บท
ตั้งค่า

บทที่ 14 สอนบทเรียนให้เจ้า

"มันฝรั่งทอด!"

"ปีกไก่ทอด!"

"เนื้อไก่ทอด!"

ต้วนชิงเหยายืนอยู่หน้าโต๊ะอาหาร และชี้ไปที่อาหารอันโอชะพร้อมแนะนำทีละรายการ

จะมัดใจชาย ต้องมัดด้วยเสน่ห์ปลายจวัก

นางไม่เชื่อหรอก ว่าชุดอาหารเคเอฟซีที่นิยมไปทั่วทั้งโลก และเหมาะกับทุกเพศทุกวัย จะมัดใจท่านอ๋องปัญญาอ่อนไม่ได้?

จุนเหยียนอานมองดูอาหารตรงหน้าอย่างประหลาดใจ จะบอกว่าไม่รู้จัก แต่ก็ดูคุ้นเคยอยู่ จะบอกว่ารู้จัก แต่ก็เห็นได้ชัดว่าคนในวังคนนอกวังไม่ได้ทำอาหารเช่นนี้!

อย่างน้อยๆ ไม่ว่าจะหั่นมันฝรั่งอย่างไร ก็ไม่เคยหั่นจนกลายเป็นเส้นบางๆ แบบนั้น?

"ลองชิมสิ! เจ้าหิวมิใช่หรือ?"

เพื่อที่จะทำให้ชีวิตของตนเองลำบากน้อยลงในอนาคต ต้วนชิงเหยาจึงพยายามอย่างสุดความสามารถ!

ได้กลิ่นอันหอมหวนมาแตะจมูก จุนเหยียนอานก็กลืนน้ำลายอย่างแรง

โรคภัยเข้าทางปาก มิใช่ว่าของทุกสิ่งทุกอย่างจะสามารถทานได้ โดยเฉพาะอาหารที่ทำโดยคนไม่ทราบที่มาที่ไป!

"ท่านอ๋อง ทานข้าวได้แล้วเจ้าค่ะ!"

ชิวจวี๋ยกถาดเดินเข้ามา แต่เหมือนไม่เห็นพระชายาที่ยืนอยู่ข้างๆ

จานชามในถาดอาหารถูกวางลงบนโต๊ะตามลำดับ และมันฝรั่งทอดและปีกไก่ทอดที่เดิมทีวางอยู่ตรงกลางได้ถูกผลักออกไปอยู่ด้านข้าง

ซิ่งเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะเป็นเดือดเป็นร้อนแทนนายท่านของตนเอง เพื่อมันฝรั่งทอดแล้ว มือของคุณหนูถูกน้ำมันลวกจนพอง แต่ว่าตอนนี้ ท่านอ๋องอานไม่ซาบซึ้งในบุญคุณ ยังจะร่วมมือกับคนรับใช้มารังแกคุณหนูของพวกเขาอีก!

นี่มันจะรังแกกันเกินไปแล้วจริงๆ!

"ที่แท้ท่านอ๋องก็ชอบทานของเหล่านี้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อาหารเหล่านี้ ข้าจะทานเองก็แล้วกัน!"

ในเมื่อคนอื่นไม่ชอบ เหตุใดตนเองจะต้องเอาใจคนอื่นอยู่ฝ่ายเดียวด้วย?

"อาหารของท่านอ๋องข้าน้อยเป็นคนรับผิดชอบมาโดยตลอด ต่อไปนี้ ของสกปรกเหล่านี้ อยากได้นำมาให้ท่านอ๋องอีก"

สกปรกหรือ?

ต้วนชิงเหยาวางตะเกียบดัง"ปัง" ความซื่อสัตย์ที่ชิวจวี๋มีต่อท่านอ๋อง เดิมทีนางคิดที่จะลืมตาข้างหนึ่ง และปิดตาข้างหนึ่งเสีย ให้เรื่องนี้ผ่านไปอย่างเงียบๆ!

แต่ว่าตอนนี้ เป็นอีกครั้ง ที่ชิวจวี๋กำลังยั่วยุตนเอง หากไม่สอนบทเรียนให้นางสักเล็กน้อย นางยังจะคิดว่าตนเองสามารถกลั่นแกล้งได้ง่ายจริงๆ!

"เจ้าบอกว่าอาหารของใครสกปรก?"

"แน่นอนว่าเป็นของท่านอย่างไรล่ะ!"

"ข้าว่านะ อาหารของเจ้าต่างหากที่สกปรก! เจ้าดูสินี่มันคืออะไรกัน? สามารถทานได้ด้วยหรือ? ข้าว่านะ ไม่แน่ว่าท่านอ๋องอาจจะทานอาหารเหล่านี้ของเจ้าเข้าไป สมองจึงได้ผิดปกติเช่นนี้ใช่หรือไม่?"

ต้วนชิงเหยาใช้ตะเกียบที่ทิ้งไปแล้วมาพลิกอาหารไปมา "เนื้อหมูนี้เหตุใดจึงมีสีเช่นนี้? ไม่ใช่ว่าเป็นพิษใช่หรือไม่? แล้วนี่มันผักใบเขียวอะไรกัน เหตุใดจึงมีกลิ่นแปลกๆ!"

จุนเหยียนอานกอดอก มองดูอีกฝ่ายใส่ไฟกันอย่างเงียบๆ แต่คาดไม่ถึงว่าไฟจะลุกลามมาที่ตนเองด้วย

เพียงแต่ว่า ต้วนชิงเหยาพูดถูก บุคลิกในตอนนี้ของเขาคือสมองผิดปกติ

แต่เขาเพียงแค่แสร้งผิดปกติเท่านั้น แล้วมันเกี่ยวอะไรกับอาหารที่ชิวจวี๋นำมาให้ด้วยล่ะ?

ชิวจวี๋ไม่ยอมเป็นหนังหน้าไฟอย่างแน่นอน "พระชายาอาน ท่านเพิ่งเข้ามาที่จวนอ๋อง เรื่องบางเรื่องท่านอาจจะยังไม่ทราบ อย่าได้พูดจาเหลวไหล ท่านอ๋องอานตกจากหน้าผา สมองจึงได้เสียหาย มิได้เกี่ยวข้องกับอาหารเลยแม้แต่น้อย!"

"ไม่เกี่ยวกับอาหารการกินอย่างนั้นหรือ?"

ต้วนชิงเหยายิ้มเบาๆ หยิบมันฝรั่งทอดเข้าปากตนเองชิ้นหนึ่ง และเอ่ยถามว่า : "ข้ากล้าพูดเลยว่าอาหารของตนเองไม่มีปัญหา แล้วเจ้าล่ะกล้าทานอาหารของเจ้าหรือไม่?"

"ไม่กล้าหรือ?"

เมื่อเห็นท่าทางนิ่งเฉยของชิวจวี๋ ต้วนชิงเหยาก็หัวเราะและพูดจาถากถางว่า : "ท่านอ๋อง ข้าว่านะ ในอาหารนี้ต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน แม้แต่ชิวจวี๋ก็ไม่กล้าทานมัน เจ้ากล้าทานด้วยหรือ?"

ชิวจวี๋ถูกต้วนชิงเหยากระตุ้น จึงรู้สึกโมโหขึ้นมา

"ท่านอ๋องเจ้าคะ ชิวจวี๋ปรนนิบัติท่านมานานหลายปีเช่นนี้ ความคิดของชิวจวี๋ที่มีต่อท่าน ฟ้าดินสามารถเป็นหยานได้! อาหารเหล่านี้ล้วนเป็นชิวจวี๋ไปยกจากห้องครัวด้วยตนเอง มิเคยผ่านมือผู้ใด มันจะมีปัญหาได้อย่างไรล่ะเจ้าคะ?"

"ใช่น่ะสิ? ในเมื่อไม่มีปัญหา เหตุใดเจ้าจึงไม่กล้าลองล่ะ? ท่านอ๋องมิใช่คนใจคอคับแคบเช่นนั้น ที่แม้แต่อาหารคำเดียวก็ไม่ให้เจ้ากิน!"

"กินก็ได้!"

เมื่อชิวจวี๋ถูกกดดันจึงต้องพิสูจน์ว่าอาหารที่ตนเองยกมามิได้มีปัญหา นางจึงหยิบตะเกียบขึ้นมาโดยตรง

"ใครว่าข้ามิกล้าล่ะ!"

ชิวจวี๋ลองทานอาหารจานแรกไปแล้ว

ต้วนชิงเหยาก็ส่งอาหารจานที่สองให้ทันที

นางยังไม่ทันได้ลองชิมอาหารทุกอย่างจนหมด จู่ๆ นางก็ตัวงอและกุมหน้าท้องเอาไว้แน่น

"เป็นอะไรไปเล่า? ยังไม่ได้ดื่มซุปถ้วยนี้เลย! เหตุใดจึงรีบไปเสียแล้วล่ะ?"

ต้วนชิงเหยากล่าว

แต่ชิวจวี๋สนใจที่จะตอบคำถามเสียที่ไหนกัน นางปวดถ่ายอย่างเร่งด่วน หากยังไม่ไปอีก นางจะต้องขายหน้าต่อหน้าทุกๆ คนอย่างแน่นอน!

"คุณหนู นางเป็นอะไรไปหรือ?"

ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่ายโสโอหังหรอกหรือ? เหตุใดในเวลาต่อมา กลับกุมท้องและวิ่งออกไปอย่างจนตรอกเช่นนั้น!

"จะเป็นอันใดได้เล่า? ข้าบอกแล้วว่าอาหารพวกนี้ทั้งมันทั้งเลี่ยน ทานแล้วจะต้องท้องเสียอย่างแน่นอน นางไม่เชื่อเอง!"

บนโลกใบนี้มีเรื่องที่บังเอิญขนาดนั้นเสียที่ไหนกัน?

จุนเหยียนอานสงสัยและไม่เข้าใจ เห็นได้ชัดว่าเขานั่งอยู่ข้างๆ มองพวกนางอย่างตาไม่กะพริบ

เดิมทีไม่เห็นว่าพระชายาอานจะลงมือทำอันใด เหตุใดอยู่ดีๆ ชิวจวี๋จึงท้องร่วงได้?

พระชายาอานคนนี้ เกินกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้มาก!

"ท่านอ๋องอาน ดังนั้น ตอนนี้เจ้าต้องการทานของใครเล่า?"

ทั้งสองคนได้ลองชิมอาหารของตนเองแล้ว ต้วนชิงเหยาปลอดภัยดี แต่ชิวจวี๋กุมท้องแล้ววิ่งออกไป แพ้ชนะมองคราเดียวก็เข้าใจเลย!

ในเมื่อพระชายาอานไม่เป็นอะไร ท่านอ๋องอานจะต้องทานของต้วนชิงเหยาเป็นธรรมดา!

"อร่อยหรือไม่?"

อย่าว่าเลย จุนเหยียนอานก็คิดไม่ถึงว่าพระชายาอานจะมีฝีมือดีขนาดนี้

ตลอดคืนนี้ ชิวจวี๋มิได้ปรากฏตัวอีกเลย

ต้วนชิงเหยาคิดว่าคืนนี้จะเป็นคืนที่เงียบสงบอย่างหาได้ยาก แต่คิดไม่ถึงว่าจะเจอกับปัญหาที่รับมือได้ยาก!

เมื่อรอนางอาบน้ำเสร็จ จึงหยิบเสื้อผ้าที่ถูกเตรียมเอาไว้ขึ้นมาดู อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง

นี่มันเสื้อผ้าอะไรกัน?

เกือบจะถือได้ว่าเป็นผ้าบางๆ เพียงไม่กี่ชิ้น? จะใส่หรือไม่ใส่ก็มิต่างกัน!

"ซิ่งเอ๋อร์! ซิ่งเอ๋อร์!"

ต้วนชิงเหยาตะโกนเรียกจนคอแทบแตก แต่นอกห้องกลับไม่มีเสียงใดๆ

เห็นได้ชัดว่า ซิ่งเอ๋อร์ถูกแยกออกไปนานแล้ว

นางไม่สามารถสวมใส่เสื้อผ้าเช่นนี้ออกไปได้มิใช่หรือ? หากด้านนอกไม่มีคนก็ยังดี แต่ว่า ยังมีท่านอ๋องอานอยู่ด้านนอกด้วย!

ถึงแม้ว่าเขาจะปัญญาอ่อน แต่ก็เป็นผู้ชายปกติทั่วไป!

ความเสี่ยงนี้ นางไม่อาจเผชิญมันได้เป็นอันขาด!

ต้วนชิงเหยาเหลียวไปทางซ้าย มองไปทางขวา ก็เกิดความคิดอันเฉียบแหลมขึ้นมา นางดึงผ้าม่านที่แขวนอยู่ที่หน้าต่างลงมา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel