บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6

ช้าๆ มือน้อยๆไขว่คว้าได้แต่ต้นคอหนาและแผ่นหลังเรียบลื่นชื้นเหงื่อของเขา

มือสากใหญ่ของเดลคลึงเคล้าเต้าทรวงสล้างทั้งสองข้างของเธอ บีบจนหนั่นเนื้อปูดปลิ้นออกมาตามช่องว่างระหว่างซอกนิ้ว สลับกับก้มลงเชยชมทั้งซ้ายขวา นึกในใจว่าไม่เคยมีครั้งไหนในชีวิตนี้ ที่เขารู้สึกอิ่มหนำในเนื้อหนังมังสาของเธอถึงเพียงนี้

อยู่ๆ…ในจังหวะที่เสียงหัวเตียงกำลังกระทบกระแทกผนังอยู่นั้น เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กหญิงที่เดินร้องเพลงเข้ามาช้าๆด้วยอาการเริงร่าอารมณ์ดี ก็ดังแว่วมาจากหลังครัว

“แม่คะ…ทำอะไรอยู่คะ หม้อไหม้หมดแล้วค่ะ”

ซาบรีน่าทำจมูกฟุดฟิดกับกลิ่นซุปข้าวโพดที่แห้งกรังอยู่ในหม้อ กลิ่นไหม้ลอยกรุ่นไปทั้งหลังครัว แลเห็นควันสีขาวพวยพุ่ง กระเจิงกระจาย คลุ้งอยู่ในบรรยากาศใกล้ค่ำ ลอยขึ้นสู่เพดานครัวที่เต็มไปด้วยเขม่าฟืนจับเป็นคราบอยู่ใต้หลังคาสังกะสีเก่าคร่ำ

โซเฟียตกใจ รีบผลักร่างของเดลที่คว่ำหน้า หายใจรวยริน รดซอกคอของเธออยู่

“ฉันรักเธอ” เดลซึ่งอยู่ในอาการของคนที่ยังไม่หมดความในใจ รีบกล่าวคำนั้นออกมา ราวกับกลัวว่าชายอื่นจะชิงตัดหน้าเขาเสียก่อน อยากให้เธอรู้ว่าสิ่งที่เขาและเธอได้ทำร่วมกัน มันไม่ได้เกิดขึ้นจากความต้องการและความอ้างว้างเพียงอย่างเดียว แต่มันเกิดจากความรัก

เดลครุ่นคิดอยู่ในใจว่าอีกสองเดือนข้างหน้า เมื่อเสร็จงาน…เขาจะรีบกลับมาขอเธอแต่งงานทันที

“…….” โซเฟียไม่ได้กล่าวอะไร เธอนิ่งเหมือนทุกครั้งเมื่อเดลเอ่ยถึงความรัก จากนั้นจึงรีบคว้าเสื้อมาใส่

เดลพลิกร่างเปลือยล่อน นอนหงาย พ่นลมหายใจรวยริน รู้สึกโปร่งโล่ง สบายเนื้อสบายตัวขึ้นนมาอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกเหมือนเรือสำราญลำใหญ่ได้แล่นเข้าจอดเทียบท่า รอให้คลื่นลมแห่งความปรารถนาค่อยๆสงบลง

ขณะปลายจมูกยังได้กลิ่นสวาทคละคลุ้ง เหลือบสายตามองตามสะโพกผายของโซเฟียที่สะบัดผ่านประตูห้องออกไปด้วยความรวดเร็ว จากนั้นจึงค่อยหยัดร่างขึ้นนั่ง ก้าวเดินไปที่ท้ายเตียง ก้มลงคว้ากางเกงที่กองอยู่กับพื้นขึ้นมาสวมใส่ สวมเสื้อ แล้วก้าวออกมาจากห้องนอน เดินตามโซเฟียไปที่หลังครัว

“ลุงเดล” น้ำเสียงหวานใสของเด็กหญิง ตะโกนเรียกชื่อเขาเสียงดังลั่น ประกายตาสดใสบ่งบอกถึงความดีใจที่เห็นเขายังไม่กลับ

“ได้ขนมสมใจแล้วละสิ” เดลส่งยิ้มตอบซาบรีน่า

เด็กหญิงทำหน้าเป็น หันมาอวดลูกกวาดที่เพิ่งไปซื้อมาจากร้านขายของชำ โซเฟียรีบยกหม้อซุปที่เคี่ยวข้นจนไหม้ ลงจากเตาไฟ ทอดสายตามองดูอาหารมื้อค่ำ ซึ่งเป็นอาหารเพียงอย่างเดียวที่มี จากนั้นก็ส่ายศีรษะเบาๆ

“วันนี้คงต้องกินซุปไหม้แล้วหละลูก”

น้ำเสียงของโซเฟียเต็มไปด้วยความสำนึกผิด เธอไม่ควรเร่งรีบไปกับเดล ไม่ควรเผลอเลอถึงเพียงนี้ แต่ดวงตาของซาบรีน่าก็ไม่ได้แสดงความผิดหวังแต่อย่างใด ท่าทางของเธอสนใจขนมที่เพิ่งซื้อมา มากกว่าซุปไหม้ที่แม่กำลังบ่นถึง

เดลก้าวออกมาทันเห็นภาพ และได้ยินประโยคที่โซเฟียกล่าว

“ใครว่ามื้อนี้จะมีแต่ซุปไหม้?...” เขาเอ่ยขึ้นมาลอยๆ ดวงตาของเขายิ้มได้

ซาบรีน่าทำตาโต ราวกับคาดเดาได้ว่าเดลหมายถึงสิ่งใด

“หมายความว่ายังไงคะ…ลุงเดล” คิ้วน้อยๆขมวดมุ่น ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ

เดลยิ้มแทนคำตอบ ปล่อยให้ซาบรีน่ามองตามร่างสูงใหญ่ของตน เดินลับหายไปที่หน้าบ้าน ตรงไปยังม้าซึ่งผูกล่ามเอาไว้ ชั่วอึดใจก็แลเห็นร่างสูงใหญ่ ก้าวไหวๆกลับมาพร้อมกับถุงกระดาษสีน้ำตาลในมือ

“ลุงเดล…”

ซาบรีน่าร้องเสียงดังด้วยความดีใจ กระโดดโลดเต้นพร้อมกับวิ่งเข้าไปรับขนมปังในถุงกระดาษสีน้ำตาลจากมือของเดล มาอุ้มเอาไว้ด้วยมือน้อยๆของเธอเอง

ตอนมาถึง เดลรีบร้อนจนลืมของฝาก

หลังอาหารค่ำซึ่งดำเนินไปอย่างเรียบง่าย แววตาของซาบรีน่าดูมีความสุขกว่าทุกวัน…ในวันที่ครอบครัวอยู่เกือบพร้อม ทั้งตัวเอง แม่ และลุงเดล

แม้เดลจะไม่ใช่พ่อ หากทุกครั้งที่เดลมา ซาบรีน่าก็รู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด บางทีซาบรีน่ารู้สึกอบอุ่นมากกว่าตอนที่คีธซึ่งเป็นพ่อแท้ๆของเธออยู่ด้วยซ้ำ

ที่หน้าบ้าน โซเฟียทอดกายอยู่บนเก้าอี้ไม้สีซีดเก่า สายตาเหม่อลอยไปที่หน้าฟาร์ม ขณะที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ความมืดโรยตัวไปทั่วทุกหัวระแหงของฟาร์ม โลกที่ไร้แสงสว่าง ช่างดูหดหู่ ซึมเซา ไม่ว่าจะกวาดสายตามองไปทางไหน ยิ่งรู้สึกถึงความเปล่าเปลี่ยว ราวกับว่าชีวิตของเธอ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel