ฉ่ำรัก ที่ 4 หัวใจเต้นแรง
ฉ่ำรัก ที่ 4
หัวใจเต้นแรง
อ้อมกอดของชายแปลกหน้า
“มีใครจะประมูลอีกมั้ยเจ้าคะ ห้าตำลึงทองครั้งที่หนึ่ง! ห้าตำลึงทองครั้งที่สอง!”
หลวนเหยาเอื้อนเอ่ยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ส่งสายตากวาดมองไปรอบๆ โถงชั้นสอง เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มในที่นี้ต่างนั่งหน้าซีดเผือดกับจำนวนเงินที่สูงราวกับจะซื้อจวนได้ทั้งหลังก็พากันหุบปากสนิทก้มหน้านิ่ง
ราคานี้ขายขาดหญิงคณิกาทั้งหมดในหอนางโลมเหม่ยซิงยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำไป นับว่าเป็นวาสนาของนางเสียเหลือเกิน ที่ซื้อตัวซือเซียนมาแค่ ‘หนึ่งตำลึงเงิน’ แต่สามารถทำเงินจากการประมูลครั้งแรกได้ถึง ‘ห้าตำลึงทอง’ ครั้งต่อๆ ไปคงมีชายหนุ่มทั่วทุกสารทิศมาต่อแถวรอหลับนอนกับนางจนยาวเป็นหางว่าวอย่างแน่นอน
คราวนี้แหละนางจะโก่งราคาต่อคืนให้มากโดยให้ซือเซียนรับแขกแค่คืนละหนึ่งคนเพื่อเพิ่มความยากในการเข้าถึง ยิ่งแพงยิ่งต้องแข่งขันแย่งชิง เหล่าขุนนางคหบดีมีเงินก็จะยิ่งแข่งกันอยากได้ แค่คิดหลวนเหยาก็ยิ้มกว้างอย่างมีความสุข เห็นทีนางจะร่ำรวยอู่ฟู่ก็คราวนี้!
“ห้าตำลึงทองครั้งที่สามเจ้าค่ะ!”
ปั้ง!
นางยกค้อนไม้เคาะลงบนโต๊ะเป็นอันปิดประมูล ก่อนจะหันไปส่งป้ายหยกสีขาวให้แก่ชายชุดดำนิรนาม ป้ายนี้นับเป็นป้ายประจำตัวของซือเซียน หลวนเหยาจะมีป้ายเช่นนี้ประจำตัวหญิงคณิกาทุกคน โดยจะมอบให้แก่แขกเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าคืนนี้เขาได้จับจองเป็นเจ้าของหญิงสาวผู้นั้น และจะขอป้ายหยกคืนเมื่อแขกกลับออกไปจากหอนางโลมซึ่งนั่นหมายความว่าหญิงคณิกาจะกลับคืนสู่อ้อมอกของแม่เล้าหลวนเหยาดังเดิม เป็นสิทธิ์ขาดที่แม่เล้าจะส่งต่อนางให้แก่แขกคนใดก็ได้เป็นลำดับถัดไป
“พรหมจรรย์ของนางเป็นของใต้เท้าแล้วเจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าจะนำท่านไปที่ยังแดนสวรรค์ด้วยตนเองเดี๋ยวนี้”
หลวนเหยาพูดถึงห้องพักของเหล่าคณิกาว่า ‘แดนสวรรค์’ เพราะคือสถานที่ที่แขกของนางจะสามารถบรรเลงความใคร่ได้อย่างเต็มที่
นางค่อยๆ ยอบกายลงด้วยท่าทางเคารพนบนอบอย่างมีจริตจะก้าน กระหยิ่มใจว่าได้ลูกค้ารายใหม่กระเป๋าหนัก หากว่าซือเซียนทำให้ท่านผู้นี้ตรึงตราต้องใจ ผูกขาดเป็นลูกค้าประจำ นางก็จะยิ่งมีรายได้เพิ่มมากขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียว
หญิงวัยกลางคนจัดจ้านโลกีย์สะบัดพัดในมือหุบเก็บก่อนจะจัดการเปิดประตูที่ประดับด้วยผ้าสีแดงให้ชายชุดดำนิรนามด้วยท่าทางนอบน้อม
“เชิญนายท่านเสพสุขเรือนร่างของแม่นางซือเซียนได้เต็มที่เลยนะเจ้าค่ะ หากต้องการสิ่งใดเพิ่มเติมก็สามารถสั่นกระดิ่งทองที่วางไว้บนโต๊ะข้างเตียงนอนได้เลยเจ้าค่ะ คนของข้าจะรีบมาดูแลนายท่านอย่างดีที่สุด”
หลวนเหยายิ้มกว้างจนตาเล็กหยี เมื่อเห็นว่าชายชุดดำนิรนามไม่โต้ตอบอะไร นางก็รีบขอตัวกลับออกไปอย่างรู้มารยาท
คงเป็นคนใหญ่คนโตในรั้วในวัง จึงได้แต่งกายมิดชิดปิดซ่อนชื่อแซ่ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงหอนางโลมเหม่ยซิงแห่งนี้เก็บงำความลับของลูกค้าอย่างดีที่สุดจึงยิ่งมีชื่อเสียงในหมู่ชนชั้นสูง ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ล้วนเป็นบุคคลสำคัญของแคว้นหรือไม่ก็เป็นคหบดีร่ำรวยเป็นที่นับหน้าถือตาของชาวบ้าน
ร้ายที่สุดก็พวกชายเจ้าชู้แอบหนีฮูหยินของตนมาเที่ยวปลดน้ำใคร่กับเหล่าสาวงาม นางจึงคุ้นชินกับแขกที่ปิดบังใบหน้า แม้แต่น้ำเสียงก็แทบไม่อยากเอื้อนเอ่ย ด้วยไม่ต้องการให้ใครจดจำได้นั่นเอง
แม่ทัพหม่าเดินเข้ามาในห้องที่ตกแต่งด้วยดอกไม้นานาชนิดราวกับอยู่ในสวนบุปผาหาใช่ห้องหับสำหรับมั่วกามในหอนางโลม เมื่อได้ยินเสียงประตูปิดลงพร้อมๆ กับฝีเท้าของแม่เล้าหน้าเลือดที่แสนน่ารำคาญเดินจากไป เขาจึงวางร่างบอบบางในอ้อมกอดลงบนเตียงอย่างไม่ยี่หระ
“ตื่นได้แล้ว!”
เขาแสยะยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นว่านางยังคงนอนนิ่งเฉย ดูเหมือนว่านางจะเป็นลมจริงๆ คนอย่างฝูหลงฮาวถึงกับเป็นลมเพียงเพราะถูกประมูลให้นอนกับชายแก่คราวพ่องั้นหรือ... จะเป็นไปได้อย่างไร
หม่าเซียวหลานเดินวนไปมาอยู่ในห้องไม่นานก็ดึงผ้าสีดำที่ใช้ปิดบังใบหน้าออกอย่างอึดอัด เผยให้เห็นใบหน้าคมคร้ามจมูกโด่งเป็นสันรับกับสันกรามได้รูป หน้าผากกว้างคิ้วยาวรีราวกับคันธนู ดวงตาดุดันกร้าวแกร่งประหนึ่งนัยน์ตามังกร
แม่ทัพหม่านับเป็นชายรูปงาม อีกทั้งยังเป็นแม่ทัพคนสำคัญของฮ่องเต้ สกุลหม่าเป็นทหารสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคน ร่วมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่รักษาราชบัลลังก์ ประกอบไปด้วยคุณความดีจนเป็นที่เกรงขาม
ทว่าสกุลหม่ากลับต้องมาสูญเสียบุตรชายคนโตของตระกูลไปอย่างไม่มีวันหวนกลับเพียงเพราะผู้หญิงแพศยาที่ชอบใช้เครื่องเพศของตนล่อหลอกผู้ชายให้ตายใจ
หลอกให้รักแล้วทิ้งให้ชอกช้ำจนต้องปลิดชีพ นางใช้วิธีสกปรกกับพี่ชายของเขาเช่นไร เขาก็จะเอาคืนเช่นเดียวกันให้อย่างสาสม
เจ็บปวดใดจะเท่าเจ็บเพราะรัก!
เจ้าจะได้ลิ้มรสความเจ็บนั้นแน่นอน!
ฮือ...
ซือเซียนขยับตัวคล้ายอึดอัด นางสะอื้นฮักในอกกระสับกระส่ายราวกับกำลังฝันร้าย หยาดน้ำใสไหลออกจากหางตาที่ยังคงปิดสนิท ริมฝีปากคู่สวยเม้มเข้าหากันเป็นเส้นตรง
“มะ...ไม่นะ!”
นางพึมพำแผ่วเบาจนคนตัวโตที่นั่งนิ่งอยู่ริมหน้าต่างถึงกับขยับกายมาหยุดยืนอยู่ข้างเตียง จ้องมองใบหน้างดงามที่เปียกชื้นไปด้วยหยาดเหงื่อและน้ำตา
“แม่จ๋า แม่ต้องอยู่กับข้านะ แม่อย่าจากข้าไปไหนอีกนะ แม่...”
หยาดน้ำตาไหลออกจากหางตาคู่สวยเป็นสาย นางยื่นสองแขนออกไปไขว่คว้ากลางอากาศ ก่อนจะคว้าหมับที่มือของแม่ทัพหนุ่ม นางดึงมาแนบนวลแก้มเปื้อนหยดน้ำตาอย่างไม่รั้งรอ
“ข้าคิดถึงแม่ที่สุดเลย แม่รู้มั้ยตั้งแต่ที่แม่ไม่อยู่ พวกข้าไม่เคยมีความสุขอีกเลย”
คนตัวเล็กถึงกับสะอื้นฮักปานจะขาดใจ นางฉุดรั้งแขนของคนตัวโตจนเขาเซล้มลงไปบนฟูกนุ่ม ก่อนที่นางจะจัดการเบียดกายเข้าหาไออุ่น ซุกหน้าลงกับแผงอกกว้างก่อนจะผ่อนลมหายใจยาวๆ
มารยางั้นหรือ?
เกิดคำถามวิ่งวุ่นในหัวสมองของแม่ทัพหม่า เป็นคำถามที่เขางุนงงไม่อาจหาคำตอบได้ พลันร่างนุ่มนิ่มในอ้อมกอดก็ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ เย้ายวนใจ ผิวกายของนางเมื่อได้พิศมองใกล้ๆ นั้นเนียนละเอียดยิ่งกว่าเนื้อสัมผัสของเทียนไขเสียอีก
“อย่า! ข้าไม่อยากเป็นหญิงคณิกา! ปล่อยข้าไปเถอะ ปล่อยข้าไป!”
แล้วจู่ๆ ซือเซียนก็หวีดร้องขึ้นอย่างเสียขวัญ ทว่าคราวนี้นางลืมตาโพลงด้วยความตกใจ ก่อนจะกะพริบตาปริบๆ ด้วยความงุนงงเมื่อพบว่านางตกอยู่ในอ้อมกอดแข็งแกร่งของชายหนุ่มรูปงาม
ชายผู้นี้สวมชุดดำ อีกทั้งที่ข้างใบหูยังมีผ้าสีดำที่เอาไว้ใช้ปิดใบหน้าห้อยทิ้งตัวอย่างไม่ยี่หระอีกด้วย ใช่แล้วเขาคือชายผู้นั้นหนึ่งในผู้ร่วมประมูลที่ปิดบังใบหน้าลึกลับ
“อะ...เอ่อ”
นางรีบผละออกจากอ้อมกอดอุ่นราวกับสัมผัสของร้อน นวลแก้มแดงระเรื่อเต็มไปด้วยเลือดฝาด กระนั้นนางกลับกระถดถอยกายจนชิดหัวเตียง
“เจ้ารู้สึกดีขึ้นหรือไม่”
น้ำเสียงนุ่มทอดอ่อนเอ่ยถามด้วยความอ่อนโยน ทำให้หญิงสาวผู้ไม่ประสาโลกกว้างถึงกับใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ
“ขะ...ข้ารู้สึกดีขึ้นแล้วเจ้าค่ะนายท่าน วะ...ว่าแต่เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ”
นางมึนงงไปหมด เพราะก่อนที่สติสัมปชัญญะจะหลุดลอย นางจำได้ว่าผู้ที่ประมูลนางคือขุนนางเฒ่าท่าทางหื่นกามคนนั้น แล้วเหตุใดนางจึงมาอยู่กับชายชุดดำผู้นี้ได้
“ข้าเป็นคนประมูลเจ้าด้วยราคาห้าตำลึงทอง ดังนั้นคืนนี้เจ้าเป็นของข้า”
แม่ทัพหม่าหยักยิ้มอ่อนโยน ทั้งที่ในใจนั้นแสนเกลียดชังหญิงเจ้ามารยาตรงหน้าจับใจ
“อะ...อะไรนะเจ้าคะ”
ซือเซียนทวนถามอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน นางไม่อยากเป็นหญิงคณิกา ไม่ว่ากับชายคนใด ‘หนุ่ม’ หรือ ‘แก่’ นางก็ไม่อยากหลับนอนด้วยทั้งนั้น แม้ชายคนนี้จะทำให้นางหัวใจเต้นแรงนับตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้สบตา ทว่าเขาคือชายแปลกหน้าที่นางไม่รู้จักมักจี่
และไม่ได้รัก…