บท
ตั้งค่า

บทที่ 7 ตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายก็ไม่ตื่นตระหนก

ซิ่งเอ๋อร์ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากด้านนอก จึงเปิดม่านแล้วเดินออกมา

ในลานบ้านที่รกไปด้วยวัชพืช ได้เกิดความครึกครื้นขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

เห็นเพียงแค่ชิวจวี๋สาวใช้ผู้โอหังอวดดีคนนั้น ซึ่งด้านหลังมีคนรับใช้สามคน ซึ่งแต่ละคนมีรูปร่างกำยำ เพียงแค่เห็นก็รู้ว่าเป็นผู้ที่มีทักษะด้านศิลปะการต่อสู้!

"นี่ท่านต้องการจะทำอะไรกัน?"

เพียงแค่เห็นท่าทีนี้ ก็รู้ว่าไม่เรื่องที่ดีเป็นแน่!

โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงว่าภายในบ้านมีชายคนหนึ่งที่ไม่รู้ที่มาที่ไปนอนอยู่ ซิ่งเอ๋อร์ก็อดไม่ได้ที่จะกินปูนร้อนท้อง

"ตำหนักหลิงเซียวแห่งนี้รกร้างมาเป็นเวลานาน เมื่อวานนี้ข้าเห็นว่าวัชพืชสูงกว่ากำแพงแล้ว เช่นนี้ วันนี้จึงได้พาคนรับใช้สามคน มาเพื่อช่วยพระชายาเก็บกวาดสักเล็กน้อย!!"

ชิวจวี๋โบกมือเล็กน้อย คนรับใช้ทั้งสามคนที่อยู่ด้านหลังก็เดินผ่านซิ่งเอ๋อร์ และเดินมุ่งตรงไปยังภายในห้องโดยมิได้นัดหมาย

ถ้าหากพวกเขาเข้าไป แล้วเห็นว่าพระชายาซ่อนผู้ชายคนหนึ่งเอาไว้เช่นนั้นจะเหมาะสมหรือ?

ถึงแม้ว่าพระชายาและชายที่นอนป่วยอยู่นั้นจะไม่ได้เป็นอะไรกันเลยสักนิด แต่ชิวจวี๋จะเชื่อได้อย่างไรกัน!

"พวกเจ้าจะทำอะไร? กำจัดวัชพืชภายในลานบ้านก็พอแล้ว! ด้านในเป็นห้องของพระชายา พวกเจ้าจะเข้าไปได้อย่างไรกัน!"

"ในเมื่อจะเก็บกวาด ก็จะต้องเก็บกวาดให้สะอาดหมดจด โดยสิ้นเชิง ไม่เช่นนั้น หากพระชายากลับมาแล้วตำหนิข้าว่าบกพร่องต่อหน้าที่ แล้วเช่นนั้นจะทำอย่างไรล่ะ?"

ชิวจวี๋แอบอ้างบารมีเพื่อข่มเหงผู้อื่น "ยังไม่รีบไปเก็บกวาดอีก ไปตรวจสอบให้ดีทุกซอกทุกมุม อย่าให้หลงเหลืออะไรที่สกปรกโดยเด็ดขาด!"

"พระชายากำลังพักผ่อนอยู่ ถึงแม้ต้องการจะเก็บกวาด ก็มิใช่ตอนนี้!"

ซิ่งเอ๋อร์ยื่นมือทั้งคู่ออกเพื่อปกป้องประตู และปิดกั้นประตูเพื่อไม่ให้คนอื่นๆ เข้าไปได้

แต่ทว่า นางรู้ว่าพลังของตนเองอ่อนแอ ถ้าหากคนรับใช้ทั้งสามคนนี้ต้องการที่จะบุกเข้ามา นางจะขัดขวางได้อย่างไรกัน!

ซึ่งเสียงเอะอะโวยวายด้านนอกห้อง ทำให้ด้านในห้องได้ยินอย่างชัดเจน อย่างน้อย จุนเหยียนอานก็ได้ยิน

ต้วนชิงเหยากำลังจดจ่ออยู่กับการเปลี่ยนยาให้กับจุนเหยียนอาน คล้ายกับว่าไม่ได้ยินอะไรแม้แต่น้อย และยังคงมีท่าทีที่สงบนิ่งเยือกเย็น

"เจ้าไม่เป็นกังวลใจหรือ?"

ถ้าหากเป็นหญิงสาวธรรมดาทั่วไปได้พบเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ ก็คาดว่าคงจะร้อนใจจนอกสั่นขวัญแขวนไปแล้ว แต่ทว่าต้วนหงเยียนผู้นี้กลับเหมือนกับคนที่ไม่เป็นอะไรโดยสิ้นเชิง

ก็ไม่รู้ว่านางเป็นคนหัวรั้น หรือรู้ดีว่าไม่มีที่หลบซ่อน ฉะนั้นจึงปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม!

"กังวลใจอะไรหรือ? กังวลว่าจะถูกหย่าหรือ? เจ้าวางใจเถิด ข้ากับอ๋องอานเป็นคู่ข้าวใหม่ปลามัน เขาตัดใจไม่ลงที่จะหย่ากับข้าในเวลานี้หรอก!"

มุมปากของจุนเหยียนอานอดไม่ได้ที่จะกระตุกเล็กน้อย เขาตัดใจหย่ากับนางไม่ได้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?

ที่เขาเก็บนางเอาไว้ ก็เพียงเพื่อให้ดาบนั้นคืนสนอง เพื่อที่จะดูว่าสรุปแล้วอีกฝ่ายมีแผนการอะไรภายในใจกันแน่!

"ก็จริง เจ้าจะหย่าหรือไม่หย่า ก็ดูเหมือนจะไม่ได้แตกต่างอะไรกันมากนัก!"

จุนเหยียนอานจึงเงยหน้าและกวาดสายตามองหลังคาบ้านที่ปกคลุมไปด้วยใยแมงมุม น่าจะเป็นเวลากว่าสามปีแล้วที่ไม่มีใครพักอยู่ที่นี่!

ต้วนชิงเหยารู้ดีว่าเขากำลังเยาะเย้ยตนเอง แต่ก็ไม่ได้โกรธเคือง

สำหรับเรื่องกินเรื่องอยู่นางไม่เคยจู้จี้จุกจิกเลยแค่ได้มีที่ซุกหัวนอนนางก็พึงพอใจมากแล้ว นอกจากนี้ด้านหน้าตำหนักหลิงเซียวก็มีลานบ้าน ด้านหลังก็มีสวนผัก ซึ่งเป็นตำหนักส่วนตัว มีบริเวณพื้นที่กว้างขวาง ถ้าหากเป็นในยุคปัจจุบัน นี่ก็คงจะเป็นคฤหาสน์ แล้วนางจะมีอะไรที่ไม่พึงพอใจอีกล่ะ?

เมื่อนางมีเวลาแล้วลงมือปรับปรุงแก้ไข ที่นี่ก็จะกลายเป็นที่อยู่อาศัยที่หรูหราแห่งหนึ่งเลยล่ะ

แน่นอนว่า ก่อนอื่นนางจะต้องตัดสินใจจริงๆ ว่าจะอยู่ที่จวนอ๋องอาน!

เสียงเอะอะโวยวายด้านนอกยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อได้ยินเสียงของซิงเอ๋อร์ที่ร้อนรนจนแทบจะร้องไห้ ต้วนชิงเหยาก็พันผ้าพันแผลรอบตัวของจุนเหยียนอานเสร็จพอดี จากนั้นจึงปัดมือเล็กน้อยแล้วลุกขึ้นยืน และกล่าวถามว่า: "เจ้าต้องการจะหลบซ่อนหรือไม่?"

หลบซ่อน? นี่คือจวนอ๋องอานของเขานะ เหตุใดเขาจะต้องหลบซ่อนด้วยล่ะ!

จุนเหยียนอานผู้ใจดำจึงเสแสร้งทำเป็นเช็ดหน้าผากอย่างอ่อนแรง "เจ้าดูสภาพของข้าสิ ยังจะสามารถขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวได้อีกหรือ?"

"อะไรกันพักผ่อนมาทั้งคืนแล้ว ยังจะไร้เรี่ยวแรงอยู่อีกหรือ?"

นางรู้ดีว่าเขากำลังโกหก แต่ต้วนชิงเหยาก็ขี้เกียจที่จะไปเปิดโปงเขา

ถึงอย่างไรในบ้านโทรมๆ ที่มีกำแพงสี่ด้านหลังนี้ นอกเสียจากเตียงแล้ว ก็ไม่มีที่กำบังแต่อย่างใด การจะซ่อนมนุษย์สักคนหนึ่งจึงเป็นเรื่องที่ยาก

ถ้าหากถูกชิวจวี๋พบเข้า ก็จะกลายเป็นว่านางกินปูนร้อนท้อง!

"ได้ เช่นนั้นเจ้าก็นอนพักผ่อนเถิด!"

ต้วนชิงเหยาจัดรูปลักษณ์ของตนเองด้วยความเคยชิน จากนั้นก็ดึงคอเสื้อเล็กน้อย แล้วจึงพบว่าชุดที่ตนเองสวมใส่นั้นไม่ใช่เครื่องแบบทหารโดยสิ้นเชิง

จุนเหยียนอานได้ฟังเสียงที่สดใสและทรงพลังของนาง ดวงตาสีดำขลับของเขาก็ลึกล้ำราวกับมหาสมุทร

"เอะอะโวยวายขนาดนี้ ยังจะให้คนพักผ่อนได้อีกหรือ?"

ในขณะที่ซิ่งเอ๋อร์กำลังจะรับมือไม่ไหว จู่ๆ ด้านหลังก็มีเสียงอันเกียจคร้านของต้วนชิงเหยาดังขึ้น

ซิ่งเอ๋อร์ราวกับได้เห็นผู้ช่วยชีวิต และดวงตาของนางก็เป็นประกายขึ้นมาทันที

"นี่คือสาวใช้ที่ถูกข้าถอดแขนทั้งสองข้าไปเมื่อวานมิใช่หรือ? แล้วทำไม ถึงมาก่อเรื่องอีกล่ะ?"

ต้วนชิงเหยาพูดเรื่องที่ไม่ควรพูด ซึ่งทำให้สีหน้าของชิวจวี๋เปลี่ยนไปทันที

นางเข้าจวนมาเป็นสาวใช้ก็หลายปีแล้ว แต่ไม่เคยต้องพบเจอกับเรื่องที่อับอายขายหน้าเช่นนี้มาก่อน!

เพียงแต่ ในขณะนี้ไม่ใช่เวลาที่จะโมโหเดือดดาล

ถ้าหากว่านางตรวจสอบพบแล้วว่าต้วนชิงเหยาคบชายชู้ วันเวลาที่อยู่ภายในจวนอ๋องของนางก็จะต้องจบสิ้นโดยสิ้นเชิง

เช่นนั้นก็ปล่อยให้นางลำพองใจชั่วคราวไปก่อน!

"พระชายาเจ้าคะ เมื่อวานนี้ชิวจวี๋ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ชิวจวี๋ยอมรับผิดแล้วเจ้าค่ะ! เพียงแต่ว่า การให้พระชายาพักอยู่ในตำหนักหลิงเซียว นั่นเป็นความคิดของท่านอ๋องนะเจ้าคะ ข้าน้อยมิอาจแทรกแซงได้ มีเพียงสิ่งเดียวที่ข้าน้อยสามารถทำแทนพระชายาได้ ก็คือให้บรรดาคนรับใช้ทำความสะอาดทั้งภายในและภายนอกตำหนักหลิงเซียว เพื่อให้เหนียงเหนียงได้พักอาศัยอย่างสะดวกสบายสักเล็กน้อย! แต่ทว่า ดูเหมือนซิ่งเอ๋อร์จะเข้าใจอะไรข้าน้อยผิดไป จึงยืนกรานที่จะขวางไม่ให้บรรดาข้าน้อยเข้าไป!"

ซิ่งเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะเบิกตาโพลง มองจวนอ๋องที่ดูโดดเด่นสวยงาม แต่สาวใช้แต่ละคนกลับพูดจาโกหกโดยไม่หลบสายตาแม้แต่น้อย

ถ้าหากว่านางเชื่อจริงๆ ว่าชิวจวี๋มีความคิดที่จริงใจกับพระชายา เช่นนั้นก็คงจะแปลกประหลาดเต็มที!

"หึหึ ช่างมีกะจิตกะใจเสียจริงๆ! ก็จริงอยู่ ตำหนักหลิงเซียวแห่งนี้ พอเจ้าเห็นวัชพืชกวัดแกว่งไปมาบนกำแพง ก็คงจะรู้สึกหงุดหงิดใจ เช่นนั้นก็กำจัดสิ่งที่ควรกำจัดเถิด! เพียงแต่ เพียงแต่ ข้ามีนิสัยอย่างหนึ่ง ก็คือไม่เคยชินกับการให้คนรับใช้เข้าไปในบ้านของตัวเอง และไม่ชอบให้พวกเขาขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวข้างของของข้า เจ้าก็รู้ดีว่า ชายหญิงมีการแบ่งแยกกัน ถ้าไม่เช่นนั้น ก็ให้คนรับใช้กำจัดวัชพืชอยู่ด้านนอก ส่วนเจ้าก็เข้าไปในบ้านเพื่อช่วยเก็บกวาดบ้านให้ข้าเป็นอย่างไร?"

เมื่อซิงเอ๋อร์ได้ฟังก็เหงื่อตกทันที นี่สมองของพระชายาฟั่นเฟือนไปแล้วหรือ?

หรือว่านางไม่รู้ว่าภายในบ้านมีลูกระเบิดที่พร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ?

ชิวจวี๋คาดไม่ถึงว่าพรชายาจะตอบรับอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้ ตราบใดที่สามารถให้นางเข้าไปตรวจสอบภายในบ้านได้ ส่วนที่เหลือก็เป็นเรื่องง่ายแล้ว

"ได้ยินแล้วหรือยัง? พวกเจ้ากำจัดวัชพืชในลานบ้านไปนะ! ข้าจะเข้าไปในห้องเพื่อเก็บกวาด!"

ชิวจวี๋มีความสุขเป็นอย่างยิ่ง คล้ายกับว่าเห็นความสำเร็จกำลังกวักมือเรียกนาง!

"แม่นางชิวจวี๋ ในเมื่อเจ้ามีจิตใจที่หวังดีเช่นนี้ ข้าก็ขอเตือนเจ้าสักเล็กน้อยว่า ภายในบ้านหลังนี้ เต็มไปด้วยใยแมงมุม และแมลงตัวเล็กตัวน้อยจำนวนมาก หากจะทำความสะอาดก็คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ภายในห้องนั้นทั้งมืดและเปียกชื้น เพียงแค่สัมผัสสิ่งที่สกปรก ก็จะรู้สึกคันไปทั่วทั้งตัวจนยากที่จะทนได้! เจ้าจะต้องคิดไตร่ตรองให้ดี!"

ไหนเลยชิวจวี๋จะสนใจฟัง? ภายในใจของนางคาดหวังเพียงแค่จะได้พบกับหลักฐานที่พระชายาคบชู้เมื่อคืนนี้โดยเร็ว นางจึงพุ่งตัวเข้าไปในประตูห้องโดยไม่พูดจา และในขณะที่นางเดินผ่านต้วนชิงเหยานั้น ต้วนชิงเหยาก็จัดแต่งผมเผ้าเล็กน้อย พร้อมกับทำการผิวปาก!

"คุณหนู เขาไปแล้วหรือเจ้าคะ?"

ไม่เช่นนั้น ต้วนชิงเหยาจะใจกว้างให้ชิวจวี๋ผู้ที่มีเจตนาไม่ดีอยู่ภายในใจเข้าไปเพื่อจับชู้ได้อย่างไรกันล่ะ!

"เปล่า ยังนอนอยู่บนเตียง!"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel