บท
ตั้งค่า

บทที่ 13 เข้าครัวก็ได้

ท่านอ๋องอานพูดจาฉะฉานอย่างมีเหตุผล ในชั่วพริบตา ต้วนชิงเหยาก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี

เอาเถอะ ก็เพียงแค่เด็กที่สติปัญญาไม่สมประกอบคนหนึ่ง นางจะไปเอาจริงเอาจังอะไรกับเขาล่ะ?

เสื้อผ้าสกปรก เดี๋ยวค่อยเอาไปซักก็ได้!

"ข้ามิได้ไม่สนใจเจ้า ข้าเพียงแค่กำลังคิดเรื่องบางเรื่องอยู่!"

"เจ้าคิดอะไรหรือ เจ้าบอกข้าสิ ข้าจะได้ช่วยเจ้าคิด!"

ต้วนชิงเหยากวาดสายตาอันซับซ้อนมองเขา คล้ายกับกำลังพูดจา เจ้าเป็นแค่คนปัญญาอ่อนคนหนึ่ง เจ้าจะสามารถคิดและเข้าใจได้หรือ?

"เจ้าอย่าดูถูกข้าสิ เสด็จพ่อบอกว่า ข้าฉลาดขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาแล้ว!"

นั่นคือดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมิใช่หรือ?

ต้วนชิงเหยาอดไม่ได้ที่จะตำหนิอยู่ภายในใจ แต่ก็ยังอดทนไม่ยอมพูดออกมา

รถม้าแล่นโคลงเคลงไปมาอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็มาหยุดลงที่หน้าประตูใหญ่ของจวนอ๋องอาน

"กล่องเหล่านี้ ย้ายเข้าไปในลานบ้านของอ๋องอาน! แล้วก็ของเหล่านี้ ย้ายไปยังห้องเก็บของ เบาๆ หน่อย! ทุกอย่างเป็นสิ่งของพระราชทาน มีมูลค่าสูงมาก!"

เพียงแค่เข้าพระราชวังครั้งหนึ่ง ฮ่องเต้ก็มอบข้าวของเป็นคันรถเพื่อเป็นรางวัลให้กับท่านอ๋องอาน และแทบจะมอบของทุกอย่างที่อร่อย และสนุกสนานให้กับอ๋องอาน

เหมือนกับคำกล่าวที่ว่าคนโง่มีวาสนาของคนโง่จริงๆ!

ต้วนชิงเหยายืนอยู่ข้างๆ รถม้า มองฉากที่กำลังยุ่งวุ่นวาย ถึงอย่างไรตนเองก็ช่วยเหลือไม่ได้ จึงปัดมือเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า: "เช่นนั้น ข้าขอกลับไปพักผ่อนก่อนนะ!"

"พระชายาอานจะไปไหนหรือเจ้าคะ?"

เพียงต้วนชิงเหยาหันตัวกลับมา ก็พบว่าถูกแม่นมหวังจับผิดอยู่

"แน่นอนว่าเป็นตำหนักหลิงเซียวสิ! มีปัญหาหรือ?"

นางคิดว่าเมื่อผ่านเรื่องราวเช่นนี้ไปแล้ว ถึงแม้ว่าตำแหน่งของตนเองในจวนอ๋องอานจะมิได้ทะยานขึ้นสูงเสียดฟ้า แต่ก็คงจะมิใช่การเทียบไม่ได้แม้แต่สาวใช้ เหมือนกับก่อนหน้านี้?

แล้วเหตุใดแม้แต่เดินสักก้าวก็ยังไม่ได้ล่ะ?

แม่นมหวังมองสายตาของต้วนชิงเหยา ก็รู้ว่านางจะต้องเข้าใจผิดอย่างแน่นอน

"ข้าน้อยได้ให้สาวใช้นำข้าวของของพระชายาอานย้ายไปยังเรือนชิงเฟิงแล้วเจ้าค่ะ ถ้าหากพระชายาจะกลับไปพักผ่อน ก็ไปยังเรือนชิงเฟิงได้โดยตรงเลยเจ้าค่ะ!"

อ๋องอานก็พยักหน้าตามไปด้วย "เสด็จพ่อสั่งให้เจ้าอ่านหนังสือด้วยกันกับข้า เข้าห้ามขี้เกียจเด็ดขาด!"

"เอ่อ ก็ได้!"

กระทั่งเอาชื่อเสียงของฮ่องเต้พูดเช่นนี้ นางจะกล้าบอกว่าไม่ได้หรือ?

ก็เพียงแค่อ่านหนังสือก็เท่านั้น!

"กล่องหนังสือนี้ ล้วนเป็นรางวัลจากฮ่องเต้ พวกท่านค่อยๆ อ่านกันไปนะเจ้าคะ ถ้าหากอ่านจนล้าแล้ว เช่นนั้นก็พักเสียก่อน แล้วครั้งหน้าค่อยอ่านกันใหม่เจ้าค่ะ!"

พอกล่องไม้กล่องหนึ่งถูกวางลง ใบหน้าแม่นมหวังก็เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็สั่งให้คนรับใช้รีบออกไป และทำการปิดประตูดัง"ปัง"

ก็เพียงแค่อ่านหนังสือมิใช่หรือ? เหตุใดจะต้องทำลึกลับซับซ้อนเช่นนี้ด้วยล่ะ?

ต้วนชิงเหยารู้สึกสงสัยเป็นอย่างยิ่ง หรือว่าในกล่องนี้จะมีอะไรซ่อนเร้นอยู่?

"เสด็จพ่อบอกว่า หนังสือเหล่านี้จะต้องให้พวกเราอ่านด้วยกัน และจะต้องเรียนรู้ให้ดี ครั้งหน้า เขาจะทำการทดสอบข้า!"

จุนเหยียนอานเดินไปถึงข้างๆ กล่องไม้ แล้วเปิดฝาออกอย่างว่องไว

เห็นเพียงภายในกล่องบรรจุหนังสือเต็มไปหมด ซึ่งไม่มีความแปลกประหลาดอะไร ต้วนชิงเหยาจึงคิดภายในใจว่าตนเองกำลังใช้ความคิดที่ชั่วร้ายไปคาดเดาคนที่มีคุณธรรมสูงส่ง ถึงอย่างไรฮ่องเต้ก็เป็นจะรพรรดิของประเทศ จะสามารถแอบทำเรื่องลับๆ ที่ไร้ยางอายในสมัยโบราณได้อย่างไรกัน?

"เสด็จพ่อของเจ้าพูดถูก เปิดอ่านหนังสือจะทำให้ได้ประโยชน์ ยิ่งอ่านมาก สมองก็จะกลายเป็นเฉลียวฉลาด!"

เพียงแค่ได้ยินว่าอ่านหนังสือแล้วตนเองจะกลายเป็นคนฉลาด แววตาของจุนเหยียนอานก็เป็นประกายขึ้นมาทันที เขาจึงคว้าหนังสือจากในกล่องขึ้นมาแล้วเดินเข้ามาพลาง จากนั้นก็กล่าวถามไปพลางว่า: "การอ่านหนังสือสามารถทำให้ข้ากลายเป็นคนฉลาดได้จริงๆ หรือ? จะฉลาดเหมือนกับแต่ก่อนเลยไหม?"

ต้วนชิงเหยาตกตะลึงในทันที การเป็นแพทย์จะต้องพูดความจริง

แต่ความจริงอันโหดร้ายเช่นนั้น นางจะพูดออกมาได้อย่างไรกัน!

การอ่านหนังสือสามารถทำให้คนปกติทั่วไปยิ่งฉลาดขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งสามารถนำเพชรพลอยเงินทองจำนวนนับไม่ถ้วน แล้วก็อนาคตอันสดใสมาให้เขาได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถทำให้คนปัญญาอ่อนคนหนึ่งกลายเป็นคนปกติได้!

"น่าจะเป็นไปได้กระมัง?"

ต้วนชิงเหยากล่าวอย่างคลุมเครือ

จุนเหยียนอานกระโดดโลดเต้นราวกับได้รางวัลใหญ่ และมานั่งลงข้างๆ ต้วนชิงเหยาอย่างอดรนทนไม่ไหว "เสด็จพ่อบอกว่า หากมีตรงไหนไม่เข้าใจให้ถามเจ้า"

ในชั่วพริบตาที่เปิดหนังสือออกมา ต้วนชิงเหยาก็ตกตะลึง!

นี่มันคือหนังสืออะไรกัน?

นี่มันคือภาพเร้าอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด!

ใบหน้าของต้วนชิงเหยาแดงไปถึงติ่งหู ถึงแม้ว่านางจะเรียนหมอ สำหรับสรีระของมนุษย์นางมีภูมิต้านทานอยู่แล้ว

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านางจะมีภูมิต้านทานต่อภาพวาดแบบนี้!

"เอ๊? เหตุใดพวกเขาจึงไม่สวมเสื้อผ้ากันล่ะ?"

จุนเหยียนอานเอาหนังสือภาพมาดู และมองดูอย่างสนุกสนาน

หากไม่ใช่รู้ว่าเขาเป็นคนทึ่มทื่อมีสติปัญญาไม่ถึง 10 ขวบ ต้วนชิงเหยายังอยากจะเตะเขาสักทีจริงๆ นี่ไม่ใช่ว่าเป็นการลวนลามอย่างเปิดเผยหรอกหรือ?

"บางทีอาจจะร้อนเกินไปกระมัง!"

ต้วนชิงเหยาคิดหนัก ทำได้เพียงคิดข้ออ้างแบบมั่วๆ ออกไปเท่านั้น

"มิน่าเล่า!"

จุนเหยียนอานพยักหน้าอย่างคล้ายจะเข้าใจแต่ไม่เข้าใจ

"แต่ว่า เหตุใดเขาจึงนั่งอยู่บนตัวของนางล่ะ?"

ถ้าต้วนชิงเหยาคิดว่าตนเองสามารถจัดการจุนเหยียนอานได้อย่างง่ายดาย เช่นนั้นนางก็คิดผิดมหันต์!

นางยิ่งอึดอัดใจมากเท่าไหร่ ยิ่งละอายใจมากเท่าไหร่ จุนเหยียนอานก็ยิ่งไล่ตามไม่ยอมปล่อย!

เขาอยากจะเห็นว่า นางจะแสดงไปได้นานแค่ไหนกัน?

"แค่กๆ นั่นเป็นเพราะว่า เพราะว่า เขาอาจจะอ่อนเพลีย! แล้วก็เป็นลมแดด ดังนั้นจึงได้ล้มลงไป!"

หากถามต่อไป ตนเองคงจะรับมือไม่ไหวแล้วจริงๆ!

ต้วนชิงเหยาแย่งหนังสือภาพมา และปิดหนังสือภาพอย่างรวดเร็ว

"เจ้าหิวแล้วไม่ใช่หรือ? ข้าจะไปทำอาหารให้เจ้าทาน เจ้าอยากทานอะไร ข้าจะทำให้เจ้าเอง?"

"ดีๆ! ข้าอยากทานของอร่อยๆ"

จุนเหยียนอานหรี่ตาลงอย่างเจ้าเล่ห์ นางเก่งกาจมากไม่ใช่หรือ?

ภายใต้ตาทิพย์ของฮ่องเต้และฮองเฮา ยังรอดพ้นจากความตายได้ เหตุใดจึงยอมแพ้ง่ายๆ เช่นนี้ล่ะ?

เขาอยากดูสิว่า นางยังมีลูกไม้อะไรอีก!

ต้วนชิงเหยารีบหนีออกมาจากห้อง แม่นมหวังที่อยู่ด้านนอกกลับตกตะลึง

เข้าหอ มันเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็วเช่นนี้เลยหรือ?

มองแวบเดียว ต้วนชิงเหยาก็รู้ว่าแม่นมกำลังคิดอะไรอยู่

มิใช่ว่าปรารถนาให้นางเข้าหอกับท่านอ๋องเหรอ?

เพียงแต่ว่า เหตุใดนางจะต้องเข้าหอกับคนปัญญาอ่อนด้วยล่ะ

คนอื่นๆ โหยหาที่จะเป็นพระชายาอาน แต่นางมิได้โหยหาเลย!

ต้วนชิงเหยามีความคิดนับไม่ถ้วนอยู่ในใจ แต่ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้ม : "ท่านอ๋องหิวแล้ว ข้าจะไปดูที่ห้องครัวสักหน่อย เพื่อทำอาหารให้ท่านอ๋องทาน!"

แม่นมหวังพยักหน้า เป็นนางที่คิดไม่ดี และใจร้อนจนเกินไป

กินไม่อิ่ม จะสามารถทำงานได้อย่างไรเล่า?

"พระชายาอาน งานหนักเช่นนี้ จะให้ท่านมาทำได้อย่างไร? ข้าทำเองจะดีกว่า!"

"นี่คือสิ่งที่ข้ารับปากไว้กับท่านอ๋อง!"

ออกงานก็ได้ เข้าครัวก็ได้ นี่ก็คือต้วนชิงเหยา

ในฐานะที่นางชื่นชอบการกิน นอกเสียจากถือมีดผ่าตัดแล้ว สิ่งที่ชำนาญที่สุดก็คือถือมีดหั่นผัก!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel