ยั่วยวน ที่ 2 คุณชายพิการแห่งสกุลโจว
ยั่วยวน ที่ 2
คุณชายพิการแห่งสกุลโจว
พักตร์ปีศาจ
“เป็นไปตามที่คุณชายคาดการณ์ขอรับ”
คุณชายโจวเหวินหลงพยักหน้าน้อยๆ ใบหน้างดงามดุจเทพเซียนเครียดขรึม ดวงตาคมหม่นแสงโศกพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเอ่ยออกมาดั่งรำพันกับตนเอง
“ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าท่านแม่จะทำถึงเพียงนี้”
เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ภาพความเจ็บปวดยามที่รถม้าร่วงหล่นลงไปยังก้นหุบเหวลึก แรงกระแทกก่อให้เกิดเสียงดังสนั่นราวกับหูทั้งสองข้างจะดับลง ร่างกายเจ็บปวดดั่งกระดูกแหลกละเอียด ดวงตาพร่ามัว เจ็บปวดไปทั้งเรือนกายจนแทบไม่อาจเปล่งเสียงออกจากปาก
เขาค่อยๆ ใช้สองแขนคืบคลานไปหาบิดาที่นอนหายใจรวยรินดั่งลมหายใจกำลังจะขาดห้วงทุกชั่วขณะ
‘ละ...เล่อเสีย...ปะ...เป็นนางที่ลอบสังหาร’
‘ท่านพ่อหมายความว่าอย่างไร’
‘ตะ...ตีสองหน้า คดโกง นะ...นางหักหลังพวกเรามาโดยตลอด อาเหวินเจ้าต้อง...’
ประมุขโจวเจียนหาวเอื้อนเอ่ยได้เพียงเท่านั้นก็กระอักออกมาเป็นเลือด ดวงตาเหลือกถลนด้วยความทุกข์ทรมานจากการที่อวัยวะภายในถูกกระแทกอย่างแรง ท้ายที่สุดก็สิ้นใจตายโดยที่ดวงวิญญาณไม่อาจไปสู่สุคติ
‘ท่านพ่อ! ท่านพ่อ!’
เสียงเรียกบิดาดังก้องไปทั่วหุบเหวลึก หยาดโลหิตสีแดงชาดไหลอาบไปทั่วทั้งตัว เขาทำได้เพียงยื่นมือไปแตะมือของบิดาก่อนจะสิ้นสติสัมปชัญญะดำดิ่งสู่ความมืดมิดยาวนานนับสองเดือน
เมื่อฟื้นขึ้นมาพบว่าตนเองพิการ ขาทั้งสองข้างไม่อาจเดินเหินขยับเขยื้อนได้ดั่งใจ ก่อนที่เขาจะค่อยๆ นิ่วหน้าเมื่อได้ยินเสียงร่ำไห้ปริ่มว่าจะขาดใจของมารดาเลี้ยง
‘อาเหวินลูกแม่ เหตุใดเจ้าจึงเคราะห์ร้ายเช่นนี้เล่า’
หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงเชื่อสนิทใจว่าฮูหยินโจวผู้นี้รักเขาดุจมารดาผู้ให้กำเนิด นั่นเพราะมารดาของเขาเสียชีวิตหลังคลอดเขาได้ไม่ถึงสามเดือน เขาจำหน้ามารดาไม่ได้ จำน้ำเสียงของมารดาไม่ได้ จำอ้อมกอดของมารดาไม่ได้ด้วยซ้ำ
บิดาซึ่งรักและหวงแหนเขายิ่งกว่าสิ่งใดๆ ในโลก จึงหาภรรยาคนใหม่เพื่อมาเติมเต็มครอบครัว หวังให้บุตรชายเพียงคนเดียวไม่รู้สึกขาด
โจวเหวินหลงลืมตาครั้งแรกก็มองเห็นมารดาเลี้ยงผู้นี้
พูดคำแรกก็เอ่ยเรียกมารดาเลี้ยงผู้นี้ว่า...ท่านแม่
เดินครั้งแรกก็มีมารดาเลี้ยงผู้นี้คอยจับจูง
สตรีนาม ‘เล่อเสีย’ เลี้ยงดูเขาดุจมารดาเลี้ยงดูบุตร ให้ความรัก ให้เกียรติ เติมเต็มช่องว่างในหัวใจของเด็กชายตัวน้อยจนไม่รู้สึกขาดสิ่งใด
ทว่าดั่งผืนฟ้ากว้างใหญ่ถล่มลงมา เมื่อถ้อยคำสุดท้ายก่อนบิดาจะสิ้นใจนั้น ชี้ไปยังมารดาเลี้ยงที่เขารักและเทิดทูนว่านางคือผู้อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารบิดาและเขาอย่างโหดเหี้ยม โดยจัดฉากให้เป็นเพียงอุบัติเหตุรถม้าร่วงหล่นจากหน้าผาสูงในวันที่ฝนตกหนัก
‘อะ...อาเหวินเจ้าฟื้นแล้วหรือ เจ้าฟื้นแล้ว ขอบคุณพระโพธิสัตว์ ขอบคุณสวรรค์ ขอบคุณที่ส่งอาเหวินกลับคืนสู่อ้อมกอดของข้า’
ทันทีที่เห็นมารดาเลี้ยงยิ้มกว้างดีใจที่เขาฟื้นคืนสติ เขาจึงเลือกที่จะไม่ยอมปริปากเอื้อนเอ่ยคำใดดั่งเป็นใบ้ หมอต่างลงความเห็นว่าหัวใจของเขาแตกสลายจากการสูญเสียบิดา ทำให้เขาเป็นใบ้และอาจจะมีความจำเสื่อมร่วมด้วย
เขาตบตามารดาเลี้ยงได้อย่างแยบยล และแอบรักษาขาให้กลับมาเดินได้อย่างเงียบเฉียบ ทว่ากลับใช้ชีวิตดั่งคนพิการไร้พิษสง เป็นเพียงหุ่นเชิดให้มารดาชักใยอย่างไร้ทางสู้
ลับหลังเขาแอบติดต่อกับ ‘สำนักข้อมูลสวรรค์’ สืบค้นประวัติทั้งหมดของมารดาเลี้ยงอย่างละเอียด ขุดคุ้ยเห็นถึงเส้นทางการเงินที่บิดเบี้ยว เงินจำนวนมากถูกขนย้ายไปยังที่แห่งหนึ่ง ซึ่งยังไม่รู้ได้ว่าสถานที่แห่งนั้นเกี่ยวพันอย่างไรกับมารดาเลี้ยง