ตอนที่ 4 บทรักร้อนของท่านอ๋อง
“อ๊าา..เดี๋ยวก่อน… เพคะ ท่านอ๋อง”
เขาไม่อาจรั้งรอต่อไปได้อีกแล้ว เพียงแค่เห็นองครักษ์ประจำตัวเขามองนางอย่างตกตะลึงเขาก็แทบจะทนไม่ได้ที่จะพานางเข้ามาลงโทษเช่นนี้ มันไม่ใช่ความผิดนางที่งดงามเกินไป แต่เป็นเพราะเขาหวง เขาไม่อยากให้ผู้ใดมองนางเช่นนั้น นี่ขนาดคนข้างกายเขาเองยังเป็นเช่นนี้ แล้วบุรุษอื่นเล่า
“อาาา..ว่านชิง ข้าจะไม่มีทางให้เจ้าจากไป ว่านชิง”
“ท่านอ๋อง…ท่านอ๋อง….อ๊าา…อ๊าาา!!!”
ว่านชิงทนไม่ไหว เพียงแค่คำว่าจะไม่ปล่อยนางไป นางก็รู้สึกตื่นเต้น ดีใจอย่างบอกไม่ถูกจนกลั้นความรู้สึกเอาไว้ไม่ได้ เขายังคงกระแทกเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ว่านชิงเองเริ่มรู้จังหวะของเขาและเริ่มตอบสนองเขาได้แล้ว นางเรียนรู้ไวและอยากจะให้เขาไม่หลงลืมนางเช่นกัน
“ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันเองเพคะ”
“ว่านชิง นี่เจ้า…อาา..เดี๋ยวก่อน ข้าจะไม่ไหว ว่านชิง เจ้าอย่า..อาาา…”
มือของนางบีบไปที่หน้าอกกว้างอย่างจงใจยั่วเขาเอวนางส่ายไปมาเป็นจังหวะจนเกิดเสียงดังขึ้นพร้อมกับเสียงร้องของทั้งคู่ ไม่นานน้ำรักของท่านอ๋องก็พุ่งออกมาจังหวะที่นางกระแทกจนมันหลุดโดยไม่รู้ตัว
“ข้านึกแล้วเชียว เจ้าต้องฝึกอีกสักพัก ไปเถอะ ไปล้างตัวกัน”
เขาอุ้มร่างเปลือยนั้นไปห้องอาบน้ำของเขาด้านหลังซึ่งเป็นห้องอาบน้ำกลางแจ้งมีผ้าม่านปิดรอบสระน้ำ ห้องอาบน้ำนี้ใหญ่มากสำหรับอาบได้สิบคนเลยกระมัง
“ดูสิ เปื้อนไปหมดแล้วเห็นหรือไม่”
ว่านชิงจับมือเขาและนำเขาปากพร้อมกับส่งลิ้นออกมาโลมเลียที่นิ้วของเขาเบาๆ เย่หานเห็นท่าทางเช่นนี้มีหรือเขาจะอดใจไหว
“แม่กวางน้อย เจ้ายั่วข้าเองนะ”
“อื้อ..ท่านอ๋อง อ๊าา…กระแทกแรงอีกเพคะ อ๊าา จะเสร็จแล้ว…อ๊าาา….ท่านอ๋อง…”
หน้าที่แหงนหงายพร้อมกับร่างที่กระตุกทำเอาคนที่อุ้มนางกระแทกในน้ำอยากตามนางไปด้วย เขาจึงจับนางหันหลังและกระแทกอย่างต่อเนื่อง เสียงร้องนั้นดังพอๆกับเสียงกล้ามเนื้อท้องน้อยที่กระทบกับบั้นท้ายกลมในน้ำจนท่านอ๋องเองก็ทนไม่ไหวตามนางไปเช่นกัน
“ท่านอ๋อง จูบหม่อมฉันสิเพคะ”
“ข้ายังไม่ได้สระผมให้เจ้าเลย”
“อีกเดี๋ยวค่อยสระเพคะ หม่อมฉันอยากจูบพระองค์ก่อน”
“เริ่มอ้อนเป็นแล้วงั้นหรือ”
“จูบได้หรือไม่เพคะ”
“ย่อมได้อยู่แล้ว แต่ข้าไม่ทำแค่จูบหรอกนะ”
ลิ้นที่พันกันอย่างไม่มีีผู้ใดยอมใคร ปากที่แนบสนิทพร้อมกับเอวที่ยังไม่หยุดพักของท่านอ๋องทำเอาน้ำในสระนั้นร้อนขึ้นอีกหลายเท่า เกือบครึ่งชั่วยามที่พวกเขาละเมียดละไมอาบน้ำทำความสะอาดกันอยู่ในสระนั้น
“เราควรจะขึ้นได้แล้วนะ มิเช่นนั้นเจ้าจะเป็นหวัดเอา”
“ไม่เอาเพคะ หม่อมฉันต้องการอีกรอบ”
“เด็กดี เจ้าเริ่มขอเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใด”
“….ท่านอ๋องไม่ต้องการหม่อมฉันแล้วหรือเพคะ”
“เจ้าไม่กลัวเป็นหวัดงั้นหรือ”
“ท่านอ๋องจะไม่ดูแลหม่อมฉัน จะทิ้งหม่อมฉันเพราะหม่อมฉันเป็นหวัดหรือเพคะ”
“ฉอเลาะเก่งไม่เบา เช่นนี้ใครจะยอมเล่าว่านชิง อาา..เดี๋ยวก่อน เจ้าไปปลุกมันเช่นนั้นเกรงว่าเจ้าต้องรับผิดชอบนะ”
มือบางนั้นล้วงลงไปใต้น้ำเพื่อปลุกเจ้ามังกรยักษ์ให้ตื่นซึ่งได้ผล มันค่อยๆโตขึ้นตามจังหวะมือของนาง
“ท่านอ๋องเพคะ พร้อมหรือไม่เพคะ”
“ว่านชิง อา!!….ว่่านชิง เจ้าเร่าร้อนเกินไปแล้วว่านชิง อาา….”
เพียงคืนเดียว นางเรียนรู้ที่จะเอาใจเขาได้ถึงเพียงนี้แล้วเขาจะทำสิ่งใดได้อีก หลังจากขึ้นจากน้ำแล้วพวกเขาจึงต้องเปลี่ยนชุดใหม่และตอนนี้เองที่ว่านชิงเริ่มรู้สึกหิวจนตาลาย
“หม่อมฉันหิวข้าวแล้วเพคะ”
“ข้านึกว่าเจ้ากินข้าจนอิ่มแล้วเสียอีก”
“ท่านอ๋องเพคะ หม่อมฉันมีเรื่องจะขอพระองค์เพคะ”
“เจ้าต้องการอะไรงั้นหรือ”
“คืนที่พระองค์นัดพวกโจรนั่นเอาไว้ หม่อมฉันขอไปด้วยได้หรือไม่เพคะ”
ตะเกียบในมือหยุดชะงักลง ใบหน้านั้นเปลี่ยนท่าทีเป็นตึงเครียดขึ้นทันที เขาไม่คิดว่านางจะขอสิ่งนี้กับเขา เดิมทีคิดว่านางคงเหมือนสตรีทั่วไปที่เขาเคยพบ คงจะขอเครื่องประดับหรือของมีค่าซึ่งเขาก็พร้อมจะมอบให้
แต่กับหยงว่านชิง ตั้งแต่พานางกลับมาจนถึงตอนนี้ นางไม่เคยเอ่ยปากขอสิ่งเหล่านั้นเลย มีแต่เขาที่ประโคมมอบให้นางและพยายามคิดหาหนทางปิดทางไม่ให้นางออกจากจวนของเขาได้
“ท่านอ๋องเพคะ”
“เหตุใดเจ้าต้องอยากเอาชีวิตไปเสี่ยง มันอันตายมากนะ”
“แต่ว่าพวกมันฆ่าบิดาของหม่อมฉัน”
“ไม่ได้ ข้าคงอนุญาตเจ้าไม่ได้ว่านชิงเรื่องนี้อันตรายมาก ข้ารับปากเจ้า ข้ามาที่นี่เพราะคำสั่งเสด็จพ่อให้สืบสวนเรื่องการตายของใต้เท้าหยงอยู่แล้วเจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องนี้”
“แต่ว่าหม่อมฉันช่วยพระองค์ได้นะเพคะ”
“ให้ข้าเป็นกังวลเสียเปล่าๆ อย่าไปเลย รออยู่นี่เถิด”
“แต่ว่าหม่อมฉันมีวรยุทธ์นะเพคะ หม่อมฉัน..”
“หากเจ้ามีวรยุทธ์จริงเหตุใดจึงเกิดเรื่องนี้ขึ้น เหตุใดช่วยพ่อเจ้าไม่ได้อย่าว่าแต่พ่อเจ้าเลย เหตุใดแม้แต่ตัวเองก็ยังช่วยไม่ได้”
“นั่นมัน…นั่นก็เพราะหม่อมฉัน…”
“หากเจ้าเก่งจริงเหตุใดข้าจึงไปเจอเจ้าที่หอคณิกา เจ้าคิดสิ หากครั้งนี้พลาดอีก เจ้าจะต้องไปที่ใดอีก!!”
หยงว่านชิงวางตะเกียบในมือลง นางคิดว่านางคงขอมากเกินไปเสียแล้ว นางพูดมากเกินไปและขอในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เรื่องการจับโจรและฆาตกรนางจะมีสิทธิ์ไปยุ่งได้อย่างไร
“หม่อมฉันเข้าใจแล้วเพคะ ขออภัยเพคะที่ทูลขอเรื่องมิบังควร หม่อมฉันรู้สึกเพลียนิดหน่อย ขอตัวก่อนเพคะ”
“เดี๋ยว!!”
ว่านชิงลุกขึ้นเพื่อจะเดินออกไปแต่ถูกเขาเรียกเอาไว้จึงได้หยุดแต่นางไม่ได้หันมามอง
“นี่เจ้าโกรธข้างั้นหรือ”
“เปล่าเลยเพคะ หม่อมฉันทราบดีว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของทางการ เช่นนั้นจึงไม่โกรธ หม่อมฉันไม่รู้หนักเบาขอในสิ่งที่ไม่สมควรเอง ขออภัยเพคะ”
เย่หานคิดว่านางกำลังทำตามข้อตกลงที่เขาขีดเส้นเอาไว้ ไม่ยุ่งวุ่นวายเรื่องส่วนตัวของเขา ไม่เถียงและไม่ยึดติดกับตัวเขา แต่เหตุใดพอนางทำเช่นนี้เขาจึงรู้สึกว่าเขาทำผิดกับนางกันนะ ทั้งๆที่เรื่องนี้ทำก็เพราะช่วยสืบสวนเรื่องครอบครัวนางแท้ๆ แต่กลับรู้สึกว่าเขาทำผิดที่ต่อว่านาง
มองไปที่ชามข้าวที่นางยังไม่ทันได้แตะต้อง ยิ่งรู้สึกว่าเขากับนางไม่ควรมาทะเลาะกันด้วยเรื่องเช่นนี้ แต่หากเขาใจอ่อน ก็จะทำให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ เขาต้องใจแข็งมากกว่านี้เพื่อจะได้ปกครองนางได้
“จงหมิง”
“พ่ะย่ะค่ะ”
“ไปเรียกอาลี่มา ให้ยกข้าวไปให้หยงว่านชิงด้วย”
“พ่ะย่ะค่ะ”
“วันที่ไปตำหนักอ๋อง ให้คนเฝ้านางเอาไว้อย่าให้นางก้าวออกจากจวนไปแม้แต่ก้าวเดียว”
“ท่านอ๋องเกรงว่าคุณหนูหยงจะหนีหรือพ่ะย่ะค่ะ”
“ทำตามข้าสั่งก็พอ”
“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”
วันนั้นเขาไม่เห็นหยงว่านชิงอีกเลยตลอดทั้งบ่าย จนกระทั่งตอนเย็น เวลาที่ต้องกินข้าวนางก็ไม่ยอมออกมาจากห้องเมื่อเขาถาม อาลี่ก็แจ้งเพียงว่านางอยากนอนพัก ซึ่งเขาก็พอเข้าใจได้ว่านางคงรับใช้เขาหนักไป หรือเพราะนางอยากขอเรื่องที่จะไปที่ตำหนักเพื่อจับโจรที่ฆ่าพ่อของนาง จึงยอมรับใช้เขาอยู่นานงั้นหรือ
“หึ หยงว่านชิง ร้ายนักนะ”