บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 10 อ๋องใจแคบเท่ารูเข็ม

เพียงแต่ว่าเซี่ยชูหลิงยังไม่เห็นสัญญาขายชีวิตของแม่หวังเลย เกรงว่าคงจะยัง

อยู่ในมือของจิ่นอี้เหนียงคนที่สาม เซี่ยชูหลิงนั้นไม่รู้จัก นางเป็นหญิงสาวรูปร่างท้วม หน้าดำ อายุไล่เลี่ยกับแม่หวัง ตาเอียงและผิวคล้ำนางดูไม่เหมาะกับใครเลย

นางเดินเข้ามาทำความเคารพเซี่ยชูหลิงอย่างจริงจังและแนะนำตัวเองว่าเป็นคนที่มู่หรงเหยียนส่งมารับใช้เธอ แซ่ติง

บอกแล้วว่ามู่หรงเหยียนคนนี้ช่างขี้เหนียวเสียจริง คิดว่าเธอจะขโมยของในลานของเขาออกไปหรืออย่างไรถึงได้ส่งคนมาจับตาดูเธอด้วย

เซี่ยชูหลิงหัวเราะออกมา ดูมีความสุขมาก

“ท่านอ๋องของเจ้าคิดรอบคอบเสียจริง ข้ากำลังกังวลเรื่องกำลังขาดคนอยู่พอดี ไม่รู้ว่าแม่นมติงทําอาหารได้หรือไม่?”

แม่นมติงไม่รู้ว่าถามไปทำไมแต่ก็พยักหน้า “อาหารทั่วไปก็พอทำได้เจ้าค่ะ”

เซี่ยชูหลิงเหลือบไปมองนางและยิ้มอย่างสดใส

“ดีเลย ข้ากับชิงฮวนทำไม่เป็น แม้แต่โจ๊กก็ทำไม่เป็น หลังจากนี้เรื่องอาหารของพวกเราต้องขอรบกวนแม่นมติงแล้ว”

แม่นมติงทำหน้าขรึมและกลืนน้ำลาย “บ่าว

รับคำสั่งเจ้าค่ะ”

เซี่ยชูหลิงสั่งให้หลิงกวนเอ๋อร์ออกไปซื้ออาหารเช้า จากนั้นมองไปที่แม่หวัง “แม่นมติงมาที่นี่ครั้งแรก ถือว่าเป็นแขกของเรา เราจเกียจคร้าน

เกินไปไม่ได้ ร่างกายของข้าบาดเจ็บอยู่ส่วนชิงฮวนต้องช่วยข้าบดยาให้เหล่าไท่จวิน

แม่หวังคงจะต้องทำงานหนักขึ้น งานบ้านทั้งหมดข้าต้องขอให้แม่หวังเป็นคนดูแลแล้ว เช้านี้รบกวนตั้งไฟก่อน

แล้วอีกเดี๋ยวข้าจะสั่งให้หลิงกวนเอ๋อร์ไปซื้อเครื่อง

ปรุงที่จำเป็น ข้าว น้ำมัน และเกลือ”

แม้ว่าแม่หวังจะเป็นสาวรับใช้ตอนอยู่ที่จวนมหาเสนาบดี แต่นางก็แทบจะไม่ได้ทำอะไรเลย ส่วนงานหนักและน่าเหนื่อยหน่ายก็เป็นของคนรับใช้ระดับล่าง นางไม่เคยทำงานที่สกปรกและน่าเบื่อหน่ายแบบนี้มาก่อน นางพนมมือเข้าหากัน

“คุณหนู บ่าวก็ทำไม่เป็นเช่นกัน”

“แม่หวังทำได้ทุกอย่างมาตลอด ถ้าอยากจะคุ้นเคยกับคนในจวนท่านอ๋อง อะไรที่ทำไม่เป็นก็ไปขอให้พวกเขาสอนให้เรื่องแบบนี้คงไม่ต้องให้ข้าสอนหรอกใช่ไหม”

แม่หวังตกใจกับคำพูดของนางอาจเป็นเพราะนางรู้สึกว่าเซี่ยชูหลิงที่อยู่ตรงหน้านี้แตกต่างจาก

เมื่อก่อนเป็นอย่างมาก นางจึงมองอย่างสงสัยและพยักหน้าอย่างยอมจำนน

“ได้เจ้าค่ะ บ่าวจะพยายามทำให้ดีที่สุด ไม่ทราบว่าห้องครัวอยู่ที่ใดเจ้าคะ"

เรือนหลักของมู่หรงเหยียนหันหน้าไปทางทิศใต้ เมื่อวานนี้เซี่ยชูหลิงได้เดินไปรอบๆ ยกเว้นเรือนหลักสามหลังที่อยู่ตรงกลาง ที่เป็นห้องนอนและห้องรับแขก ที่ห้องโถงด้านข้างมีห้องตำรา ที่อาบน้ำทางด้านตะวันออกและตะวันตกเป็นห้องเก็บของต่างๆ และห้องของคนรับใช้

นางมองไปรอบๆ ยกมือขึ้นแล้วอย่างสบายๆ ไป

ที่ห้องอ่านตำรากันเถอะ มีเชื้อไฟมากก่อไฟได้

ง่าย”

แม่นมติงตกใจ “ไม่ได้นะเจ้าคะพระชายา ด้านในเต็มไปด้วยตำราพิชัยสงครามล้ำค่าของท่านอ๋อง พวกมันมีค่ามากกว่าคนเสียอีก จะใช้พวกมันเป็นฟืนได้อย่างไร”

เซี่ยชูหลิงไม่พอใจอยู่เงียบๆ คนที่อ่านศาสตร์แห่งสงครามทุกวันมีแต่พวกคนโง่เท่านั้นแหละแม้แต่สาวงามที่ไม่รู้เรื่องอะไรอย่างเสินหยุนชูก็หนีไม่พ้น ดูไปก็เปล่าประโยชน์

อย่างไรก็ตาม เป็นการดีกว่าที่จะหลีกเลี่ยงคน

ประเภทนี้และไม่ยั่วยุเขา ถ้าวันหนึ่งทำอาหารและ

ทำให้ห้องตำราของเขาลุกเป็นไฟจะทำอย่างไร

แทบไม่เหลือเรือนทางตะวันออกและตะวันตกแล้วเซี่ยชูหลิงโบกมือ “สุ่มเลือกเรือนในตะวันออกกับตะวันตกเถอะ อย่างไรก็ต้องเลือกสักห้อง”

ถ้าไม่ใช่เพราะกังวลเกี่ยวกับตัวเองที่เป็น

สุนัขจนตรอกอยู่ในจวนนี้ เธอจะต้องมาลำบากขนาดนี้เพื่อที่จะทำอาหารทำไม ให้แม่นมติงรับผิด

ชอบมื้ออาหารสำหรับคนหลายคน

หากเสิ่นหยุนชูต้องการรักษาภาพลักษณ์ที่เป็นคนบริสุทธิ์ จิตใจดีต่อหน้ามู่หรงเหยียนเธอคงจะไม่ทำอะไรกับแม่นมติงหรอก

เมื่อคนอื่นตายจากต่างก็ล่องลอยไป แต่เธอยังอยู่ดี หากออกไปจากจวนนี้จริงๆต้องคิดไปทีละขั้นจวนเสนาบดีกลับไม่ได้แน่นอน แต่ก่อนอื่นต้องไปเยี่ยมเยียนและวางแผนกับพี่ชายของเจ้าของร่างนี้เสียก่อนค่อยว่ากัน

ของที่หลิงกวนเอ๋อร์ซื้อกลับมาก่อนหน้านี้มีเสี่ยวหลงเปา กุ้งแห้ง สาหร่ายและเกี๊ยวอยากกิน

เหมือนกัน เขายังซื้อกล่องอาหารไม้ไผ่ในราคาไม่กี่ตำลึงและวางไว้บนโต๊ะหินใต้ร่มเงาของต้นไม้ใน

สวน

เซี่ยชูหลิงมองเห็นรอยแดงที่คอและแขนของ

เขา บางส่วนยังบวมและมีรอยขีดข่วนอีกด้วยจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย

“ร่ายกางของเจ้าไปโดนอะไรมา?"

หลิงกวนเอ๋อร์รีบดึงแขนเสื้อลงมาทันที “ไม่มีอะไร

ขอรับ แค่ถูกยุงกัดเท่านั้น”

เพิ่งจะเริ่มเข้าฤดูใบไม้ผลิ ยุงจะร้ายแรงขนาดนี้ได้อย่างไร เซี่ยชูหลิงขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ตอนกลางคืนเจ้านอนที่ไหน”

หลิงกวนเอ๋อร์ชะงักและไม่ยอมพูดออกมา และ

หลังจากถูกชิงฮวนเร่งเร้าอยู่หลายครั้ง เขาจึงตอบอย่างน้อยใจ “คอกม้า!"

ในคอกม้า? นอนกับม้า พูดถึงสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย แค่ยุงก็รับไม่ได้แล้ว คนในจวนท่านอ๋องจะรังแกกันเกินไปแล้ว ถึงอย่างไรหลิงกวนเอ๋อร์ก็เป็นคนที่มาพร้อมกับเงินถมสินสอดของเธอ

แต่ที่ผ่านมาเจ้าของร่างนี้ก็ช่างไร้ค่าเสียจริงๆคนของตนเองก็ดูแลไม่ได้ เพราะเจ้านายไม่เคยถูกโปรดปรานดังนั้นเขาจึงถูก

ปฏิบัติอย่างรุนแรง แต่จะให้อยู่ในลานด้านหลัง

ของเธอก็ไม่ได้อีก มันไม่เหมาะสม

เมื่อเห็นว่าสีหน้าของเซี่ยชูหลิงเต็มไปด้วยความ

โมโห หลิงกวนเอ๋อร์ก็พูดโน้มน้าวเธออย่างกล้าๆ

กลัวๆ “บ่าวไม่เป็นไรขอรับ ต้องโทษที่บ่าวนอน

หลับไม่ลึกพอ”

ยิ่งเขารู้ความเท่าไร เซี่ยชูหลิงก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดมากขึ้นเท่านั้น เธอกลืนเกี๊ยวในปากลงไป

“ชิงฮวนไปหยิบเงินสองตำลึงที่กระเป๋ามาให้หลิงกวนเอ๋อร์ที”

“คุณหนูต้องการซื้ออะไรหรือเจ้าคะ”

เซี่ยชูหลิงส่ายหัว “อีกเดี๋ยวจะต้องซื้ออะไร

แม่นมติงจะบอกเจ้าเอง เจ้าไปรับเงินก้อนนี้จากชิงฮวนเอาไว้จัดการเรื่องในจวน ให้พวกเขาหาที่

ดีๆ ให้เจ้าพัก ถ้าพวกเขาไม่ยอมทำตามที่เจ้า

ต้องการมาบอกข้า ข้าจะออกหน้าให้เจ้าเอง"

หลิงกวนเอ๋อปฏิเสธอย่างเร่งรีบ “บ่าวจะให้คุณ

หนูใช้จ่ายมากได้อย่างไร บ่าวไม่ได้มีค่ามากมาย

ขนาดนั้น ขอแค่มีที่นอนก็พอแล้ว”

“ให้เจ้าก็รับไว้เถอะ อย่าลังเลที่จะใช้เงิน ถ้าวัน

หนึ่งข้าไม่ได้อยู่ที่จวนนี้แล้ว เจ้าจะได้สานสัมพันธ์

กับผู้อื่นและตั้งหลักได้"

หลิงกวนเอ๋อร์แสบจมูกขึ้นมา “ตอนที่เข้ามาที่นี่

แม่ของบ่าวบอกว่าท่านคือเจ้านายของบ่าวท่านไป

ที่ใดบ่าวก็จะตามไปด้วย"

เซี่ยชูหลิงยิ้มเล็กน้อยและพูดขึ้น “ได้สิ” จากนั้น

ก็หยิบขวดยานวดเฟิงโหยวจิงออกมาแล้วมอบให้

เขา “อีกเดี่ยวใช้มันทาให้ทั่วตัว จะได้ไม่คันอีก ใน

เมื่อข้าเป็นเจ้านายของเจ้า ข้าจะพยายามปกป้อง

เจ้าให้ได้มากที่สุด นี่เป็นความรับผิดชอบของข้า

ต่อไปนี้ถ้าเจ้าได้รับความไม่เป็นธรรมอีก เจ้ามาบ

อกข้าด้วยจำไว้”

ใบหน้าของหลิงกวนเอ๋อร์แดงก่ำด้วยความดีใจ เขาถือขวดยานวดเฟิงโหยวจิงไว้ในมือและตอบเสียงดัง "ขอรับ"

แม่นมติงหยุดสิ่งที่นางกำลังทำอยู่และหันหน้าไปมองเซี่ยชูหลิง จากนั้นก็เม้มริมฝีปากก้มหน้าลงทำงานต่อไป

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จเซี่ยชูหลิงก็จัดเตรียมยาใส่ลงไปในกล่องอาหารไม้ไผ่ที่หลิงกวนเอ๋อร์ซื้อมาให้ ยาทุกชนิดถูกวางใส่ชั้นๆอย่างเป็นระเบียบ เพราะถึงเวลานั้นนางคงไม่สามารถล้วงหยิบยาออกมาจากระบบต่อหน้าผู้คนที่คอยจับผิดได้ เป็นเช่นนั้นไม่ช้าเร็วก็ต้องถูกคนสงสัยอยู่ดี

หลังจากที่จัดเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยร่างบางก็เดินออกจากจวนตรงทางออกนางก็ไม่เห็นรถม้าของจวนจอดรออยู่อย่างที่ควรจะเป็น

เซี่ยชูหลิงจึงให้ชิงฮวนเดินไปถามองครักษ์ที่เฝ้าประตู สักครู่หนึ่งก็เห็นคนขับรถม้าสวมหมวกสักหลาดถือแส้เดินเข้ามา

"พระชายาเชิญขอรับ"

"รถม้าล่ะ?"

คนขับรถม้าชี้ไป "ทางนั้นขอรับ"

เซี่ยชูหลิงมองตามออกไปนางยืนรู้สึกแย่อยู่ครู่หนึ่ง นั่นมันรถม้าที่ไหนกัน เห็นๆอยู่ว่านั่นคือลาลากเกวียนสีดำสองตัวส่วนเกวียนนั้นปูด้วยฟางขาดรุ่งริ่งเมื่อวานข้าแค่พูดด้วยความโกรธไม่คิดว่าชายผู้นี้จะเก็บมาใส่ใจและรอถึงตอนนี้เพื่อแก้แค้นข้า เข้าช่างใจแคบเท่ารูเข็มจริงๆ

ไม่เป็นไรคนที่เสียหน้านั้นคือเขา เซี่ยชูหลิงเดินขึ้นไปนั่งบนเกวียนลาในขณะที่ชิงฮวนกำลังจะเอ่ยอะไรนางก็ยกมือห้ามปรามเอาไว้

พอมาถึงจวนกั๋วกง ทหารหน้าประตูจวนนั้นมองดูลาลากแล้วมองขึ้นไปสำรวจดูนาง "พระชายาเหยียนนำยามาส่งเหล่าไท่จวิน"

ชิงฮวนกล่าวแนะนำตัว ทหารหน้าประตูทำความเคารพแล้วเปิดประตูให้นางเชิญนางเข้าไปข้างใน

เวลานี้เหล่าไท่จวินกำลังให้อาหารปลาอยู่ใต้ต้นท้อในสวนพอได้ยินว่าเซี่ยชูหลิงมาแล้วนางก็เดินไปนั่งลงที่เก้าอี้กุ้ยเฟยพร้อมกับหลับตาลงอย่างคนไม่มีชีวิตชีวา

.....

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel