บทที่ 5 คนหวงเพื่อน
คาเตอร์เดินกอดคอเพื่อนสนิทที่ทำหน้าบึ้งตลอดทางตอนเดินไปโรงอาหารของคณะ ซึ่งปกติมันจะเนืองแน่นไปด้วยบรรดานักศึกษาทั้งในคณะและต่างคณะ แต่วันนี้ค่อนข้างโล่ง เพราะคนส่วนใหญ่รวมตัวอยู่ยังลานกว้างแทน
"กินอะไร กะเพราหมูสับเหมือนเดิมเหรอ" เขาก้มลงถามหญิงสาวข้างกาย
"อืม ก็ได้ ไข่ด้วย"
"เค เดี๋ยวสั่งให้ มึงไปซื้อน้ำไป ฝากด้วย" เขาพยักหน้าเสนอตัวอย่างเอาใจ
"เออ"
ว่าจบคนตัวเล็กก็ปัดแขนชายหนุ่มออก เดินก้มหน้าแยกไปอีกร้าน ส่วนเพื่อนของคาเตอร์ก็แยกย้ายกันไปซื้ออาหารของตัวเอง ก่อนจะกลับมารวมตัวยังโต๊ะประจำตัวริมสุด ที่ตั้งอยู่ใกล้ทางเข้าออกเพราะจุดนี้ลมโกรก แถมไม่ต้องทนอึดอัดเวลานักศึกษาเข้ามาใช้บริการพร้อมกันมาก ๆ
"ไอ้เคแม่งจะมาหิวอะไรเวลานี้วะ ปกติก็ไม่ค่อยจะกินข้าวเช้า" ครามหนุ่มตี๋หน้าใสเหมือนเน็ตไอดอลส่ายหัวเอ่ยขึ้นมา
"เออ กูเลยยังไม่ได้ส่องเด็กใหม่เลย" แก๊ปชายหนุ่มผิวสีแทน หน้าตาคมสันพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเพื่อน
"บ่นเยอะเดินกลับไปเลยไป ก็กูหิวนี่หว่า...อ้าว แล้วนี่มึงเป็นอะไรอีก หน้าบึ้งมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว
คาเตอร์หันไปตอบเพื่อน ก่อนจะสังเกตสีหน้าเพื่อนสนิทตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างกาย ดูจ๋อยลงเอาแต่เขี่ยข้าวในจานไปมา ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองใครเท่าไร
"ก็มึงบอกหน้ากูตลก...เลยเซ็ง ๆ ขอไปล้างหน้าก่อนได้ปะ"
เธอยิ่งเป็นคนไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองอยู่แล้ว พอได้ลองแต่งหน้า หรือทำอะไรใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทำก็มีความวิตกอยู่ลึก ๆ แถมเพื่อนสนิทยังมาพูดจาตัดกำลังใจอีก ทำม่านฟ้ายิ่งนอยด์
คาเตอร์ถอนหายใจ พลางยกมือขึ้นโยกหัวเพื่อนสนิทด้วยความเอ็นดู
"เออ โทษที กูคงแค่ไม่ชินตา ไม่แย่มากหรอก" สายตาคมอ่อนลงยอมเอ่ยปากปลอบอ้อม ๆ แบบขอไปที ไม่ให้ตนเสียฟอร์ม
"ต้าร์ว่าสวยแล้วม่าน มั่นใจในตัวเองหน่อย"
"ใช่ ๆ ไม่รู้ตัวเหรอว่าตลอดทางที่เดินมา พวกรุ่นน้องมองม่านกันทั้งนั้น" แก๊ปเอ่ยให้กำลังใจหญิงสาวบ้าง พร้อมเงยหน้าขึ้นไปส่งสายตาตำหนิคาเตอร์ แต่เขาก็ยังไม่วายพูดค่อนแคะต่ออย่างอดไม่ได้ ยิ่งเห็นพวกเพื่อน ๆ พร้อมใจกันชมเธอด้วยแล้วยิ่งไม่สบอารมณ์
"มองนี่มองแง่ไหน ไม่ใช่ว่าแปลกใช่ไหม"
"ไอ้เคปากมึงนี่นะ" ต้าร์บ่นออกมาบ้าง
"มึงแม่ง! กูไม่แต่งตัวก็บ่น พอกูจะลองแต่งก็ด่าอีก จะเอาไงกันแน่" ม่านฟ้าหน้ามุ่ยตวัดสายตามองเพื่อนสนิทข้างกายที่เหมือนเธอทำอะไรก็มักโดนแขวะตลอด
"เออ ๆ ทีหลังไม่พูดแล้ว แต่งเหมือนเดิมแหละดีแล้ว ดูเป็นมึงดี แบบนี้กูไม่ชินจริง ๆ"
"จะกันท่าเหี้ยอะไรของมึงนักฮะ ม่านฟ้าสวยจะตาย...เอาจริงกูยังอยากจีบเลย" แก๊ปหันไปช่วยรุมด่าคาเตอร์อีกแรง คำพูดของเขาทำให้หญิงสาวเพียงคนเดียวในโต๊ะค่อยสบายใจขึ้นหน่อย
"คิดงั้นเหรอ..."
"กวนตีนและ!...มึงอย่าไปฟังมันม่าน ไอ้เหี้ยนี่สันดานเสียจะตาย หักอกผู้หญิงไปทั่ว อาทิตย์ก่อนเพิ่งมีรุ่นน้องมาร้องไห้คร่ำครวญกับกูอยู่เลยว่ามันได้น้องแล้วชิ่ง"
"ไอ้เลว นี่จะแฉกูตรงนี้เลยเหรอ"
"ก็นี่เพื่อนกู ยิ่งมึน ๆ โง่ ๆ ไม่ทันใครอยู่ กูไม่ให้คนเหี้ย ๆ แบบมึงจีบหรอก"
ว่าจบคาเตอร์ก็ใช้แขนโอบคอม่านฟ้าเอาไว้แน่นราวกับเป็นตุ๊กตาตัวโปรด แสดงความเป็นเจ้าของเต็มที่ พร้อมกวาดสายตามองเพื่อนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างคาดโทษ
คนที่เหลือได้แต่ส่ายหัวระอา แอบสงสารม่านฟ้าเหมือนกันที่ดันมีเพื่อนสนิทขี้หวงอย่างคาเตอร์
"เอ้าเลิกคิดมากได้แล้ว สัญญาต่อไปนี้ไม่ว่ามึงจะแต่งตัวแย่แค่ไหน กูจะไม่บ่นอีก"
"เนี่ย! ไม่ทันขาดคำก็ด่ากูอีกแล้ว" หญิงสาวหน้างอ แต่อีกฝ่ายกลับยกยิ้มกว้างอารมณ์ดีกับท่าทางน่าเอ็นดู เชิญชวนให้น่าแกล้งของเธอ
"แบบนี้ก็ดูเป็นมึงดีออก...อะ กูแบ่งไข่ให้อีกฟองด้วย หายนอยด์ได้แล้ว"
ม่านฟ้าถอนหายใจ แต่ก็นั่งกินข้าวต่อ โดยมีคาเตอร์ยังคอยยุ่งวุ่นวายกับผมเธอไม่เลิก จนเส้นผมที่หมิงช่วยรวบมัดเอาไว้ยุ่งฟูไม่เป็นทรงเหมือนสาวผ่านการถูกทารุณกรรมมายังไงยังงั้น
ระหว่างนั่งกินข้าวกัน ก็มีสาวสวยต่างคณะหลายคนส่งสายตาให้กลุ่มชายหนุ่มหน้าหล่อเป็นระยะ ก่อนทั้งกลุ่มจะถูกขัดจังหวะด้วยน้องผู้หญิงหน้าใสคนหนึ่งที่เดินเข้ามา
"เอ่อ...พี่คะ" เสียงหวานใสดังขึ้น ทำให้ทั้งโต๊ะหยุดกินอาหารตรงหน้าแล้วเงยหน้าขึ้นมอง
"ครับว่าไงน้อง" แก๊ปกระตุกยิ้มร้าย ไล่สายตาสำรวจหญิงสาวด้วยความสนใจ
"คะ...คือ พี่คนนี้มีแฟนหรือยังเอ่ย...พะ...เพื่อนหนูเขาชอบอยากจะมาขอไลน์พี่เขาไว้"
เด็กสาวชั้นปี 2 ก้มหน้าเขินอายพลางชี้มือมาทางคาเตอร์ถามด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก แอบหวั่นใจเหมือนกันเพราะข้างกายเขามีสาวสวยนั่งอยู่ด้วย ซึ่งคาเตอร์ก็ยกยิ้มยืดอกภาคภูมิใจ ปล่อยมือที่วุ่นวายกับเพื่อนสนิทออก
"ขึ้นอยู่กับคนถามนะ...เพื่อนน้องคนไหนล่ะ" น้ำเสียงเจ้าเล่ห์และสายตาแพรวพราวปรากฏขึ้นทันทีเมื่อมีเหยื่อเดินมาให้กินถึงที่
"คนนั้นค่ะ...ที่ผมลอน ๆ" เธอตอบเสียงเบาแล้วชี้นิ้วไปทางโต๊ะที่เพิ่งจากมา สาว ๆ ในโต๊ะต่างวี้ดว้ายตื่นเต้นเมื่อหนุ่มที่เพื่อนหมายตาหันมอง พร้อมดันตัวเพื่อนคนสวยให้เขาเห็นชัด ๆ
มุมปากหยักกระตุกยิ้ม สายตาสัตว์นักล่าพิจารณาจากระยะไกล รุ่นน้องสาวคนนั้นก็ดูท่าทางใช้ได้
"พี่โสดครับ เอามือถือมาสิ เดี๋ยวพิมพ์ไลน์ให้" เขายักไหล่ตอบกลับง่ายๆ
"ร้ายฉิบหาย!"
"เอาว่ะ! ไอ้เคได้สาวตั้งแต่วันเปิดเทอมเลย"
ม่านฟ้าก็มองภาพเหตุการณ์ตรงหน้านิ่ง ๆ กินข้าวต่อตามปกติ ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะนี่คือสิ่งที่เธอคุ้นตาดีอยู่แล้ว หลังจากคาเตอร์แลกเปลี่ยนไลน์กับน้องคนนั้นเสร็จ เขาก็หันกลับมาวุ่นวายกับเพื่อนสนิทต่อ จนเธอแอบรำคาญ
"ไอ้เค! อย่าดึงผมกู"
"อาทิตย์หน้าไปทำสีพร้อมกูอีกไหม ตรงโคนเริ่มดำแล้ว"
"ไม่เอา มันแสบหัว นี่เพิ่งขึ้นมานิดเดียวเอง"
เพราะม่านฟ้าไม่ใช่คนสนใจความสวยงามตัวเองอยู่แล้ว ที่ผมเธอเป็นสีน้ำตาลอ่อนก็เพราะถูกเพื่อนสนิทลากไปทำด้วยกัน แถมมันยังจัดแจงบอกช่างให้เลือกสีเดียวกับผมตัวเองอีก
"ไปเป็นเพื่อนหน่อย กูจะไปทำสีใหม่กับตัดผมด้วย"
"ก็เลือกสาวในสต็อกมึงสักคนไปเป็นเพื่อนสิวะ" เธอบ่นอุบพลางปัดมือซุกซนให้ออกไปจากหัวเธอไปด้วย ราวกับไล่แมลงที่บินก่อกวน
"เหมือนกันที่ไหน ไปกับมึงแหละดีแล้ว อาทิตย์หน้านะ วันเสาร์เดี๋ยวไปรับ"
"กูเลือกอะไรได้บ้างปะ"
"ไม่ได้อะ"
คาเตอร์ยิ้มกว้างอารมณ์ดี ไม่ได้ใส่ใจโทรศัพท์มือถือที่สาวสวยเมื่อครู่ส่งข้อความมาหาแม้แต่น้อย ขยันแกล้งขยันแหย่เพื่อนสนิทจนกระทั่งทั้งกลุ่มกินข้าวเสร็จ เพื่อนคนอื่นก็ได้แต่มองเมินพฤติกรรมแปลก ๆ ของคู่นี้ เพราะเห็นว่าผ่านมาหลายปีก็เหมือนเดิม จึงไม่มีใครให้ความสนใจเท่าไร
"วันศุกร์นี้ไปฉลองเปิดเทอมกันไหม ร้านแถวหลังมอ" ต้าร์เสนอไอเดียขึ้นมาขณะทั้งกลุ่มเดินออกจากโรงอาหาร
"ไปวันนี้เลยไหมล่ะ" แก๊ปตาแววมีท่าทางตื่นเต้นเมื่อได้ยินคำว่าปาร์ตี้
"วันธรรมดาคนน้อย จะหาเหยื่อก็ต้องวันที่คนเยอะหน่อยสิวะ" ครามตอบเพื่อนเสร็จก็ยกแก้วน้ำที่ถือติดมือขึ้นมาดูด
"กูยังไงก็ได้"
"ม่านไปด้วยกันไหม"
"เราด้วยเหรอ" ม่านฟ้าชี้หน้าตัวเอง ทำคาเตอร์ที่เดินกอดคอเธออยู่ชักสีหน้าไม่พอใจ
"จะเอามันไปด้วยทำไม ภาระ"
"พูดงี้ไปไกลตีนเลย วันเสาร์นัดทำผมมึงก็ยกเลิกไปแล้วกัน กูมันภาระนี่!"
เธอเริ่มหัวเสียปนน้อยใจ ผลักชายหนุ่มข้างกายออกห่างอย่างหงุดหงิด หลังถูกพูดจาจิกแขวะตลอดมื้ออาหารไม่พอเขายังไม่หยุดค่อนแคะเธออีก
"ไม่ได้หมายความแบบนั้น กูจะไปกินเหล้า ไม่มีเวลาดูแลมึง"
คาเตอร์ไม่ยอม พยายามจะคว้าแขนบางเอาไว้ ดึงตัวเธอกลับมาอยู่ใกล้ ๆ
"มึงก็แดกไปสิ พวกกูอยู่กันตั้งสามคน ช่วยกันดูแลได้อยู่แล้ว" ต้าร์ตอบ และหันกลับไปชักชวนหญิงสาวอีกครั้ง "ไปด้วยกันสิม่าน ไม่ได้กินเหล้าด้วยกันนานแล้ว"
"อืม ๆ ได้ เบื่อ ๆ เหมือนกัน"
"มึงแม่งรั้นว่ะ กูพูดอะไรไม่เชื่อแล้วใช่ไหม"
"กูดูแลตัวเองได้เหอะ พวกต้าร์ก็บอกจะช่วยดู ไม่ขัดจังหวะมึงอ่อยสาวหรอกน่า" ดวงตากลมตวัดขึ้นมองเพื่อนสนิทอย่างขุ่นเคือง ไม่เข้าใจทำไมทีแบบนี้ไม่อยากให้เธอไปด้วยนัก ทั้งที่ปกติก็ชอบลากเธอไปไหนมาไหนอยู่แล้ว
"ไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น กูบอกมึงว่าไง อย่าไว้ใจผู้ชายอื่น คนเดียวที่มึงไว้ใจได้คือกูเท่านั้น" เขาทิ้งระยะเดินห่างจากกลุ่มเพื่อน เพื่อจะได้พูดคุยกับหญิงสาวตามลำพัง
"นั่นก็เพื่อนมึงนะเค อีกอย่างกูก็สนิท รู้จักกันมาตั้งสี่ปีแล้ว"
"เนี่ย! หัวอ่อน เชื่อคนง่าย พวกแม่งร้ายกันทั้งนั้น กูสนิทกับมึงมาเกินครึ่งชีวิตแล้ว ไว้ใจกูคนเดียวก็พอ ห้ามไปไหนมาไหนกับผู้ชายอื่นเด็ดขาดรู้ไหม"
พอได้ยินคำพูดและสายตาจริงจังของคาเตอร์ สุดท้ายม่านฟ้าก็พยักหน้ายอม
"อืม"
"กูดูมึงเอง อยากไปก็ไป เดี๋ยวไปรับแล้วกลับพร้อมกู"
"อ้าว ไม่หาสาวแล้วเหรอ"
"ช่างมันสิ ค่อยหาวันหลัง มึงสำคัญสุดแล้ว"
ว่าจบมือหนาก็เลื่อนขึ้นมาโยกศีรษะเธอเบา ๆ หัวใจดวงเล็กอบอุ่นปลอดภัยเหมือนที่ผ่านมา ถึงจะจิกแขวะพูดกัดกันบ้าง แต่เขาก็คือคนที่ห่วงเธอมากที่สุด และเธอพอใจเหลือเกินกับความสัมพันธ์มั่นคงไม่มีเปลี่ยนแปลงแบบนี้ เพราะอย่างไรคาเตอร์ก็คือคนที่เธอไว้ใจมากที่สุดในชีวิต