บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6 สีซอให้ควายฟัง

“ท่านอ๋องทรงประชวร อีกทั้งยังร้ายแรงถึงชีวิต”

รอยยิ้มของเธอราวกับดอกไม้ยามวสันต์ฤดู ชูช่อ รับแสงทินกร แม้แต่นัยน์ตางดงามก็ยังสะท้อน ประกายแสง ชั่วขณะนั้นมู่หรงเหยียนหยุดหายใจไป ทันทีและทำอะไรไม่ถูก “โรคอันใด?”

เซี่ยชูหลิงกระซิบเบาๆ "เสพติดการหลงตัวเอง เทียบยาคือการส่องกระจกวันละสามครั้งเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือน"

ก่อนจะเดินผ่านหน้าเขาไปยังประตูพระราชวัง

มู่หรงเหยียนถึงคิดได้ว่าเขาถูกเธอหลอกด่า เขากัดฟัน แน่นใบหน้าเย็นยะเยือกราวน้ำแข็งจนขันทีที่เดินผ่านไปมายังตกใจกลัวตัวสั่น ก่อนจะหดคอเดินตามเลี้ยวไป ด้วยใจตุ้มๆ ต่อมๆ

ไอสังหารของอ๋องเหยียนเกิดมาจากประสบการณ์ใน สนามรบ เพียงแค่เขาเข้ามาใกล้สามจั้งก็อดขาสั่นไม่ได้

เมื่อกลับมาที่จวนอ๋องเหยียน ชิงฮวนก็พยุงเธอกลับไปที่เรือนผุพัง แต่เซี่ยชูหลิงกลับหันปลายเท้าไปทางลานหลัก

ชิงฮวนรีบร้องเตือนเสียงเบา “คุณหนู พวกเราพักกันที่ด้านนั้นนะเจ้าคะ

เซี่ยชูหลิงได้ยินเสียงฝีเท้าที่หนักแน่นและมั่นคง ดังมาจากด้านหลังก็ยกมุมปากขึ้น “ข้าคือพระชายาอ๋องเหยียนที่ได้รับการแต่งตั้งจากฝ่าบาท หากอาศัยอยู่ในโรงเก็บฟืนจะไม่เป็นการทำให้ท่านอ๋อง ถูกคนติฉินนินทาว่ายกย่องอนุมากกว่าชายาเอกหรือ? ในเมื่อจะเล่นละครก็ต้องให้สมจริงสิ"

“อยากจะอยู่เรือนหลัก? เซี่ยชูหลิงเจ้าคู่ควร หรือ?”

“เมื่อครู่เหล่าไท่จวินบอกว่าพวกเราดูเหมาะสมกัน”

“เจ้ากล้าใช้ชื่อเสด็จยายมาบีบบังคับข้าหรือ?” ท่าทางของมู่หรงเหยียนขรึมลง ทำให้ผู้คนในเรือนต่าง สัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่กำลังครอบงำเซี่ยชูหลิง

เซี่ยชูหลิงพยายามยืดตัวให้ตรงและรักษาความสงบ “ก่อนที่ท่านอ๋องกับหม่อมฉันจะหย่ากัน ก็ทำตามประสงค์ของฝ่าบาท หม่อมฉันคือพระชายาของจวนอ๋องเหยียน พักที่เรือนหลักก็เป็นเรื่องปกติ ถ้าวันหนึ่งคิดจะขู่ท่านก็คงจะเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย กับเรื่องเล็กแค่นี้หม่อมฉันไม่ทำหรอกเพคะ"

“ปากเอาแต่พูดว่าไม่อยากแต่งงานกับข้า แต่ตอนนี้กลับบอกว่าจะย้ายไปเรือนหลัก ปีนขึ้นเตียงข้า เจ้าไม่รู้ตัวหรือว่าจิตใจเจ้าสกปรกแค่ไหน”

ผู้ชายคนนี้ปากเสียมาก อย่างกับไปกินมูลสัตว์ผัดทุเรียนมา

เซี่ยชูหลิงสูดหายใจลึก “หากท่านอ๋องรังเกียจก็อยู่ให้ห่างจากหม่อมฉัน รอวันที่หม่อมฉันไปจากจวนอ๋องเหยียน หม่อมฉันจะจุดไฟเผาทั้งจวนท่านมีเงินทองมากมาย แค่ท่านซื้อใหม่ก็ได้แล้ว”

“นั่นมันจวนของข้า!” มู่หรงเหยียนโมโห

เซี่ยชูหลิงกะพริบตาของเธอและคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เอาอย่างนี้ดีไหมเพคะ เวลานี้เสิ่นหยุนชูยังอยู่ในเรือนของนางรอคอยความโปรดปรานจากท่านอ๋อง ท่านอ๋องเองก็สามารถย้ายไปพักที่เรือนของนางได้ รูปร่างอรชรคอย ปรนนิบัติรับรองว่าท่านจะสุขจนลืมชาติบ้านเมืองไปเลย”

เธอยกยิ้มก่อนจะเดินออกไป ทิ้งมู่หรงเหยียนที่กำลังโกรธเอาไว้

มู่หรงเหยียนที่อยู่ด้านหลังโกรธจัด “เซี่ยชูหลิงเจ้าอย่าได้คืบจะเอาศอก!”

ชิงฮวนกลัวจนเหงื่อออกเต็มฝ่ามือ “คุณหนู ดูเหมือนท่านอ๋องจะโกรธมากๆ เลยนะเจ้าคะ"

เซี่ยชูหลิงท้าทายมู่หรงเหยียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า มีหรือที่เธอจะหวาดกลัว มุมปากของเธอฉีกยิ้มขึ้น "โรงเก็บฟืนตั้งอยู่ในสถานที่ห่างไกล หากพวกเรา ตายอยู่ในนั้นก็ไม่มีใครรู้ อยู่ได้เหรอ? "

ทันใดนั้นชิงฮวนก็ตระหนักว่าไม่น่าแปลกใจเลยที่ คุณหนูของเธอจะยอมเสี่ยงขนาดนี้ แม้ว่าท่านอ๋อง จะขัดต่อประสงค์ของไทเฮาและเหล่าไท่จวิน ทำความลำบากใจให้คุณหนูของเธอเช่นวันนั้น แต่ ก็เป็นการยากที่จะป้องกันการโจมตีจากคนอื่น

ภายใต้คำแนะนำของคนรับใช้ เซี่ยชูหลิงพาชิงฮวนมายังลานหลัก บนประตูมีแผ่นป้ายสีดําที่สลักไว้ด้วยตัวอักษรสีทอง 'ตําหนักฉาวเทียน”

ตัวอักษรมีทั้งความแข็งแกร่งและนุ่มนวล หรูหราและโอ่อ่า แต่ก็เหมาะสมกับท่าทางและจิตใจของเทพสงครามอย่างท่านอ๋องเหยียน

ที่ลานไม่มียามคอยคุ้มกัน หลังจากเข้าไปภายใน

ลานอย่างเงียบๆ ก็เห็นว่าประตูใหญ่เปิดออกอยู่

และมีเสียงหัวเราะดังออกมาจากทางหน้าต่าง

“วันนี้คุณหนูงดงามมากเลยเจ้าค่ะ งดงามยิ่งกว่าดอกโบตั้นบนโต๊ะนี้เสียอีก เซี่ยชูหลิงเป็นแค่คนบ้านนอกเซ่อซ่าก็เท่านั้น ไม่คู่ควรแม้แต่จะถือรองเท้าให้คุณหนูด้วยซ้ำ

 แต่ท่านอ๋องช่างมีวิสัยทัศน์ยิ่งนัก อีกเดี๋ยวถ้าท่านกลับมาและได้เห็นคุณหนู จะต้องชอบคุณหนูมากแน่นอนเจ้าค่ะ”

"ช่างพูดมากเสียจริงที่บอกให้เจ้าไปแจ้งทางครัวเล็กให้เตรียมนารีแดง เจ้าเพิ่มบ๊วยต้มเข้าไปหรือยัง?"

"คุณหนู ไม่ใช่สิควรจะเป็นพระชายามากกว่า พระชายาวางใจได้เลยเจ้าค่ะไม่ต้องพูดถึงสุราน้ำบ๊วยแม้แต่กับแกล้มต่างๆครัวเล็กก็จัดเตรียมให้ท่านตามรับสั่งแล้ว 

รอเพียงท่านอ๋องกลับจวนก็สามารถยกออกมาได้เลยคุณหนูก็แค่ไปดื่มเป็นเพื่อนท่านอ๋องแลกแก้วสาบาน"

“นังเด็กไร้ยางอาย อย่าลืมเตรียมเงินรางวัลสําหรับพรุ่งนี้เช้าด้วยล่ะ”

แค่ได้ยินเสียงก็รู้แล้วว่าเป็นใคร

รีบร้อนขนาดนี้ กะว่าวันนี้จะอยู่ที่ลานหลักล่อลวง

ชายหนุ่มจนได้เป็นนายหญิงเลยหรืออย่างไร จะมาทําความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม? ความจริงแล้วตั้งใจจะเข้าวังเพื่อจะเข้ามาเป็นนายหญิงของจวนท่านอ๋องเสียมากกว่า

เซี่ยชูหลิงเดินเข้ามาพร้อมกับคําพูดเหน็บแนม เสิ่นหยุนชูเอนกายอยู่บนเตียงแกะสลักด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสดใสและแกว่งพู่ระย้าไปมาอย่างเย้ายวน

หลังจากเห็นเซี่ยชูหลิงเดินข้ามานางก็ลุกขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ

"เซี่ยชูหลิง ทะ ท่านพี่ ท่านพี่พระชายาท่านกลับมาแล้วหรือ?"

"เกรงว่าจะทำให้เจ้าผิดหวังเสียแล้ว ท่านอ๋องกับข้ายังไม่ได้หย่ากันความฝันอันงดงามของเจ้าอาจจะเร็วไป"

เสิ่นหยุนชูรีบลุกขึ้นในดวงตาปรากฎความอิจฉาและแค้นใจ นางเหน็บแนม

"ตอนนี้ท่านอ๋องอาจจะยังไม่ได้ทิ้งเจ้าไปแล้วอย่างไรเล่า ท่านอ๋องจะยอมให้หญิงเฉกเช่นเจ้าไปนอนบนเตียงของท่านได้อย่างไร โรงเก็บฟืนสิถึงจะเหมาะกับเจ้า ถ้าข้าอยากจะเข้ามาอยู่ที่นี่ แค่พูดประโยคเดียวก็สามารถเข้ามาอยู่ได้แล้ว”

“ถ้าเจ้ามีความสามารถขนาดนั้น ทําไมตอนนั้นถึงไม่ให้ท่านอ๋องมอบตําแหน่งพระชายาให้เจ้าเลยล่ะ”

“เจ้า!” เสิ่นหยุนชูชี้ไปที่หน้าของเซี่ยชูหลิงด้วยสีหน้าโกรธเคือง “ถ้าไม่ใช่เพราะมีนังชั่วช้าไร้ยางอายเช่นเจ้ามาแย่งตําแหน่งของข้าไปละก็ เจ้าจะได้เป็นชายาเอกได้อย่างไร”

เซี่ยชูหลิงไม่อยากที่จะต่อล้อต่อเถียงเรื่องไร้สาระกับนางถึงอย่างไรก็คงจะคล้ายการสีซอให้ควายฟังเสียเปล่าๆ

....

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel