ข้ามเส้นมาเล่นเพื่อนจบ

161.0K · จบแล้ว
เดย์ไลลา
53
บท
74.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

"เราเป็นเพื่อนกันนะ...แถมไม่ได้รู้สึกชอบกันสักหน่อย" "แต่เราเอากันไปแล้ว คบกับกูก็ไม่ได้เสียหายตรงไหนนี่" กลีบปากบางเม้มหาเข้ากันครุ่นคิดตามคำพูด เธอกลัวว่าความสัมพันธ์ฉาบฉวยแบบนี้มันจะไม่ยั่งยืนเท่าความเป็นเพื่อนที่มีมาตลอดสิบห้าปี กลัวว่าพอเปลี่ยนสถานะไปแล้ววันหนึ่งเธอจะเสียเพื่อนสนิทคนเดียวไปตลอดกาล "ก็ไม่เอาอยู่ดีอะ" "เฮ้ออออ~ ทำไมดื้อจังวะ" "มึงแค่อยากรับผิดชอบเพราะกูเป็นเพื่อนไม่ใช่เหรอ...ถ้าเป็นคนอื่นมึงไม่สนใจความรู้สึกหรอก" "ก็รู้นี่ แล้วจะปฏิเสธทำไมอีก" ใบหน้าหล่อเหลาดูขัดเคืองใจที่ม่านฟ้าไม่ยอมตอบตกลง เนื่องจากเป็นเพื่อนกันมานานทำให้ทั้งคู่พอจะรู้ความคิดอีกฝ่ายได้ เพราะม่านฟ้าเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเขา ก็อยากให้เกียรติ ไม่อยากทำตัวมักง่ายใส่เหมือนผู้หญิงทั่วไปจึงแสดงความรับผิดชอบ ซึ่งเธอไม่ต้องการแบบนี้ "ก็ให้มันจบแค่วันนี้พอ แล้วเรากลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้เหรอ" "ไม่...กูอยากเอามึงอีก" "ไอ้เค!" ม่านฟ้าหน้าบึ้งเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงดัง เมื่อคาเตอร์ยอมรับออกมาตรง ๆ แบบหน้าไม่อาย พร้อมใช้กำปั้นเล็ก ๆ ทุบเข้าที่อกกว้างด้วยความหงุดหงิด "จะเอาไง? อยากโดนกูเอาแบบไม่มีสถานะเหรอไง" "กูไม่ให้แล้วโว้ย!" เธอทั้งโกรธทั้งอายกับความหน้าด้านของเขา ใช้เรี่ยวแรงน้อยนิดดีดดิ้นพยายามดันตัวชายหนุ่มออกห่าง มุมปากหนากระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ เพียงแค่ออกแรงเบา ๆ ก็สามารถกดหญิงสาวในอ้อมแขนลงไปนอนราบกับโซฟาในท่าทางล่อแหลมได้แล้ว ม่านฟ้านอนหอบหายใจเหนื่อยอยู่คนเดียว ขณะที่ร่างสูงเปลี่ยนมาขึ้นคร่อมเธอเอาไว้ พร้อมยักคิ้วกวนอารมณ์ให้เธอขัดใจเล่น "มีแรงแค่นี้จะห้ามกูได้เหรอ" "ปล่อยเลย! ถ้ากูไม่ยอมแล้วมึงจะข่มขืนกูเหรอไง" "ม่าน~ กูไม่ต้องใช้กำลังหรอก มีวิธีอีกเยอะที่จะทำให้มึงเคลิ้มจนต้องยอม เหมือนในห้องน้ำนั่นไง" "..." กลีบปากแดงระเรื่อเม้มเข้าหากันแน่น ไม่อาจคิดหาคำมาตอบโต้ได้อีก ใบหน้าร้อนผ่าวยามคิดถึงเหตุการณ์ร้อนแรงวาบหวามที่เพิ่งเกิดขึ้น "หึ! มึงความรู้สึกไวแค่ไหน กระตุ้นนิดเดียวก็เตลิดแล้ว" "เค~ กูไม่เล่นนะ ปล่อยได้แล้ว" เธอเปลี่ยนมาอ้อนเขาเสียงอ่อนเมื่อหมดทางต่อกรกับความร้ายกาจของเพื่อนสนิท "กูก็ไม่ได้เล่น กูเอาจริง" "แต่..." "มึงรู้จักกูดีม่าน...อะไรที่กูอยากได้กูก็ต้องได้ และตอนนี้กูอยากได้มึง" พวงแก้มเธอร้อนผ่าวลามลงมาลงถึงหน้าท้อง มันวูบไหวปั่นป่วนประหลาดยามสบเข้ากับสายตาร้อนรุ่มของเขา อกซ้ายทำงานอย่างหนักเมื่อใบหน้าอยู่ห่างกันเพียงไม่กี่เซ็นต์ คาเตอร์กระตุกยิ้มร้ายพร้อมใช้ปลายจมูกโด่งมาสัมผัสปลายจมูกเธอแผ่วเบาหยอกล้อ "เมื่อกี้ก็รู้สึกดีมากไม่ใช่เหรอ อย่าปฏิเสธตัวเองเลย" น้ำเสียงทุ้มลึกเซ็กซี่กระซิบยั่วราวกับจะค่อย ๆ สะกดจิตเธอให้ยอมคล้อยตาม "แต่กูก็ไม่อยากคบมึงอยู่ดีอะ" คาเตอร์ขี้เบื่อและเจ้าชู้แค่ไหนเธอรู้ดีที่สุด เขาเปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าและไม่เคยจริงจังกับใคร ทำให้เธอไม่อยากจะเอาความสัมพันธ์ตลอดสิบห้าปีไปเสี่ยงบนเส้นด้ายแบบนั้น "กลัวอะไรม่าน มึงไม่มีใคร กูก็ไม่มีใคร เราไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย" "ไม่อยากเสียมึงไปอะ" ม่านฟ้ายอมรับออกมาตามตรง หันหน้าไปอีกทางเพื่อหลบสายตาคมกริบของคนด้านบน แต่ก็ถูกปลายนิ้วเรียวยาวช้อนใบหน้าให้หันกลับมาสบตาอีกครั้ง "ใครบอกว่าจะเสียกูไป มึงสำคัญกับกูที่สุด รู้ดีไม่ใช่เหรอ" น้ำเสียงนุ่มพร้อมถ้อยคำหวานและสายตาหนักแน่นสั่นคลอนความตั้งมั่นของเธอให้ค่อย ๆ ทลายลงมาทีละน้อย "แล้ว...ไม่ต้องคบกันไม่ได้เหรอ" "มึงโอเคไหมล่ะ ถ้าเราจะมีเซ็กซ์กันเฉย ๆ นึกว่าผู้หญิงเขาจะอยากได้สถานะกันซะอีก" "กูไม่รู้อะ" เธอไม่เคยมีแฟนหรือคบหากับใคร ระดับความรู้เรื่องความรักต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาก จึงไม่รู้ว่าคนอื่นจะตัดสินใจแบบเธอไหม คาเตอร์บีบปลายจมูกของเธอด้วยความมันเขี้ยวปนเอ็นดู ซึ่งม่านฟ้าก็ปั้นหน้าบึ้งแล้วปัดมือหนาออก "มีอะไรยังคาใจอีกไหม" "ไม่บอกใครได้ไหม กูไม่อยากให้เพื่อนคนอื่นรู้" เธอไม่อยากให้คนอื่นต้องมากระอักกระอ่วนใจไปด้วย กับความสัมพันธ์แปลก ๆ นี้ "ตามใจมึงทุกอย่างเลยม่าน" "แล้วถ้าวันหนึ่ง...มึงเจอคนที่ชอบอะ" "ถ้าความรู้สึกเราทั้งคู่ยังไม่เปลี่ยนไป...วันหนึ่งมึงหรือกูจะมีแฟน เราก็แค่หยุดความสัมพันธ์นี้ แล้วก็กลับไปเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม" "กูกับมึงจะไม่เปลี่ยนไปใช่ไหม" เธอถามย้ำด้วยสีหน้าลังเล กลัวเหลือเกินว่ามันจะถลำลึกจนไม่อาจกลับมามองหน้ากันได้สนิทใจเหมือนที่ผ่านมา "กูไม่มีทางเปลี่ยน มึงจะเป็นเพื่อนที่กูรักที่สุดตลอดไป มึงนั่นแหละอย่าหลบหน้ากูเหมือนที่ผ่านมาอีก" "อืม"

นิยายรักโรแมนติกนักศึกษานิยายรักนิยายปัจจุบันโตมาด้วยรักหวานๆโรแมนติก

บทที่ 1 ฝันหรือเรื่องจริง NC+

กลางดึกภายในห้องนอนกว้างของคอนโดแห่งหนึ่ง เครื่องปรับอากาศถูกตั้งเอาไว้ที่อุณหภูมิเย็นเฉียบ ไฟทุกดวงถูกปิดสนิทจนมืดมิดแทบจะมองอะไรไม่เห็น ชายหนุ่มร่างกายสูงใหญ่ลูบไล้ฝ่ามือไปตามเรือนร่างของสาวที่นอนไม่ได้สติข้างกาย ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้สติของเขาพร่าเลือน เพียงแค่เคลื่อนไหวไปตามสัญชาตญาณ ผิวเนียนนุ่มใต้เสื้อผ้านั้นกระตุ้นอารมณ์ความต้องการได้ไม่ยาก

ฝ่ามือซุกซนสอดเข้าไปใต้เสื้อท่ามกลางความมืด บีบเคล้นก้อนเนื้อนุ่มนิ่มขนาดพอดีมือ พร้อมร่างใหญ่ค่อย ๆ เคลื่อนเข้าใกล้หญิงสาวทีละนิด เสียงครางหวานงึมงำในลำคอเบา ๆ ดังขึ้นเป็นระยะเมื่อถูกรบกวนการนอน หลังจากถูกปลายจมูกโด่งซุกไซ้เข้าที่ซอกคอ เผลอขยับเข้าหาอีกฝ่ายโหยหาไออุ่น

ความรู้สึกแปลกประหลาดปั่นป่วนชวนใจหวิวแผ่ซ่านไปทุกอณูของร่างกาย ใบหน้าสวยกึ่งหลับกึ่งตื่นเอียงคอเล็กน้อยเปิดทางให้อีกฝ่ายสูดเอากลิ่นกายเย้ายวนเข้าเต็มปอด ท้องน้อยวูบหวามส่งผลให้น้ำใสในกายหลั่งรินออกมาอย่างช่วยไม่ได้ จนต้องหนีบเรียวขาเข้าหากันแน่นบรรเทาอาการวูบวาบ

หน้าอกอิ่มถูกฟอนเฟ้นเคล้นคลึงอย่างหยาบโลน ก่อนที่ตะขอเสื้อในถูกปลดออกด้วยความชำนาญ ให้ก้อนเนื้อนุ่มนิ่มเป็นอิสระ เสื้อผ้าท่อนบนถูกชายหนุ่มรูดขึ้นจนพ้นศีรษะ

"อึก...อื้มมม~"

น้ำเสียงเมามายดังคลอเบา ๆ ยามริมฝีปากร้อนผ่าวเลื่อนลงมาสู่เนินอกและเริ่มครอบครองปลายยอดสีชมพูหวานตะกละมูมมามจนเกิดเสียงน่าอาย ลิ้นเปียกชื้นตวัดเลียมันอย่างหื่นกระหายสลับกับขบเม้มเบา ๆ

คลื่นความร้อนแล่นพล่าน ร่างเล็กบิดตัวไปมาด้วยความทรมานปนเสียวสะท้าน ปัดป่ายมือไปทั่วเตียงกว้างควานหาสิ่งยึดเหนี่ยว ก่อนจะคว้ากำหมอนนุ่มที่ใช้หนุนนอน เล็บทั้งสิบจิกแน่นระบายอาการแปลกประหลาดที่เกิดขึ้น ไอความร้อนรุ่มถาโถมเข้ามาทีละน้อยทำให้สมองเธอขาวโพลน สติอันเลือนรางลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ ได้แต่ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความฝันแสนวาบหวาม

ลิ้นสากยังคงปัดป่ายวนไปทั่วฐานจนเม็ดเชอร์รีเปียกชุ่มแข็งชูชัน พร้อมแรงบีบเคล้นเต้าอวบที่เริ่มหนักหน่วงยิ่งขึ้นตามแรงปรารถนา ลมหายใจของสองหนุ่มสาวในห้วงราคะถี่กระชั้น

"อ่าาาาส์~"

"อื้ออออ~"

ส่วนปลายยอดไวความรู้สึกถูกตวัดเลีย ดูดเม้มซ้ำ ๆ ทำหญิงสาวได้แต่นอนตัวอ่อนระทวย ความเสียววาบแปลกประหลาดที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนโลมเลียแผดเผาเธอจนร้อนเร่าไม่ต่างกับอยู่กลางกองเพลิง เพียงไม่กี่นาทีต่อมาท่อนล่างก็ถูกหนุ่มมากประสบการณ์ปลดเปลื้องออกโดยง่าย ร่างกายเย้ายวนเปลือยเปล่าแอ่นสะท้านจากความเย็นฉ่ำของแอร์และแรงกระสัน ขนในกายพร้อมใจกันลุกวูบ พยายามบดเบียดช่วงล่างเข้าหากายอุ่นร้อนของคนด้านบนอย่างโหยหา

มือหยาบกร้านข้างหนึ่งลูบไล้ไปทั่วผิวเนียนละเอียดจากสีข้างลากผ่านหน้าท้องแบนราบ ก่อนจะเลื่อนลงไปสำรวจเนินสาวแสนบอบบางตามสัญชาตญาณ อารมณ์กระสันก็ยิ่งพลุ่งพล่านเมื่อสัมผัสได้ถึงความฉ่ำเยิ้มที่ช่องน้อย นิ้วร้ายกรีดแยกไปตามร่องกลีบกุหลาบงามปิดสนิท ออกแรงกดดันนิ้วใหญ่ค่อย ๆ ชำแรกแทรกเข้าไปปลุกเร้าภายในช้า ๆ

ช่องทางรักแน่นขนัดบีบรัดนิ้วเรียวยาวแทบขยับเคลื่อนไหวไม่ได้ สีหน้าหญิงสาวเหยเกเจ็บแปลบชั่วอึดใจ หลังจากอีกฝ่ายเริ่มเคลื่อนไหวเข้าออกเบา ๆ เนิบนาบอยู่สักพัก ความวูบหวามเสียวซ่านก็เข้ามาแทนที่

"อื้มมมม~"

"อืออ อ๊ะ...อ๊าาา"

น้ำใคร่ในกายถูกเร่งเร้าให้ปลดปล่อยออกมามากยิ่งขึ้น จนนิ้วร้ายเคลื่อนไหวได้โดยสะดวก

คนตัวเล็กเหมือนลอยคว้างอยู่ในห้วงอวกาศ ร่างกายเบาหวิวไร้น้ำหนัก กระดกเอวขึ้นลงเข้าหาโดยดี สติรางเลือนเคลิบเคลิ้มจมดิ่งอยู่กับความสุขสันต์ที่เพิ่งเคยสัมผัสเป็นครั้งแรก ระดับแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปมากทำให้เธอไม่อาจแยกได้เลยว่าสิ่งที่กำลังรู้สึกอยู่ตอนนี้คือเรื่องจริงหรือเพียงแค่ฝันไป

จังหวะเชื่องช้าชวนฝันแปรเปลี่ยนเป็นเร่งเร้าหนักหน่วงและเรียกร้องมากขึ้น ก่อนจะรู้สึกอึดอัดจุกหน่วงที่เบื้องล่างเมื่ออีกฝ่ายเพิ่มจำนวนเข้ามา จากหนึ่งกลายเป็นสองและนิ้วที่สามก็ตามมาติด ๆ

ท้องน้อยบิดมวนอึดอัดจุกหน่วงแปลก ๆ สะโพกกลมกลึงยกร่อนไม่ติดเตียง พร้อมบิดกายเร่า ๆ บรรเทาอาการเสียวกระสันที่เพิ่มมากขึ้นทุกวินาที ชวนให้จะขาดใจ เปล่งเสียงครวญครางบ่งบอกถึงความทรมานแสนสุข

เสียงเฉอะแฉะลามกของน้ำใสกระทบกับนิ้วหนา ดังประสานคลอกับเสียงครางหวานหูของหญิงสาว กระตุ้นอารมณ์ชายหนุ่มจนพุ่งสูงไม่อาจรั้งรอได้อีกต่อไป

ความอึดอัดเสียวซ่านจางหายไปพร้อมเรียวขาถูกแยกออกจากกันกว้างขึ้น ร่างใหญ่โตร้อนรุ่มโถมทับลงมาแนบชิด บดเบียดเรือนร่างหนาเข้าหาจนแทบไม่เหลือพื้นที่ให้อากาศแทรกผ่าน และของแข็งร้อนผ่าวบางอย่างก็จ่อชิดปากทางเข้าแทน มันถูไถขึ้นลงซ้ำไปซ้ำมาทั่วเนินสาว ก่อนติ่งเล็กแสนอ่อนไหวจะถูกปลายหยักบดขยี้ย้ำ ๆ จนเธอเสียวสะบั้น ทำให้น้ำหวานจากดอกไม้งามไหลรินมากมายอาบชโลมแท่งเอ็นเสียวาววับ

"อึก!"

อาการจุกหน่วงเจ็บแปลบแทรกเข้ามา เปลี่ยนจากฝันดีเป็นฝันร้ายในชั่วพริบตา หญิงสาวพยายามกระเสือกกระสนถดกายหนีให้พ้นจากความรู้สึกทรมานนี้ แต่มันกลับเพิ่มมากขึ้นทุกวินาทีเมื่อความใหญ่โตมหาศาลกำลังเริ่มรุกรานเข้ามาในร่างกายเธอทีละน้อย ทะลวงฝ่าความคับแน่นมาอย่างจาบจ้วง

เธอดิ้นพล่าน กรีดร้อง มันทั้งเจ็บทั้งแสบราวกับร่างกายกำลังแตกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ไขว่คว้าหาทางออกแต่ก็ไม่อาจหลุดพ้นเสียที ทำได้เพียงร้องอู้อี้ในลำคอเมื่อริมฝีปากของชายปริศนากดแนบลงมาปลดชิงลมหายใจเธออย่างหื่นกระหาย ปิดกั้นเสียงเอาไว้

ลิ้นสากสอดล้วงลึกเข้ามาสำรวจ กวาดต้อนความหวานในโพรงปากชุ่มฉ่ำ ระดมจูบ ชิมรสชาติหวานล้ำจากปลายลิ้นเล็ก มือก็บีบขยำหน้าอกอิ่มปลุกเร้าอารมณ์หญิงสาวให้โอนอ่อนผ่อนคลาย การจู่โจมพร้อม ๆ กันทุกทาง ทำลายสติสตังอันน้อยนิดเสียราบคาบ ท้องน้อยบิดมวนเหมือนมีฝูงผีเสื้อบินวนอยู่ในนั้น

สะโพกสอบกระทุ้งเข้าออกเบา ๆ แต่ดุดัน ชำแรกแทรกลึกเน้นย้ำทุกจังหวะ กดเอวหนักๆ เสือกไสความร้อนผ่าวเข้ามาทีละนิด

หัวเธอขาวโพลน หูอื้อไปชั่วขณะ ความทรมานนี้เหมือนจะยาวนานไม่มีสิ้นสุด ร่างกายถูกฉีกคร่าเป็นเสี่ยง ๆ

คนด้านบนขยับเข้าออกไม่หยุด บั้นเอวหนัก ๆ ให้ความร้อนเบียดแทรกสัมผัสสร้างความสนิทสนมทุกส่วนลับด้านใน พร้อมเสียงหอบกระเส่าเซ็กซี่ดังคลอไปด้วย บ่งบอกถึงระดับความพึงพอใจกับความสุขที่ได้รับ เธอแอ่นสะท้านสะบัดหน้าบรรเทาความเจ็บปวด แต่กว่าจะรู้ตัวมันก็เปลี่ยนเป็นวาบหวามอีกครั้ง

ร่างเล็กโยกไหวไปตามแรงกระแทกหนักหน่วง เธอหอบหายใจราวกับจะขาดใจเมื่ออีกฝ่ายยอมละริมฝีปากออกให้เธอได้สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด

ปึก ปึก ปึก

"อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊าาา"

"อื้มมมม...เชี่ย! ดีฉิบหาย"

"อึก...อ๊า...อ๊าาาา"

"อ่าาาาาส์~ แม่งเอ๊ย! แน่นจนปวด"

มือน้อยเลื่อนขึ้นไปกอดร่างกายใหญ่โตเอาไว้เป็นสิ่งยึดเหนี่ยว ท้องน้อยเสียววาบเป็นระลอกคลื่น ยามความใหญ่โตเสียดสีเข้ามาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ล้วงลึกเข้าไปถึงจุดที่ไม่เคยมีอะไรเข้าถึง กระทุ้งชนผนังด้านในจนจุกท้อง แต่แรงกระสันกลับยิ่งเพิ่มพูน

เสียงหอบกระเส่าข้างหูทำให้ขนในกายลุกเกรียว เรียวขาที่อ้ากว้างสั่นระริก จิกปลายเท้าเข้าหาที่นอนนุ่ม พลิ้วเอวขึ้นลงรับความสุขที่เพิ่งเคยสัมผัสเป็นครั้งแรก ดื่มด่ำไปกับรสชาติเร่าร้อนแสบสันที่หนุ่มปริศนามอบให้โดยไม่มีทางหนี

เสียงครางของสองหนุ่มสาวดังออกมาไม่ขาด เหมือนเธอกำลังอยู่บนรถไฟเหาะสูงนานนับชั่วโมง มันวูบโหวงเสียวซ่านปั่นป่วนร้อนรุ่มไปทั้งร่างชวนน่าสับสน

เหงื่อเย็นเม็ดเล็กผุดขึ้นตามกรอบหน้า ร่างกายเปลือยเปล่าเหนียวเหนอะของทั้งคู่ยังคงเคลื่อนไหวสอดประสานกันไม่หยุด ร่างเธอถูกจับพลิกหลายตลบจนมึน สัมผัสกับขอบสวรรค์นับครั้งไม่ถ้วน ผิวกายขาวเนียนละเอียดไม่มีสักตารางนิ้วเดียวที่ไม่ถูกแตะต้อง มันเป็นความฝันที่แปลกประหลาดแต่กลับสุขสมจนไม่อยากจะตื่นขึ้นมา

กว่าทุกอย่างในห้องจะกลับไปสงบอีกครั้งก็กินเวลาไปหลายชั่วโมง สองร่างเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อกอดก่ายกันแนบแน่นซึมซับรสชาติความสุขที่เพิ่งจบลง ก่อนสติอันพร่าเลือนของคนทั้งคู่จะดับลงแทบจะพร้อมกัน