บท
ตั้งค่า

บทที่ 11 มีความลำบากใจอื่นๆ

"กระหม่อมคารวะเสด็จพ่อเสด็จแม่พ่ะย่ะค่ะ!"

เป็นเวลานานที่ไม่ได้พบกับฮ่องเต้และฮองเฮา ท่านอ๋องอานก็ราวกับเด็กที่ได้ขนมกิน หางตาของเขาแฝงไปด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย และตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก

"หม่อมฉันคารวะเสด็จพ่อเสด็จแม่เพคะ!"

ต้วนชิงเหยาที่ยืนอยู่ข้างๆ ท่านอ๋องอานก้มศีรษะลง และเลียนแบบท่าทีของจุนเหยียนอาน เพื่อคารวะฮ่องเต้และฮองเฮา

"ลูกขึ้นเถอะ! ฮองเฮา เจ้าลองดูสิ หลังจากที่ท่านอ๋องอานผู้นี้แต่งงาน ก็ดูใจเย็นขึ้นเป็นอย่างมากเลยว่าไหม?"

ฮ่องเต้ที่มีผมหงอกขาวมองดูผู้เยาว์ที่ยืนอยู่ในตำหนัก ยิ่งมองก็ยิ่งพึงพอใจ

ฮองเฮาที่สวมมงกุฎราชินีที่มีหน้าตาราวกับภาพวาด ได้พยักหน้าแล้วกล่าวว่า: "จะมิใช่ได้อย่างไรกัน? ท่านอ๋องอานและพระชายาอานช่างเป็นคู่บ่าวสาวที่หล่อสวย เป็นคู่สร้างคู่สม ราวกับกิ่งทองใบหยก ทำให้คนที่ได้พบเห็นก็อยากที่จะมองเป็นครั้งที่สอง"

"ฮองเฮาเพคะ!"

ที่แม่นมหวังเข้าพระราชวังในวันนี้ มิใช่มาเพื่อดูภาพของมารดาเมตตาบุตรกตัญญู ที่บอกว่าจะมาคารวะนั้นเป็นเรื่องโกหก แต่การขอให้ฮ่องเต้และฮองเฮาพิจารณาตัดสินต่างหาก ที่เป็นความจริง!

ภายใต้การบ่งชี้ของฮองเฮา แม่นมหวังจึงก้มหน้าลง แล้วก้าวฝีเท้าไปยังข้างๆ ฮองเฮาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เข้าใกล้ใบหูของนาง แล้วกระซิบกระซาบเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาทั้งหมดให้ฟังรอบหนึ่ง

สีหน้าของฮองเอาเปลี่ยนไปในชั่วพริบตา แล้วกล่าวถามด้วยความตกใจว่า: "เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือ?"

"จริงแท้แน่นอนเพคะ!"

แม่นมหวังพยักหน้า ถึงแม้ว่านางจะไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง

แต่คนจำนวนมากเห็นว่า ในคืนนั้น ในบ้านของพระชายามีผู้ชายคนหนึ่งอยู่จริงๆ

"อ๋องอาน ข้าขอถามเจ้าสักหน่อยว่า ในวันที่แต่งงาน เจ้านอนเตียงกันกับพระชายาอานหรือไม่?"

ในระหว่างทาง ที่ต้วนชิงเหยาและจุนเหยียนอานนั่งบนรถม้าด้วยกันมาตลอด

ในขณะที่อยู่บนรถ นางพยายามใช้วิธีพูดเกลี้ยกล่อมจุนเหยียนอานว่า ตราบใดที่นางไม่ได้มองตาของเขา ไม่ว่าคนอื่นจะกล่าวถามอะไรก็ให้เขาตอบว่าใช่ทั้งหมด

และหลังจากที่กลับไป นางก็จะทำของอร่อยๆ ให้เขากิน! และหาอะไรสนุกๆ ให้เขาเล่นด้วย!

จุนเหยียนอานจึงรับปากอย่างตรงไปตรงมา

ฉะนั้นตอนนี้ นางจึงก้มหน้ามองรองเท้าลายปักสีแดงสด ด้วยความมั่นอกมั่นใจ

"นอนบนเตียงเดียวกันอย่างนั้นหรือ? กระหม่อมก็นอนของกระหม่อมเองนะพ่ะย่ะค่ะ!"

ต้วนชิงเหยาราวกับถูกตีแสกหน้า จู่ๆ นางก็เงยหน้าขึ้นมองจุนเหยียนอานด้วยความตกใจ

เจ้าโง่นี่ทำไมถึงพูดจาเชื่อถือไม่ได้เลยนะ?

นางอุตส่าห์พูดจาดีด้วยตั้งมากมายตอนที่อยู่บนรถม้า อีกทั้งยังตั้งใจพับนกกระเรียนกระดาษให้เขาได้เล่นอีกด้วย!

"เสด็จพ่อบอกเอาไว้ว่า เป็นมนุษย์จะต้องซื่อสัตย์ มีหนึ่งบอกหนึ่ง มีสองบอกสอง ห้ามพูดจาโกหกเป็นอันขาด!"

ในขณะเดียวกันที่ต้วนชิงเหยามองเขา จุนเหยียนอานก็เอียงหน้ามามองต้วนชิงเหยา สายตาอันบริสุทธิ์ราวกับน้ำพุที่สะอาดหมดจด ทำให้คนจนปัญญาที่จะโกรธเคืองเขาได้!

แต่ทว่าเขาก็ให้คำมั่นสัญญากับตนเองตอนที่อยู่บนรถม้าแล้ว ว่าจะฟังคำสั่งของนาง และด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงทำการฝึกซ้อมกันหลายต่อหลายครั้ง

ต้วนชิงเหยากัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน เหตุใดนางถึงโง่เขลาเช่นนี้นะ คาดไม่ถึงว่าจะเชื่อคำพูดของคนปัญญาอ่อนคนหนึ่งอย่างนั้นหรือ?

ถึงแม้ว่าต้วนชิงเหยาจะไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา ก็สามารถรับรู้ได้ถึงสายตาของคนทั้งสองในตำหนักที่ราวกับคมดาบที่เล็งเป้ามายังตนเอง!

และชิวจวี๋ที่อยู่ด้านข้าง ก็มีสีหน้าลำพองใจเป็นอย่างยิ่ง

"เจ้าบังอาจมากนะ! ต้วนหงเยียน เจ้าชี้แจงความจริงมาเดี๋ยวนี้ ว่าในคืนแต่งงาน เจ้าอยู่ด้วยกันกับใคร?"

เรื่องราวภายในบ้าน แต่ไหนแต่ไรฮองเฮาล้วนเป็นผู้ควบคุมดูแล

ฮ่องเต้มีหน้าตาบึ้งตึงไม่พูดจา แต่จากการที่เขาขมวดคิ้วแน่นก็มองออกได้ว่า เขาไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง

"หม่อมฉันถูกใส่ความเพคะ!"

ต้วนชิงเหยาคุกเข่าลงกับพื้นด้วยตัวที่สั่นระริก จู่ๆ ในสมองก็เฉียบแหลมขึ้นมา และคิดถึงแนวคิดหนึ่งขึ้นได้

"ในวันที่แต่งงาน แน่นอนว่าหม่อมฉันอยู่แต่ในจวนอ๋องอาน มิได้อยู่ด้วยกันกับผู้อื่นเลยเพคะ!"

เมื่อเห็นว่า สามารถจัดการกับพระชายารองที่เป็นหนามยอกอกผู้นี้ได้ ในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ ชิวจวี๋จะให้โอกาสนางได้เถียงข้างๆ คูๆ ได้อย่างไรกัน!

ในเวลานี้ ชิวจวี๋จึงไม่ได้สนใจว่าที่นี่คือท้องพระโรง นางจึงเสี่ยงชีวิตคุกเข่าลงกับพื้นแล้วกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า: "ในวันนั้นมิใช่เพียงแค่องครักษ์เสื้อแพรนะเจ้าคะ ยังมีพ่อบ้านหลี่อีกด้วย ทุกคนต่างก็เห็นกับตาตัวเอง! ถ้าหากข้าน้อยพูดปดแม้แต่ครึ่งคำ ข้าน้อยก็ยินดีที่จะรับการลงโทษทุกประการเจ้าค่ะ!"

"ไปตามตัวพ่อบ้านหลี่มา!"

เรื่องราวเกี่ยวกับหน้าตาของราชวงศ์เช่นนี้ แน่นอนว่าฮ่องเต้ไม่อาจยืมมือคนอื่นทำได้ เรื่องนี้ คนที่รู้ยิ่งน้อยก็ยิ่งดี!

ผ่านไปไม่นาน พ่อบ้านหลี่ก็ถูกเชิญเข้ามาในตำหนัก

"หลี่จง ข้าขอถามเจ้า และเจ้าจงตอบข้ามาอย่างละเอียดถี่ถ้วน! คืนที่แต่งงานกับอ๋องอาน เจ้าเห็นผู้ชายคนหนึ่งอยู่ในบ้านของพระชายาอานใช่หรือไม่? แล้วผู้ชายคนนั้นเป็นใครกัน?"

น้ำเสียงของฮ่องเต้ราวกับระฆังใหญ่ เขาจ้องถมึงทึงด้วยสีหน้าที่เย็นชา ไม่โกรธเคืองแต่ทรงพลัง

หลี่จงเหงื่อออกจนเสื้อเปียก ในระหว่างทางที่มา เขาก็ได้คาดเดาเอาไว้แล้วว่าจะเป็นเรื่องนี้

แต่ทว่า ควรจะทำอย่างไรดีล่ะ? ท่านอ๋องได้กำชับสั่งครั้งแล้วครั้งเล่า!

ถ้าหากพูดความจริงออกมาว่า คนที่อยู่ภายในบ้านก็คือท่านอ๋อง ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเรื่องเข้าใจผิด พระชายาอานก็จะไม่เป็นอะไรแต่สถานะของท่านอ๋องอานจะไม่ถูกเปิดเผยหรือ?

แต่ว่า ถ้าหากบอกว่าคนที่อยู่ในบ้านมิใช่ท่านอ๋อง นั่นจะมิใช่การผลักพระชายาอานลงบ่อน้ำลึกหรอกหรือ?

เขาแอบชำเลืองตามองอ๋องอานเล็กน้อย แต่ก็เห็นเพียงว่าเขานั่งไขว่ห้างอย่างสบายอกสบายใจ อยู่บนเก้าอี้ไม้โบราณ และกินอาหารว่างอย่างเอร็ดอร่อย!

ในขณะที่เรื่องจวนตัวขนาดนี้แล้ว คาดไม่ถึงว่าเขายังมีกะจิตกะใจแสร้งทำเป็นโง่ๆ เซ่อๆ อีกหรือ?

"เจ้ามองอ๋องอานทำไมกัน? ตอบคำถามข้ามาสิ!"

พ่อบ้านหลี่ลำบากใจเป็นอย่างยิ่ง ในขณะที่ไม่รู้ว่าควรจะรับมืออย่างไรดี จู่ๆ ต้วนชิงเหยาก็กล่าวด้วยเสียงที่ใสและไพเราะว่า: "เรียนฝ่าบาท ในคืนนั้น คนที่หม่อมฉันอยู่ด้วย แท้จริงแล้วมิใช่ท่านอ๋องอาน แต่เห็นคนอื่นเพคะ!"

มือของอ๋องอานที่หยิบของว่างแข็งทื่ออยู่กลางอากาศ เขาเพียงแค่จงใจทำให้นางลำบากใจ

เดิมทีคิดว่านางเป็นคนที่มีอะไรไม่ธรรมดา แต่คาดไม่ถึงเลยว่า นางจะยอมรับอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้!

หรือว่า นางจะยอมรับความพ่ายแพ้เช่นนี้?

นี่มิใช่พระชายาอานคนนั้นที่เขารู้จักเลยสักนิด!

"ฮองเฮาเพคะ หม่อมฉันมีคำพูดสองสามประโยค ที่อยาจะกล่าวกับท่านเป็นการส่วนตัวเพคะ!"

ถึงแม้จะไม่รู้ว่านางต้องการจะพูดอะไร แต่ฮองเฮาก็ยังคงพยักหน้า

"ฮองเฮาเพคะ หม่อมฉันบังอาจ ขอเปลี่ยนสถานที่ได้หรือไม่เพคะ!"

"เจ้าต้องการจะทำอะไรกัน?"

คนที่สังหารคนเพียงแค่พยักหน้า เคยที่จะยุ่งยากลำบากขนาดนี้เสียที่ไหนกัน?

ใบหน้าของฮ่องเต้แสดงความไม่สบายใจ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นคนทำผิดพูดจาฉะฉานเช่นนี้ และมีข้อเรียกร้องมากมายขนาดนี้!

"อีกสักครู่ฝ่าบาทก็จะรู้เพคะ!"

ต้วนชิงเหยาไม่เย่อหยิ่งและไม่ถ่อมตัวจนดูต่ำต้อย นางไม่เชื่อเรื่องโชคชะตาฟ้าลิขิตแต่อย่างใด นางเชื่อเพียงแค่ว่าชีวิตของนางนางเป็นผู้กำหนดเอง!

ต้วนชิงเหยาลุกขึ้นอย่างเซไปเซมา แล้วตามฮองเฮามาถึงตำหนักด้านข้าง

นางสนมทั้งสองติดตามฮองเฮามาอย่างใกล้ชิด เพราะเกรงว่าต้วนชิงเหยาจะทำอันใดที่ไม่เอื้อผลต่อฮองเฮา

ต้วนชิงเหยายืนอยู่ห่างๆ อย่างรู้จักวางตัว โดยไม่พูดอะไรสักคำ แต่รีบเปิดเสื้อบริเวณหน้าอกออก

"นี่เจ้าจะทำอะไร?"

ถ้าหากถอดเสื้อผ้าต่อหน้าผู้ชาย ก็ยังสามารถใช้เป็นวิธียั่วยวนได้!

แต่สำหรับผู้หญิงอย่างตนเองแล้ว การใช้วิธีการเช่นนี้มันอาจจะแปลกเกินไปหน่อยหรือไม่?

ต้วนชิงเหยาเปิดต้นแขนครึ่งหนึ่งออก และเปิดเสื้อผ้าออกอีกครึ่งหนึ่ง เผยให้เห็นเสื้อชั้นในสีแดงครึ่งท่อน จากนั้นก็เอียงตัว แล้วใช้นิ้วชี้ไปยังจุดแดงพรหมจรรย์ที่อยู่บนแขนและกล่าวว่า: "ที่หม่อมฉันต้องการจะบอกก็คือสิ่งนี้ล่ะ!"

จุดแดงพรหมจรรย์!

ฮองเฮาหรี่ตาเล็กน้อย และอดไม่ได้ที่จะเดินหน้าไปสองก้าว และยื่นมือไปลูบคลำเล็กน้อย

นิ้วมือของนางมิได้เปื้อนสีแต่อย่างใด ดูเหมือนว่าจุดแดงพรหมจรรย์นี้จะเป็นของจริง!

ถ้าหากพระชายาอานเป็นดังเช่นพวกเขาพูดจริงๆ ว่านางมั่วโลกีย์คบชู้กับชายอื่น แล้วจะสามารถรักษาจุดแดงพรหมจรรย์นี้ได้อย่างไรกัน?

ฮองเฮารู้สึกงุนงง สรุปแล้วมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?

ต้วนชิงเหยาสวมใส่เสื้อผ้าอย่างไม่รีบไม่ร้อย แล้วคุกเข่าลงกับพื้นทันที "หม่อมฉันขอฮองเฮาได้โปรดตัดสินให้ด้วยเถิด!"

ยังไม่ทันพูดจบน้ำตาก็ไหลริน น้ำตาที่ไหลพรากนี้ทำให้ฮองเฮารู้สึกสงสาร!

"ว่ามาเถิด สรุปแล้วมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?"

ต้วนชิงเหยาเช็ดน้ำตาไปพลาง กล่าวไปพลางว่า: "เรียนฮองเฮา หม่อมฉันแต่งงานเข้าจวนอ๋องอาน หากจะพูดให้น่าฟังก็คือพระชายาอาน แต่หากพูดอย่างไม่น่าฟังก็คือ แม้แต่สาวใช้คนหนึ่งหม่อมฉันก็ยังเทียบไม่ได้ หม่อมฉันถูกจัดสรรให้อยู่ภายในบ้านที่รกร้าง มิมีสาวใช้คอยปรนนิบัติ และมิมีสาวใช้มาส่งอาหาร! หม่อมฉันถูกบีบบังคับจนหมดปัญญา และทำได้เพียงใช้วิธีอันโง่เขลาเบาปัญญาเช่นนี้!"

"หม่อมฉันให้ซิ่งเอ๋อร์ผู้เป็นสาวใช้แต่งตัวเป็นท่านอ๋อง เพื่อแสร้งทำเป็นเหมือนร่วมหอกับท่านอ๋อง หม่อมฉันคิดว่าเช่นนี้ จะสามารถทำให้สาวใช้ของจวนอ๋องมองหม่อมฉันด้วยความเคารพสักเล็กน้อย อย่างน้อย ก็จะไม่ปฏิบัติต่อหม่อมฉันอย่างโหดร้ายเช่นนี้!"

ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้เอง!

ฮองเฮาหัวเราะออกมา และอดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปจิ้มที่หน้าผากของต้วนชิงเหยาเล็กน้อย "ช่างน่าขันเสียจริงๆ คงจะมีเพียงแค่เจ้าเท่านั้นที่สามารถคิดวิธีการเช่นนี้ออกมาได้! แล้วผลลัพธ์ล่ะ? เหมือนดั่งที่เจ้าปรารถนาหรือไม่?"

ต้วนชิงเหยาทอดถอนใจภายในใจอย่างโล่งอก นางรู้ดีว่า ในที่สุด ตนเองก็ผ่านด่านนี้ไปได้อย่างปลอดภัย!

"ตอนแรกก็เป็นเช่นนี้จริงๆ เพคะ วันต่อมา พ่อบ้านหลี่ก็ได้นำอาหารกลางวันส่งเข้ามา ซึ่งมีทั้งปลามีทั้งเนื้อ! แต่คาดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องราวดังเช่นวันนี้! หม่อมฉันมิได้มีใจที่ต้องการจะหลอกลวงฮ่องเต้และฮองเฮาจริงๆ นะเพคะ! ขอฮ่องเต้และฮองเฮาได้โปรดเมตตากรุณาด้วยเถิด! หม่อมฉันยินดีที่จะรับการลงโทษทุกประการ หม่อมฉันรู้ตัวดีว่าเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญา และไม่ขอความรักจากอ๋องอาน ถึงแม้ว่าอ๋องอานจะหย่ากับหม่อมฉัน หม่อมฉันก็จะไม่โกรธเคืองแม้แต่น้อยเลยเพคะ!"

ต้วนชิงเหยาก้มหน้าไม่กล้ามองฮองเฮา คนอื่นจึงคิดว่านางเสียใจอย่างสุดซึ้ง มีเพียงแค่นางที่รู้ดีว่า ในเวลานี้นางแทบอยากจะให้อ๋องอานหย่ากับนางในทันที ซึ่งตนเองจะถือว่าเป็นความโชคดีในความโชคร้ายนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel