บทที่7
เช้าที่สดใสของมู่หลินคนเดียว เพราะคนอื่นนั้นขอบตาดำเนื่องจากแทบไม่ได้นอนเลย มู่หลินที่เหมือนยกหินออกจากอกก็ดูอารมณ์จะดีเป็นพิเศษ นางสามารถเอาของในมิติออกมาทำกินได้แล้ว ท่านแม่ให้เติมข้าวสารแค่ครึ่งถัง กับเครื่องปรุงที่เอาออกมาวางไว้ได้ก็มีแค่เกลือกับน้ำตาลอย่างละนิดหน่อย หากใครมาที่บ้านแล้วเห็นของมากมายคนจจะสงสัยเอาได้
อาหารที่มู่หลินทำเช้านี้ นางไม่ได้ทำอะไรมากเพราะเป็นมื้อเช้า มู่หลินต้มข้าวต้มหมูสับ ทอดปาท่องโก๋กินคู่กัน แล้วนางยังนำนมออกมาบำรุงทุกคนในบ้านด้วยเพราะเนื่องจากขาดสารอาหารเป็นเวลานานร่างกายแต่ละคนจึงผอมเกินไป พี่ใหญ่ พี่รองและตัวมู่หลินนั้นก็ดูจะไม่โตเต็มวัยเหมือนเด็กในรุ่นเดียวกัน
หลังจากกินอาหารเช้าแล้วท่านพ่อพาบุตรทั้งสามเดินทางเข้าเมือง ท่านแม่นั้นไม่ไปด้วยเพราะต้องการตัดชุดให้กับทุกคนแทน เมื่อคืนก่อนออกจากมิติมู่หลินพาท่านแม่ไปเลือกผ้าที่จะใช้ตัดชุดผ้าที่มู่หลินซื้อมาเก็บไว้นั้นมีทั้งผ้าฝ้ายเนื้อหยาบไปจนถึงผ้าไหมเนื้อดี ถ้าต้องให้ท่านแม่เป็นคนเลือกเพราะชาวบ้านจะได้ไม่สงสัยเกินไป ผ้าฝ้ายเนื้อหยาบที่ชาวบ้านทั่วไปใช้ใส่ทำงานนั้นหนึ่งพับประมาณ100-200อีแปะ ชาวบ้านโดยทั่วสามารถซื้อมาตัดชุดได้2-3ชุดต่อพับ
ค่าเงิน
1 อีแปะ หรือ 1 เหรียญทองแดง
100 อีแปะ = 1ตำลึงเงิน(หรือ1ก้วน)
10 ตำลึงเงิน = 1 ตำลึงทอง
ตั๋วเงิน คือ แผ่นกระดาษที่ออกให้ใช้แทนเหรียญทองแดงหรือตำลึง ที่มีมูลค่าสูง สะดวกมากกว่าการพกเหรียญหนักๆ
เจียวจิ้นพาบุตรทั้งสามเดินเท้าครึ่งชั่วยามก็ถึงประตูเมือง ถ้าหากเข้าเมืองจะต้องเสียค่าเข้าคนละสองอีแปะ ชาวบ้านทั่วไปถ้าไม่มีเรื่องจำเป็นก็ไม่อยากจะเสียเงินเข้าเมืองจึงทำให้มีพ่อค้าซื้อของจากในเมืองเพื่อไปเร่ขายตามหมู่บ้านหรือผู้ใหญ่บ้านหมู่ไหนมีใจเมตตาต่อลูกบ้านก็จะรับอาสาซื้อของให้ตอนเข้ามาทำธุระในเมือง
เจียวจิ้นแม้จะเข้าเมืองเพื่อขายของป่ากับสัตว์ป่าให้เหลาอาหารแล้ว ก็ยังไม่เคยทำการค้ากับร้านขายสมุนไพรหรือโรงหมอเลย มู่หลินจึงรับอาสาถามแม่ค้าท่าทางใจดีว่าต้องการนำสมุนไพรมาขายร้านไหนที่ให้ราคายุติธรรมไม่เอาเปรียบบาง แม่ค้าก็แนะนำให้ไปร้านถังหมิง ถึงจะเป็นร้านไม่ใหญ่แต่ให้ราคาเป็นธรรมแน่นอน หลังจากขอบคุนแม่ค้าแล้วเจียวจิ้นก็พาบุตร
เดินตามทางที่แม่ค้าได้บอกไว้จนมาถึงร้านยาถังหมิง เสี่ยวเอ้อ หน้าร้านก็ตอนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มไม่แสดงอาการรังเกียจหรือดูหมิ่นบ้านหวังทั้งสี่ ที่ใส่เสื้อผ้าแทบจะมีแต่รอยปะชุนรอบตัว
"ไม่ทราบว่ามาซื้อหรือมาขายสมุนไพรหรือต้องการพบหมอขอรับ"
"ข้านำสมุนไพรมาขาย รบกวนช่วยแจ้งหลงจู๊ให้ด้วยขอรับ" เจียวจิ้นที่แจ้งจุดประสงค์อย่างนอบน้อม
"รอประเดี๋ยวขอรับ ข้าน้อยจะไปแจ้งหลงจู๊ให้ เชิญพวกท่านมารอที่ห้องตรวจสินค้าก่อนขอรับ" เสี่ยวเอ้อพาบ้านหวังทั้งสี่ไปนั่งในห้องรอแล้วก็หายไปด้านหลังแค่ช่วงสามลมหายใจก็กลับมาพร้อมชายวัยกลางคน
"ไม่ทราบว่าพวกท่านนำสมุนไพรอันใดมาขายหรือ" มู่หลินที่พิจารณาหลงจู๊ก็ดูจะพอใจกับการต้อนรับครั้งนี้มาก
เจียวจิ้นหยิบเห็ดหลินจือดอกขนาดกลาง หนึ่งดอก และขนาดเล็กอีก สองดอก ออกมาวาง ที่ยังไม่เอาออกมาตามจำนวนที่คิดจะขายนั้น เพราะมู่หลินต้องการตรวจสอบเรื่องราคาและความน่าเชื่อถือก่อน
หลงจู๊ที่เห็นเป็นเห็ดหลินจือก็รู้แล้วว่าตนนั้นไม่มีอำนาจใจการซื้อขายครั้งนี้จึงได้รีบร้อนขอตัวออกไปตามท่านหมออู๋ ที่เป็นทั้งหมอแล้วเจ้าของร้านด้วย พอทราบว่ามีคนนำเห็ดหลินจือแดงมาขายก็รีบแทบจะกลายเป็นวิ่งมาดู เพราะก่อนหน้านี้สองวันทางเมืองหลวงแจ้งมาว่าต้องการเห็ดหลินจือแดงราคาไม่เกี่ยง คนในวังต้องใช้ แต่ไม่อาจทราบได้ว่าเป็นผู้ใด
"สวรรค์เมตตาโรงหมอเล็กๆของข้าแล้ว" หมออู๋นั้นแสดงอาการออกมาโดยไม่สนใจบ้านหวังทั้งสี่คนเลย จนหลงจู๊ต้องเอ่ยเตือนผู้เป็นนาย
"ขออภัย ขออภัย ขอไม่ปิดบังทางเมืองหลวงต้องการเห็ดหลินจือแดงเป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีใครนำมาขายนานมากแล้ว ข้าจะให้ราคาที่ดีที่สุด ไม่เอาเปรียบพวกเจ้าอย่างแน่นอน ข้าหมออู๋ อู๋หลาง" หมออู๋แนะนำตัวพร้อมรีบเจรจาเพราะกลัวบ้านหวังจะไม่ขายให้
"ข้าน้อยหวังเจียวจิ้น บุตรชายคนโตหวังเเจียวโจว บุตรชายคนรองหวังเจียวจ้าน บุตรสาวคนเล็กหวังมู่หลินขอรับ"
"ข้าให้ดอกใหญ่ 1,500 ตำลึงทอง ดอกเล็ก 900 ตำลึงทอง พวกเจ้ายอมรับหรือไม่" บุรุษบ้านหวังทั้งสามนั้นเสียอาการไปแล้ว สติหายไปหมด เหลือเพียงแค่มู่หลินที่ยอมรับกับราคานี้เพียงคนเดียว
"ถ้ามีอีกพวกเจ้ามาขายที่ร้านข้าได้เลย ข้ารับทั้งหมด แล้วเรียกข้าว่าท่านปู่แล้วกัน" หมออู๋นั้นพอใจกับท่าทีของมู่หลินอย่างมากที่เก็บอารมณ์ได้แล้วยังสามารถเจรจาได้เป็นอย่างดี
"ท่านลุง/ท่านปู่/ท่านปู่/ท่านปู่" ทุกคนขานรับอย่างว่าง่าย
"ท่านปู่อู๋ ความจริงแล้วพวกข้ายังมีอีกท่านรับซื้อทั้งหมดหรือไม่" มู่หลินขายทั้งหมดที่เคยคุยไว้ก่อนหน้านี้ เพราะนางต้องการจะสร้างบ้านใหม่ให้ทันก่อนฤดูหนาว
"รับสิ รับทั้งหมด เอาออกมาเลย"หมออู๋ทั้งตกใจและดีใจ ที่โรงหมอจะได้มีหน้ามีตาจากการหาเห็ดหลินจือแดงส่งเข้าวังหลวงได้ ราคาที่หมออู๋ให้ถือว่ามากกว่าราคาปัจจุบันมากนัก ด้วยที่ตอนนี้เป็นของที่ต้องการอย่างมากและมีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง
มู่หลิน ให้ท่านพ่อนำดอกขนาดกลางออกมาอีก สองดอก และดอกเล็กอีก สามดอก หมออู๋ตกใจแล้วตกใจอีกเพราะไม่คิดว่าครอบครัวนี้จะโชคดีเจอเยอะขนาดนี้ แต่ถ้าหมออู๋รู้จำนวนดอกที่แท้จริง แล้วยังมีดอกที่ใหญ่กว่านี้ไม่รู้ว่าจะตกใจจนหัวใจวายเลยหรือไม่