ตอนที่ 2 อุบัติเหตุในกลางดึก
แสงไฟหน้ารถสาดกระทบเข้ากับโรงจอดที่อยู่ห่างจากตัวบ้านหลายร้อยเมตร โชคดีที่รถคันหรูเก็บเสียงเครื่องยนต์ได้มิดชิดเลยไม่ทำให้ปฐพีกังวลว่าแม่จะตื่นมาเจอในช่วงเวลาตีสอง ร่างสูงเดินย่องมายังหน้าประตูเอื้อมมือคว้าลูกบิดเพื่อจะหมุนแล้วเปิดเข้าไป ก็ต้องจิ๊ปากเล็กน้อยเพราะมันถูกล็อคจากด้านใน
“ล็อคอีกแล้ว ขี้เกียจปืนบันไดแล้วเนี่ย”
ปฐพีบ่นพึมพำอยู่กับตัวเอง คราวก่อนก็ตกบันไดลิงที่น้าไข่นุ้ยทำไว้จนขาบวมมาเดินไม่ได้หลายวัน จนเกือบโดนจับได้ว่าแอบไปหาผู้หญิงดึกดื่น
ทว่าโชคดีที่ปฐพีแอบปั๊มกุญแจบ้านไว้ส่วนตัวหนึ่งดอกเลยไม่ต้องปีนบันไดลิงอย่างคราวก่อนๆ อีกแล้ว มือหนาหยิบลูกกุญแจค่อยๆ แหย่แล้วหมุนมันอย่างเชื่องช้า เพื่อไม่ให้เสียงดีดของลูกกลอนด้านในส่งเสียงรบกวนให้พ่อกับแม่ตื่น
ทันทีที่ประตูถูกเปิดร่างสูงย่องเข้าบ้านอย่างช้าๆ ถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ไม่มีใครตื่นมากลางดึก ยังไม่ทันจะก้าวเท้าเหยียบบันไดบ้านขั้นที่แรก เสียงอันคุ้นเคยก็ดังขึ้นชวนคนฟังถึงกับขนลุก
“ปฐพี”
“แม่”
เสียงทุ้มต่ำเรียกคนตรงหน้า กลืนน้ำลายแบบลำบากพลางหลบสายตาของเจ้าขา คนเป็นแม่ยืนจ้องลูกชายคนโตด้วยสายตาขุ่นเคืองไม่น้อย ไม่เคยห้ามลูกชายไม่ให้เที่ยว เพียงแต่อีกฝ่ายชอบออกไปในยามค่ำคืนโดยที่แม่ไม่รู้ ทว่าเจ้าขาเพียงเป็นห่วงลูกชายเพราะกลัวจะเกิดอุบัติเหตุก็เท่านั้น
“ไปไหนมา”
ปฐพีค่อยๆ เอียงสายตากลับไปมอง เจ้าขาสวมชุดนอนผ้าพริ้วถือกระบอกน้ำอุ่นของปรเมศเพราะมีอาการไอกระเสาะกระแสะเลยต้องจิบเพื่อช่วยบรรเทาอาการระคายคอ
“ผะผม”
ชายหนุ่มตะกุกตะกัก กลายเป็นเด็กติดอ่างไปโดยปริยาย ครั้นแววตาของคนเป็นแม่จ้องดุราวกับเสือป่า แต่หากยังคุยกันตรงนี้ก็กลัวว่าเสียงจะหลุดลอดไปรบกวนคนด้านบน สองแม่ลูกเดินไปนั่งโซฟาห้องรับแขก ปฐพีหน้าหดเหลือสองนิ้วทุกครั้งที่แม่ใช้เสียงโทนต่ำในการคุย เจ้าขาไม่ใช่คนดุลูกไร้เหตุผลออกจะตามใจมากกว่าพ่อเลี้ยงปรเมศด้วยซ้ำ และมีไม่กี่เรื่องที่คนเป็นแม่มักขอร้องลูกอยู่ประจำ คือการไม่แอบออกจากบ้านไปแบบดึกดื่น ไม่ทะเลาะวิวาทและเรื่องของสารเสพติด หากจะเป็นเรื่องผู้หญิงแม้จะทำใจลำบากกับการที่ลูกจะมีใครสักคนก็พยายามทำใจยอมรับว่ามันถึงวัยของปฐพีที่ต้องมีคนเข้ามาพัวพัน อีกทั้งลูกชายกลับสร้างเรื่องให้ปวดหัวก็หลายครั้งโดยเฉพาะกับเรื่องผู้หญิง ตบกันบ้างตีกันบ้างเพื่อแย่งลูกชายตัวดี ทว่านิสัยเพลย์บอยออกเจ้าชู้เงียบเจ้าขาเองก็ไม่เข้าใจว่าได้ใครมา
“ทำไม แม่ขอดีๆ ทำไมฟังแม่บ้าง”
“ผมไม่อยากให้แม่เป็นห่วง”
“แล้วที่ทำอยู่ แม่ไม่เป็นห่วงเหรอ”
ปฐพีนั่งนิ่งเงียบไม่ตอบโต้แม่ต่อสักคำ ใช่!! สิ่งที่ทำอยู่มันทำให้แม่เป็นห่วง นอกจากตัวเขาก็ยังมีน้องชายฝาแฝดที่สามวันดีสี่วันไข้ ไหนจะพ่อที่ปีนี้อายุก็ปาไป 67 ปี เจ้าขากังวลกลัวว่าถ้าเกิดวันหนึ่งพ่อเลี้ยงไม่สบายหนักขึ้นมาจนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล หากปฐพียังอยู่ในช่วงกลางคืนอย่างน้อยๆ ก็ช่วยดูแลพ่อได้ ส่วนในตอนกลางวันตามแต่ใจลูกชายต้องการจะไปเกเรฉบับผู้ชายที่ไหนไม่เคยว่าขอแค่ดูแลไร่ให้ดีเท่านั้นก็พอ
“พีขอโทษครับแม่”
ลุกจากโซฟาลงนั่งพื้นกอดเอวเจ้าขาแล้วอ้อนตามนิสัยอย่างเคยๆ คนเป็นแม่ได้แต่มองความออเซาะของลูกชายเพราะเอาเข้าจริงแล้วเจ้าขาก็โกรธปฐพีไม่ลง ที่พูดย้ำๆ เรื่องเดิมคือเพราะเป็นห่วงความปลอดลูกชายมากกว่าอีกทั้งเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศได้เพียง 6 เดือน
“แม่เป็นห่วงเรานะพี ถ้าเราออกไปดึกๆ ดื่นๆ แบบนั้นแล้วเกิดอันตราย แม่จะทำยังไง”
ณ เวลานี้คนที่ต้องเป็นเสาหลักของบ้านก็คือปฐพีเพียงคนเดียว ทุกอย่างของภูมิดินยังไงต้องตกเป็นของลูกชายคนโตทั้งหมดเพื่อดูแลและสานต่ออย่างเต็มตัว มือของหญิงวัยกลางคนสางเข้าที่กลุ่มผมลูกชายที่เอนใบหน้าซบลงตักแสดงกิริยาไม่ต่างจากปฐพีวัยห้าขวบ
ตุบ!!
เสียงกระทบพื้นบ้านชั้นสองดังสนั่นจนแม่ลูกสะดุ้งตัวด้วยความตกใจ ก่อนจะได้ยินเสียงร้องโอดโอยของพ่อเลี้ยงปรเมศดังขึ้นอย่างเจ็บปวด
“พี ขึ้นไปดูพ่อ”
ปฐพีรีบเด้งตัวลุกขึ้น แล้ววิ่งอย่างไม่คิดชีวิตขึ้นชั้นบนโดยมีคนเป็นแม่วิ่งตามไปติดๆ พ่อเลี้ยงตกบันไดในช่วงชั้นที่จะลงมาด้านล่างเพราะหิวน้ำจนกระหาย ครั้นเมียรักมัวแต่นั่งสั่งสอนลูกชายจนลืมว่าผัวรอกินน้ำ ปรเมศกองอยู่ที่ขั้นบันได ตกลงมาก็นับได้ประมาณสี่ขั้น อ้าปากครวญครางเพราะความเจ็บ กระทั่งปฐพีสังเกตเห็นว่ารูปขาของพ่อผิดปกติ
ปรเมศขาหัก...
“พ่อเลี้ยง”
คนเป็นเมียตั้งท่าจะประคองให้สามีลุกขึ้น ทว่าลูกชายกลับห้ามไว้เพราะกลัวแม่จะไปเขย่าตัวพ่อจนเกิดอาการบาดเจ็บหนักมากไปอีก
“อย่าไปโดนตัวพ่อ พ่อน่าจะขาหัก”
เจ้าขาทำอะไรไม่ถูก เมื่อเห็นสามีนอนเจ็บก็ได้แต่น้ำตาคลอนั่งยองตัวอยู่ข้างๆ จับมือคนที่เอาแต่โอดโอบเพราะความเจ็บ
“พ่อเลี้ยงอดทนก่อน”
“อ๊า!!”
ในส่วนของปฐพีรีบโทรตามมูลนิธิที่อยู่จุดทางขึ้นเข้า โชคดีที่เป็นเพื่อนเก่าตอนเรียนปฐมด้วยกันและติดต่อกันบ้างตามโอกาสเลยทำให้รถมูลนิธิเข้ามารับพ่อเลี้ยงปรเมศได้ทันถ่วงที
โรงพยาบาล
“เป็นยังไงบ้างคะอาหมอ” แพทย์ที่เข้าเวรวันนี้ดันเป็นญาติของปรเมศเอง
“ขาหัก ตอนนี้เข้าเฝือกให้แล้ว”
“อย่างอื่นมีไหมครับ”
ปฐพีถามแทรกอาการของพ่ออย่างเป็นห่วง การตกบันไดหลายขั้นของคนอายุมากอย่างปรเมศมันค่อนข้างอันตราย
“อาจะให้พักที่โรงพยาบาลสัก 2 คืน ถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อนจะให้กลับบ้านได้”
ได้ยินเช่นนั้นเจ้าขาถอนหายใจ เมื่ออาหมอพูดแบบนี้ก็สบายใจขึ้น แม้จะอดเป็นห่วงมากๆ ไม่ได้แต่พ่อเลี้ยงก็ถือว่าไม่ได้เป็นหนักนอกกระดูกขาที่ต้องรักษาให้หายดี
“ช่วงที่อยู่โรงพยาบาล อาจจะให้พยาบาลมาช่วยดูแลนะเจ้าขา แต่หลังจากกลับไปพักฟื้นที่บ้านจะดูแลไหมไหว”
“ยังไงคะ”
“พี่เมศมันอายุเยอะ แน่นอนว่าร่างกายรวมทั้งมวลกระดูกมันไม่เหมือนสมัยวัยรุ่นที่จะสมานกันเร็วเหมือนเดิม สำหรับคนสูงอายุมันต้องใช้เวลามากกว่า 3 เดือนด้วยซ้ำ เจ้าขาจะดูแลคนเดียวไหวไหม”
คนฟังหันไปมองหน้าลูกชาย ในยามนี้หากบอกไม่ไหวก็ต้องไหว ไหนจะเจ้าแฝดที่ป่วยอยู่รอมร่อวันเว้นสลับกันไปมาจนแทบไม่ได้พัก ถ้าต้องดูแลสามีอีกคนคนที่ต้องตายก่อนคงไม่พ้นเจ้าขา
“ไม่ไหวหรอก ไหนจะน้องอีก”
“….” เจ้าขามองหน้าลูกชายและไม่ตอบอะไร
“ผมอยากได้พยาบาลพิเศษไปดูแลคุณพ่อโดยเฉพาะครับอาหมอ”
ปฐพีกล่าวแบบนั้น ในขณะที่อาหมอเองก็ขมวดคิ้วขึ้นมาครุ่นคิดกับความต้องการของหลานชาย หากจะให้พยาบาลที่โรงพยาบาลออกไปช่วยดูแลก็คงเป็นเรื่องยากแค่เข้าเวรแต่ละวันก็เหนื่อยสายตัวแทบขาด
“ไว้อาจะลองหาให้”
“ผมขอด่วนนะครับ ถ้าพ่อกลับไร่ ผมก็อยากมีคนดูแลเลย”