บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 ทำข้อตกลงกับท่านอ๋อง

"ซิ่งเอ๋อร์พูดถูกมิใช่หรือ? เจ้าก็แค่หมารับใช้ตัวหนึ่ง! มีอะไรผิดเล่า?"

ต้วนชิงเหยากล่าวอย่างไม่รีบไม่ร้อน : "คนของข้า ถึงตาที่เจ้าต้องมารับบทสั่งสอนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ถึงแม้ว่าข้าจะเป็นพระชายาที่ไม่โปรดปรานแล้วอย่างไรเล่า? ข้าก็คือนายของเจ้าอยู่ดี!"

อยู่ในจวนต้วน ซิ่งเอ๋อร์ปกป้องคุณหนูมาตลอด นึกไม่ถึงเลยว่าสักวันหนึ่ง คุณหนูรองผู้อ่อนแอจะปกป้องนางราวกับนักรบก็ไม่ปาน

ซิ่งเอ๋อร์ไม่รู้ถึงความเจ็บปวด และยังคงรู้สึกตื้นตันใจ ขอบตาร้อนผ่าวเล็กน้อย

ชิวจวี๋มองดูการแต่งตัวของนาง และปิ่นมุกบนศีรษะ ก็ทราบได้ว่านางไม่ใช่เด็กรับใช้ธรรมดาๆ และหากว่าคุณหนูมาออกหน้าหาเรื่องแทนนาง เช่นนั้นจะเป็นการได้ไม่คุ้มเสียจริงๆ!

"คุณหนู ช่างมันเถอะเจ้าคะ! ข้าน้อยไม่เจ็บแล้ว!"

ซิ่งเอ๋อร์ดึงแขนเสื้อของต้วนชิงเหยาเบาๆ แต่ต้วนชิงเหยากลับสะบัดออก

"ไม่ต้องตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาข้าก็รู้ว่าข้าคือพระชายา พระชายาที่ฮ่องเต้ทรงพระราชทาน เจ้ามีข้อโต้แย้งอย่างนั้นหรือ? นี่เจ้ากำลังท้าทายฮ่องเต้อย่างเปิดเผยใช่หรือไม่?"

ต้วนชิงเหยายกตนข่มท่าน ถึงแม้จะรู้ดีว่าตนเองเป็นเพียงแค่ตัวปลอมที่มาแต่งงานแทนเท่านั้น แต่นางยังคงมีเหตุมีผลรองรับ และมีอำนาจข่มขู่ผู้อื่นได้

"ข้า ข้าเปล่า!"

ท้าทายกับฮ่องเต้ นั่นคือความผิดมหันต์เท่ากับการตัดศีรษะ! นางมิกล้าหรอก!

ชิวจวี๋โดนกล่าวหาเช่นนี้ก็รู้สึกหวั่นใจเป็นอย่างยิ่ง นางยังคิดว่าต้วนชิงเหยาเป็นคนที่ข่มเหงได้โดยง่าย แต่คาดไม่ถึงเลยว่าตนเองจะโดนเล่นงานกลับเช่นนี้

"ข้าจะถามเจ้าอีกครั้ง ว่าเจ้าใช้มือข้างไหนตบ?"

ยังคงเป็นคำถามเดิม ถึงแม้ชิวจวี๋จะไม่รู้ว่าเธอคิดจะทำการอันใด แต่ยังคงตระหนักได้ถึงความอันตราย

นางเม้มปากไม่พูดอะไร แต่มือข้างขวาหดกลับไปอยู่ด้านหลังอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว

มีมงกุฎหงส์และสายสะพายบนตัว ต้วนชิงเหยายืนอย่างอ่อนล้าเล็กน้อย นางไม่อยากพูดเหลวไหลไร้สาระอีกต่อไปแล้ว "เช่นนั้นก็ดี จะได้กำจัดแขนทั้งสองข้างทิ้งเสีย!"

"โอ๊ย!"

ได้ยินเพียงเสียงกรีดร้องที่สะท้านฟ้าสะเทือนดิน ชิวจวี๋ไม่เห็นชัดเจนว่าต้วนชิงเหยาลงมืออย่างไร เพียงแค่รู้สึกว่ามีมือทั้งสองข้างอยู่บนไหล่ของตนเองเท่านั้น และยังไม่เข้าใจว่าท้ายที่สุดแล้วมันเกิดอะไรขึ้น แขนทั้งสองข้างก็ถูกถอดออกมาแล้ว!

นางเจ็บปวดจนแยกเขี้ยวยิงฟัน คิดอยากจะโต้ตอบกลับ แต่แขนทั้งสองข้างที่ตกอยู่ข้างลำตัวไม่สามารถใช้เรี่ยวแรงได้แม้แต่น้อย

"เจ้ามันปีศาจร้าย เจ้าทำอันใดกับข้า?"

ชิวจวี๋มีความรู้สึกที่คละเคล้าประเดประดังเข้ามา แววตาที่เกรี้ยวโกรธมีความหวาดกลัวมากขึ้นเรื่อยๆ

ซิ่งเอ๋อร์ที่อยู่ข้างๆ มองอย่างตกตะลึงตาค้าง คุณหนูของพวกเขาเปลี่ยนเป็นคนที่เก่งกาจเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? .

เสียงดังสนั่นจนสะเทือนแก้วหู ต้วนชิงเหยาเกาหูด้วยสีหน้าท่าทางนิ่งสงบ นางยิ้มตาหยีและเอ่ยถามว่า : "ข้าทำอะไรกับเจ้า เจ้าไม่รู้เลยหรือ? หรือว่า เจ้ายังอยากเรียนรู้มันอีกคราหนึ่ง?"

ชิวจวี๋รู้สึกขนหัวลุก และถอยหลังสองก้าวโดยจิตใต้สำนึก

"เจ้ารอก่อนเถอะ! ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปอย่างแน่นอน!"

นี่คือจวนของอ๋องอาน ถึงแม้ว่านางจะมีความสามารถแล้วอย่างไรล่ะ? นางจะให้ท่านอ๋องหาความยุติธรรมให้แก่นางอย่างแน่นอน และให้ท่านอ๋องได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงอันดุร้ายของนาง!

เมื่อเห็นภาพด้านหลังของชิวจวี๋ที่ผลุนผลันวิ่งหนีออกไป ซิ่งเอ๋อร์ก็คอตกและกล่าวอย่างกังวลใจ "นางจะต้องไปกล่าวฟ้องท่านอ๋องอย่างแน่นอน คุณหนูรอง ขอโทษนะเจ้าคะ ทั้งหมดมันเป็นเพราะข้าน้อย จึงต้องไปพัวพันถึงท่านด้วย!"

"พูดจาโง่เขลาอะไรกัน? เป็นนางที่ลงมือก่อน หากท่านอ๋องจะลงโทษ เช่นนั้นก็ต้องลงโทษนางเช่นกัน!"

แต่เมื่อต้วนชิงเหยาคิดดูอีกที ก็ไม่ถูกหรอก ท่านอ๋องก็ปัญญาอ่อนเช่นกัน

ปัญญาอ่อนจนไม่สามารถตัดสินแทนตนเองได้ ยังจะสามารถตัดสินแทนคนรับใช้ได้อีกหรือ?

ความกังวลของซิ่งเอ๋อร์อาจจะมากเกินไป!

อย่างไรก็ตาม มันเป็นการตัดสินใจรับมือตามสถานการณ์ ไม่มีอุปสรรคใดที่แก้ไขไม่ได้!

"อย่างไรเสีย เจ้าจงจำเอาไว้ หากที่มีคนมารังแกเจ้า เจ้าต้องโต้ตอบกลับไปเป็นร้อยเท่าพันเท่า ดูสิว่าคราหน้านางยังจะกล้าอีกหรือไม่?"

ไหนเลยชิวจวี๋จะกล้ามีคราต่อไป บทเรียนครานี้ยังเจ็บปวดไม่พออีกหรือ?

"ท่านอ๋องเจ้าคะ ท่านอ๋องทรงตัดสินให้ข้าน้อยด้วยนะเจ้าคะ!"

ชิวจวี๋วิ่งเข้าไปที่ตำหนักชิงเฟิงของท่านอ๋องด้วยน้ำมูกน้ำตาไหล แต่ตามหาทั่วทั้งลานบ้านแล้ว กลับไม่พบร่องรอยของท่านอ๋องเลย

"ท่านอ๋องออกจากจวนไปทำธุระแล้ว! นี่เจ้ามาร้องเอะอะโวยวายทำไมกัน? แล้วแขนของเจ้าเป็นอะไรไป?"

พ่อบ้านที่ดูแลบ้านยังคิดว่าเกิดเรื่องอันใดใหญ่โต จึงรีบเดินออกมา

พ่อบ้านเอ่ยถามเช่นนี้ ชิวจวี๋ก็ยิ่งรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรม น้ำตาไหลรินลงมาราวกับไข่มุกที่ถูกตัดสายออกก็ไม่ปาน "ข้าทำตามคำสั่งของท่านอ๋อง ให้พาคุณหนูต้วนไปที่อุทยานหลิงเซียว แต่เมื่อพวกนางทั้งสองคนเห็นความชำรุดทรุดโทรมของอุทยานหลิงเซียว ก็โกรธเคืองข้า และยังบอกว่าข้าเป็นหมาที่อาศัยบารมีเจ้านาย ข้าจึงบอกว่านี่เป็นคำสั่งของท่านอ๋อง แต่พวกนางไม่เชื่อ เมื่อตีหมาก็ต้องดูเจ้าของด้วย เช่นนั้นต้วนชิงเหยาจึงถอดแขนของข้าออก!"

ถอดออกหรือ?

คุณหนูต้วนคนนี้เป็นเพียงบุตรสาวตระกูลมั่งมีที่ไร้เรี่ยวแรงมิใช่หรือ? นางจะมีความสามารถเช่นนี้ได้อย่างไร?

พ่อบ้านไม่เชื่อ แต่แขนของชิวจวี๋ก็ถูกถอดออกแล้วจริงๆ

สถานการณ์นี้ในตอนนี้ มาหาท่านอ๋องจะมีประโยชน์อันใด ไม่ใช่ว่าควรจะไปหาหมอก่อนหรอกหรือ?

......

ตำหนักหลิงเซียวที่ชำรุดทรุดโทรมน่าจะถูกทิ้งร้างมานานแล้ว ทั้งสองคนใช้พละกำลังมหาศาลในการทำความสะอาดทั้งวัน ในที่สุดก็เก็บกวาดไปได้บางส่วน และเพียงพอที่จะอยู่อาศัยได้แล้ว

เพียงแต่ว่า ผู้หญิงที่มีความสามารถไม่สามารถทำอาหารได้หากขาดข้าว พวกนางเหมือนถูกทอดทิ้งก็ไม่ปาน ไม่มีผู้ใดมาส่งข้าวส่งน้ำให้พวกนางเลย

"คนของจวนอ๋องอานอยากให้เราอดตายจริงๆ หรือ?"

เดิมทีซิ่งเอ๋อร์ยังแสร้งทำเป็นสงบนิ่งแต่ตอนนี้นางหิวจนไส้กิ่วแล้ว นางเชื่อว่าไม่ใช่เพียงแค่นางเท่านั้น คุณหนูก็คงหิวเช่นกัน!

"คิดอยากจะให้เราอดตาย มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก! ไม่ส่งให้เรา ข้าก็จะไปเอามาด้วยตนเอง! เจ้ารออยู่ที่นี่ ข้าไปแล้วจะรีบกลับมา!"

ต้วนชิงเหยาไม่เอาเรื่องเล็กๆ น้อยๆ นี้มาใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็นของที่บินอยู่บนท้องฟ้า หรือจะวิ่งอยู่บนพื้นดิน ขอเพียงแค่เป็นสิ่งมีชีวิต มันก็คืออาหารอันโอชะแสนอร่อย!

พวกนางมีมือมีเท้า จะต้องอดตายเลยหรืออย่างไร?

"ข้าน้อยไปด้วยได้หรือไม่เจ้าคะ?"

จวนอ๋องอานราวกับแหล่งที่เต็มไปด้วยอันตราย ซิ่งเอ๋อร์จะวางใจให้คุณหนูไปเผชิญอันตรายแต่เพียงผู้เดียวได้อย่างไร

"เจ้ามีฝีมือดีเหมือนกับข้าหรือ?"

ต้วนชิงเหยาตรงไปตรงมากับซิ่งเอ๋อร์ และหายไปในยามราตรี

จวนอ๋องแห่งนี้ใหญ่โตจริงๆ ชายคาทุกๆ แห่ง พลับพลาและหอต่างๆ รูแบบเหมือนกันทุกประการ เดิมทีต้วนชิงเหยาที่เชื่อว่าจะหาของกินได้อย่างง่ายดาย ผลปรากฏว่านางหลงทางเสียแล้ว!

"ตำหนักชิงเฟิง? สถานที่แห่งนี้คืออะไรกัน?"

ต้วนชิงเหยาเงยหน้าขึ้นมอง แสงจันทร์สาดส่องไปยังคำที่ดังหงส์ร่อนมังกรรำคำนี้ และกะพริบดวงตากลมโตอย่างสงสัย

เหตุใดนางจึงรู้สึกว่ายิ่งเดินก็ยิ่งห่างไกลล่ะ?

"ใครกัน?"

ต้วนชิงเหยารู้สึกได้ถึงลมเย็นๆ ที่พัดผ่านเข้ามา และดาบที่ส่องแสงเยือกเย็นในยามราตรีก็วางอยู่บนลำคอของตนเองแล้ว

"ท่านจอมยุทธโปรดไว้ชีวิตด้วย!"

ต้วนชิงเหยาคร่ำครวญอยู่ในใจ ว่าตนเองโชคร้ายอะไรเช่นนี้ นางเพียงแค่แอบขโมยไก่ในห้องครัวมาตัวหนึ่งเท่านั้น ถึงกับต้องชดใช้ด้วยชีวิตเลยหรือ?

นางบังคับให้ตนเองสงบสติอารมณ์ลงมา การใช้ชีวิตหลายปีในค่ายทหารนางได้ฝึกฝนความสามารถและการตอบสนองที่เหนือกว่าคนทั่วไป

นางสูดลมหายใจเข้า ในอากาศเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด และข้างๆ หูยังได้ยินลมหายใจหยาบๆ อย่างคลุมเครือ นางแทบจะแน่ใจได้เลยว่า คนที่มานั้นได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งยังบาดเจ็บไม่น้อยอีกด้วย!

"อย่าขยับ!"

น้ำเสียงทุ้มและแหบพร่าของผู้ชายดังมาจากด้านหลัง มันเย็นชาไร้ซึ่งความรู้สึก

เดิมทีต้วนชิงเหยาเพียงแค่อยากหันไปดูบาดแผลของเขาเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าจะทำกับตนเองรุนแรงเช่นนั้น

ในเวลานี้ นางรู้สึกอาวุธแหลมคมที่อยู่บนคอแนบชิดกับผิวหนังของตนเองเป็นอย่างยิ่ง ราวกับว่าถ้าออกแรงเพียงเล็กน้อย เส้นเลือดใหญ่ของตนเองก็จะถูกตัดขาดได้ทุกเมื่อ!

ต้วนชิงเหยาไม่กล้าขยับ แต่กลับจ้องมอง และกล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำ :

"ถ้าข้าเดาไม่ผิด ท่านจอมยุทธคงได้รับบาดเจ็บสาหัส บางแผลไม่มากกว่าหนึ่งแห่ง หากปล่อยให้เลือดไหลเช่นนี้ หากไม่จัดการให้ทันท่วงที ท่านจอมยุทธจะไม่อาจรักษาชีวิตเอาไว้ได้!"

อ๋องอานตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด คิดไม่ถึงว่าเด็กสาวคนนี้ยังไม่ทันได้หันมามองดูเขา ก็คาดเดาได้อย่างแม่นยำเช่นนั้นแล้ว

วันนี้เขาได้บุกเข้าไปจวนไท่จื่อในยามราตรี นึกไม่ถึงว่าจะถูกคนลอบทำร้าย ซุ่มรอโจมตีอยู่

บนร่างกายถูกโจมตีด้วยดาบอย่างน้อย 3 เล่ม สามารถมีชีวิตหนีรอดออกมาจากจวนไท่จื่อได้ นับว่าเป็นความสามารถของเขาจริงๆ

"ท้ายที่สุดแล้วเจ้าเป็นใครกัน?"

อ๋องอานไม่รู้เลยว่าในจวนของตนเองยังมีเด็กสาวที่ฉลาดปราดเปรื่อง และชำนาญในวิชาแพทย์อยู่ด้วยหรือ?

"ข้าคือพระชายาอานที่เพิ่งแต่งงานในวันนี้! หากเจ้าทำร้ายข้า สามีของข้าจะไม่ปล่อยเจ้าเอาไว้แน่ แต่ถ้าเจ้าปล่อยข้าไป ข้าจะช่วยชีวิตเจ้า ว่าอย่างไรล่ะ?"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel