บทที่ 19
มาทิลด้ารออยู่จนเมื่อเสียงฝีเท้าของเขาจางหายไปแล้วจึงเลื่อนร่างลงจากเตียงด้วยความปราโมทย์ในใจเอื้อมไปหยิบผ้าขนสัตว์ขึ้นมาคลุมไหล่ก่อนจะสาวเท้าเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าต่างและทอดสายตามองออกไปภายนอก สายลมเย็นเยือกพัดมาต้องพวงผม เธอเงี่ยหูฟังสรรพสำเนียงต่างๆที่เริ่มเคลื่อนไหวอยู่เบื้องล่าง
มันเป็นยามเช้าของวันที่บรรยากาศเต็มไปด้วยความสลัว อาทิตย์ที่ลอยดวงอยู่เหนือขุนเขาทางด้านทิศตะวันออกถูกปกคลุมอยู่ด้วยม่านหมอกหนาทึบจนแสงแทบจะส่องลอดออกมาไม่ได้เลย
เธอกวาดสายตามองไปรอบห้อง รู้สึกสะท้านเล็กน้อย บรรยากาศภายในห้องนี้ไม่น่าสบายเลยโดยเฉพาะเมื่อตกอยู่ในแสงอันเยือกเย็นของยามเช้า มาทิลด้าบอกตัวเองว่าขณะนี้เธอเป็นอิสระจากเบอร์ธาแล้ว เธอได้เป็นนายหญิงแห่งปราสาทนี้หรืออย่างน้อยก็ในเวลาอีกไม่นาน ขณะเดียวกันก็เป็นอิสระจากจริตราคะของสามีจนกว่าลูกจะคลอดออกมา เมื่อคิดมาถึงตอนนี้เธอยิ้มออกมาได้อย่างเปรมปลื้ม ตลอดเวลาสองเดือนที่ผ่านมาเธอไม่เคยรู้สึกว่าจิตใจของตัวเองเข้มแข็งเท่าวันนี้เลย เธอรู้ว่ามันจะไม่มีการเสี่ยงอันตรายเกิดขึ้นอีกต่อไป ไม่ว่ากับลูกหรือกับตัวเอง
แต่แล้วเหนือคิ้วก็มีรอยขมวดมุ่นเกิดขึ้น เมื่อเธอนึกไปถึงฝันร้ายที่เกิดขึ้นเมื่อสามคืนก่อน มาทิลด้าพยายามสลัดความคิดถึงเรื่องนั้นออกไปเสีย ไม่ว่าความฝันจะหมายถึงอะไรก็ตาม เธอไม่ยอมให้มันมาทำลายความตื่นเต้นที่กำลังจะได้พบในวันนี้ลงอย่างแน่นอน
มาทิลด้าบังเกิดความข้องใจขึ้นมาว่าขณะนี้ริชาร์ดจะอยู่ที่ไหนหนอ แต่เธอรีบผลักไสความคิดถึงเขาออกไปให้พ้นจากใจในทันที การคิดถึงริชาร์ด เดอ แคลร์เป็นอันตรายอย่างยิ่ง เธอต้องทำใจให้ลืมเขาเสียและจดจำไว้ให้ดีว่าเธอเป็นภรรยาของชายคนหนึ่งอยู่
เธอดึงความคิดของตัวเองกลับมายังเรื่องงานเลี้ยงที่จะจัดขึ้นในวันนี้ โดยความเป็นจริงแล้วมาทิลด้าไม่คิดจะรักษาคำมั่นสัญญาที่ได้ให้ไว้กับสามีว่าจะนอนอยู่แต่ในเตียงเลย เธอต้องการปรากฏกายอยู่เคียงข้างเขามากกว่า
แต่ขณะนี้ยังมีเวลาเหลืออีกเกือบห้าชั่วโมงกว่าที่งานเลี้ยงจะเริ่มขึ้น แขกที่ได้รับเชิญหลายคนคงจะมาถึงปราสาทแล้วหรือไม่ก็อาจตั้งค่ายพักกันอยู่นอกกำแพงปราสาท ส่วนคนอื่นๆ อาจจะกำลังเดินทางจากเทือกเขาแห่งเวลช์และจากปราสาทของเจ้าชายไซซิล พรั่งพร้อมด้วยอัศวินและผู้รับใช้เพื่อที่จะมาร่วมงาน ยิ่งคิดความตื่นเต้นก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นตรงบันได มาทิลด้าเหลียวหลังไปมองด้วยความตกใจและรีบวิ่งไปที่เตียงนอนทันที ผู้ หญิงร่างเล็กคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น เรือนผมของนางเป็นสีเทา นางถือถาดอาหารมาด้วยส่งยิ้มให้มาทิลด้าลด้าอายๆ
“อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะคุณหญิง ดิฉันเอานมกับขนมปังมาให้คุณหญิงรับประทานเป็นอาหารเช้าเจ้าค่ะ”
“นมหรือ ?” มาทิลด้าร้องอย่างไม่พอใจ “ฉันไม่เคยกินนมหรอกไปเอาไวน์มาดีกว่า”
“แต่นมดีต่อสุขภาพนะเจ้าคะ” น้ำเสียงของนางแม้จะอ่อนเบาแต่มีความหนักแน่นประสมอยู่อย่างน่าแปลกใจ “ลองดื่มดูหน่อยสิเจ้าคะ”
มาทิลด้าเอนหลังลงพิงกับหมอน เมื่อได้กลิ่นหอมของขนมปังพื้นเมืองเธอจึงรู้สึกว่าตัวเองออกจะหิวอยู่
“เมื่อคืนนี้ฉันพบเธอที่ห้องข้างล่างหรือเปล่า ?” เธอเอ่ยถามขณะกินอาหารไปพลาง และสาวใช้คนนั้นก็ยิ้มให้อีก
“ไม่พบหรอกเจ้าค่ะ เพราะว่าเมื่อวานนี้ดิฉันต้องช่วยงานในครัวอยู่เกือบทั้งวัน ตระเตรียมอาหารสำหรับงานเลี้ยงที่จัดขึ้นในวันนี้ยังไงล่ะเจ้าคะ”
คราวนี้มาทิลด้าจ้องหน้านางเขม็งความตื่นเต้นฉายชัดอยู่ในดวงตา
“เธอรู้ไหมว่าจะมีแขกมาร่วมงานมากสักแค่ไหน ? เราต้องเตรียมอาหารกันมากมายทีเดียวหรือ ? แล้วตอนนี้พวกแขกที่ได้รับเชิญมาถึงกันหรือยังล่ะ ?”
นางเปล่งเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกับยกมือหยาบกร้านเล็บฉีกขาดขึ้น
“โอ ! มากพอจะเลี้ยงทหารได้สักสองกองทัพทีเดียวเจ้าค่ะ เราวุ่นวายกันมาหลายวันแล้ว แม้ว่าท่านลอร์ดจะปิดบังงานเลี้ยงวันนี้ไว้เป็นความลับก็ตาม เมื่อวานกับวานซืนดิฉันกับผู้หญิงในหมู่บ้านอีกหลายคนต้องทำงานกันตัวเป็นเกลียวเชียวเจ้าค่ะ เราต้องเตรียมทุกอย่างให้เสร็จทันเวลา”
“ฉันอยากลงไปร่วมงานด้วยจัง” เธอพูดราวปรารภกับตัวเอง “แต่เซอร์ วิลเลียมมีความคิดว่าฉันควรพักผ่อนให้มากเพราะกำลังมีท้องอยู่ ท่านไม่ยอมให้ฉันลงไปร่วมงานด้วย” เธอเหลือบตามองสาวใช้รู้สึกพอใจที่เห็นสีหน้าของนางบอกความแปลกใจ
“โอ ! กว่าจะถึงตอนนั้นคุณหญิงก็คงสบายขึ้นมาแล้วละเจ้าค่ะ ถ้าคุณหญิงนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ”นางเอื้อมมือมาช่วยจัดผ้าห่มให้เรียบร้อย “จริงๆแล้วคุณหญิงไม่ควรพลาดโอกาสสำคัญอย่างนี้เลยนะเจ้าคะ”
“นั่นสิ” มาทิลด้ายิ้มให้นาง “ฉันกำลังคิดอย่างนั้นอยู่เหมือนกัน ตอนนี้ฉันรู้สึกสบายดีมากแล้วด้วย” เธอมองไปยังจานกับถ้วยที่ว่างเปล่าแล้วก็ยิ้มออกมา ไม่มีประโยชน์ที่จะแสร้งทำเป็นว่าตัวเองเจ็บป่วยจนไม่อยากกินอาหาร “แล้วนี่เนลล์คนที่มากับฉันเธอหายไปไหนเสียละ เธอต้องมาคอยดูแลฉันสิ อยากจะให้เธอช่วยจัดการหาคนมาคอยรับใช้ฉันด้วยเพราะคราวนี้ฉันไม่ได้เอาสาวใช้ติดมาด้วยเลยแม้แต่คนเดียว”
“เธอกำลังคุยอยู่กับซีเบลล่าเมียของคนเลี้ยงม้าเจ้าค่ะ ดิฉันคิดว่าคุณหญิงอาจจะหิวเลยเอาอาหารขึ้นมาให้เสียก่อนแล้วค่อยแต่งตัวทีหลัง ถ้าคุณหญิงจะคอยให้เธอขึ้นมารับใช้ละก็เห็นจะต้องคอยทั้งวันละเจ้าค่ะเพราะกำลังคุยกันอยู่อย่างสนุกสนานทีเดียว” นางเลื่อนถาดอาหารออกแล้วจึงก้มลงหยิบผ้าคลุมขนสัตว์ที่มาทิลด้าทิ้งไว้กับพื้นห้องขึ้นมา
“บอกฉันหน่อยสิว่าเธอชื่ออะไร” มาทิลด้าจับตามองหน้านางอย่างใกล้ชิด
“เมแกนเจ้าค่ะคุณหญิง สามีของดิฉันเป็นคนสนิทของท่านเซอร์ วิลเลียม”
“เอาละ เมแกน ฉันอยากให้เธอช่วยดูแลกระเป๋าเสื้อผ้าของฉันขึ้นมาบนห้องนี้ ถ้าเมื่อไหร่ฉันรู้สึกดีขึ้นเธอจะช่วยแต่งตัวเพื่อให้ฉันลงไปร่วมงานเลี้ยงได้ไหมล่ะ ?”
“ได้สิเจ้าคะดิฉันยินดีอย่างที่สุดเลย” สีหน้าของนางบอกความปลาบปลื้มที่ได้รับใช้นายสาวของปราสาทแห่งนี้อย่างเห็นได้ชัด
“แต่มีอยู่อย่างหนึ่งนะ” มาทิลด้ายกนิ้วขึ้นแตะเรียวปาก “เราจะให้เซอร์ วิลเลียมรู้ไม่ได้อย่างเด็ดขาดว่าฉันจะลงไปร่วมงานเลี้ยงด้วย ฉันไม่อยากให้ท่านห้ามฉันอีก ไม่อยากให้ท่านเป็นห่วงว่าฉันจะเหนื่อยมากกว่าที่เป็นอยู่”
เธอทอดกายลงพิงหมอนในท่าเดิมภายหลังจากที่เมแกนออกจากห้องไปแล้ว รู้สึกดีใจที่หญิงชาวพื้นเมืองเวลช์หน้าตาใจดีคนนี้ดูจะเข้าใจในตัวเธออย่างดี
จากลานใหญ่หน้าปราสาทเสียงที่เกิดอยู่เริ่มดังขึ้นเป็นลำดับ เธอได้ยินเสียงพูดคุยดังเอะอะเสียงหัวเราะกึกก้อง เสียงวัตถุครูดกับพื้นห้องเมื่อมีการจัดสถานที่ยกโต๊ะเก้าอี้เข้ามาตั้ง มาทิลด้าไม่อาจบังคับใจให้นอนอยู่นิ่ง ๆ ได้ขณะที่มีความวุ่นวายสับสนเกิดขึ้นอยู่รอบตัว แต่อย่างไรก็ตามเธอตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องพักผ่อนอย่างน้อยก็สักระยะหนึ่ง
เธอจับตามองดูเด็กรับใช้ที่เอาตะกร้าใส่ฟืนและจุดไฟในเตาผิงขึ้นอีกครั้ง จากนั้นก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมด้วยหีบเดินทางที่ใส่เสื้อผ้า มาทิลด้ายังไม่เห็นวี่แววของเนลล์เลยมีมีแต่เมแกนที่ตามผู้ชายคนนั้นเขามาติด ๆ หลังจากเปิดฝาหีบเดินทางออกตามคำสั่งของมาทิลด้านางเริ่มหยิบเสื้อผ้าแต่ละชุดพร้อมเสื้อคลุมตัวนอกออกมา นางอุทานด้วยความตื่นใจในความงามของเสื้อผ้าแพรพรรณเหล่านั้นค่อยๆ วางลงบนเตียงที่ละชุด
มาทิลด้ามองดูเสื้อผ้าแต่ละชุดอย่างพินิจพิจารณาว่าควรจะใช้ชุดไหนดี นับแต่ตอนที่ได้รู้ว่าที่ปราสาทจะจัดงานเลี้ยงขึ้น เธอครุ่นคิดถึงแต่เสื้อคลุมตัวนอกที่ปักด้วยไหมสีทองงดงามซึ่งวิลเลียมซื้อจากลอนดอนมาให้เมื่อวันเกิด เสื้อผ้าทุกชุดถูกอบร่ำด้วยไม้จันทร์และเครื่องเทศบางอย่างเพื่อกันตัวแมลง
“โอ ! คุณหญิงเจ้าคะ คุณหญิงใส่ชุดนี้จะสวยทีเดียวเจ้าค่ะ” เมแกนหยิบเสื้อผ้ากำมะหยี่สีเขียวที่ขลิบริมเส้นไหมสีเงินขึ้นชูให้ดู “ชุดนี้เหมาะกับคุณหญิงที่สุดเลยเจ้าค่ะ มันสวยเหลือเกิน”
มาทิลด้ารับเสื้อชุดนั้นมาพิจารณายกขึ้นแนบใบหน้าสัมผัสความอ่อนนุ่มของมัน
“วิลเลียมคิดว่าสีเขียวหมายถึงโชคไม่ดี” เธอพูดอย่างใช้ความคิด เธอชอบเสื้อชุดนี้มากรู้ดีว่ามันเข้ากับสีผิวของตัวเองได้อย่างดี โดยเฉพาะประดับด้วยเครื่องทอง