บท
ตั้งค่า

บทที่ 6 เจตนาที่แท้จริงนั้นยากแก่การหยั่งรู้

ซิ่งเอ๋อร์แห่งหอหลิงเซียวราวกับมดที่อยู่บนหม้อไฟ นางมองซ้ายทีขวาที ในที่สุดเงาร่างอันเลือนรางก็ปรากฏขึ้นในความมืดยามค่ำคืน

ไม่ใช่สิ เป็นสองคนอย่างนั้นหรือ!

เมื่อคนเดินเข้ามาใกล้ ซิ่งเอ๋อร์จึงมองเห็นได้ชัดว่าคุณหนูประคองร่างของผู้ชายที่ได้รับบาดเจ็บมาคนหนึ่ง!

ชายหญิงมิควรถูกเนื้อต้องตัวกัน ถึงแม้ว่าท่านอ๋องอานจะไม่ต้อนรับคุณหนู แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าคุณหนูเป็นภรรยาได้!

"คุณหนู เหตุใดท่านถึงพาผู้ชายกลับมาด้วยล่ะเจ้าคะ?"

ซิ่งเอ๋อร์รีบดึงตัวต้วนชิงเหยามายังข้างๆ สถานการณ์ที่พวกนางอยู่ในจวนอ๋องก็ลำบากลำบนมาพออยู่แล้ว ถ้าหากปล่อยให้คนที่มีเจตนาปั้นน้ำเป็นตัวเห็นเข้า ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาจะไม่ยิ่งยากลำบากหรอกหรือ

"เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส บัดนี้เคลื่อนไหวไม่สะดวก หากออกไปในเวลานี้ จะต้องตายอย่างมิต้องสงสัย อีกอย่าง เขาก็รับปากกับข้าแล้วว่า ตราบใดที่พวกเราช่วยชีวิตเขา หลังจากที่เขาหายดีแล้ว ก็จะให้เงินจำนวนมากเพื่อตอบแทนพวกเราอย่างแน่นอน!"

ต้วนชิงเหยาก็มิใช่คนที่จะเลียนแบบคนดี เขามีวัตถุประสงค์ของเขา นางก็มีวัตถุประสงค์ของนาง เพียงแต่นั่นคือสิ่งที่แต่ละคนต้องการก็เท่านั้น!

ถึงแม้ว่าจะมองไปเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของผู้ชายคนนั้น แต่ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ประสาทสัมผัสทั้งหกของนางบอกนางว่า คนที่มีดวงตาอันงดงามเช่นนั้น จะต้องมิใช่คนที่ชั่วร้ายจนเกินไปอย่างแน่นอน!

ซิ่งเอ๋อร์ชำเลืองมองจุนเหยียนอานที่สวมชุดดำทั้งตัว และสวมหน้ากากสีเงินด้วยความหวาดกลัว การปลอมตัวเช่นนี้เหมือนกับคนดีเสียที่ไหนกัน? ถ้าหากเป็นพวกปีศาจที่สังหารคนโดยไม่กะพริบตา เช่นนั้นจะทำอย่างไรดีล่ะ?

"คุณหนูเจ้าคะ คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจหรอกนะ มิหนำซ้ำยังเป็นคนแปลกหน้าอีก ท่านลองดูจากการปลอมตัวของเขาสิเจ้าคะ เหมือนคนดีเสียที่ไหนกัน ถ้าหากเขาเกิดกลัวว่าร่องรอยของตนเองจะถูกเปิดเผย แล้วหันมาฆ่าพวกเราเพื่อปิดปาก เช่นนั้นจะทำอย่างไรล่ะเจ้าคะ?"

ไม่มีจิตใจที่จะทำร้ายคน แต่ห้ามขาดจิตใจที่จะป้องกันคน ซึ่งแม้ว่าซิ่งเอ๋อร์จะอยู่แต่ในตระกูลที่ร่ำรวย แต่ความโหดเหี้ยมอันตรายของผู้คนนางก็เคยได้ยินมามากมาย

หลังจากที่คุณหนูรอดชีวิตจากความตาย คนก็ดูเหมือนจะเป็นคนใหม่ และกลายเป็นคนละคนไปเลย

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า นางจะไม่เฉลียวฉลาด และเชื่อคนง่ายเหมือนดังเดิม!

"ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็เป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ เจ้าคิดมากเกินไปแล้ว! อีกอย่าง ตอนนี้เขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส เกรงว่าแม้แต่แรงที่จะฆ่าไก่ก็ยังไม่มี!"

เจ้านายและคนรับใช้คิดว่าพวกนางพูดด้วยเสียงที่เบามากพอแล้ว แต่ไม่รู้เลยว่าจุนเหยียนอานที่ได้รับการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาตั้งแต่เด็กนั้นมีความสามารถทางการได้ยินที่ดีเยี่ยม ฉะนั้นคำพูดที่พวกนางพูดกันนั้นจึงเข้าหูของเขาทั้งหมดโดยไม่พลาดแม้แต่คำเดียว

มุมปากของจุนเหยียนอานยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ นี่คือจวนอ๋องอานของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่ฆ่าไก่แล้วเป็นอย่างไรเล่า? การจะสังหารคนสักคนจะต้องให้เขาลงมือด้วยตัวเองอย่างนั้นหรือ?

ตราบใดที่เขาออกคำสั่ง แน่นอนว่าย่อมมีคนคอยทำงานรับใช้เขาแต่โดยดี

สาเหตุที่เขาติดตามต้วนชิงเหยามาถึงสถานที่ที่น้อยคนจะเข้าถึงเช่นนี้ ก็เพราะต้องการที่จะดูว่าหญิงสาวที่แปลกประหลาดผู้นี้มีเจตนาอะไรภายในใจกันแน่!

จุนเหยียนอานที่ร่างกายอ่อนแอไม่อาจนอนหลับได้ง่ายๆ เพียงแค่ต้วนชิงเหยาเดินเข้ามาในห้อง เขาก็รับรู้ได้ในทันที

ในขณะที่ต้วนชิงเหยาดูเหมือนจะยื่นมือออกมา จุนเหยียนอานก็คว้าข้อมือของนางด้วยมือข้างเดียว และลืมตาขึ้นมาในทันที สายตาของเขาเฉียบคมราวกับมีด และกล่าวถามด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็นว่า: "เจ้าคิดจะทำอะไร?"

"ข้า? เจ้าคงไม่คิดว่าข้าจะทำร้ายเจ้าใช่หรือไม่?"

ต้วนชิงเหยารู้สึกว่าความหวังดีของตนเองถูกมองเป็นเจตนาร้าย นางเพียงแค่เห็นผูกงอิง แล้วก็เหลียนเชี่ยวจำนวนมากภายในสวน ซึ่งพืชสมุนไพรสามัญเหล่านี้ล้วนมีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบอย่างแท้จริง

ยากลำบากกว่านางจะเก็บได้บางส่วน เพื่อทำเป็นยาทา และเตรียมที่จะทาให้กับเขา แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกเขามองเป็นมือสังหาร!

จุนเหยียนอานเคลื่อนสายตามองไปที่ถ้วยยาที่อยู่มือซ้ายของนาง จากนั้นจึงปล่อยมืออย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

"จะทายาก็ทาสิ เหตุใดจะต้องทำตัวลับๆ ล่อๆ เช่นนี้ด้วยล่ะ?"

ต้วนชิงเหยากลืนไม่เข้าคายไม่ออก การจะเป็นแพทย์ที่อ่อนโยนและเอาใจใส่ในยุคสมัยนี้ช่างยากลำบากเสียจริงๆ

"ก็ข้าเห็นว่าเจ้านอนหลับอยู่ จึงกังวลว่าจะรบกวนการพักผ่อนของเจ้า จึงเดินเข้ามาเบาๆ อย่าเอาความคิดที่ชั่วร้ายไปคาดเดาคนที่มีคุณธรรมสูงส่งสิ! ถ้าหากว่าข้าไม่คิดที่จะช่วยชีวิตเจ้า ก็คงจะไม่ต้องเปลืองแรงขนาดนั้นตั้งแต่แรกหรอก!"

ต้วนชิงเหยากล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า: "ตอนนี้ สามารถทายาได้แล้วหรือยัง?"

ยานี้นางทำด้วยความยากลำบาก นางล้างจนสะอาด จากนั้นก็ค่อยๆ บดทีละนิดๆ จนกลายเป็นยาทา ถ้าหากว่ายังระแวงสงสัยและเป็นกังวลว่านางจะวางยาพิษเขา เช่นนั้นนางก็คงจะโยนถ้วยยาทิ้งไปทันที โดยไม่พูดอะไรเลยสักคำ!

จากนั้นก็นำคนคนนี้โยนออกไปจากลานบ้าน และนับจากนี้ไป ต่อให้เขาจะเป็นจะตายนางก็จะไม่สนใจไยดีแม้แต่น้อย!

"ได้!"

จุนเหยียนอานมีความสามารถในการสังเกตคนจากสีหน้าและคำพูด เขาจึงตอบกลับอย่างรวบรัดชัดเจน แต่ดวงตาก็ยังคงลืมอยู่ตลอดเวลา

เขามองการกระทำของต้วนชิงเหยาโดยไม่กะพริบตา ราวกับว่ากำลังป้องกันขโมย

"เจ้ารู้ไหมว่าอะไรที่เรียกว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นบ่อยจนยากที่จะป้องกันไหม? ถ้าหากข้ามีเจตนาที่จะทำร้ายเจ้า อย่าว่าแต่เจ้าคอยจับตาดูอยู่เลย แม้ว่าเจ้าจะนำเข็มเงินมาทดสอบยา ก็สามารถสังหารคนได้โดยปริยาย เจ้าเชื่อหรือไม่ล่ะ?"

ถึงแม้จะมองไปออกถึงสีหน้าของจุนเหยียนอาน แต่ผ่านสายตาและการกระทำของเขา นางก็สามารถคาดเดาได้ถึงความคิดภายในใจของเขา

ในยุคสมัยปัจจุบัน เรียกว่าจิตวิทยา!

แต่ทว่าจุนเหยียนอานไม่รู้อะไรเลยสักนิด ภายในใจของเขาจึงอดไม่ได้ที่จะวิจารณ์อยู่ภายในใจ หรือว่าผู้หญิงคนนี้จะอ่านใจคนได้?

คาดไม่ถึงว่าเขาจะไม่รู้ว่าบุตรสาวของต้วนเฉิงเซี่ยงจะมีความสามารถมากมายขนาดนี้!

......

"อะไรนะ? เมื่อคืนนี้นังบ้านั่นเข้าหอกับท่านอ๋องอย่างนั้นหรือ? จะเป็นไปได้อย่างไรกัน?"

เพียงได้ฟังข่าวนี้ ชิวจวี๋ก็ลุกขึ้นมานั่ง

เรื่องนี้บางทีคนอื่นอาจจะเชื่อ แต่ทว่าถึงแม้จะตัดหัวของนาง ชิวจวี๋ก็ไม่เชื่ออย่างแน่นอน!

ท่านอ๋องเป็นใคร ไม่มีใครรู้ดีไปกว่านางอีกแล้ว!

ท่านอ๋องที่มีนิสัยเย็นชาขนาดนี้ จะเข้าหอกับหญิงคนหนึ่งที่ไม่เคยพบหน้าได้อย่างไรกัน?

ตนเองที่ปรนนิบัติอยู่ในจวนอ๋องมากว่าห้าปี ได้รับการคัดเลือกทีละขั้นๆ กว่าจะเข้าใกล้ท่านอ๋องได้แต่ละก้าวๆ จนกลายเป็นหญิงที่ท่านอ๋องเชื่อใจมากที่สุด!

"จริงสิ จริงแท้แน่นอนเลยล่ะ! เมื่อคืนนี้องครักษ์เสื้อแพรมาค้นภายในจวน โดยบอกว่าเห็นมือสังหารหลบหนีมายังจวนอ๋องของพวกเรา และหลังจากที่เปิดประตูออก ก็เห็นพระชายา——ในตอนนั้นพ่อบ้านก็อยู่ที่นั่นด้วย เขาก็ได้กำชับสั่งนักหนาว่า ห้ามพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้แม้แต่คำเดียว เพียงแต่ พี่ชิวจวี๋ เจ้าก็ไม่ใช่คนนอกแต่อย่างใด เจ้าเป็นผู้หญิงที่อยู่ข้างกายท่านอ๋อง ถึงแม้ว่าข้าจะไม่บอก แต่เจ้าก็คงจะได้ต้อนรับแขกในไม่ช้าก็เร็ว!"

ถึงแม้ว่าเสี่ยวหยูจะพูดโดยมีหลักการและรายละเอียด แต่ชิวจวี๋ก็ยังคงไม่เต็มใจที่จะเชื่อ

เมื่อวาน นางถูกต้วนชิงเหยาถอดแขนสองข้าง ถึงแม้ว่าต่อมานางจะตามหอมมารักษาแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกเจ็บปวดอยู่ พ่อบ้านจึงอนุญาตให้นางลางานได้สองวันเป็นการพิเศษ และยังบอกกับนางอีกว่า ท่านอ๋องจะออกเดินทางไกล และสองวันนี้จะไม่กลับมา จึงให้นางพักผ่อนได้อย่างสบายใจ!

ในเมื่อท่านอ๋องออกเดินทางไกล และไม่อยู่ภายในจวนอ๋อง แล้วต้วนชิงเหยาผู้นั้นเข้าหอกับใครกันล่ะ?

ดวงตาของชิวจวี๋กลิ้งกลอกไปมา ลางสังหรณ์บอกนางว่า ในเรื่องนี้จะต้องมีอะไรที่ปิดบังอยู่อย่างแน่นอน

คนอย่างนาง แต่ไหนแต่ไรถือคติที่ว่าบุญคุณต้องทดแทนแค้นต้องชำระ!

"เจ้าแน่ใจหรือว่า ภายในห้องมีผู้ชายอยู่ด้วยจริงๆ?"

เสี่ยวหยูถูกคำถามนี้ทำให้นิ่งอึ้งไป "ข้ามิได้เห็นกับตาตัวเองหรอก เพียงแต่ ก็น่าจะมีใช่หรือไม่ล่ะ? ไม่เช่นนั้น คนขององครักษ์เสื้อแพรคงจะไม่ออกมาหรอก!"

ใช่แล้ว ไหนเลยคนขององครักษ์เสื้อแพรจะถูกตบตาหลอกลวงได้อย่างง่ายดายเช่นนั้น?

อีกทั้งพ่อบ้านด้วย!

เพียงแต่ หากผู้ชายคนนี้มิใช่ท่านอ๋อง แล้วจะเป็นใครไปได้ล่ะ?

ถ้าหากท่านอ๋องกลับมา แล้วพบว่าต้วนหงเยียนผู้นั้นสวมเขาให้กับเขา นางก็อยากจะดูซิว่าต้วนหงเยียนผู้นั้นจะลำพองใจได้อย่างไรอีก?

"ชิวจวี๋ เจ้าจะไปไหน?"

ชิวจวี๋ที่โมโหเดือดดาลได้วิ่งออกไปราวกับลมพายุ!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel