บท
ตั้งค่า

บทที่ 10 สรรพสิ่งล้วนเป็นไปตามธรรมชาติ

"เข้าหอ? อะไรคือเข้าหอหรือ?"

จุนเหยียนอานกะพริบตาอย่างไร้เดียงสา เขามองชิวจวี๋ และมองไปที่ต้วนชิงเหยา ด้วยสีหน้างุนงง

"ดูสิ! แม่นมหวัง ข้าบอกแล้ว เดิมทีท่านอ๋องยังไม่รู้เลยว่าเข้าหอคืออะไร แล้วจะเข้าหอกับพระชายาอานได้อย่างไรเล่า? วันนั้น คนที่เข้าหอด้วยกันกับพระชายาอาน เกรงว่าจะเป็นคนอื่นแล้วกระมัง?"

ชิวจวี๋เชิดหน้าขึ้นมาอย่างลำพองใจ และมองพระชายาอานอย่างยโสโอหัง

ความแค้นที่สะสมอยู่ในใจมาเนิ่นนาน ครานี้นางจะต้องทวงคืนพร้อมกับกำไรอย่างแน่นอน!

แม่นมหวังเป็นคนในพระราชวัง และจัดให้มาอยู่ข้างกายอ๋องอานเป็นพิเศษ คนที่ไม่รู้ยังคิดว่านางเป็นคนรับใช้ธรรมดาๆ ในจวนอ๋อง คนที่รู้สถานการณ์ภายในเป็นอย่างดีก็จะทราบว่า ในทุกๆ เดือนจะมีวันหนึ่งที่แม่นมหวังต้องเข้าพระราชวังไปเพื่อรายงาน อันที่จริงแล้ว นางเป็นคนโปรดของท่านอ๋องเลย

"เหลวไหล คำพูดนี้ไม่สามารถกล่าวสุ่มสี่สุ่มห้าได้!"

สีหน้าของแม่นมหวังเคร่งขรึมขึ้นมา เรื่องเข่นนี้เป็นเรื่องอื้อฉาวในราชวงศ์ หากถูกแพร่ออกไป หน้าตาของราชวงศ์จะรักษาเอาไว้ได้อย่างไร?

"แม่นมหวัง เรื่องใหญ่โตเช่นนี้ ชิวจวี๋จะพูดสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร เมื่อวานนี้ ชิวจวี๋ได้ไปตรวจสอบที่ตำหนักหลิงเซียวมาโดยเฉพาะ แต่พระชายาอานพยายามขัดขวางข้าทุกวิถีทาง มิใช่ว่ามีแผนการร้ายอยู่ในใจหรอกหรือ?"

"พระชายาอาน เป็นเช่นนั้นหรือ?"

เรื่องที่เกี่ยวกับหน้าตาของราชวงศ์ แม่นมหวังไม่กล้าที่จะเมินเฉย

นางแบกรับภาระหน้าที่อันหนักอึ้ง หากอ๋องอานเกิดอุบัติเหตุใดๆ ขึ้นมาต่อหน้านาง ความผิดของนางจะใหญ่หลวงยิ่งนัก!

"เมื่อวานชิวจวี๋ไปที่ตำหนักหลิงเซียว แต่นางบอกว่าจะมาช่วยข้าทำความสะอาด แต่ต่อมา ร่างกายของแม่นางชิวจวี๋ก็มิสู้ดี นางจีกรีบร้อนออกไปโดยทิ้งคนรับใช้เอาไว้ 2-3 คน มันเกี่ยวข้องอันใดกับข้าด้วยหรือ?"

ชิวจวี๋ต้องการใช้คำพูดรวบรัดมาโค่นล้มนาง บางทีอาจจะคิดว่านางไม่เอาไหนเกินไปหน่อย!

"นั่นเป็นเพราะว่า นางใช้มนต์ดำ ทำให้ข้าคันไปทั้งตัว! ข้ารับไม่ไหวจึงต้องจากไป นี่เป็นวิธีการขัดขวางข้าอย่างเห็นได้ชัด!"

หากไม่พูดก็ยังดีอยู่ แต่เมื่อพูดออกมาชิวจวี๋ก็รู้สึกโกรธ ทุกๆ ครั้งที่เผชิญหน้ากับต้วนชิงเหยา นางไม่เคยได้เปรียบแม้แต่น้อย และผลร้ายนั้นกลับย้อนมาหาตนเองอีกด้วย

ครานี้ นางตัดสินใจใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ โดยไม่ต้องลงมือด้วยตนเอง

"มนต์ดำหรือ? ฮ่าๆ!"

ต้วนชิงเหยาเหมือนกับได้ยินเรื่องตลกขบขัน จึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเสียงดัง

เพียงแค่นี้ นางก็กลายเป็นปีศาจไปแล้วหรือ?

ถ้านางเป็นปีศาจจริงๆ เช่นนั้นก็จะดีอย่างยิ่ง!

นางจะแสดงเวทมนตร์ได้ตามอำเภอใจ เพื่อทำให้คนที่ใส่ร้ายนางได้รับผลกรรม!

"หากข้าใช้มนต์ดำได้ อันดับแรกก็คือจะทำให้เจ้ากลายเป็นหมู และเข้าครัวเพื่อแล่เนื้อ เถือหนังเจ้าเดี๋ยวนี้ และเปลี่ยนเจ้าให้กลายเป็นอาหารอันโอชะบนโต๊ะอาหารเสีย!"

จุนเหยียนอานเมื่อได้ยินก็รู้สึกคล้อยตาม อดไม่ได้ที่จะปรบมืออย่างดีใจ "ดี ดี เปลี่ยนกลายเป็นหมู เนื้อหมูอร่อย!"

"ท่านอ๋อง! ข้าน้อยคือชิวจวี๋นะเจ้าคะ! ถ้าข้าน้อยกลายเป็นหมูเสียแล้ว ใครจะดูแลอาหารในแต่ละวันให้ท่าน ใครจะรินน้ำชาให้ท่านล่ะ?"

ชิวจวี๋มีสีหน้าโกรธเคือง เดิมทีคิดว่าท่านอ๋องอานจะยืนอยู่ข้างนาง นึกไม่ถึงเลยว่าจะถูกคำพูดไม่กี่คำของต้วนชิงเหยาชักจูงไปเสียแล้ว

"ท่านอ๋องมิต้องกังวล ท่านอ๋องอาน ข้าคือน้องหญิงของท่าน ที่ข้าแต่งเข้ามาในจวนอ๋อง ก็เพื่อดูแลท่าน นับแต่นี้ต่อไป ท่านอยากทานอะไรข้าจะทำให้ท่านเอง ฝีมือในการเข้าครัวของข้านั้นดีเลิศ ข้าเชื่อว่าท่านจะต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน!"

กองกำลังทหารนับหมื่นนับพันยังสามารถรับมือได้ ท่านอ๋องปัญญาอ่อนเพียงคนเดียวจะรับมือไม่ได้เลยเชียวหรือ?

ถึงแม้ว่าชิวจวี๋จะกำเริบเสิบสาน และใช้อำนาจบาตรใหญ่อีก ก็เป็นเพียงแค่การใช้อำนาจของผู้อื่นมาปกป้องตนเอง เป็นพวกสุนัขจิ้งจอกแอบอ้างบารมีเสือเท่านั้น ไม่เพียงพอที่จะทำให้หวาดกลัวเลยจริงๆ!

และถึงแม้ว่าท่านอ๋องอานจะมีตำแหน่งสูงส่ง แต่ก็เป็นแค่คนปัญญาอ่อนเท่านั้น คำพูดของเขา คาดว่าน่าจะไม่มีบารมีและความน่าเชื่อถือใดๆ!

ในทางกลับกันแม่นมหวังที่ยืนอยู่ข้างๆ ท่านอ๋องอานอย่างไม่ตื่นตระหนกใดๆ แววตาเฉียบแหลม เหมือนตัวละครที่ร้ายกาจ!

"แม่นมหวัง ข้าเพิ่งมาถึง จึงไม่ทราบกฎของจวนอ๋องอาน เพียงแต่ว่า คนรับใช้ผู้ต่ำต้อยคนหนึ่งสามารถมาขี่หัวข้าได้ หรือว่า นี่คือกฎของจวนอ๋องอานอย่างนั้นหรือ?"

ต้วนชิงเหยาทำมาดนายท่าน ด้วยท่าทีที่ไม่ต้อยต่ำไม่สูงส่ง

แม่นมหวังเผยให้เห็นถึงสีหน้าลำบากใจ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความบริสุทธิ์ของนายท่าน เรื่องเช่นนี้ นางจะตัดสินได้อย่างไร!

แม้นว่าฮ่องเต้จะไว้วางใจตน ตนเองก็เป็นเพียงแค่คนรับใช้คนหนึ่งเท่านั้น!

ตอนนี้ท่านอ๋องอานแต่งงานแล้ว ตามหลักการแล้ว พระชายาอานก็คือนายหญิงของจวนอ๋องจึงจะถูกต้อง!

แต่จริงๆ แล้ว มันเป็นเรื่องที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก!

"แม่นมหวัง ชิวจวี๋อยู่ในจวนมานมนานเช่นนี้ ชิวจวี๋เป็นคนเช่นไรแม่นมก็เข้าใจดี ชิวจวี๋จงรักภักดีต่ออ๋องอานเสมอมา จะสามารถยุแยงตะแคงรั่วได้อย่างไร แม่นมได้โปรดมองให้ทะลุปรุโปร่งด้วย!"

อีกฝ่ายพูดอย่างหนึ่ง อีกฝ่ายก็พูดอีกอย่างหนึ่ง ชั่วขณะ แม่นมหวังก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อใครดี!

"ท่านอ๋องอาน ท่านบอกความจริงกับแม่นมมาสิ ว่าท่านเคยเข้าหอกับพระชายาหรือไม่?"

ถึงแม้ว่าคำพูดนี้ยากที่จะกล่าว แต่สิ่งที่ควรถามยังคงต้องเอ่ยถาม เรื่องนี้ นอกเสียจากคู่กรณีแล้ว คนที่ไม่เกี่ยวข้องจะทรายได้อย่างไร?

"เข้าหอคืออะไร?"

จุนเหยียนอานมีท่าทีสงบนิ่ง และเอ่ยถามออกมาเสียงดัง

คนในห้องทั้งหมดล้วนได้ยิน เขาไม่อาย แต่ต้วนชิงเหยากลับรู้สึกอาย

"ก็คือ ท่านกับพระชายาอานเปลื้องผ้าเปลือยเปล่า จากนั้นทั้งสองคนก็——"

ถึงแม้ว่าท่านอ๋องอานจะปัญญาอ่อนเล็กน้อย เพียงแต่เขายังคงเฉลียวฉลาดและรู้เดียงสา สติปัญญาของเขาเหมือนกับเด็กแปดขวบ

การปรนนิบัติดูแลท่านอ๋องอาน แม่นมหวังรู้สึกผ่อนคลายมาตลอด แต่ว่าตอนนี้ ท้ายที่สุดก็เผชิญกับปัญหาที่จัดการได้ยากแล้ว!

แม่นมหวังยอมหน้าด้าน ยกนิ้วหัวแม่มือสองนิ้วขึ้นมา และทำท่าทางเล็กน้อย

"นี่คืออะไร?"

จุนเหยียนอานเลียนแบบท่าทางของแม่นมหวัง โดยยื่นนิ้วหัวแม่มือออกมา และงอนิ้วเล็กน้อย ราวกับว่าพยักหน้าทักทายกัน

"ก็คือ ท่านกับพระชายาอานได้เปลื้องผ้าออกจนหมด จากนั้นก็นอนอยู่ในผ้าห่มผืนเดียวกันใช่หรือไม่?"

ต้วนชิงเหยาเหงื่อตก หากบอกว่าไม่ประหม่าก็คือการโกหก

หรือว่า วันนี้นางจะต้องยอมรับอยู่ที่นี่เสียแล้ว?

นางปรารถนาจะให้ปีกด้านหลังงอกออกมา จากนั้นก็กางปีกบินให้สูง และไปให้พ้นจากความถูกผิดของที่นี่เสีย!

แต่ว่า นางก็เข้าใจดี ความปรารถนาก็คือความปรารถนา ความจริงก็คือความจริง

ในขณะที่เคร่งเครียด นางก็ยิ่งไม่สามารถตื่นตระหนกได้!

ต้วนชิงเหยาแสร้งทำเป็นสงบนิ่ง แต่นางกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว และเลียริมฝีปากที่แห้งผาก

จู่ๆ ดวงตาของจุนเหยียนอานก็เบิกโพลง มองต้วนชิงเหยาด้วยแววตาเป็นประกาย ราวกับได้ยินเรื่องสนุกสนาน เขาชี้นิ้วไปทางต้วนชิงเหยาและกล่าวว่า : "เปลื้องผ้าแล้วนอนด้วยกันกับนางหรือ?"

ต้วนชิงเหยาหน้าแดง ถึงแม้ท่านอ๋องอานจะเป็นคนปัญญาอ่อน สติปัญญาเป็นเพียงแค่เด็กน้อย แต่รูปร่างหน้าตาและอายุของเขาก็ขนาดนี้แล้ว ถูกผู้ชายที่โตเป็นผู้ใหญ่ อธิบายเรื่องเช่นนั้นต่อหน้าธารกำนัล เป็นใครก็รู้สึกไม่สบายใจทั้งนั้น!

"ใช่เจ้าค่ะ! มีไหมเจ้าคะ?"

ไม่ใช่เพียงแค่แม่นมหวังเท่านั้น ชิวจวี๋ก็ตั้งใจฟังเช่นกัน

ต้วนชิงเหยารู้สึกเย็นสันหลังวาบ ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ นางไม่ควรหวังลมๆ แล้งๆ เลย

หากรู้เช่นนี้ นางน่าจะพาซิ่งเอ๋อร์ออกจากจวนอ๋องอานไปเสียก่อนก็ดีแล้ว!

จุนเหยียนอานมองพิจารณาต้วนชิงเหยา จู่ๆ ในแววตาก็ประกายความเจ้าเล่ห์ออกมา "ดี! ดี! อันนี้มีได้! อยากมี!"

ใบหน้าของชิวจวี๋ที่เต็มไปด้วยความหวังก็เปลี่ยนเป็นย่ำแย่ลงมา

นี่คือคำตอบอะไร?

แต่ต้วนชิงเหยาฟังออกจากในน้ำเสียงของจุนเหยียนอานนั้นมีความปรารถนาเล็กน้อย แสดงว่าท่านอ๋องปัญญาอ่อนผู้งดงามคนนี้ชอบพอตนเอง!

ถ้าเป็นเช่นนี้ เรื่องนี้ไม่ง่ายที่จะจัดการหรอกหรือ?

ถึงแม้นางจะยอมรับว่า วิธีการของตนเองเป็นการหลอกเด็กก็ตาม แต่เพื่อรักษาชีวิตอาไว้ นางก็ต้องพยายามทำให้เต็มที่มิใช่หรือ!

"แม่นมหวัง ข้ารู้ว่าเจ้าคือผู้อาวุโสในจวนอ๋อง แต่ว่า แต่ไม่ว่าอย่างไร นี่ก็เป็นเรื่องระหว่างท่านอ๋องกับข้ามิใช่หรือ? ถึงแม้ท่านอ๋องจะไม่รู้เรื่องอะไรมากมาย แต่ข้าก็ยังต้องมีศักดิ์ศรีอยู่บ้าง เจ้าว่าอย่างไรล่ะ?"

"แม่นมหวัง ชิวจวี๋พูดความจริง ชิวจวี๋เอาหัวของชิวจวี๋มาเป็นประกันเลย คนที่เข้าหอกับพระชายาจะต้องมิใช่ท่านอ๋องอานอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ!"

ชิวจวี๋คุกเข่าลงบนพื้น หากครานี้ไม่สามารถโค่นล้มต้วนชิงเหยาได้ ชีวิตในวันข้างหน้านางจะทำอย่างไร?

แม่นมหวังกลอกตาไปกลอกตามา ปัญหาที่จัดการได้ยากเช่นนี้ นางไม่สามารถหาทางออกได้ แน่นอนว่ามีสถานที่หนึ่งที่สามารถหาทางออกได้!

"พระชายาอานได้แต่งข้ามาในจวนอ๋องอานหลายวันเช่นนี้ แต่ยังไม่ได้ไปที่พระราชวังเพื่อคารวะฮ่องเต้กับฮองเฮาเลย สรรพสิ่งล้วนเป็นไปตามธรรมชาติ! วันนี้ก็แล้วกัน ชิวจวี๋ เจ้าก็ไปด้วยกัน!"

ใบหน้าชิวจวี๋เผยให้เห็นถึงความสุข นี่เป็นการตัดสินต่อหน้าจะรพรรดิ นั่นจะเป็นการดีอย่างแน่นอน!

ถึงแม้ว่าพระชายาอานคนนั้นจะคดในข้องอในกระดูก ก็มิอาจรอดพ้นตาทิพย์ของฮ่องเต้ไปได้อย่างแน่นอน!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel