ตอนที่2(หลอกลวงฆ่า)
แกร๊ก
“กูบอกมึงแล้ว…”เสียงเข้มดังมาจากชายร่างอ้วนตรงหน้าผมด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยและถากถาง
“ไม่เชื่อกูเอง…”
“หึ…ยอมทิ้งเงินห้าล้านแล้วเอาชีวิตมาทิ้งในหุบเขานี้..”
“โง่ชิบหายแต่เสือกทำตัวอวดฉลาดและอวดเก่ง…”
พรึบ
“นี่มันหมายความว่ายังไงกันหมวดปลิว…?”ผมเอ่ยถามหมวดปลิวไปอย่างสงสัยหัวใจของผมมันร้อนรุ่มด้วยความเสียใจว่าคนดีๆอย่างหมวดปลิวจะกล้าทรยศต่อประเทศชาติได้จริงๆเหรอและผมเลือกที่จะไม่สนใจคำพูดของไอ้อ้วนด้านหน้าผมอย่างไม่อยากเชื่อ ว่าหมวดปลิวจะเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
“หึ…ก็หมายความอย่างที่เห็น…”หมวดปลิวแสยะยิ้มมุมปากขึ้นมาพลางเอ่ยบอกผม สีหน้าที่เหี้ยมโหดของเขาทำให้ผมรับรู้ได้ว่าเขาไม่ใช่หมวดปลิวคนเดิน คนที่ผมเคยรู้จักอีกแล้ว
พรึบ
แกร็ด
“หึ!”หมวดปลิวแค่นหัวเราะในลำคอและเขาใช้จังหวะที่ผมมัวแต่ตกใจจนอึ้งจับมือผมไปล็อคไว้แทนและก็เกิดเหตุการณ์ชุลมุนเกิดขึ้น และทุกอย่างก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนผมไม่ทันตั้งตัว
ผมเป็นฝ่ายโดนจับและผมคิดว่า ผมอาจจะไม่รอดไปจากที่นี่แน่นอน
เพราะพวกมันวางแผนมาซ้อนแผนผม เขาทำให้ผมเชื่อใจอย่างสนิทใจว่าเขาคือคนดีและรักประเทศชาติเหมือนกันกับผม เพราะเราทำงานด้วยกันมาหลายปี
“เงินเหรอ…ที่ทำให้คุณเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้…?”ผมเอ่ยถามหมวดปลิวไปอย่างสงสัย เขาก็แสยะยิ้มให้ผมก่อนจะไหวไหล่เล็กน้อย
“ใช่…แต่คุณยังไม่รู้อะไรอีกเยอะคุณดาวเหนือ…”หมวดปลิวว่าพลางทำหน้ามีเลศนัยให้ผมดู ในขณะที่เขาจับผมมัดด้วยเชือกด้ายดิบรอบๆตัวผมจนผมไม่มีทางสู้และทางที่จะขยับเขยื้อนร่างกายไปไหนเลย ผมรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมากในตอนนี้
“อะไร?”ผมถามเขากลับไปแทบจะทันที และในตอนนี้คนของผมก็ถูกชายฉกรรณ์จับกุมไว้หมดแล้ว
ผมผิดเองที่พาคนพวกนี้มาตาย….
“เพราะนี่พ่อผม…..”
“ไม่จริง!”ผมส่ายศีรษะไปมาหน้าเสียใจสั่นอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่หมวดปลิวบอกผม เขาบอกผมว่าชายร่างอ้วนท้วนเป็นพ่อของเขาและตอนนี้หมวดปลิวก็กำลังแก้เชือกให้ชายคนนั้นอยู่
พรึบ
“จริง!!”หมวดปลิวตะโกนใส่หน้าผมจนน้ำลายกระเด็นโดนหน้าผม ผมก็มองเขาอย่างผิดหวัง เสียดายคนดีๆจริงๆนะ
ถึงว่าทำไมทุกอย่างมันดูง่ายแต่พอจะจับแก๊งนี้ทีไรกลับยากเย็นผิดแผนไปเสียหมด ที่แท้ก็มีเกลือเป็นหนอนนี่เอง
และมันก็คงจะพลาดตรงที่ผม ไม่ยอมรับข้อเสนอในการเป็นพวกของพวกมัน
“แกเลือกวิธีการตายของแกหรือยัง?”หมวดปลิวเอ่ยถามผม พลางเดินมาเผชิญหน้ากับผม ผมก็จับจ้องหมวดปลิวอย่างไม่ลดละ
“ถุย!”
“ไอ้เหี้ย!!!”
เพลี๊ย
ใบหน้าของผมหันไปตามแรงตบจากฝ่ามือใหญ่ที่ตบหน้าผมเต็มแรงจนเลือดกลบปากผมที่ผมถุยน้ำลายใส่หน้าเขา และเขาก็สบถคำด่าผมอย่างหัวเสีย
“คนอย่างพวกมึงกูขอสาปแช่งให้พินาศไม่ได้ตายดี…”
“ขายบ้านขายประเทศ!!”ผมก่นด่าสาปแช่งพวกมันทุกคนอย่างใจเจ็บแค้น แต่ไอ้ปลิวมันกลับไม่สะทกสะท้านอะไรกับยิ้มร่าอย่างคนเมายาและรู้สึกดีที่โดนผมด่าและสาปแช่ง หน้าตามันระรื่นอย่างกับอยากให้ผมด่ามันอีก
พรึบ
“อึก!”มันพุ่งตรงมาหาผมพร้อมกับใช้มือบีบปากผมแน่นจนผมรู้สึกปวดกรามทั้งสอง ดวงตาคู่คมสีดำเข้มอำมหิตของมันจับจ้องมาในตาผม
“หึ…กูอีกนานเว้ยกว่าจะตาย..แต่คนที่จะชะตาขาดในวันนี้ก็คงจะเป็นมึงก่อนที่จะต้องตายก่อนกู…”
“เราจะฆ่ามันด้วยวิธีไหนดีครับ…นาย..”
“ถ้าพวกเรากลับไปโดยที่ไร้มัน…มีหวังพ่อมันผิดสังเกตแน่!”ผมเหลือบตาไปมองคนที่พูดประโยคสองประโยคเมื่อกี้อย่างไม่อยากที่จะเชื่อหูตัวเอง ว่าจะเป็นคนคนนี้ที่ผมไว้ใจมาตลอดเป็นคนพูดมันออกมา
“จ่าปลา?”ผมเอ่ยชื่อเขาไปพลางมองเขาด้วยสายตาผิดหวัง เขาก็มองหน้าผมด้วยสายตาที่นิ่งเฉยอย่างไม่สะทกสะท้านอะไร และมองเลยไปด้านหลังเขา ตำรวจทุกนายที่มากับผมในวันนี้
ไม่มีใครเลยสักคนที่ถูกจับมัดแบบผม
ผมมองทุกคนด้วยสายตาผิดหวัง นี่ผมไว้ใจคนมากไปใช่ไหม ถึงได้มีชะตากรรมแบบนี้
“เพราะอะไรกัน…ถึง?”ผมเอ่ยถามจ่าปลาไปอย่างจุกอยู่ในอก จ่าปลาก็กระตุกยิ้มให้ผม
“เงินไง…เงินคือทุกสิ่งทุกอย่างของผม…”
“ถ้าไม่มีเงิน…ผมก็คงจะไม่มีความสุข…”นี่คือคำพูดของจ่าปลา จ่าที่ผมปลุกปั้นมาเองกับมือ คำพูดของเขาทำให้ผมพูดอะไรไม่ออกทำได้เพียงแค่นำ้ตาตกใน
พ่อครับ…เงินคือพระเจ้าสำหรับคนพวกนี้ครับ
พ่อผมเป็นนายตำรวจยศผู้พันและเป็นหัวหน้าของผมและหัวหน้าของคนที่ทรยศจรรยาบรรณพวกนี้ด้วย
“พวกคุณ….”ผมพูดได้เพียงแค่นี้จริงๆก่อนจะส่ายศีรษะไปมาอย่างพูดอะไรไม่ออกอีกแล้ว ผมจุกอกไปหมดแล้ว
“หึ…อย่าห่วงแต่พล่ามอยู่…ถึงเวลาตายของมึงแล้ว…”
“ไอ้ดาวเหนือ!!”ไอ้ปลิวว่าเสียงเหี้ยมก่อนจะยกปืนลูกซองสั้นจ่อมาที่ศีรษะของผมและกำลังจะกดเหนี่ยวไกปืนแต่ทันใดนั้น
ลมก็พากันพัดโหมกระหน่ำเข้ามาจนต้นไม้ใบไม้และต้นหญ้าต่างพัดปลิวไหวไปตามแรงลม
“ลมเหี้ยไรวะเนี่ย!!!”เสียงของไอ้ปลิวสบถออกมาก่อนที่มันจะยกมือขึ้นไปปิดตามันเพราะขี้ฝุ่นมากมายกำลังปลิวว่อนอยู่กลางอากาศและร่างของมันก็ถลาปลิวไปตามแรงลมมหาศาลนี้รวมถึงร่างของคนอื่นๆด้วย
ผมจึงใช้จังหวะชุลมุนนี้เป็นการหนีผมพาตัวเองหันหลังวิ่งหนีไปให้ไกลจากที่ตรงนี้อย่างทุลักทุเลเพราะเชือกด้ายดิบที่พันร่างของผมอยู่ทำให้ผมเคลื่อนตัวได้อย่างยากลำบาก
“โอ้ย!!”พยายามหลับตาและกัดฟันสู้กับลมพายุที่กำลังพัดอย่างบ้าคลั่งต้านทานแรงลมวิ่งสวนลมขึ้นไปทางทิศเหนือ
สิ่งเดียวที่ในหัวผมคิดได้ในตอนนี้ คือการที่ผมจะต้องนำพาชีวิตของตัวเองให้รอด รอดเพื่อจะไปบอกความจริงให้พ่อผมรับรู้ในการทรยศของคนพวกนี้ และกวาดล้างคนเลวและยานรกพวกนี้ออกไปให้พ้นจากประเทศนี้ซะ
ตึกกกก
สวบบบบบบบบ
โฮก ฮากกกกกก
“เห้ย!”ผมอุทานออกมาอย่างตกใจกับเสียงที่เเว่วมาตามแรงลม เสียงขู่คำรามของสัตว์สี่ขาลายพาดกลอน
“แถวนี้มีเสือด้วยเหรอ?”ผมพึมพำต่ออีกแต่เสียงของมันดังมากจากทิศทางเหนือลม เเสดงว่าต้นเสียงมันกำลังมุ่งหน้าไปยังที่ที่ผมเพิ่งจะวิ่งจากมานะ
ตึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ผมไม่รอช้ารีบวิ่งฝ่าสายลมที่พัดโหมกระหน่ำนี่ไปอย่างอยากลำบากเพราะต้องหลับตาวิ่งและต้องทนสู้กับสายลมที่สวนทาง
ตึกๆๆๆๆๆๆ
“วี๊ดดดดดดดดดดด!!!!!”
ปังๆๆๆๆๆๆ
เสียงกรีดร้องอย่างทุกข์ทรมานหลายเสียงดังแผดและผสมผสานไปด้วยเสียงปืนกลนับหลายสิบกระบอกที่ยิงรัวอย่างไม่พักดังตามไล่หลังผมมาทำให้ผมหันกลับไปมองยังด้านหลังของผม ก็ทำให้ผมรับรู้ได้ว่า เสียงกรีดร้องหลายเสียงนั่น ดังมาจากคนพวกนั้น
คนที่ทรยศประเทศชาติและจรรยาบรรณของตำรวจ
นี่คงจะเป็นบทลงโทษของธรรมชาติ ผมนึกขอบคุณจากใจจริงๆที่มีเสือผ่านมาทางนี้พอดีหรืออาจจะเป็นกำหนดจากฟ้าก็ได้ที่มอบเวรกรรมให้เดินเร็วตามทันพวกมันได้ฉับพลันแบบนี้
พรึบ
ตุ๊บ
“โอ้ย!!”ผมร้องออกมาอย่างเจ็บปวดที่ผมมัวแต่มองด้านหลังจนไม่ได้มองเบื้องหน้ากลับสะดุดกิ่งไม้ที่เลื้อยขึ้นไปตามทางล้มลงหน้าคะมำไถลไปกับพื้นดิน
ตุ๊บ
“โอ้ย…เจ็บ…”ผมอุทานออกมาก่อนจะค่อยๆขยับตัวพลิกตัวให้นอนหงายอย่างยากลำบากเพราะร่างกายของผมมันถูกพันธนาการด้วยเชือกเส้นใหญ่ที่ร่างท่อนบนของผมไว้อย่างแน่นหนา
ตุ๊บ
“อะไอ้เหนือ!”เสียงสั่นเครือเอ่ยขึ้นทำให้ผมสะดุ้งตกใจรีบหันหน้าไปมองเจ้าของเสียงนั้นทันทีก่อนจะต้องเบิกตาโตขึ้นด้วยความตกใจกับร่างกายที่อาบโชกไปด้วยเลือดสีแดงสดบนร่างของไอ้ปลิว
ที่ตอนนี้มันกำลังถือปืนจ่อเล็งมาที่ร่างกายผม
ผมก็รับรู้ได้ว่าลมพายุมันได้หยุดลงแล้วแต่ผมก็ต้องใจหยุดเต้นไปด้วย เมื่อเราเดินทางมาถึงสิ่งสุดท้ายก่อนที่ตัวเองจะตาย
ทันใดนั้นไอ้ปลิวมันก็เหนี่ยวไกปืนใส่ร่างของผมทันที
ปังปัง
“เฮือก!”เสียงลมหายใจเฮือกสุดท้ายของผมก่อนที่ม่านตาของผมจะปิดลง เพราะผมกำลังจะตาย ไอ้ปลิวยิงปืนลูกซองสั้นใส่ร่างกายผมและทันใดนั้นร่างของมันก็โดนเสือลายพาดกลอนตัวใหญ่เท่าหมีควายกระโจนเข้าหาร่างของมันเสือฟัดร่างของไอ้ปลิวจนศีรษะของมันขาดกระเด็นออกมาจากร่าง
เลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูดส่งกลิ่นเหม็นคราวคละคลุ้งไปทั่วบริเวณและเสือใหญ่ตัวนั้นก็กัดกินร่างของไอ้ปลิวอย่างเอร็ดอร่อยก่อนที่มันจะค่อยๆย่างขาทั้งสี่ขาของมันเข้ามาหาผมแต่ผมกลับหมดสติที่เหลืออยู่น้อยนิดของผมดับลงไปซะก่อน
ผมก็คงจะมีชะตากรรมเดียวกันกับไอ้ปลิวนั่นแหละ คือตาย แต่ที่นี่มีเสือด้วยเหรอ เสือที่มันเกรี้ยวกราดและผิดแปลกไปจากเสือตามสวนสัตว์ทั่วๆไปน่ะ….เสือที่มันกินคนเป็นอาหาร