บทย่อ
แอบรักข้างเดียว ถูกเขาผลักไสราวกับเป็นสตรีไร้ค่า จนข้ายอมแพ้ที่จะรัก.. ทว่าจู่ๆ โหวใจร้ายผู้นั้นกลับตามติดออดอ้อนราวกับเป็นคนละคน ดวงตาที่จ้องมองมาหวานซึ้งราวกับจะกลืนกินข้า คะ..คลั่งรักข้าเกินไปแล้ว! ---------- กำปั้นหนักๆ ทุบลงไปยังผนังห้องหอเฉียดศีรษะของหญิงสาวไปเพียงเล็กน้อย “แพศยา! นี่หรือคือสิ่งที่เจ้าต้องการ หา!” สันกรามปูดโปนจากแรงขบกัดของฟันกราม ใบหน้าหล่อเหลาขึ้งเคียดเต็มไปด้วยโทสะ ในขณะที่ทั่วทั้งสรรพางค์กายกลับกำลังร้อนรุ่มดั่งโดนแผดเผาด้วยเปลวเพลิงแห่งไฟราคะ ไม่ผิดแน่ ในสุรามงคลมียาปลุกกำหนัด! ‘นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ข้าให้โอกาสนาง หลายครั้งหลายหนที่พยายามมองนางในแง่ดี แม้ว่าใครต่อใครจะบอกว่านางเป็นหญิงแพศยาชั่วช้าสักเพียงใด นางจะตบตีลูกผู้พี่ รังแกน้องสาวของเขา ทำร้ายใครต่อใคร แต่เขาก็ยังหวังว่านั่นจะเป็นการเข้าใจผิด!’ “ท่านโหวโปรดใจเย็นก่อนเจ้าค่ะ” หลี่เสี่ยซีพยายามใช้น้ำเย็นเข้าลูบ ด้วยไม่เข้าใจว่าเหตุใดจู่ๆ โหวหยางหมิงจึงโมโหจนดวงตาแดงก่ำเช่นนี้ นางสังเกตได้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างกำลังผิดปกติภายในร่างกายของเขา “จนถึงขนาดนี้แล้วเจ้าก็ยังแสร้งทำหน้าใสซื่ออยู่อีกงั้นหรือ ช่างมารยาสาไถยเสียจริง!” พูดกึ่งสบถแล้วหัวเราะออกมาราวกับบ้าคลั่ง ก่อนจะทำในสิ่งที่อีกฝ่ายคงกำลังรอคอยจนเนื้อตัวสั่นระริกด้วยความร่านกระสัน แคว้ก! มือหนาคว้าสาบคอเสื้อสีขาวของเจ้าสาวก่อนจะกระชากแรงจนขาดวิ่นติดมือออกมา เผยให้เห็นทรวงอกกลมกลึงขาวนวลเนียน
บทนำ คืนวิวาห์ไร้รัก
บทนำ
คืนวิวาห์ไร้รัก
ไม่รักก็คือไม่รัก
‘สามีภรรยาแต่งงานอยู่กินกันไป เดี๋ยวก็รักกันไปเอง สิ่งสำคัญคือเจ้าต้องมีบุตรเพื่อเป็นดั่งโซ่ทองคล้องใจท่านโหวในเร็ววัน นั่นแหละคือหน้าที่ของภรรยาที่ดี...’
ถ้อยคำสอนสั่งของมารดาเลี้ยงผู้มีศักดิ์เป็นป้าแท้ๆ ทางสายเลือดดังขึ้นในห้วงแห่งความนึกคิดของเจ้าสาวแสนสวยในชุดวิวาห์สีแดงมงคล นางนั่งอยู่บนเตียงกว้างกลางห้องหอขนาดใหญ่ มองผ่านผ้าปิดหน้าเจ้าสาวจึงเห็นว่าห้องหอถูกตกแต่งด้วยผ้าสีแดงห้อยระย้าทิ้งตัวจากเพดานลงจดพื้น เหมยกุ้ยฮวาสีแดงส่งกลิ่นหอมอบอวลดารดาษโปรยปราย เทียนไขถูกจุดประดับประดาราวกับดวงดาวก็ไม่ปาน
ทว่าความงดงามเหล่านั้นไม่อาจทำให้หัวใจของหลี่เสี่ยซีสงบลงได้เลย นางกำมือเข้าหากันแน่นจนเผลอจิกปลายเล็บลงบนหลังมือ ริมฝีปากสีชาดเม้มเข้าหากันเป็นเส้นตรง
เจ้าบ่าวเกลียดเจ้าสาว!
ใครๆ ในเมืองตงต่างก็รู้เรื่องนี้ดีว่าท่านโหวหวงหยางหมิงเกลียดชังคุณหนูหลี่เสี่ยซีราวกับกิ้งกือไส้เดือน แม้ยามเป็นคู่หมั้นคู่หมายยังแทบไม่มองหน้า ยิ่งเมื่อเข้าพิธีแต่งงานที่ถูกคลุมถุงชนปราศจากความสมัครใจยิ่งสร้างความชิงชังในใจของเจ้าบ่าวทบทวีคูณ
ทว่า...
เจ้าสาวรักเจ้าบ่าว!
เรื่องนี้ใครๆ ต่างก็รู้เช่นกันว่าคุณหนูหลี่เสี่ยซีตามรักตามตื๊อโหวหนุ่มมาเนิ่นนาน เป็นการแอบรักข้างเดียวที่น่าสมเพชจนใครๆ ต่างหัวเราะนินทาลับหลัง
ยิ่งใกล้ชิดโหวหนุ่มกลับยิ่งถอยห่าง
‘ชีวิตแต่งงานของข้าช่างมืดมินจนมองไม่เห็นแสงสว่างเลย’
สะอื้นอยู่ในอกด้วยหัวใจที่บอบช้ำ ตลอดพิธีวิวาห์ท่านโหวมีสีหน้าบูดบึ้งดั่งยักษ์มาร ทุกอากัปกิริยากระแทกกระทั้นไม่เต็มใจอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าหล่อเหลาเมินเฉยไม่แม้แต่จะชายตาแลเจ้าสาวข้างกาย
แขกเหรื่อที่มองมาล้วนกระซิบกระซาบขบขันดั่งเจ้าสาวเป็นตัวตลกไร้ค่า
ปั้ง!
เสียงประตูห้องหอถูกเปิดออกพร้อมๆ กับไหล่เล็กบอบบางที่สะดุ้งโหยงจนตัวสั่น เจ้าสาวแอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก มองเห็นเจ้าบ่าวรูปร่างสูงปราดเปรียวก้าวยาวๆ เข้ามาในห้องหอผ่านผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวรางๆ
ว้าย!
แล้วโดยที่หลี่เสี่ยซียังไม่ทันตั้งตัวโหวหนุ่มก็ก้าวประชิดมาที่เตียงวิวาห์ก่อนจะยื่นมือมากระชากผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวออกอย่างแรง ยังผลให้คนตัวเล็กถึงกับหวีดร้องออกมาเสียงหลง
แรงกระชากทำให้ผ้าปิดหน้าที่เกี่ยวกับปิ่นทองประดับผมม้วนมวยหลุดร่วง เครื่องประดับกลีบดอกไม้เล็กๆ ร่วงหลุดไปตามแรงกระชากและถากเอาเนื้อบริเวณนวลแก้มติดไปจนมีเลือดสีแดงชาดไหลซึมออกมา ส่งผลให้เรือนผมที่เกล้าสูงอย่างบรรจงยุ่งเหยิงไม่น่าดู
เจ้าสาวไม่ได้สนใจความเจ็บปวดบนใบหน้า นางมองผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวที่ร่วงหล่นลงบนพื้นก่อนที่โหวหนุ่มจะหมุนกายแล้วใช้ฝ่าเท้าเหยียบย่ำมันอย่างไม่ไยดี
เจ็บจัง...
ข้าเคยคิดว่าหัวใจของข้าด้านชาเสียแล้ว ความเจ็บปวดในหัวใจข้าคงถึงขีดจำกัดไปตั้งนานแล้ว แต่...ไม่เลย ข้ายังสามารถเจ็บปวดมากขึ้นอีก มากขึ้น มากขึ้น ราวกับหัวใจกำลังแหลกสลายก็ไม่ปาน
ห้วงแห่งภวังค์ขาดสะบั้นเมื่อหญิงสาวได้ยินเสียงสุราจากไหรินลงในจอก ก่อนที่คนตัวโตจะยกมันขึ้นกระดกจนหมดแก้ว จากนั้นเขาจึงถอดทึ้งชุดวิวาห์สีแดงมงคลออกจากตัวราวกับรังเกียจที่จะสวมใส่ เหลือเพียงชุดสีขาวตัวในเท่านั้น
ช่างเป็นช่วงเวลาที่น่าอึดอัด เสี่ยซีไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงๆ เสียด้วยซ้ำไป เพราะเกรงว่านั่นจะเป็นการทำให้เขายิ่งรำคาญนางมากขึ้นกว่าเดิม
การอยู่เงียบๆ ราวกับอากาศธาตุคงเป็นสิ่งที่นางพึงกระทำมากที่สุดแล้วในเวลานี้
หญิงสาวผุดลุกขึ้นยืนก่อนจะก้มลงเก็บเสื้อผ้าของผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีบนพื้นอย่างเงียบเชียบ จากนั้นจึงทำการถอดชุดวิวาห์ของตนเองออกบ้าง ก่อนจะทรุดกายนั่งลงหน้าโต๊ะเครื่องแป้งแล้วค่อยๆ ซับเลือดบนแก้มอย่างแผ่วเบา
โชคดีที่แผลไม่ได้บาดลึก ทายาสักหน่อยก็คงไม่ทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้
เสี่ยซีถอนหายใจเฮือกใหญ่ จังหวะที่นางกำลังสางผมที่ยุ่งเหยิงนั้น...
ทว่า...
เพล้ง!
นางสะดุ้งโหยงเมื่อไหสุราถูกขว้างลงบนพื้นจนแตกกระจาย แล้วโดยที่เจ้าสาวยังไม่ทันตั้งตัวเจ้าบ่าวก็ปราดเข้าหาพร้อมกับมือหนาบีบเข้าที่ปลายคางก่อนจะดันจนร่างเล็กกระแทกผนังอย่างแรง
ตึง!
เขาดันปลายคางแรงขึ้นอีก จนปลายเท้าเรียวเล็กลอยขึ้นจากพื้น สองขาพยายามดิ้นรนตะเกียกตะกายแต่กลับไม่อาจหลุดพ้นจากพันธนาการกักขฬะได้เลย
“ทะ...ท่านโหว!”
หญิงสาวเค้นเสียงเรียกอีกฝ่ายอย่างยากลำบาก ปวดร้าวไปทั้งใบหน้าและสันกรามที่ถูกบีบจนเรียวปากผิดรูป
ปั้ง!
กำปั้นหนักๆ ทุบลงไปยังผนังห้องหอเฉียดศีรษะของหญิงสาวไปเพียงเล็กน้อย
“แพศยา! นี่หรือคือสิ่งที่เจ้าต้องการ หา!”