น้องอยากขอพี่ค่ะ” น้องสาวตัวดีเดินเข้าไปใกล้ ก่อนจะกอดพี่ชายไว้แน่นจากทางด้านหลัง
“อะไร?”
“อีกไม่เท่าไหร่ก็ต้องไปฝึกงานแล้ว น้องขอให้พี่รับปริมไปฝึกงานกับบริษัทเราได้ไหมคะ?”
“ไหนเคยบอกว่าครอบครัวมีธุรกิจใหญ่โต แล้วทำไมไม่ไปฝึกงานที่นั่น” ประโยคนี้เขาหันมามองหญิงสาวที่นั่งอยู่ สายธารเคยเล่าให้ฟังว่าครอบครัวของปาลิดานั้นมีฐานะเข้าขั้นไม่ธรรมดาพอตัว
“น้องฝึกงานคนเดียวไม่มีเพื่อน เลยชวนปริมให้มาฝึกงานด้วยกัน”
“…..”
“นะพี่เธียร รับปริมฝึกงานด้วยนะ”
“วุ่นวาย พี่ไม่รับมาให้ปวดหัวหรอก”
“พวกน้องไม่วุ่นวายหรอก จะส่งให้ไปทำแผนกอะไรก็ได้ทำได้ทุกอย่างเลย”น้องสาวตัวดียังคงตื้อไม่ยอมเลิกรา ยังไงเธอกับปริมก็ต้องได้ฝึกงานด้วยกัน
“หรือถ้าพี่ไม่ยอมรับ น้องกับปริมก็คงต้องลำบากไปหาฝึกงานที่บริษัทอื่น”
“พี่ไม่รับปาก แล้วอีกอย่างโควต้ารับนักศึกษาฝึกงานก็เต็มแล้ว”
“พี่เป็นถึงเจ้าของบริษัท จะรีบเพิ่มอีกร้อยคนก็ยังได้ อย่าใจดำกับเพื่อนน้องเลย”
“ขอคิดดูก่อน”
“…..” ถึงแม้ว่าเขาจะพูดแบบนั้น แต่คนเป็นน้องก็รู้สึกได้ว่าพี่ชายเริ่มใจอ่อนให้บ้างแล้ว
-เวลาต่อมา-
“พี่เธียรจะรับเราเข้าฝึกงานแน่เหรอ?” ปริมถามด้วยความสงสัย ความจริงเธอก็ไม่ได้คาดหวังอะไรอยู่แล้ว แต่ถ้าได้มันก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่จะได้อยู่ใกล้คนที่แอบชอบมากขึ้น
“ถ้าพี่เธียรไม่รับ เดี๋ยวเราไปฝึกงานที่บริษัทของพ่อก็ได้”
“ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน คนอย่างพี่เธียรยิ่งเดาอารมณ์ยาก ไม่มีใครเดาใจเขาได้หรอก”
“พี่เธียรดูไม่ค่อยชอบเราเลย คงไม่อยากรับหรอก”
แต่พอคิดได้แบบนั้นก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมาในทันที เธียรธรรมแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ค่อยชอบเธอ แล้วเรื่องที่จะได้ไปฝึกงานในบริษัทเขาก็เหมือนจะริบหรี่เต็มทน
“ไม่แน่หรอกนะ เดี๋ยวฉันลองคุยให้อีกที เผื่อว่าบางทีเขาอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้”
“…..”