ตอนที่ 9 แอบมอง
เสี่ยวจิงทำหน้าย่นใส่หญิงชราอย่างรังเกียจ
ติงยวี่ถิงจึงถลึงตามองอย่างข่มขู่ ตวาดเสียงดุดัน
“พอรวยแล้วก็ต้องช่วยเหลือผู้อื่นบ้างตามกำลัง มิเช่นนั้น สะสมแต่บาปกรรมอาจจะทำให้ต้องหมดตัวอีก หรือเจ้าอยากกลับไปยากจน กระทั่งถูกส่งให้พ่อค้าทาส เอาไปเร่ขายในหอนางโลมอีกครั้งกันเล่า?”
เสี่ยวจิงสะดุ้งโหยง “ไม่เอาเจ้าค่ะ”
คุยกับลูกน้องของตัวร้ายแต่ละที ติงยวี่ถิงให้รู้สึกเหน็ดเหนื่อยอยู่บ้าง นางสำทับเสียงเข้มงวดไม่ให้โต้แย้งอีก “เจ้าไปดูแลลูกค้าไป ก่อนที่ข้าจะหักเบี้ยหวัดทั้งปี”
“เจ้าค่ะๆ ไปแล้วเจ้าค่ะ” ฮือ...นายหญิงน่ากลัว
ติงยวี่ถิงหันสั่งเจียวมิ่งที่ยืนเบิกตาโตมองอยู่อย่างแปลกใจไม่แพ้เสี่ยวจิง
“เจ้าไปเตรียมน้ำกับผ้าสะอาดมา”
“เจ้าค่ะๆ”
จะรออันใด กลัวเหมือนกัน รีบไปอย่างไว
ในห้องรับรอง
หญิงชราเจ็บจนตัวสั่น หลังจากถูกเค้นถามครู่ใหญ่ อีกฝ่ายจึงยอมเล่าอย่างไม่ปิดบัง นางมีนามว่าจินอีต๋าเป็นแค่ขอทานต่ำต้อย วันนี้ได้เงินมาน้อยนิดกลับถูกอันธพาลทุบตีชกชิงไปจนหมด คิดว่าหลานที่รออยู่บ้านต้องกำลังหิวแน่ จึงขโมยซาลาเปาเอาจากร้านแถวนั้นหนึ่งลูก พ่อค้าเห็นเข้าก็สาดน้ำร้อนไล่ คนแก่เรี่ยวแรงน้อยไม่ว่องไวจึงหลบไม่ทัน ครั้นถอดใจคิดจะกลับบ้าน กลับเป็นลมหน้าร้านเสียได้
คนฟังได้แต่พยักหน้าเห็นใจ และทำแผลให้อย่างดี
หลังจากดูแลรักษาเสร็จ ติงยวี่ถิงยังพาหญิงชราไปหาท่านหมอที่ร้านฝั่งตรงข้าม เรื่องเจรจากับท่านหมออาวุโสต้องเป็นนางเท่านั้น อีกฝ่ายถือตัวสูงส่งไม่สนทนากับสาวใช้ ยิ่งไม่ใส่ใจขอทานชรา นางจึงส่งเสี่ยวจิงกับเจียวมิ่งไป จำต้องจัดการเองตั้งแต่ต้นจนจบ
หลังจากท่านหมอจัดเทียบยารักษาอาการบาดเจ็บ ติงยวี่ถิงยังพาหญิงชราไปส่งบ้านด้วยตัวเอง
บนถนนขรุขระริมทุ่งนานอกชานเมือง
ติงยวี่ถิงประคองหญิงชราในขณะที่เสี่ยวจิงหอบหิ้วอาหารพะรุงพะรัง ทั้งอาหารสดอาหารแห้ง ส่วนที่โรงยายังมีเจียวมิ่งเฝ้าดูแลแทนอยู่ ไม่น่ากังวลอันใด
“บ้านท่านป้าอยู่ไกลปานนี้เชียวหรือ?”
นางถามอย่างเป็นห่วง คนแก่เดินเหินลำบากยังต้องลากสังขารไปขอทานในเมือง ไม่พอถูกอันธพาลทำร้ายอีก
“บ้านของข้าอยู่ข้างหน้านี้เจ้าค่ะ” จินอีต๋าชี้ไปทางเรือนหลังหนึ่งตรงสุดปลายทางริมทุ่งนา
ติงยวี่ถิงมองตามก่อนหันไปสั่งเสี่ยวจิง “เจ้ากลับไปที่บ้านเรา นำอาหารแห้งมาเพิ่มอีกสักสองตะกร้าเถอะ” ว่าพลางรับอาหารจากเสี่ยวจิงมาถือเอง
เสี่ยวจิงนิ่วหน้า นางรู้สึกเป็นห่วง เกรงว่าผู้เป็นนายจะเหนื่อยเกินไป แต่ก็รีบเดินกลับทันที
“เจ้าค่ะ ข้าจะรีบไปรีบมานะเจ้าคะ”
“อืม...จำทางได้หรือไม่?”
“จำได้เจ้าค่ะ”
คล้อยหลังสาวใช้ จินอีต๋ารีบกล่าวนอบน้อมอย่างเกรงใจ “นายหญิงอย่าลำบากเลยเจ้าค่ะ เท่านี้ก็มากแล้ว”
“ไม่เป็นไร ตุนอาหารไว้หลายวันรอแผลหายดีก่อน ค่อยออกไปทำงานให้ข้าที่โรงยา”
ใบหน้าเหี่ยวย่นผุดความรู้สึกซาบซึ้งกระจายเกลื่อน “นายหญิงมีเมตตาเหลือเกินเจ้าค่ะ”
ติงยวี่ถิงแย้มยิ้ม “กลัวท่านจะหาว่าข้าใจดำเสียอีก แทนที่จะมอบเงินให้ กลับคิดใช้แรงงานคนชราเสียได้”
ผู้เฒ่าส่ายหน้าน้ำตาคลอ “ข้าไม่ได้อยากเป็นขอทาน เคยลองของานทำแล้วแต่ถูกไล่ตีเหมือนหมูสกปรก เห็นจะมีเพียงนายหญิงติงเท่านั้นกระมังที่ปราณีรับคนแก่ไร้ประโยชน์เช่นข้าทำงานแลกเงิน”
“โรงยาของข้ามีงานที่ผู้เฒ่าคนชราพอทำไหวอยู่นะ อย่าคิดเช่นนั้นเลย คนแก่ไร้ประโยชน์อะไรกัน อีกอย่าง เงินที่ได้จากการเร่ขอทานมิสู้เงินที่ได้จากการทำงานเป็นหลักแหล่งหรอก ท่านป้ามีหลานชายอีกคนต้องดูแลนี่นา เด็กน้อยสมควรกินอิ่มทุกมื้อจะได้เติบโตแข็งแรง”
จินอีต๋าเสียงสั่นเครือ “ข้าไม่รู้จะตอบแทนนายหญิงอย่างไรดีแล้วเจ้าค่ะ บุญคุณมากมายเหลือเกิน”
“แค่ตั้งใจทำงานก็พอแล้วล่ะ อย่าคิดมากเลย”
“ข้าจะตั้งใจทำงาน ไม่เป็นลมอีกเจ้าค่ะ”
“ท่านป้าก็อย่าหักโหมเชียวแล้วก็อย่าอดข้าวด้วย”
“ทราบแล้วเจ้าค่ะนายหญิง”
“ดีมาก ท่านป้ารับปากข้าแล้วนะ”
“เจ้าค่ะ”
ระหว่างคุยกันเรื่อยเปื่อยติงยวี่ถิงพลันเหลือบไปเห็นบุรุษหนุ่มผู้หนึ่งอยู่ไกลๆ
เขาผู้นั้นยืนโดดเด่นอยู่บนโขดหินใต้ร่มไม้ใหญ่กำลังตกปลาอยู่กับเด็กน้อยคนหนึ่งตรงริมคลองกลางทุ่งนาอีกฝั่ง
ตอนแรกเห็นแผ่นหลัง ยังสง่างามปานนั้น ไหล่กว้างเอวสอบ แขนยาว สูงเพรียว มีกล้ามเล็กๆ กำลังดี พอเขาหันด้านข้างยังมีสัดส่วนที่ดีมาก ๆ น่าเสียดาย เพราะมีเงาของต้นไม้บังไว้ ทำให้เห็นเพียงบางส่วน
หญิงสาวหรี่ตา ภาพบุรุษที่งามสง่าทำให้นางคิดถึงใครบางคนขึ้นมาอย่างช่วยมิได้
แต่จะเป็นไปได้อย่างไร อดีตสามีผู้สำส่อนคนนั้นป่านนี้ออดอ้อนอยู่กับชู้รัก นางปีศาจจอมยั่วยวนจะปล่อยออกมาหรือ?
อืม... หรือว่าจะเป็นเซียวหงเย่
ติงยวี่ถิงเพ่งมอง มิรู้เหตุใดในใจลึกๆ อยากให้เป็นอดีตสามี อาจเป็นเพราะจิตสำนึกของร่างเก่ากระมัง
รักเขาปานนั้น?
ฮึ! โง่งม!
คิดพลางมองอีกที ไม่เหมือนเลยสักนิด
ในความทรงจำของนางจากร่างเก่า เขาผู้นั้นชอบใส่ชุดมิดชิดสีขาวสะอาดสะอ้านแบบบัณฑิตผู้ทรงภูมิจะตาย จะมาถอดเสื้อตกปลาอยู่ริมคลองได้ยังไง
ผิดกับชายคนนี้ที่ไม่ได้สวมเสื้อ! ใส่แค่กางเกงสีดำ เปลือยท่อนบน
โอว...ทิวทัศน์กลางทุ่งนาช่างดีอันใดเช่นนี้
อุ้ย! กล้ามเป็นมัดน่ารัก ซิกแพคน้อยๆ หน้าท้องสวยมาก
ติงยวี่ถิงแทบกำเดาพุ่ง พลันนึกไปถึงอดีตสามีผู้นั้น และคืนวสันต์เพียงครั้งเดียวของพวกเราก่อนหย่า
เซียวหงเย่เองก็สัดส่วนสมบูรณ์แบบไร้ที่ติเช่นนี้แล นั่นคือภาพติดตาตรึงใจหลังนางเข้าสิงร่าง ไม่รู้เช่นกันว่าติงยวี่ถิงคนเก่าชอบชายคนนั้นตรงไหน แต่นางชอบเขาตรงหุ่นแซ่บนี่แหละ
อ๊ะ! ไม่! ไม่สิ ไม่ชอบ
หญิงสาวส่ายหน้าปัดภาพบัดสีทิ้งไป ความเร่าร้อนขั้นสุดยอดนั้นด้วย นางตั้งสติให้นิ่ง พร้อมทำใจดีๆ เข้าไว้ ชาตินี้แม้เริ่มมีเงินอีกคราแต่นางหมดสิทธิ์หาสามีใหม่แล้วไง เฮ้อ...เศร้า!
คิดพลางชำเลืองมองหนุ่มหล่อผู้เป็นอาหารตาพาให้ใจชุ่มฉ่ำซ้ำๆ
ทำได้แค่นี้ก็หลับฝันดีแล้วล่ะตัวเรา...
ชีวิตสตรีที่มีพร้อมขาดเพียงคู่ครองช่างน่าหดหู่แท้