ตอนที่ 8 ช่วยคน1
ความเงียบเข้าปกคลุมภายในรถม้า รถม้าวิ่งออกมาได้ครึ่งทางเซียวรุ่ยที่นั่งอยู่ข้างคนขับรถม้าก็เอ่ยถามขึ้นมา
"ท่านอ๋องไปที่ใดก่อนหรือขอรับ?"
มู่หรงหมินหรุบตาลงจ้องมองมือเล็กๆที่กอบกุมมือของตนเองตลอดครึ่งทางเขาก็ขบเม้มริมฝีปาก ในขณะที่เขากำลังจะเอ่ยตอบเซียวรุ่ยนั้นเสียงใสของหลินลู่หยุนก็ดังขึ้น
"คุณชายเซียวข้ารบกวนส่งข้าลงหน้าร้านเซียงเก๋อก็ได้!"
มู่หรงหมิงขมวดคิ้ว "คุณหนูหลินมีธุระหรือ?"
หลินลู่หยุนยกยิ้ม "ก็ไม่เชิงมีธุระอะไรเพียงแต่หม่อมฉันจะไปสำรวจดูว่าที่ร้านเซียงเก๋อนั้นมีน้ำอบแบบไหนวางขายบ้าง หากหม่อมฉันจะนำน้ำอบที่ใช้ผสมน้ำอาบ ใช้อบผ้า ใช้ประทินร่างกายให้มีกลิ่นหอมติดตัว ทางร้านจะรับไหม?
อ้อ..ท่านอ๋องเรียกหม่อมฉันลู่หยุนเถอะเพคะ เรียกคุณหนูหลินนี่ดูเป็นทางการไปหน่อย"
มู่หรงหมิงเลิกคิ้ว " ได้..แต่ไม่ยักรู้เลยว่าเจ้าทำน้ำอบเป็นด้วย กลิ่นกายของเจ้านี้ใช่กลิ่นน้ำอบด้วยไหม?"
ฤดูใบไม้ผลิเป็นฤดูที่ดีมีลมมีกลิ่นหอมจางๆ มู่หรงหมิงโดนกลิ่นหอมจางๆที่โชยมาจากตัวหลินลู่หยุนดึงดูดตั้งแต่หน้าพระตำหนักเฟิงหยีแล้วและตอนที่นางชนเขาแล้วเข้ามาในอ้อมแขนตอนนั้นกลิ่นหอมนี้ก็ยิ่งชัดเจนมากยิ่งขึ้น
จนกระทั่งเขาได้ลอบสำรวจนางทั่วทั้งใบหน้ากลับไม่ได้ทาผงอันใดลงบนบนใบหน้าเลย แต่เขากลับโดนใบหน้าอันสดใสของนางดึงดูดจนน่าแปลกใจ
ที่ผ่านมาเขามักจะเห็นสตรีประทินโฉมให้สวยงามเพื่อคนที่ตัวเองชอบ หรือว่าคนที่จะทำให้นางขอบก็ไม่มีเลยหรือ?
"ไม่ใช่เพคะ!"
มู่หรงหมิงเอ่ยถาม “มันคือกลิ่นหอมอันใดหรือ?"
หลินลู่หยุนนึกสักครู่ “หม่อมฉันอยู่กับยาสมุนไพรทุกวันเป็นกลิ่นยาสมุนไพร ไม่ใช่กลิ่นหอมอันใดเพคะ"
“เป็นเช่นนั้นหรือ? แต่ทำไมข้าได้กลิ่นจางๆ ของหญ้าหอมหรือน้ำอบของเจ้ามีส่วนผสมของหญ้าหอมด้วย"
"เป็นส่วนผสมอีกอย่างหนึ่งเพคะ"
"ข้าชักอยากเห็นน้ำอบของเจ้าแล้วสิ" มู่หรงหมิงยกยิ้มบางๆสายตาจริงจัง
ติดตามท่านอ๋องมาตั้งแต่อายุสิบปีจนตอนนี้ผ่านมาสิบปีแล้วเซียวรุ่ยไม่เคยเห็นท่านอ๋องใส่ใจเรื่องน้ำหอมน้ำอบเลย แล้วเหตุใดวันนี้ถึงได้เกิดสนใจขึ้นมาเล่าเซียวรุ่ยขมวดคิ้วครุ่นคิด
"เอาไว้รอให้หม่อมฉันทำให้เสร็จก่อนจะนำมาให้ท่านอ๋องทดลองใช้เลยเจ้าค่ะ" หากได้ชายหนุ่มผู้หล่อเหลา สง่างามและเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วเมืองมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ อนาคตของนางจะต้องร่ำรวยมีเงินท่องยุทธภพเป็นแน่
แค่คิดหลินลู่หยุนก็ยิ้มปริ่มดวงตาสุกใสเจ้าเล่ห์อย่างมีความสุข
มู่หรงหมิงมองดูดวงตาสุกใสของหญิงสาวมุมปากของเขาก็ยกยิ้มเบาๆ
"คุณหนูสามหลินถึงร้านเซียงเก๋อแล้วขอรับ!" เสียงของเซียวรุ่ยดังขึ้นมาหลินลู่หยุนเปิดม่านออกดูด้านนอกจากนั้นนางก็หันหน้ามายกยิ้มให้มู่หรงหมิง
"ขอบคุณท่านอ๋องเพคะ"
มู่หรงหมิงพยักหน้า สายตาของเขาหรุบลงมองมือที่ยังคงถูกหลินลู่หยุนจับเอาไว้คิ้วสวยยกสูงขึ้น หลินลู่หยุนมองตามสายตาของเขานางผงะครู่หนึ่ง แล้วยกยิ้มเคอะเขิน
"แหะแหะ ท่านอ๋องลืมตัว หม่อมฉันลืมตัวเพคะ" กล่าวพลางรีบปล่อยมือของเขาออกจากนั้นนางก็รีบเปิดม่านรถม้ากระโดดลงไปในทันที
คนขับรถม้าถือเก้าอี้ค้างเอาไว้ยังไม่ทันได้วาง คุณหนูสามตระกูลหลินผู้นี้ก็กระโดดลงไปเสียแล้ว
มู่หรงหมิงมองดูมือที่ว่างเปล่าของตนเองแววตาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนเปล่งน้ำเสียงที่รื่นหูออกมาว่า
“ตรวจสอบสักหน่อย ข้อมูลทั้งหมดของหลินลู่หยุนตั้งแต่เกิดจนถึงบัดนี้ทั้งหมดเลย”
เซียวรุ่ยนิ่งไป พร้อมกับมองเข้าไปในรถม้าอย่างเหม่อลอยเมื่อพบกับรอยยิ้มอันงดงาม น่าหลงใหลที่ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของหมิงอ๋องหรือว่าในที่สุดท่านอ๋องก็ได้เปิดหูเปิดตาแล้ว รู้ว่าต้องหาแม่นางสักคนแล้ว นี่เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง
แต่คุณหนูสามหลินผู้นี้.....เรื่องราวที่รู้มาทั้งหมดในความทรงจำของเขา ดูเหมือนจะยังไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก
สถานะของอ๋องซื่อเจิ้งที่ติดตัว เซียวรุ่ยอดที่จะเตือนขึ้นมาไม่ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ท่านอ๋องเดินบนเส้นทางของความรักที่ผิดรูปแบบ จึงได้พูดอย่างมีความรับผิดชอบเต็มที่ว่า
“ท่านอ๋องหากข้าน้อยจำไม่ผิด เท่าที่ได้ยินเรื่องของคุณหนูสามตระกูลหลินมา นางเป็นหญิงโง่ สติเลอะเลือนตามติดองค์รัชทายาทจนมีข่าวลือเสียหายไม่เหมาสมกับตำแหน่งพระชายาเอกของท่านในอนาคตเลยนะพะย่ะค่ะ"
มู่หรงหมิงขมวดคิ้วมองไปทางใบหน้ากลมของเซียวรุ่ยที่ปรากฏสีหน้าตื่นตกใจออกมา ใบหน้าหล่อเหลาของมู่หรงหมิงก็ปรากฎรอยยิ้มอันซุกซนขึ้น
บางครั้งเซียวรุ่ยก็มีความคิดว่า สิบสองปีที่ติดตามท่านอ๋องมาเขาก็ไม่เคยเข้าใจในความคิดของท่านอ๋องเลย แต่วันนี้ท่านอ๋องยิ้มปริ่มบ่อยกว่าที่ผ่านมามากนัก และเป็นรอยยิ้มที่เซียวรุ่ยอย่างเขายากจะเข้าใจจริงๆ
“อื้อ เจ้าพูดถูก นางเป็นหญิงที่มีชื่อเสียงไม่ดี”
เซียวรุ่ยได้ยินเช่นนั้นเขาก็นิ่งไปอีกครั้ง อารมณ์ความรู้สึกบนใบหน้ากลมๆ ยังคงที่ทุกการตัดสินใจได้เปลี่ยนแปลงไปเพราะคำพูดของเขา น่าประหลาดใจยิ่งนัก วันนี้ท่านอ๋องเป็นอะไรไป?
หลินลู่หยุนเดินเข้าไปในร้ายเซียงเก๋อเสี่ยวเอ้อร์ก็ออกมาต้อนรับ
"คุณหนูหาสิ่งใดไม่เจอถามได้นะขอรับ"
หลินลู่หยุนหยิบขวดน้ำอบขึ้นมาดม จากนั้นนางก็เอ่ยถามเสี่ยวเอ้อร์ว่า "เสี่ยวเอ้อร์ถ้าหากข้ามีน้ำอบ ที่หอมและติดทนนาน สามารถผสมน้ำอาบได้ อบเสื้อผ้าได้ และสามารถใช้เป็นกลิ่นเฉพาะกายของแต่ละคนได้ เจ้าสนใจหรือไม่?"
"คุณหนู ท่านเพียงนำตัวอย่างมาให้ทางร้านประเดี๋ยวข้าน้อยจะส่งให้นายท่านทำการตรวจสอบประสิทธิภาพ ถึงจะสามารถให้คำตอบแก่ท่านได้" เสี่ยวเอ้อร์รีบตอบโดยไม่ต้องไตร่ตรอง
หลินลู่หยุนพยักหน้า "เช่นนั้นอีกสองวันข้าจะนำน้ำอบมาให้ทางร้านตรวจสอบก่อนสามกลิ่น หากทางร้านยินดีรับซื้อข้าจะคิดค้นกลิ่นเพิ่มเติม รับรองว่าในเมืองหลวงจะไม่มีผู้ใดเคยใช้มาก่อนเลย"
เสี่ยวเอ้อร์ดวงตาเป็นประกาย "เช่นนั้นอีกสองวันข้าจะรอท่านนะขอรับ"
"อืม.." หลินลู่หยุนพยักหน้าจากนั้นก็เดินสำรวจภายในร้ายเซียงเก๋ออีกรอบอย่างเงียบๆ ร้านเซียงเก๋อนี้ เป็นร้านค้าที่ขายน้ำอบ น้ำหอม เครื่องประดับที่ค่อนข้างมีราคาสูง ดังนั้นของในร้านจึงจำเป็นต้องเป็นของที่ดีที่สุด เพื่อรักษาระดับของร้านเอาไว้
จิ๊จิ๊ เจ้าของร้านเซียงเก๋อนี้คงรวยมากแน่ๆ
หลินลู่หยุนเดินพลางครุ่นคิด นี่หากว่านางสามารถร่วมมือกับเจ้าของร้านได้ นางก็คงจะเป็นเศรษฐีนีย่อมๆในยุคนี้เป็นแน่ แค่คิดนางก็รู้สึกตื่นเต้นมากแล้ว..
หลังจากเดินสำรวจภายในร้านเซียงเก๋อเสร็จหลินลู่หยุนก็ต้องการที่จะเดินไปร้านขายสมุนไพรฝั่งตรงข้ามแต่ยังไม่ทันได้ข้ามไปก็ได้ยินเสียงคนโวยวายอยู่ไม่ไกล
"นายท่าน แย่แล้วนายท่านอย่าได้เป็นอะไรไปนะขอรับนายท่าน..."
ชั่วขณะนั้นหลินลู่หยุนก็มองเห็นชายชราหมดสติลงไปกองอยู่ที่พื้น เฮ่อเฉิงเองก็ตกใจจนเหงื่อไหลออกมาเต็มไปหมด เขาไม่น่าตามใจชายชราผู้นี้จนเกิดเรื่องเลยจริงๆ แล้วเช่นนี้เขาจะทำอย่างไร
ในขณะนั้นเองเฮ่อเฉิงเงยหน้าขึ้นเพื่อที่จะขอความช่วยเหลือจากใครสักคน เขาก็ต้องชะงักไป
เมื่อเห็นเด็กสาวผู้หนึ่งมายืนอยู่ตรงหน้าของเขา เก็กสาวยืนตัวตรงมองอยู่ครู่หนึ่งหลังจากนั้นนางก็เดินเข้ามาใกล้หน่อยแล้วนั่งลง ยกมือขึ้นจับชีพจรของชายชรา ขมวดคิ้วเล็กน้อย
ในที่สุดเฮ่อเฉิงก็ได้สติกลับมา พอเห็นท่าทางของเด็กสาวก็ทั้งตกใจทั้งโมโห เขาตีมือของนางทันทีพร้อมตวาดเสียงดุ "อย่ามาจับนะ เจ้าคิดจะทำอะไร?"
นายท่านของเขาคือผู้ใด เขาเป็นถึงนายท่านอาวุโสตระกูลเฉินแห่งเมืองหนานเชียวนะ ถึงแม้ว่าในยามปกติเขาจะไม่เคยปรากฎกายให้ผู้ใดพบเห็นง่ายๆ ก็เถอะ แต่เขาในฐานะผู้ติดตามก็ต้องคอยระมัดระวังเป็นอย่างมาก
ถ้าเกิดเรื่องขึ้นใครก็รับผิดชอบไม่ไหว แต่มือของเขาไม่สัมผัสถูกมือของเด็กสาวแม้แต่น้อย ตีลงไปที่พื้นแทนเฮ่อเฉิงสูดลมหายใจเข้าลึก โมโหยิ่งกว่าเดิม “แม่นางเจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่”
หลินลู่หยุนยังคงลองจับชีพจร “ช่วยชีวิตคน" เฮ่อเฉิงราวกับได้ยินเรื่องตลก
“เจ้าเป็นเพียงสตรีที่อายุยังน้อยเองนะ เจ้าอย่ามาสร้างความวุ่นวายที่นี่ หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับนายท่านทั้งตระกูลของเจ้าก็รับผิดชอบไม่ไหว.."
ในสามสี่แคว้นใหญ่ นอกจากหมอระดับปรมาจารย์ที่มาจากสำนักโอสถไม่กี่คน ใครกล้าพูดว่าจะรักษานายท่านอาวุโสได้บ้าง
..