บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 ท่านอ๋องคือแมวตัวหนึ่ง

ภายในจวนอ๋องอาน ภายใต้ต้นไม้ใหญ่อ๋องอานได้ถือหมากรุกสีดำเอาไว้ในมือข้างหนึ่ง และฟังรายงานจากองครักษ์ลับอย่างสงบนิ่ง

"เจ้าสาวมาถึงแล้วขอรับ บัดนี้อยู่ที่หน้าประตูจวนอ๋องอานแล้วขอรับ!"

"อ้อ?"

อ๋องอานเลิกคิ้วเล็กน้อย ท่านเฉิงเซี่ยงสามารถมอบบุคคลที่เขาถนอมรักมาให้แต่งงานด้วยอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้ นี่คือสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงเป็นอย่างยิ่ง

เหตุผลที่เขาเอ่ยถึงเรื่องการแต่งงานกับต้วนหงเยียนในช่วงเวลาอันสำคัญเช่นนี้ ก็เพียงแค่อยากจะทำลายเรื่องราวดีๆ ของไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยก็เท่านั้น

ไม่มีเหตุผลที่คนจะถูกเขาทำให้ได้รับบาดเจ็บ อีกทั้งยังปล่อยให้ภรรยาถูกคนอื่นแย่งชิงไปใช่หรือไม่?

ถึงแม้ว่าบัดนี้ในสายตาของคนนอกเขาจะเป็นเพียงแค่ท่านอ๋องปัญญาอ่อนคนหนึ่ง แต่สิ่งที่เรียกว่าหน้าตาและศักดิ์ศรีนี้ การได้รับสักเล็กน้อยก็เป็นเรื่องที่ดี ใครจะกล้ารังเกียจเดือดฉันท์ล่ะ?

อีกอย่าง ต้วนหงเยียนผู้นั้นก็เป็นคู่หมั้นของเขาอยู่แล้ว!

"ท่านอ๋องอานขอรับ เจ้าสาวมาถึงแล้ว ควรจะต้องไปทำพิธีไหว้เทวดาฟ้าดินหรือไม่ขอรับ?"

การให้ท่านเฉิงเซี่ยงจัดงานแต่งบุตรสาวเพื่อขจัดเสนียดจัญไร นั่นคือความคิดของท่านอ๋อง

ทำพิธีไหว้เทวดาฟ้าดินอย่างนั้นหรือ?

เขาไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำไป!

"เจ้าเคยเห็นคนปัญญาอ่อนคนไหนที่แต่งงานแล้วทำพิธีไหว้เทวดาฟ้าดินหรือ?"

มุมปากของพ่อบ้านกระตุกเล็กน้อย ท่านอ๋องไม่อยากยอมรับความรักความผูกพันนี้อย่างนั้นหรือ?

ด้านนอกจวนอ๋องอาน หลังจากที่รอจนผ่านไปครู่หนึ่ง ต้วนชิงเหยาหิวจนไส้กิ่ว และในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่จะเปิดผ้าม่านของเกี้ยวมาเพื่อชำเลืองมอง

เห็นเพียงที่หน้าประตูใหญ่ของจวนอ๋องอานมีสิงโตตัวใหญ่ที่ดูมีอำนาจตั้งอยู่ทางซ้ายและขวา ประตูใหญ่นี้จึงดูสง่าเคร่งขรึม และล้ำค่าอย่างเกินพรรณนา

หลังจากที่พิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดต้วนชิงเหยาก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ นี่คืออ๋องอานกำลังจะแต่งภรรยามิใช่หรือ? แล้วเหตุใดจึงไม่มีโคมไฟ ไม่มีผ้าประดับ อีกทั้งประตูใหญ่และลานบ้านก็ว่างเปล่า กระทั่งแขกเหรื่อสักคนก็ไม่มี?

ในขณะที่นางกำลังงุนงง ประตูใหญ่ที่ปิดสนิทก็ส่งเสียงดัง"แอ๊ด" ในที่สุดประตูก็เปิดออก

"คุณหนูต้วน เชิญลงจากเกี้ยวได้ขอรับ!"

ต้วนชิงเหยาไม่รู้กฎระเบียบประเพณีการแต่งงานที่แน่ชัด แล้วก็ไม่ได้ครุ่นคิดอย่างละเอียด ฉะนั้นเมื่อบอกให้นางลงนางก็ลง

ซิ่งเอ๋อร์สาวใช้ที่ติดตามไปได้เข้าไปประคองนางเดินเข้าไปในประตูใหญ่ของจวนอ๋องอย่างระมัดระวัง นางที่ถูกคลุมศีรษะด้วยผ้าแพรจึงมองไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น ได้ยินเพียงซิ่งเอ๋อร์กล่าวว่า "คุณหนู ถึงแล้วเจ้าค่ะ!"

แต่ซิ่งเอ๋อร์ก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่า ไหนเลยจะเป็นงานมงคลแห่งความสุขได้ แม้แต่คำมงคลสักคำก็ยังไม่มีอย่างนั้นหรือ?

"คำนับฟ้าดิน!"

พ่อบ้านย้ายเก้าอี้มาตัวหนึ่ง และนำแมวตัวอ้วนตุ้ยนุ้ยตัวหนึ่งวางลงบนเก้าอี้

"บังอาจ คนที่คุณหนูของพวกเราจะแต่งงานด้วยก็คือท่านอ๋องอานของพวกเจ้านะ พวกเจ้าจะให้คุณหนูของพวกเราทำพิธีไหว้เทวดาฟ้าดินกับแมวตัวหนึ่งอย่างนั้นหรือ นี่มันอะไรกัน?"

พ่อบ้านจึงกล่าวอธิบายอย่างจริงจังว่า: "ท่านอ๋องของข้าเพิ่งจะตกจากหลังมาเมื่อไม่นานมานี้ จนกระทบกระเทือนบริเวณท้ายทอย บัดนี้สติสัมปชัญญะไม่ชัดเจน และนอนรักษาตัวอยู่ ไหนเลยจะสามารถมาทำพิธีไหว้เทวดาฟ้าดินได้ล่ะ?"

เมื่อต้วนชิงเหยาที่อยู่ภายใต้ผ้าแพรคลุมหน้าสีแดงได้ฟังก็เข้าใจว่า นี่คือต้องการจะแสดงอำนาจกับนาง

เพียงแต่นางก็มิได้โกรธเคือง ต่อให้จะอัปยศอดสูสักแค่ไหน นั่นล้วนเป็นเรื่องของต้วนหงเยียน นางเพียงแค่มารับแทนคนอื่นก็เท่านั้น เมื่อคิดเช่นนี้ความรู้สึกภายในใจของนางก็ดีขึ้นมาไม่น้อย

"แต่นี่พวกเจ้ารังแกกันมากเกินไปแล้วนะ คุณหนูของข้า——"

ซิ่งเอ๋อร์ตาแดงก่ำ เรียกร้องความเป็นธรรมแทนชิงเหยา ถูกรังแกในตระกูลฝั่งแม่ก็ช่างเถิด แต่คาดไม่ถึงว่าแต่งงานเข้าจวนอ๋องอาน ก็ยังมิได้มีชีวิตที่ดีอีก

นี่จะไม่ใช่การออกจากถ้ำมังกร มาเข้าถ้ำเสือหรอกหรือ?

"อย่าเอะอะโวยวายไปเลย!"

ต้วนชิงเหยากล่าวพลางดึงผ้าแพรคลุมหน้าสีแดงออกเอง เห็นเพียงดวงตาอันสดใส ใบหน้าที่งดงาม ผิวของนางที่ละเอียดเกลี้ยงเกลา ราวกับว่าหลุดออกมาจากใบภาพวาด

พ่อบ้านจึงอดไม่ได้ที่จะวิจารณ์อยู่ภายในใจว่า คุณหนูต้วนงดงามถึงเพียงนี้ มิน่าล่ะไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยจึงถูกดึงดูดให้หลงใหลเคลิบเคลิ้ม จนยืนกรานที่จะแย่งชิงกับอ๋องอาน?

ต้วนชิงเหยาเหมือนกับได้มองพ่อบ้านแม้แต่น้อย สายตาของนางถูกดึงดูดโดยแมวที่น่ารักไร้เดียงสาตัวนั้น ซึ่งแมวสีขาวราวกับหิมะตัวนี้เหมือนกับไป๋เสว่ที่นางเลี้ยงเมื่อชาติที่แล้ว

ไม่รอให้พ่อบ้านกล่าวเตือนสติ ต้วนชิงเหยาก็ชิงยื่นมือไปอุ้มแมวตัวนั้น

"ที่แท้เจ้าก็คือท่านอ๋องนี่เอง นับจากนี้ไป เจ้าก็คือสามีของข้าแล้ว ได้โปรดดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกันด้วยนะ!"

ซิ่งเอ๋อร์ที่เดิมทีเป็นเดือดเป็นร้อนแทนคุณหนูของตัวเอง ได้ส่งเสียง"หัวเราะก๊าก"ออกมา

เป็นเรื่องจริงที่คุณหนูของตนถูกเอาเปรียบ แต่ท่านอ๋องอานนั้นก็ดูเหมือนว่าไม่ได้รับผลดีเช่นกัน!

พ่อบ้านก็รู้สึกงุนงงเช่นกัน แต่ไหนแต่ไรมาเจ้าแมวตัวนี้ข่วนทุกคนที่พบเห็น เหตุใดเมื่อเห็นคุณหนูต้วน กลับเปลี่ยนนิสัยไปโดยฉับพลัน?

เมื่อได้ยินการรายงานของพ่อบ้าน มุมปากของอ๋องอานก็เล็กน้อย นึกไม่ถึงเลยว่าคุณหนูต้วนจะเป็นผู้หญิงปากคอเราะรายเช่นนี้ นี่ไม่ใช่เป็นการด่าทอทางอ้อมว่าอ๋องอานเป็นสัตว์เดรัจฉานหรอกหรือ?

หากเขาไม่ทำเรื่องที่โหดร้ายป่าเถื่อนยิ่งกว่าสัตว์ เช่นนั้นมันจะผิดต่อการยกย่องของนางจริงๆ!

"สำนักศึกษาหลิงเซียวที่รกร้างทางตอนใต้นั้น ให้นางไปอยู่ที่นั่นเถอะ! และผู้ใดก็ห้ามส่งเสบียงให้นางเป็นอันขาด!"

"นี่มันจะไม่เหมาะสมนะขอรับ?"

สำนักศึกษาหลิงเซียวรกร้างว่างเปล่าแห่งนี้เต็มไปด้วยวัชพืช มืดมิดน่าสะพรึงกลัว มันคือการมีอยู่ที่น่ากลัวที่สุดในจวนอ๋อง

ยิ่งไปกว่านั้น ยังไม่ให้ส่งเสบียงให้นางอีกด้วย นี่ตักไม่เป็นการโหดร้ายทารุณเกินไปหรอกหรือ!

อย่างไรเสียคุณหนูต้วนก็ถือว่าเป็นพระชายา? และเป็นนายหญิงเพียงคนเดียวในจวนอ๋อง!

"มีอะไรไม่เหมาะสมหรือ?"

ท่านอ๋องอานชายตามองพ่อบ้าน สีหน้าที่เคร่งขรึมจริงจังราวกับภูเขาหิมะที่ถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งมานับพันปี

การตัดสินใจของเขาสามารถให้คนรับใช้มาตั้งข้อสงสัยได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

"เหมาะสม เหมาะสมอย่างยิ่งขอรับ!"

คำสั่งของนายท่านก็คือพระราชโองการ พ่อบ้านจงตระหนักได้ว่าตนเองพูดมากเกินไป!

ด้วยเหตุนี้ เมื่อต้วนชิงเหยาทำพิธีแต่งงานเสร็จก็ถูกโยนเข้าไปในตำหนักเย็นอันรกร้างว่างเปล่าทันที!

"ยังไงคุณหนูของข้าก็เป็นพระชายาของพวกเจ้า จะมาอยู่สถานที่บ้าๆ เช่นนี้ได้อย่างไร?"

ซิ่งเอ๋อร์มองเห็นลานบ้านที่รกร้างก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ นี่ไม่ใช่ว่าเป็นการกลั่นแกล้งกันเกินไปหน่อยหรือ?

ถึงแม้ว่าคุณหนูจะไม่ได้รับการต้อนรับจากจวนต้วน แต่อย่างน้อยๆ ก็ยังอาศัยอยู่ในลานบ้านที่สะอาดสะอ้าน

แต่ว่าที่นี่ คนจะอาศัยอยู่ได้อย่างไรกัน?

คิดไม่ถึงเลยจวนอ๋องใหญ่โตโอ่อ่าขนาดนั้น จะไม่สามารถรองรับคุณหนูของพวกเขาได้

"หื๊ม? พระชายา? ไม่ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตนเองเลยหรือ ตรงไหนเล่าที่เหมือนกับพระชายา?"

คนรับใช้มีท่าทีกำเริบเสิบสานและไม่เห็นต้วนชิงเหยาอยู่ในสายตา

ชิวจวี๋คนที่รักใคร่อ๋องอานเสมอมาและเป็นกังวลเรื่องการแต่งของท่านอ๋องมาตลอด ตอนนี้ดูเหมือนว่าตนเองจะเป็นกังวลมากจนเกินไป เดิมทีท่านอ๋องไม่ได้ชอบพอต้วนหงเยียนคนนี้เลยแม้แต่น้อย

"เจ้ามันหมาตาต่ำ! กำเริบเสิบสานยิ่งนัก!"

ซิ่งเอ๋อร์โกรธมาก ท่านอ๋องจะรังแกคุณหนูของพวกเขาก็พอแล้ว แต่ตอนนี้คนรับใช้ยังจะปีนขึ้นหัวของพวกเขาอีก

ชิวจวี๋ที่ถูกด่าว่าเป็นหมาไม่เอ่ยปากใดๆ ฉับพลันนางได้ยกมือขึ้นมา และตบเข้าไปอย่างแรง

ได้ยินเสียงดัง"เพี๊ยะ" ซิ่งเอ๋อร์รู้สึกว่าใบหน้าของตนเองปวดแสบปวดร้อน

"เจ้า——"

"เจ้าอะไรหรือ! เมื่อมาถึงจวนอ๋องก็ควรจะปฏิบัติตามกฎของจวนอ๋อง ข้าเป็นคนรับใช้อันดับหนึ่งของจวนอ๋อง เจ้ามากระด้างกระเดื่องกับข้า นั่นคือการกำเริบเสิบสาน!"

ชิวจวี๋ติดตามอยู่ข้างกายท่านอ๋องมาตั้งแต่เยาว์วัย เป็นคนรับใช้ข้างกายของอ๋องอาน จึงเย่อหยิ่งจองหองอยู่ในจวนอ๋องมาตลอด แม้แต่พ่อบ้านเมื่อพบเจอนางก็ยังต้องถ่อมตน

เดิมทีนางเคยชินกับการใช้อำนาจบาตรใหญ่จึงไม้เห็นต้วนชิงเหยาอยู่ในสายตา และยิ่งไม่สามารถเห็นคนรับใช้ข้างกายของต้วนชิงเหยาอยู่ในสายตาได้เช่นกัน

หากพูดให้ถูกต้อง คือนางกำลังเชือดไก่ให้ลิงดู เพื่อให้ต้วนชิงเหยาเข้าใจของฐานะและตำแหน่งของตนเองในจวนอ๋อง

ต้วนชิงเหยายืนแข็งทื่อเหมือนตอไม้ไม่พูดอะไรและนำซิ่งเอ๋อร์ที่ยืนกุมใบหน้ามาอยู่ด้านหลัง และเดินทีละก้าวๆ ไปที่ชิวจวี๋อย่างช้าๆ ที่มุมปากมีรอยยิ้มคลุมเครือ แต่เป็นรอยยิ้มที่จิมปลอม แววตาราวกับชุบด้วยน้ำแข็ง มันมืดมิดและเยือกเย็นจนทำให้คนรู้สึกกลัวจนตัวสั่น

ชิวจวี๋ก็ไม่รู้เช่นกันว่าเหตุใดตนเองจึงรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน เห็นได้ชัดว่านางเป็นเพียงผู้หญิงที่อ่อนแอไร้เรี่ยวแรง แต่พลังที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างกายเหตุใดจึงน่ากลัวขนาดนั้น?

"เจ้า เจ้าคิดจะทำอันใด?" ชิวจวี๋แสร้งทำเป็นไม่สะทกสะท้าน แต่น้ำเสียงที่สั่นเครือเผยให้เห็นความหวาดกลัวในใจของนางในเวลานี้

"เมื่อครู่นี้ใช้มือข้างไหนตบ?"

ต้วนชิงเหยาตอบไม่ตรงคำถาม

ชิวจวี๋งุนงงเล็กน้อย และถอยหลังไปก้าวหนึ่งโดยไม่รู้ตัว มือที่ตบคนในตอนนี้ยังคงร้อนผ่าวอยู่ แต่นางกลับเชิดหน้าขึ้น และกล่าวอย่างใจดำว่า : "นางกำเริบเสิบสาน ไม่รู้จักกฎเกณฑ์ก็ควรจะโดนตบ!"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel