บทที่6
ระหว่างทางลงเขาจนถึงบ้านนั้น มีชาวบ้านทักตลอดทาง ต่อให้บุรุษบ้านหวังพยายามทำตัวปกติแค่ไหนก็มีคนสงสัยอยู่ดี โดยเฉพาะ นางไฉ่หง เพื่อนสาวของนางจากชุนสะใภ้รองบ้านหวัง
"โอโยว เจียวจิ้นพวกเจ้ากับบุตรชายแบกอะไรลงมากันมากมายเพียงนี้" มู่หลินปรายตามองนางไฉ่หง ที่เป็นสาวอวบเกือบจะอ้วนแล้ว โบกแป้งหนาจนคิดว่าใช้แป้งสาลีทาหน้า ปากที่แดงจนแทบจะเรียกได้ว่าแดงจนเหมือนคนกินเลือดมา ทำไมแต่งแบบนี้ถึงกล้าออกจากบ้านกันนะ
"ข้าได้ผักป่ากับปลามานิดหน่อย" บิดาแสนซื่อของข้านั้นตอบกลับอย่างว่าง่ายทันที
นางไฉ่หงที่ถือวิสาสะเดินมารื้อตะกร้า ไวกว่านางไฉ่หงก็มู่หลินนี่แหละ นางดีดก้อนหินไปที่ข้อเท้านางไฉ่หง ทำให้นางไฉ่หงสะดุดล้มหน้าทิ่มดิน แถมดินยังเข้าปากเพราะมั่วแต่พูดมากไม่ทันได้หุบปากตอนล้มลง ปากที่แดงอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งแดงเข้าไปอีกเพราะเป็นเลือดที่ไหลออกมาจากฟันที่หักไปซี่หนึ่ง
"กรี๊ดดดด พวกเจ้าพลักข้าใช่หรือไม่" ดีที่บุรุษบ้านหวังทั้งสามยืนห่างนางไฉ่หงตั้งห้าก้าว แล้วชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ก็ช่วยพูดให้ด้วย เพราะเป็นนางไฉ่หงที่ล้มลงไปเอง
"นี่ ไฉ่หง เจ้าล้มเองแล้วจะโทษเจียวจิ้นกับบุตรได้อย่างไร" นางเจียงอิน สะใภ้ใหญ่ของบ้านหาน ที่มีมิตรไมตรีต่อบ้านของเจียวจิ้นอย่างดี ชาวบ้านคนอื่นๆก็พยักหน้าพร้อมทั้งบอกเห็นด้วย
"ข้าว่าเจ้าไปหาหมอก่อน พวกเจ้าก็พานางไฉ่หงไปส่งบ้านแล้วเรียกหมอหู่มาดู" แม่เฒ่าหานเอ่ยสำทับลูกสะใภ้ให้รีบพานางไฉ่หงไปส่งบ้านพร้อมทั้งตามหมอมาดูด้วย
นี่ขนาดยังเดินไม่ถึงบ้านก็มีปัญหาแล้ว ถ้าหากขายได้เงินมาไม่รู้จะมีปัญหาขนาดไหน มู่หลินที่รำคาญพวกชาวบ้านหนึ่งชาวบ้านสอง ก็นึกอย่างหัวเสียจนถึงบ้าน ถ้าเป็นภพก่อนไม่ต้องรอให้โดนคนว่าหรอกแค่คิดจะเอ่ยปาก มู่หลินก็คงฆ่าทิ้งทันที
พอกลับถึงบ้านเจียวโจวก็รีบปิดประตู อย่างหนาแน่น ผู้นำครอบครัวอย่างเจียวจิ้นก็เรียกทุกคนมานั่งที่โถงกลางแล้วปรึกษากันทันที
"ข้าว่านำไปขายให้ร้านยาวันนี้เลยท่านพ่อ เวลายังเหลือยังไม่เข้ายามเว่ย(13.00-14.59น.) เดินทางเข้าเมือง ครึ่งชั่วยาม(1ชั่วยาม=2ชั่วโมง / ครึ่งชั่วยาม=1ชั่วโมง)ก็ถึง ถ้ายังไม่ขายคืนนี้ข้าคงนอนไม่หลับ" เมื่อพี่ใหญ่พูดจบทุกคนก็พยักหน้าเป็นไก่จิกเลยทีเดียว ยกเว้นก็แต่มู่หลิน
"ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าว่านำดอกขนาดกลางสามดอกกับขนาดเล็กห้าดอกไปขายก่อน ถ้าขายมากไปจะเกิดอันตรายได้เจ้าค่ะ" มู่หลินที่ออกความเห็นไปนั้น ทุกคนคิดตามก็พบว่าเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล
"แล้วที่เหลือจะทำเช่นใด เก็บในบ้านพ่อก็กลัวชาวบ้านจะรู้ แล้วโจรจะเข้ามาปล้น" มู่หลินรู้สึกว่านางต้องบอกความลับกับครอบครัวแล้ว ก่อนที่ทุกคนจะหวาดระแวงกับเห็ดหลินจือกองนี้ พอจะรวยก็มีเรื่องเครียดของคนรวย มู่หลินได้แต่ถอนหายใจ
"ทุกท่านดูนี้นะเจ้าค่ะ" มู่หลินที่ยื่นมือข้างที่มีกำไลไปที่กองเห็ดแล้วพูดเบาๆว่าเก็บ กองเห็ดตรงหน้าหายไปทันที บุรุษทั้งสามเมื่อเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็สะดุ้งตกใจ พี่รองถึงกลับล้มจากเก้าอี้ มีท่านแม่ถึงจะตกใจแต่ก็รักษากิริยาไว้ได้
"หลินเออร์/หลินเออร์"
"น้องเล็ก/เจ้า" แต่ละคนกว่าจะหาเสียงเจอก็ได้แต่เรียกชื่อมู่หลินเท่านั้น
พี่ใหญ่ที่ได้สติเร็วที่สุด วิ่งออกไปนอกห้องโถงแล้ววนดูรอบบ้านว่ามีใครแอบมามองหรือไม่ พอกลับมาทุกคนก็เริ่มกลับมามีสติแล้ว
"นี่คือสิ่งที่ข้าได้บอกท่านพ่อกับท่านพี่ตอนอยู่บนเขาว่ากลับถึงบ้านข้ามีเรื่องจะบอก" จากนั้นมู่หลินก็เล่าเหตุการณ์ว่าตั้งแต่ที่นางหลับไปสามวัน เหมือนฝันไป เป็นฝันที่เลวร้ายแต่ก็เหมือนจะดี ที่นางเป็นเด็กกำพร้า แล้วมีคนรับเลี้ยงแต่ก็เลี้ยงแบบหวังผล(ไม่ได้บอกเรื่องเป็นนักฆ่า) สอนให้รู้จัดการเอาตัวรอด การต่อสู้ วิชาการแพทย์ของโลกนั้น และการแพทย์แบบในยุคนี้ (ที่นางยอมเล่าเกือบหมดเพราะถ้าวันไหนเก่งขึ้นมาจะได้ไม่ต้องนั่งถามหรือสงสัยอีก)
มู่หลินบอกทุกคนว่านางทั้งเหงาและคิดถึงทุกคนแต่ไม่ตื่นสักที จนวันที่นางถูกรถชน ก็เหมือนรถม้าแต่เป็นเหล็กมู่หลินอธิบายแบบนี้ นางถึงได้ฟื้นมาพบทุกคนอีกครั้ง ระหว่างที่มู่หลินเล่านั้นทุกคนหลั่งน้ำตาตลอดเวลาเพราะเกือบจะเสียลูกสาวเสียน้องเล็กไป มู่หลินบอกทุกคนว่ามีท่านยายใจดีให้กำไลมา บอกว่าให้มู่หลินเตรียมตัวเพื่อกลับบ้าน มู่หลินจึงพาทุกคนเข้าไปในมิติเพื่อดูของที่นางซื้อมา
เมื่อทุกคนได้เห็นทุกอย่างในมิติพร้อมทั้งข้าวของต่างๆก็ยิ่งตกใจ มู่หลินเลยให้ทุกคนนั่งพักเพื่อสงบสติก่อน นางจะเป็นคนทำอาหารเอง ก็คือทำในมิติให้ทุกคนกินในนั้น แต่ท้องอิ่มอาจจะมีสติเพิ่มขึ้น
หลังกินอาหารกันแล้ว ทุกคนกินข้าวได้เยอะขึ้น เพราะเป็นข้าวสวยที่เม็ดข้าวเต็ม ไม่ใช่ปลายข้าวกับน้ำข้าว หลังมื้ออาหารทุกคนลงความเห็นกันว่าพรุ่งนี้ค่อยไปขายเห็ดแล้วเก็บที่เหลือไว้ในมิติของมู่หลิน
ค่ำคืนนั้นคนบ้านหวังของเจียวจิ้นก็มีปฏิญาณเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคือเรื่องของมู่หลินจะต้องเป็นความลับของครอบครัวการปกป้องดูแลมู่หลินนั้นทุกคนปกป้องมาตลอดอยู่แล้ว
เจียวจิ้นกับเหมยฮวาถึงกลับนอนไม่หลับเพราะฟังเรื่องวิญญาณของมู่หลินหลุดออกไปที่อื่น ถ้าลูกสาวกลับมาไม่ได้จะเป็นเช่นไร เจียวจิ้นถึงกับคิดว่าถ้านางจางซิงกับนางจางชุนมาหาเรื่องอีกเขาจะจัดการขั้นเด็ดขาด นางเหมยฮวาก็คิดว่าตนเองต้องเข้มแข็งกว่านี้เพื่อต่อต้านคนที่คิดร้ายกับลูกสาวเพราะนางไม่ต้องการเสียลูกสาวไปอีกแล้ว
พี่ใหญ่กับพี่รองก็คิดว่าต่อจากนี้ไปต้องให้น้องเล็กฝึกการต่อสู้ให้ตนเองเพื่อจะได้ปกป้องน้องเล็กและครอบครัวได้ อีกสิ่งหนึ่งที่สองพี่น้องต้องทำให้ได้คือ น้องเล็กต้องการให้ทั้งคู่เข้าสำนักศึกษาถึงจะสอบไม่ได้แต่ต้องมีความรู้ติดตัว ทุกคนมีความคิดที่ต่างกันแต่จุดหมายที่เหมือนกันคือปกป้องความลับและดูแลมู่หลิน แต่มู่หลินนั้นนอนหลับฝันดีไปแล้ว