บทย่อ
ใครจะคิดว่าแค่คำทำนายของพี่ชายจะทำให้เขานั้นข้ามภพข้ามชาติมาอยู่ในยุคจีนโบราณและได้มาเจอกับฮ่องเต้ที่มีฉายาว่าเหี้ยมโหด เลือดเย็นไร้ใจ และต้องพบเจออุปสรรคเคราะห์กรรมของตัวเองมารุมเร้า ปมปริศนามากมายที่ต้องไขให้กระจ่างเพื่อหาวิธีกลับไปหาคนที่ตัวเองรักสุดหัวใจ
บทที่ 1 จุดเริ่มต้นชีวิตใหม่
(กลางป่าไผ่ แคว้นซาง)
ตุ้บ!!!
"โอ๊ย!!!ไอ้พายุบ้าเอ๊ย!!พามาแบบไม่ทันให้ตั้งตัวเลย ยังไม่ทันได้บอกลาท่านแม่เลยให้ตายสิ"
บยอนซุกที่หล่นลงมาจากต้นไม้ก็ร้องโอดโอยพร้อมบ่นอย่างหัวเสียหลุดมาดสุขุมทันที ส่วนเนื้อตัวก็มีรอยขีดข่วนแดงนูนยาวหลายรอยปรากฏขึ้นตามแขนและขา ผมเพ้ายุ่งเป็นรังนกอย่างไม่เป็นทรงเลยซักนิด
"แล้วที่นี่ที่ไหนกันล่ะเนี่ย??มีแต่ต้นไผ่เต็มไปหมดเลย ง่ะมีเสียงน้ำด้วยขอล้างตัวหน่อยแล้วกัน"
เมื่อบยอนซุกเดินตามเสียงน้ำไปก็เจอเข้ากับน้ำตกที่มีคนอยู่เต็มไปหมด แถมชุดที่คนเหล่านั้นใส่ก็...
"นี่หลงมาที่ไหนว่ะมีแต่คนใส่ชุดแบบจีนโบราณที่เก่าคร่ำคึแบบสุดๆไปเลย แล้วไอ้ชุดที่เราเตรียมมาก็ไร้ประโยชน์สิว่ะเนี่ย ไอ้บยอนซุกเอ้ย โอ้ สวรรค์ท่านส่งผมมาอยู่ที่ไหนเนี่ย แงงงงผมคิดถึงบ้านจะแย่แล้วพาผมกลับไปเถอะ"
บยอนซุกที่คิดว่าตนจะต้องย้อนเวลากลับมายังราชงศ์สมัยพระเจ้ายองโจก็เริ่มคร่ำครวญจนหลุดมาดแสนเฉยชา เงียบครึมทันทีเมื่อได้เห็นเหล่าคนมากมายใส่ชุดชาวบ้านแบบจีนโบราณที่ตัวเองเคยดูหนังกำลังภายในมาก่อน
ทำให้บยอนซุกคิดหนักเสียแล้วว่าชีวิตต่อจากนี้ของตนจะดำเนินต่อไปยังไงดีเพราะดูเหมือนว่าสิ่งที่ทุกคนคิดจะไม่ตรงกับสิ่งที่เขาต้องเผชิญด้วยซ้ำไป
"เอาว่ะเปลี่ยนชุดก่อนแล้วกัน หลังจากนั้นค่อยว่ากัน เอ๊ะ!!! อุ๊บ!"
บยอนซุกที่ปลงตกกับชีวิตของตัวเองแล้วก็เริ่มจะเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่เมื่อก้มลงกลับมีผมยาวสีดำสลวยหล่นลงมาปรกหน้าของเขาทำให้บยอนซุกตกใจเป็นอย่างมากจนเผลอส่งเสียงออกมาก่อนจะตะครุบปากของตัวเองเอาไว้
ดีที่เขาตะคุบปากตัวเองได้ทันเสียงจึงดังไปไม่ถึงน้ำตกที่สาวๆชาวบ้านกำลังนั่งซักผ้าและคุยกันเสียงดังนินทาเหล่าสามีของตัวเองกันอย่างสนุกสนาน
เมื่อแต่งตัวเรียบร้อยบยอนซุกก็รีบเดินออกจากป่าไผ่ไปยังหมู่บ้านทันที และเมื่อเขาเข้าไปยังหมู่บ้านสายตาทุกคนก็มองมายังบยอนซุกเป็นตาเดียวและเขาก็ได้ยินคำพูดแสนบาดหูบาดใจดังเป็นระยะเมื่อเดินผ่านผู้คน
"เจ้าดูซิเกอผู้นั้นมาจากไหนกันงามล่มเมืองเหลือเกิน งามกว่าลูกสาวท่านเจ้าเมืองอีกนะเจ้าดูสิ"
และคำพูดอีกมากมายที่ได้ยินว่าเขาสวยนักหนาแต่ที่บยอนซุกสนใจก็คือคำว่า เกอ นี่แหละ
บยอนซุก พาร์ท
สวัสดีครับทุกคนผมชื่อ ลี บยอนซุก ครับแต่ต่อไปคงใช้ชื่อนี้ไม่ได้เสียแล้วเพราะที่ที่ผมย้อนอดีตกลับมาอยู่ไม่ใช่สมัยเกาหลีแต่เป็นจีนต่างหาก ผมก็ไม่รู้ว่าสวรรค์กำลังเล่นตลกอะไรกับผมหรอกนะแต่แบบนี้บอกเลยว่าผมรับไม่ไหว ความสุขุมก่อนหน้านี้ผมขอเตะมันทิ้งเลยแล้วกัน
เรื่องทุกอย่างมันเริ่มตั้งแต่สมัยที่แม่ผมได้ย้อนเวลาไปเจอกับพ่อของผมในสมัยยุคโชซอล จากนั้นพวกท่านก็ย้อนเวลากลับมาอยู่ด้วยกันฟันฟ่าอุปสรรคต่างๆด้วยกัน บอกเลยว่าผมโคตรฟินกับความรักของพวกท่านมาก ขนาดตอนที่จะคลอดพวกผมยังมีอุปสรรคเลยคิดดู
แต่แล้วพี่แดซุกก็ได้พูดเล่าบางอย่างให้แม่กับพ่อได้ฟัง พวกท่านร้องไห้ปานจะขาดใจ จนสุดท้ายผมก็ได้รับรู้เรื่องราวจากพี่ใหญ่ของผมว่าผมนั้นเมื่ออายุครบ20ปีจะไม่ได้อยู่กับครอบครัวอีกต่อไป
หลังจากที่ผมได้รู้ว่าตัวเองต้องถูกย้อนเวลามายังอดีตผมก็พยายามเรียนรู้ทุกอย่างที่ผมจะสามารถเอามาใช้เอาตัวรอดในยุคโบราณได้ ต้องบอกว่าทุกคนก็ช่วยผมด้วยถึงจะถูกทั้งศิลปะการป้องกันตัว การปลูกผัก การก่อไฟ การทำอาหาร รูปร่างหน้าตาของสมุนไพรและสรรพคุณของสมุนไพรผมก็ได้เรียน แม้แต่การเล่นดนตรีผมก็ได้เรียนเช่นกัน พ่อผมบอกเรียนไว้ก็ไม่เสียหายอะไร
จนวันเวลาที่ใกล้เข้ามาก็ทำให้ผมหวั่นวิตกมากขึ้น ผมแทบจะหลุดมาดความเข้มแข็งออกมาต่อหน้าครอบครัวของผมอยู่หลายครั้ง แต่สุดท้ายผมก็ต้องทำเป็นว่าตัวเองนั่นเข้มแข็งเพื่อไม่ให้ทุกคนต้องมาเป็นห่วงผมไปมากกว่านี้
เอาล่ะผมเล่าความเป็นมาของตัวเองมากพอล่ะ ตอนนี้คงถึงเวลาที่ผมต้องเผชิญหน้ากับปัญหาที่กำลังจะเกิดแล้วล่ะ เพราะตอนนี้ทุกคนต่างมองผมกันไม่วางตาเลย ผมว่าผมคงต้องหาที่พักหน่อยแล้ว
โรงน้ำชาลู่เพ่ย
ผมเดินเข้ามายังโรงน้ำชาที่ดูคนจะเยอะมากเป็นพิเศษ แต่เมื่อผมเดินเข้าไปทุกคนต่างหยุดชะงักแล้วหันมามองผมเป็นตาเดียว เมื่อผมเลือกที่นั่งได้เสี่ยวเอ้อร์ก็เดินเข้ามาหาผมทันที พร้อมมองผมตาค้างไปแล้ว อ่ะนะผมรู้ตัวอยู่แล้วว่าผมนั้นหล่อมากขนาดไหน ไม่ได้หลงตัวเองนะครับแต่มันคือความจริง
"คุณชายท่านนี้ ท่าน...ท่านจะรับอะไรดีขอรับ"เสี่ยวเอ้อร์หน้าแดงแป้ดเลยล่ะครับ ผมล่ะอยากจะขำ
"ข้าต้องการข้าวหนึ่งถ้วย อาหารขึ้นชื่อสามอย่างและน้ำชารสดีหนึ่งกา"
เสี่ยเอ้อร์ที่ได้รับออเดอร์ก็รีบเดินไปสั่งให้ผมทันทีเลยครับ ถ้าถามว่าผมมีปัญญาจ่ายไหม บอกเลยว่า...มีครับเพราะพี่แดซุกเป็นคนจัดกระเป๋าให้ผมและไม่ใช่กระเป๋าธรรมดานะครับกระเป๋าผมเป็นถุงผ้าลายดอกโบตั๋นถุงเล็กๆแต่ของข้างในมันไม่เล็กเลยล่ะครับ มันเหมือนถุงของเฮอร์ไมโอนี่ ในเรื่องแฮรี่ พอตเตอร์อ่ะครับที่แค่คิดแล้วหยิบออกมาจากถุงก็ได้สิ่งที่ต้องการ
แต่ถุงผ้าอันนี้พี่แดซุกบอกว่าถึงผมทำหายมันก็จะกลับมาหาผมเองเพราะพี่แดซุกเขาเอาเลือดผมทำพันธะสัญญาไว้แล้ว
เมื่ออาหารมาเสิร์ฟผมก็นั่งกินอย่างเงียบๆแต่โต๊ะอื่นไม่เงียบสิ นี่ผมประหลาดขนาดนั้นเลยหรอครับเนี่ย พอซักพักก็มีคนเดินเข้ามาในโรงน้ำชา เป็นชายร่างสูงใส่ชุดสีขาวลายต้นไผ่อย่างกับเทพเซียนเลยล่ะครับแถมหน้าก็เคร่งขรึมจนผมยังแพ้อ่ะครับ
เขาและผู้ติดตามอีก2คนหยุดยืนและมองไปรอบๆ แต่ดูเหมือนโต๊ะจะเต็มครับพี่แกเลยเดินมาโต๊ะผม
"ข้าขอนั่งด้วยคนได้หรือไม่คุณชาย พอดีโต๊ะมันเต็มเสียแล้ว"เสียงแม่งอย่างหล่อเลยครับ ถ้าผมเป็นสาวๆคงพลีกายถวายชีวิตให้อ่ะครับ
"เชิญท่านนั่ง"พอผมอนุญาตพี่แกก็นั่งเลยครับส่วนอีกสองคนก็ออกไปยืนอยู่ด้านหลัง อย่างกับเจ้าพ่อมาเฟียเลยครับพี่ท่าน แล้วเสี่ยวเอ้อร์ก็กลับมาที่โต๊ะผมอีกครั้งพร้อมรับออเดอร์จะเร็วไปไหมวะเดินหรือเหาะวะน่ะแปปเดียวมาถึงโต๊ะผมแล้วอ่ะ
"คุณชายหยางจะรับอะไรดีขอรับ"
"ข้าขอสุราหนึ่งไหกับอาหารขึ้นชื่อสองอย่าง"
"ขอรับคุณชายหยาง"ดูแล้วคุณชายหยางดูจะเป็นที่รู้จักเอามากๆเลยแหะ เพราะตอนนี้สายตาทั้งโรงน้ำชาแทบจะมองแต่โต๊ะผมจนพรุนแล้วอ่ะ สาวๆนี่สงสายตาหยาดเยิ้มมาเลย
"เออ...ข้ามีนามว่า..."ชิบแล้วผมลืมนึกชื่อตัวเองอ่ะ ผมควรจะเอาชื่ออะไรดีว่ะ
"ข้ามีนามว่าเว่ยหลี่หมินขอรับไม่ทราบว่าท่านคือ เออขออภัยข้ามาที่เมืองนี้ครั้งแรกยังไม่รู้จักใครถ้าข้าจะถามนามของท่านคงไม่เป็นการเสียมารยาทใช่หรือไม่"แม่งเงียบจนผมเกร็งจนกินอะไรไม่ลงแล้วโว๊ย!!พี่แกจะนิ่งอะไรขนาดนี้ แถมแค่ถามชื่อหน้านี่เคร่งเหมือนอยากแดกหัวผมแล้ว
"ข้าหยางหรงเสวี่ยเป็นผู้ตรวจการ"เอิ่มยศใหญ่ใช้ได้เลยครับ ถึงว่ามีแต่คนมอง แล้วการสนทนาของผมก็จบแค่นั้นแหละครับต่างคนต่างกิน จนผมอิ่มตั้งใจว่าลุกเลยแต่ก็กลัวเสียมารยาทอ่ะครับเลยนั่งจนกว่าพี่แกจะอิ่ม พอพี่แกวางตะเกียบผมก็ลุกเลยครับ
"ข้าน้อยเว่ยหลี่หมินของตัวลาท่านผู้ตรวจการหยาง"
"อืม"
เอิ่มมาอย่างสั้นเลยอ่ะ แต่เอาเถอะคนหล่ออย่างผมจะไม่สนใจครับเพราะตอนนี้ผมคงต้องหาบ้านซักหลังอยู่ก่อนแล้ว ไม่งั้นคงไม่มีที่ซุกหัวนอนแน่คืนนี้ แล้วถ้าถามถึงเรื่องค่าอาหารล่ะก็พี่ท่านจ่ายให้ผมเรียบร้อยไปแล้วล่ะครับ อิ่มจังตังอยู่ครบครับมื้อนี้
ผมเดินเตร็ดเตร่มาเรื่อยจนถึงที่ว่าการอำเภอเลยครับ ผมเลยตัดสินใจเดินเข้าไปเพื่อสอบถามเกี่ยวบ้านว่ามีบ้านไหนขายบ้างแต่พอจะเดินเข้าไปก็ถูกทหารยามขวางเอาไว้
"เจ้ามาด้วยเรื่องอันใด"
"ข้าน้อยอยากจะซื้อบ้านหลังเล็กอยู่ซักหลังน่ะขอรับจึงมาสอบถามดู"
"งั้นเข้าไปได้"
แล้วสุดท้ายผมก็ได้บ้านหลังเล็กที่มีบริเวณบ้านติดกับป่ามาล่ะครับ ซึ่งเป็นบ้านที่ถูกใจผมมากๆเลยล่ะครับ หวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปอย่างราบรื่นนะครับผมเข้ามาในบ้านหลังใหม่ของผมที่ซื้อมาด้วยราคา10 ตำลึงทอง ถึงผมจะมีเงินเยอะแต่ก็รู้สึกเสียดายเอามากๆเลยล่ะครับ
จากนี้ก็คงต้องวางแผนขั้นต่อไปแล้วครับว่าจะทำอะไรต่อดี แต่ที่รู้ตอนนี้คือพื้นที่ว่างด้านหลังบ้านของผมที่มีแต่หญ้ารกๆผมจะจ้างคนมาถางพวกมันออกให้หมดก่อนแล้วเอาต้นไม้ที่เพาะกล้าไว้แล้วในถุงที่พี่แดซุกจัดไว้ให้ออกมาปลูกก่อนครับพร้อมกับปลูกผักด้วยซะเลยรับลองว่าผมไม่อดตายแน่ๆ
"เฮ้อ...คิดถึงจังเลยครับทุกคน"
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>