บท
ตั้งค่า

บทที่ 12 ในหนังสือซ่อนไว้ซึ่งหญิงงาม

หากจะพูดถึงความโง่เขลาแล้ว อ๋องอานจะไม่โง่เขลาเบาปัญญาเสียยิ่งกว่าต้วนชิงเหยาหรอกหรือ?

ไหนเลยจะกล่าวพระชายาอานไม่คู่ควรกับอ๋องอาน น่าจะกล่าวว่าอ๋องอานไม่คู่ควรกับพระชายาอานเสียมากกว่า!

ฮองเฮาดึงมือของต้วนชิงเหยาอย่างสนิทสนม แล้วกล่าวด้วยสีหน้ารักและเมตตาว่า: "เด็กโง่ เรื่องนี้ ฮ่องเต้จะต้องตัดสินใจแทนเจ้าอย่างแน่นอน!"

ทุกคนคิดว่าครั้งนี้พระชายาอานเห็นแก่ตัวละทิ้งสามีในช่วงเวลาวิกฤต แต่คาดไม่ถึงว่าฮองเฮากลับจูงมือของพระชายาอานเดินออกมาด้วยสีหน้ารักใคร่เอ็นดู ฉากนั้น ไหนเลยจะเหมือนการเห็นแก่ตัวละทิ้งสามีในช่วงเวลาวิกฤต

"ฮองเฮา นี่คือ?"

ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นๆ ที่ไม่เข้าใจ แม้แต่ฮ่องเต้ก็มองแล้วไม่เข้าใจถึงการแสดงฉากนี้ จึงมองฮองเฮาด้วยสีหน้าที่งุนงง!

เห็นเพียงฮองเฮาปล่อยมือของต้วนชิงเหยา จากนั้นจึงก้าวขึ้นขั้นบันได และเดินไปยังข้างๆ ฮ่องเต้

นางกระซิบข้างหูฮ่องเต้สองสามประโยคด้วยความขวยเขินและประหม่า ซึ่งทุกคนต่างก็ไม่ได้ยินว่าสรุปแล้วฮองเฮาพูดอะไร แต่เห็นเพียงสีหน้าที่เคร่งขรึมเยือกเย็นราวกับภูเขาน้ำแข็งของฮ่องเต้ค่อยๆ ละลายลง และท้ายที่สุด เขาก็ส่ายหน้าอย่างจนใจ และมุมปากก็แฝงไปด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย

"ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง! นอกจากอ๋องอานกับพระชายาอานแล้ว คนอื่นๆ ออกไปได้!"

เหตุใดในเวลาเพียงชั่วพริบตา ถึงเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือไปได้ล่ะ?

ชิวจวี๋คิดว่าครั้งนี้ต้วนชิงเหยาต้องตายเป็นแน่ แต่คาดไม่ถึงว่านางจะสามารถหลบหนีจากสถานการณ์ที่ยากลำบากไปได้

"ฮอง——"

ชิวจวี๋ต้องการที่จะเอ่ยปากพูด แต่ก็ถูกพ่อบ้านหลี่ปิดปากเอาไว้ และลากตัวออกไป

"เอะอะโวยวายในตำหนัก นี่เจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วอย่างนั้นหรือ?"

ธรรมดาแล้วชิวจวี๋เป็นคนฉลาดหลักแหลม แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า ความฉลาดจะใช้การไม่ได้เสียแล้ว

คาดไม่ถึงว่านางจะคิดที่จะเขี่ยพระชายาอานทิ้ง พระชายาอาน ใช่คนที่ถึงครานางจะลงมือได้อย่างนั้นหรือ?

นางสนมขันทีต่างก็ทยอยกันออกจากท้องพระโรง ภายในตำหนักจึงเหลือเพียงฮ่องเต้และฮองเฮา แล้วก็อ๋องอานและพระชายาอานสี่คนเท่านั้น

"อานเอ๋อร์ เข้ามานี่ซิ!"

ฮ่องเต้กวักมือเรียก ความเมตตาและอ่อนโยนบนใบหน้า แล้วท่าทีนั้น เหมือนกับพ่อที่แสนจะธรรมดาคนหนึ่ง

"เสด็จพ่อ!"

ของว่างในปากของอ๋องอานยังไม่ทันได้กลืนลงไป เขาขยับปากเคี้ยวไปพลาง แล้วหยิบองุ่นพวงหนึ่งติดมือไปพลาง จากนั้นจึงเดินไปยังข้างๆ ฮ่องเต้

"เสด็จพ่อ ท่านกินสิ! หวานมากเลย!"

อ๋องอานหยิบองุ่นลูกหนึ่งส่งไปยังปากของฮ่องเต้

"ข้าไม่กินหรอก เจ้ากินเถิด!"

จุนเหยียนอานมององุ่นด้วยความงุนงง ราวกับว่านึกอะไรขึ้นได้ จึงนำองุ่นไปถูกับแขนเสื้อที่ขาวสะอาดเล็กน้อย "ตอนนี้องุ่นไม่สกปรกแล้ว สามารถกินได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ"

มือของจุนเหยียนอานค้างอยู่กลางอากาศ ถ้าหากฮ่องเต้ไม่เสวย เขาก็คงจะทำอยู่แบบนั้น

"นิสัยนี้ของเจ้า ช่างเหมือนกับแม่แท้ๆ ของเจ้าไม่มีผิด! ตกลง ข้าจะลองชิมดูก็ได้!"

มองใบหน้าของอ๋องอานที่คล้ายกับฮองเฮาองค์ก่อน ในแววตาของฮ่องเต้ก็อ่อนโยนเป็นอย่างยิ่ง

"จริงด้วย หวานมาก!"

เฉพาะเมื่ออยู่ต่อหน้าท่านอ๋องอานเท่านั้น ที่ฮ่องเต้จะถอดหมวกเหล็กเสื้อเกราะและการเตรียมป้องกันตัวออก และเผยให้เห็นนิสัยและโฉมหน้าที่แท้จริงออกมา

แม้แต่ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ย ก็ไม่อาจได้รับความรักใคร่ของฮ่องเต้เหมือนกับอ๋องอานได้!

ภายในใจของฮองเฮามีความรู้สึกทุกอย่างประเดประดังเข้ามา แต่ภายในใจก็อดไม่ได้ที่จะดีใจ โชคดีที่อ๋องอานปัญญาอ่อน ไม่เช่นนั้น จะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาสองแม่ลูก?

"นี่คือเครื่องบรรณาการจากหนานเจียง เอาไว้ข้าจะเอากลับมาให้มากสักหน่อย"

"พ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ ท่านกินสิ!"

อ๋องอานมิได้สนใจว่าบนพื้นจะสกปรกหรือไม่ เขานั่งลงกับพื้นที่ปลายเท้าของฮ่องเต้โดยตรง และส่งองุ่นไปยังปากของฮ่องเต้อย่างไม่หยุดหย่อน

ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด พอต้วนชิงเหยาได้เห็นภาพนี้ คาดไม่ถึงว่าจะรู้สึกอิจฉาตาร้อนเล็กน้อย

ในชาติที่แล้ว พ่อของนางได้เสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุทางการรักษา นี่จึงทำให้นางมีเจตจำนงอันแน่วแน่ที่จะเป็นหมอ

ชาตินี้ พระเจ้าก็ไม่สนใจไยดีนาง โดยส่งพ่อที่เห็นแก่ตัว และโหดร้ายใจดำมาให้นาง

บางที นี่ก็อาจจะคือชีวิต!

"ฝ่าบาท อีกประเดี๋ยวค่อยเสวยองุ่นก็ย่อมได้ ตอนนี้เราจะตรัสเรื่องสำคัญแล้วหรือไม่?"

สายตาของฮองเฮามองไปยังพระชายาอาน

"เจ้าดูสิข้าลืมเรื่องสำคัญไปได้อย่างไรกัน อานเอ๋อร์ บัดนี้อายุของเจ้าก็มิใช่น้อยๆ แล้ว เมื่อแต่งงานแล้ว เช่นนั้นก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว นับจากนี้ต่อไป ไม่อาจเป็นห่วงแต่เรื่องกินกับเล่นเช่นนี้อีกแล้ว เจ้าจะต้องอ่านหนังสือให้มากสักหน่อยนะ!"

"อ่านหนังสือหรือ? ดีเลย!"

จุนเหยียนอานกินองุ่นไปพลางพยักหน้าไปพลาง "ตราบใดที่เสด็จพ่อชื่นชอบ กระหม่อมก็จะอ่านพ่ะย่ะค่ะ! แต่ว่า กระหม่อมสามารถอ่านหนังสือไปด้วยกินองุ่นไปด้วยได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ?"

มุมปากของฮ่องเต้ยกยิ้มเล็กน้อย กับลูกชายปัญญาอ่อนคนหนึ่ง เขายังจะสามารถพูดอะไรได้อีกล่ะ?

"ฝูกงกง! ช่างเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปดูว่า มีของอะไรที่ชื่นชอบบ้าง"

ฮ่องเต้จ้องมองใบหน้าอันขาวผ่องไร้ที่ติของอ๋องอานอย่างเอ็นดูราวกับมองเด็กน้อย จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ แล้วส่ายหน้าเล็กน้อย

นี่คือสายเลือดที่เหลือเอาไว้จากฮองเฮาองค์ก่อน ซึ่งสืบทอดใบหน้าอันงดงามของฮองเฮาองค์ก่อนได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ทว่า เหตุใดถึงไม่สืบทอดสติปัญญาอันเฉลียวฉลาดและปราดเปรื่องของฮองเฮาองค์ก่อนมาบ้างเลยนะ?

นี่เป็นความเสียใจอย่างใหญ่หลวงที่สุดในฐานะจะรพรรดิของประเทศ!

"ฮองเฮา เรื่องนี้ มอบให้ให้เจ้าก็แล้วกัน!"

ฮองเฮาเข้าใจอย่างทราบซึ้ง จึงรีบรับปากว่า

"ฝ่าบาทวางพระทัยได้ หม่อมฉันจะปฏิบัติอย่างสุดความสามารถ!"

เมื่อฮ่องเต้และอ๋องอานจากไป ฮองเฮาก็ขี้เกียจที่จะเสแสร้งอีก จากนั้นรอยยิ้มบนใบหน้าที่ราวกับดอกไม้ก็มลายหายไปอย่างไร้ร่องรอยในทันที

ต้วนชิงเหยาอดไม่ได้ที่จะกะพริบตาเล็กน้อย คิดว่าตนเองมองผิดไป!

"สภาพนี้ของอ๋องอานเจ้าก็ได้เห็นแล้ว สำหรับเรื่องของชาหญิง เขาไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น ฉะนั้น ใครก็มิอาจช่วยเหลือเจ้าได้ ทำได้เพียงแค่อาศัยตัวของเจ้าเองเท่านั้น!"

"เรื่องราวในวันนี้ ก็ให้ถือเสียว่าปล่อยผ่านไปชั่วคราว แต่ถ้าหากมีครั้งต่อไป ก็คงจะไม่ง่ายดายเช่นนี้อีกแล้ว! ราชวงศ์ย่อมมีกฎระเบียบของราชวงศ์ ถึงแม้จะมีความเฉลียวฉลาดเพียงเล็กน้อย ก็จะต้องรักษาเอาไว้ หากไม่ระมัดระวัง ก็อาจจะเสียหัวได้!"

"ข้ามองว่าเจ้าฉลาดเป็นกรด เจ้าเอาชนะใจข้าได้ นับจากนี้ไป ถ้าหากอ๋องอานมีความเคลื่อนไหวอะไร ให้เจ้ามารายงานข้า ในทันที!"

ต้วนชิงเหยารู้สึกเพียงว่าพลังแห่งความเยือกเย็นได้โจมตีเข้ามาทันที และตั้งแต่ปลายเท้าจรดโคนผมก็อดไม่ได้ที่จะเยือกเย็น

ฮองเฮาที่ดูอ่อนโยนราวกับฤดูใบไม้ผลิก่อนหน้านี้ ในชั่วพริบตาก็ได้เปลี่ยนไปราวกับคนละคน

เหมือนคำกล่าวที่ว่าอยู่ใกล้กษัตริย์ก็เหมือนอยู่ใกล้เสือจริงๆ!

"หม่อมฉันรับทราบเพคะ!"

ฮองเฮาพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

"ข้าชื่นชอบที่จะสนทนากับคนฉลาด วางใจเถิด มีข้าอยู่ ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าต้องถูกเอาเปรียบอย่างแน่นอน นับจากนี้ไป เจ้าเพียงแค่ดูแลเอาใจใส่ท่านอ๋องอานให้ดีๆ ถ้าหากสามารถให้กำเนิดบุตรชายหรือบุตรสาวให้กับอ๋องอานได้ เช่นนั้นก็จะดีไม่น้อย! ฮ่องเต้จะต้องดีใจเป็นอย่างยิ่ง!"

ในแววตาของฮองเฮาแฝงไปด้วยความโหดเหี้ยมเล็กน้อย ภายในใจคิดว่าถ้าหากเป็นบุตรสาวนางก็ยังพอที่จะหลับตาลงข้างหนึ่งได้

แต่ถ้าเป็นบุตรชาย? แค่คิดก็ไม่อยากจะคิด!

นางไม่อาจโง่เขลาเลี้ยงลูกเสือลูกจระเข้ได้!

เมื่อผ่านการอบรมสั่งสอนแล้ว ก็กลับมาบนรถม้า ต้วนชิงเหยารู้สึกหนักอกหนักใจ

เรื่องที่นางคิดแล้วไม่เข้าใจมีมากมายนัก ดูเหมือนว่าความรักที่ฮ่องเต้มีต่อท่านอ๋องอานนั้นจะเป็นเรื่องจริง แต่ทว่าฮองเฮากลับดูเหมือนมีเจตนาร้ายบางอย่างต่ออ๋องอานและนางอย่างบอกไม่ถูก

แต่ว่า อ๋องอานก็เป็นคนปัญญาอ่อนไปแล้วมิใช่หรือ?

อีกทั้งไม่อาจใช้อำนาจคุกคามตำแหน่งของไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยได้อีก แล้วนางจะเป็นกังวลอันใดกัน?

"เจ้ากำลังโกรธเคืองข้าอยู่หรือ?"

บนรถม้า อ๋องอานผู้ปัญญาอ่อนที่กินองุ่นเสร็จแล้วได้นำมือที่สกปรกเช็ดลงบนตัวของต้วนชิงเหยา

"เจ้า! เจ้าทำแบบนี้ได้อย่างไรกัน?"

เมื่อเห็นเสื้อผ้าของตนเองที่เดิมทีสะอาดหมดจดเปื้อนไปด้วยน้ำขององุ่น ต้วนชิงเหยาจึงขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจ

"ใครใช้ให้จ้าไม่สนใจข้าล่ะ? ข้าเป็นท่านอ๋องนะ เสด็จพ่อก็บอกแล้วว่า ข้าเป็นสามีของเจ้า ข้าอยากจะรังแกเจ้าอย่างไร ก็ย่อมรังแกเจ้าได้ทั้งนั้น!"

ในเวลานี้ ฮ่องเต้กำลังสั่งและฟังสาส์นกราบทูลข้อราชการรู้สึกเพียงว่าใบหูของตนเองร้อนผ่าว

ถ้าหากเขารู้ว่า คำว่ารังแกที่ตนเองเอ่ยถึงนั้นถูกบุตรชายสุดที่รักเข้าใจว่าเช่นนี้ คาดว่าเขาคงจะต้องกระอักเลือดเป็นแน่!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel