ตอนที่ 5 ความจริงหรือฝัน
ตอนที่ 5
ริมฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา บรรดาผู้คนกำลังพากันมุงดู เจ้าหน้าที่กู้ภัยทำการปั๊มหัวใจให้กับหญิงสาวคนหนึ่งที่กระโดดสะพานฆ่าตัวตายในยามค่ำคืนแบบนี้ โชคยังดีที่เรือนักท่องเที่ยวผ่านมา แล้วมีคนเสี่ยงชีวิตช่วยหญิงสาวขึ้นมาจากน้ำ ต่อจากนั้นพลเมืองดีคนอื่นก็แจ้งกู้ภัยให้มาช่วยเหลือหญิงคนนี้ที่หัวใจหยุดเต้นไปแล้ว
หลังจากที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยปั๊มหัวใจพร้อมกับผายปอดไปได้สักพัก หญิงสาวคนนี้ก็สำลักน้ำออกมา แล้วชีพจรกลับมาเต้นอีกครั้งหนึ่ง
ลินดารู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะและตามเนื้อตัว หญิงสาวพยายามหายใจเอาอากาศเข้าไปลึก ๆ ก่อนที่จะปรือเปลือกตาขึ้นอย่างยากลำบาก
“ฟื้นแล้ว”
ลินดาเหมือนได้ยินเสียงผู้คนโห่ร้องด้วยความยินดี หญิงสาวพยายามเพ่งมองไปรอบ ๆ ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนกันแน่ ก่อนที่สติสัมปชัญญะจะดับลงอีกครั้ง
บ่อน้ำร้างท้ายจวนสกุลฉิน
“ท่าน ท่านหายไปไหน”
มู่หลันร้องเรียกหาสตรีอีกนาง ที่หายตัวไปต่อหน้าต่อตา แต่ไม่ว่าจะเรียกเท่าไรก็ไม่มีวี่แววว่านางจะปรากฏตัวอีกเลย
“ท่านกลับมาก่อน อย่าทิ้งข้าไว้คนเดียว”
หญิงสาวตะโกนเสียงสั่น อยากให้สตรีแปลกหน้ากลับมาหาตนเอง แม้ว่าจะไม่สามารถช่วยอะไรได้ก็ตาม แต่มาอยู่เป็นเพื่อนให้อุ่นใจ ดีกว่าต้องอยู่เพียงลำพังในสถานที่คับแคบและมืดสลัวนี้
ก่อนที่เทพเซียนของนางจะหายตัวไป มู่หลันเห็นนางมีอาการแปลก ๆ และทำสร้อยคอเส้นหนึ่งหล่นลงไปในน้ำที่มีอยู่เสมอหัวเข่า หญิงสาวจึงลงมือควานหาสายสร้อยเส้นนั้น ไม่นานก็พบจนได้
มู่หลันล้างเศษดินออกจากสายสร้อย แล้วใส่ลงไปในถุงผ้า หวังไว้ว่าคงจะมีโอกาสได้คืนให้กับเจ้าของที่แท้จริง
“หวังว่าท่านจะกลับมา อย่างไรเสียท่านก็ต้องเป็นเทพเซียนที่จะมาช่วยข้าแน่”
โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง
...อย่างไรเสีย ท่านก็ต้องเป็นเทพเซียนที่จะมาช่วยข้า...
ลินดาที่เริ่มฟื้นคืนสติ คล้ายกับได้ยินเสียงหนึ่งล่องลอยมาไกลแสนไกล หญิงสาวขยับเปิดเปลือกตาขึ้น พบว่าตัวเองอยู่ในห้องสีขาวห้องหนึ่ง
“น้ำ ขอน้ำหน่อย” ลินดารู้สึกคอแห้งผากเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
“ดา แกฟื้นแล้ว” เสียงสองเสียงดังขึ้นประสานกัน ก่อนที่หญิงสาวสองคนจะเดินมาหยุดอยู่ใกล้เตียง
“เบล อั้ม หิวน้ำ”
อั้มรีบรินน้ำใส่แก้ว ก่อนจะนำมาให้ คนป่วยดื่ม หลังจากได้ดื่มน้ำเข้าไป ลินดารู้สึกสดชื่นขึ้นมามาก จึงยันกายลุกขึ้นนั่งโดยมีเบลล่าช่วยพยุง
“ที่นี่ที่ไหน” ลินดามองไปรอบ ๆ ตัว ก็พอจะรู้แล้วล่ะว่าคงเป็นโรงพยาบาลแน่ ๆ “ฉันมาอยู่นี้ได้ยังไง”
เบลล่าลากเก้าอี้มานั่งใกล้เตียง มองหน้าเพื่อนสาวอย่างเอาเรื่อง
“ดา แกจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ ว่าแกคิดสั้นกระโดดสะพาน โชคยังดีถึงแม้เป็นเวลากลางคืน แต่ยังมีคนลงไปช่วยขึ้นมาได้ เห็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยเขาบอกฉันว่าแกหยุดหายใจไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ช่วยปั๊มจนคืนมาได้ ดาแกทำแบบนี้ทำไม แค่ผู้ชายคนเดียว แกไม่คิดถึงหัวอกคนเป็นพ่อแม่หรือเพื่อน ๆ ที่เป็นห่วงแกบ้างหรือไง” เบลล่าร่ายยาว
“ฉันน่ะหรือคิดสั้น บ้าไปแล้ว ฉันแค่ไปนั่งเล่น พอได้ยินเสียงคนร้องทัก กำลังคิดจะปีนกลับ แต่ดันพลาดจนตกลงไปในน้ำ จนไปโผล่ที่...” ลินดาชะงักคำพูดประโยคต่อมา ยามที่คิดถึงเหตุการณ์ที่เธอไปโผล่ในหนังสือนิยายจีนโบราณ
เรื่องมหัศจรรย์นี้เป็นความฝันหรือความจริงกันแน่ หากเป็นเพียงความฝัน ช่างเป็นฝันที่เหมือนจริงมากเหลือเกิน แล้วถ้านั้นไม่ใช่ความฝันล่ะ ปานนี้มู่หลัน นางจะเป็นอย่างไรบ้าง ที่อยู่ ๆ เธอก็หายตัวมาแบบนี้
ระหว่างที่ลินดากำลังคิดหนักว่า ความจริงคืออะไรกันแน่ อั้มที่สำรวจข้าวของในกระเป๋าของเพื่อนอยู่ ได้ร้องทักขึ้น
“ดา ของทุกอย่างในกระเป๋าน่าจะอยู่ครบ แต่เท่าที่ฉันดูสร้อยคอที่แกสวมประจำน่าจะหล่นหายตอนตกลงไปในน้ำแน่เลย”
เท่านั้นแหละ...ลินดาลูบไปที่ลำคอของตัวเอง ก่อนจะนึกออกว่าเธอทำหล่นตอนที่อยู่ในบ่อร้างต่างหาก แสดงว่าเรื่องที่เธอข้ามมิติไปในหนังสือเป็นเรื่องจริง
ไม่ได้การ มู่หลันยังรอให้เธอกลับไปช่วยอยู่ จะมัวแต่มานอนบนเตียงอยู่นี้ไม่ได้
การกระทำไวเท่าความคิด ลินดาตั้งท่าจะลุกจากเตียง เพื่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดคนป่วยมาเป็นชุดปกติ
“ดา จะไปไหน” เบลล่าถามขึ้น รีบมาช่วยประคองเพื่อนสาวทันที
“กลับบ้าน ฉันมีบางอย่างต้องกลับไปทำ เสื้อผ้าของฉันอยู่ไหน”
“ยังกลับตอนนี้ไม่ได้ หมอยังไม่ได้บอกให้กลับเลย” อั้มประท้วง
“พวกแกสองคนฟังนะ ฉันมีเรื่องสำคัญต้องไปทำจริง ๆ” ลินดาเสียงเข้ม เธอไม่รู้หรอกว่าจะข้ามมิติไปได้ด้วยวิธีไหน แต่เธอจะลองไปกระโดดสะพานที่ที่เธอเคยตกไป ซึ่งมันน่าจะได้ผลสิ
“เรื่องอะไร จะสำคัญกว่าชีวิตของแกว่ะดา” เบลล่าดันให้ลินดากลับไปนั่งลงบนเตียง
“ถ้าพวกแกรู้ ต้องคิดว่าเป็นเรื่องคอขาดบาดตายจริง ๆ ตกลงฉันจะเล่าให้ฟัง”
แล้วลินดาก็เล่าเหตุการณ์หลังจากตกไปในน้ำให้เพื่อนทั้งสองฟัง แบบไม่มีปิดบัง หลังจากที่เล่าจนจบ เธอก็พบกับสีหน้าแววตาที่ไม่เชื่อของเบลล่ากับอั้ม นอกจากนี้แววตาของทั้งสอง ยังมองลินดาราวกับว่าตอนนี้เริ่มกลายเป็นคนสติไม่ดี
“ไม่เชื่อที่ฉันเล่าใช่ไหม” ลินดาถาม ทั้งที่ไม่จำเป็น จะมีใครหน้าไหนที่จะเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติแบบนี้กันเล่า
“จะให้พวกเราเชื่อว่า แกเข้าไปในหนังสือนิยายเล่มนี้...อืม...มันน่าเหลือเชื่อเกิน” อั้มพูด
“ฉันว่า เราไปบอกหมอให้สแกนสมองของดาดูไหม หรือหมอจิตเวชก็ได้” เบลล่าหันไปปรึกษาอั้ม
“ฉันไม่ได้บ้า” ลินดาเริ่มเสียงดัง ด้วยความหงุดหงิด
ลินดาทั้งหงุดหงิดทั้งมีอารมณ์โมโห ที่นอกจากเพื่อนจะไม่ยอมเชื่อแล้ว ยังหาว่าเธอเป็นบ้าสติไม่ดีอีก หญิงสาวกำลังจะระเบิดอารมณ์ออกมาใส่เพื่อนทั้งสอง แต่ว่าหมอกับพยาบาลเดินเข้ามาในห้องพิเศษเสียก่อน
“คนไข้รู้สึกตัวนานแล้วหรือครับ หมอขอตรวจร่างกายหน่อย”
หมอหนุ่มลงมือตรวจร่างกาย พร้อมกับสอบถามอาการของหญิงสาวอย่างละเอียด ระหว่างที่หมอกำลังตรวจอยู่ ลินดาก็เอ่ยปากถามขึ้น
“คุณหมอค่ะ ดิฉันอยากกลับบ้านวันนี้ได้หรือเปล่าคะ”
“อืม...ถ้าคนไข้ต้องการก็ได้ครับ หมอตรวจดูแล้วก็ไม่มีอาการอะไรผิดปกติ ถ้าอย่างนั้นหมออนุญาตให้กลับไปพักฟื้นที่บ้านแล้วกัน”
“ขอบคุณค่ะหมอ” ลินดายิ้มออกมา
พอหมอกับพยาบาลออกไปแล้ว ลินดาที่อารมณ์เย็นขึ้นมากก็หันไปกล่าวขอโทษเพื่อนทั้งสองที่อารมณ์เสียใส่
“ขอโทษนะเบล อั้ม”
“ไม่เป็นไร ฉันไปจ่ายค่ารักษาให้แกก่อนแล้วกัน” อั้มตบไหล่เพื่อนเบา ๆ ก่อนจะออกจากห้องไป
“ไม่ต้องขอโทษฉันหรอก ฉันเข้าใจ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ” เบลล่าเอ่ยตอบ