ก่อนกาล
คันปากอยากจจะต่อคำมากกว่านั้น ว่าคุณเล็กไม่ค่อยหยิบจับอะไรเองแม้จะกินข้าวยังแทบจะเป็นนางจิกที่ตักมาจ่อที่ปากตั้งแต่ยังไม่ขึ้นสาวด้วยซ้ำ ครั้นพอแต่งงานก็ขอเอาจิกกับยายผิวมารับใช้ อ้างว่ายังไม่คุ้นเคยกับคนในบ้านของคุณหลวงธิตินันท์กลัวว่าจะเรียกใช้ใครก็ลำบาก คุณพระกับคุณหญิงประพิมท่านก็ตามใจรักอย่างกับไข่ในหิน ยายผิวส่ายหน้า คุณหลวงธิตินันท์เสียอีกที่คัดค้านบอกว่าหากคุณเล็กไม่กล้าใช้คนในบ้าน แล้วเมื่อไหร่จะกล้าใช้
“ไปกันเถอะป่านนี้ มิปาข้าวของหรือรื้อค้นจน เกลี้ยงตู้ใส่ผ้าแล้วรือ”
หอมพูดด้วยรู้นิสัยคุณเล็กดีว่าไร้เหตุผลแค่ไหนจะหาของอย่างเดียวแต่รื้อมากองร้อยอย่าง
“กินยาเสียหน่อยข้าต้มทิ้งไว้กว่าจะได้กลับมาไข้จะขึ้นเอาเสีย”
ยายผิวส่งถ้วยยาให้มุจรินทร์ที่รับมาจิบเบาๆเกินคาดไม่ขมแต่หวานเย็นชื่นใจ
“ใบเตยกับหญ้าดอกขาว ออกหวานๆหอมๆแก้ไข้ดีนักแล”
มุจรินทร์ยิ้มรับวางถ้วยยาประนมมือไหว้ ยายผิว
“ต๋ายตาย มันไหว้ข้าด้วยวะนางหอมท่าจะผีเข้าจริงๆแปลกๆปกติไม่แบบนี้จะดีหน่อยก็ต่อหน้าท่านขุนมูลนายมาวันนี้ไหว้ข้าเลยรึ”หอมหัวเราะเบาๆ
“เอาน่าป้าดีขึ้นก็ว่า ไปกันเถอะจิก”
มุจินทร์ก้มมอง ผ้าถุงสีมอมกับเสื้อแขนกุดคอกว้างสีครีมมุก ที่แม้จะไม่ใหม่แต่ก็ไม่เก่า ก็ไม่ได้แย่กว่าการนุ่งโจงกระเบนละเอ้า
เดินตาม หอมไปติดๆ
จากเรือนหลังเล็กที่ทอดยาวมีห้องเล็กๆแบ่งไว้สำหรับคนรับใช้ ใต้ถุนเตี้ยมีไก่วิ่งหลบไปมาแม่ไก่คุ้ยเขี่ยเศษอาหาร หลังคาจั่ว มุ่งด้วยหญ้าคาในพุ่มไม้หนาร่มรื่นจนมุจรินทร์อดที่จะสูดเอากลิ่นบริสุทธิ์ของอากาศจนเต็มปอด
เดินมาไม่ไกลนักก็มาถึงสนามหญ้าสีเขียวขจีพร้อมกับซุ้มดอกกระดังงา ซุ้มกุหลาบมอญส่งกลิ่นหอมหวน การจัดสวนค่อนไปทางยุโรปผิดกับตัวเรือนที่เป็นแบบเรือนไทยเต็มรูปแบบ หญิงชราผมหงอกขาวแต่งตัวด้วยผ้าเนื้อดีมือข้างหนึ่งชี้บ้านสไตน์ยุโรปที่สีขาวสะอาดตา โบกพัดในมือ อีกมือยืนชี้ไปยังต้นดอกไม้หลากสีสันสองข้างทางทอดยาวเข้าสู่บ้าน
“ถอนหญ้าออกให้หมดอีกไม่กี่วันคุณธราดลจะกลับมาแล้วถึงครานั้นฉันจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับเสียใหญ่โตทีเดียว ทุกอย่างจะต้องเจริญหูเจริญตาคุณดลกลับมาจะได้ดีใจ”
น้ำเสียงภูมิอกภูมิใจ แต่เมื่อหันมาเห็นมุจรินทร์กับหอมก็กวักมือเรียก
“มาพอดีเลย ไปดูคุณหญิงเล็กนั่นหน่อยประไรส่งเสียง เอะอะ น่ารำคาญ”
น้ำเสียงขุ่นมัว มุจรินทร์ได้แต่ก้มหน้าเสีย
“ค่ะคุณท่าน”หอมตอบรับ
“อืมมม นางจิกค่ำนี้มาอ่านหนังสือให้ฉันฟังก่อนนอนด้วยไปหยิบนิราศเมืองแกลงที่ห้องคุณหลวงติมาแล้วไปอ่านให้ฉันฟังที่ห้อง อย่าให้ดึก”มุจรินทร์ยังก้มหน้า
“แน้ นางจิกพูดด้วยก็ไม่ว่าอย่างไร หายป่วยแล้วรึ”น้ำเสียงเจือความห่วงใย
“ดีขึ้นมากแล้วเจ้าค่ะคุณท่าน ประเดี๋ยวยามค่ำหอมจะสำทับให้มันกินยาอีกที”
“เอ่อ ดี เหมือนจะยังไม่หายดี แกหายูกหายาให้มันกินบ้างไหม อยู่กับยายผิวหูตาก็ไม่ค่อยดีจะเข้าใจหายาให้นางจิกมันไหม”มุจรินทร์ยิ้มเจื่อนๆ
“เอาวะเป็นไงเป็นกัน”เงยหน้ายิ้มกว้างดวงตาสดใส
“กินแล้วพ่ะย่ะค่ะ เอ๊ยเจ้าค่ะ”คิ้วขาวขมวดเข้าหากัน
“แอบไปดูยี่เกมาหรือไร ไหนว่าป่วย”หอมเม้มปาก
“มันตัวรุมๆเจ้าค่ะคุณหญิง”
“อืมมมไปไปเสียป่านนี้คุณหญิงเล็กพังห้องไปแล้ว”
มุจรินทร์ยกมือไหว้คุณหญิงละม้าย หอมรีบดึงมุจรินทร์ไปจากตรงนั้น
“นางจิก มานี่เลยนะ”
เสียงแหลมเล็กบาดหูเรียกดังลั่นบ้าน ที่ยืนอยู่ขั้นสุดท้ายของบันได มุจรินทร์พอจะเดาได้ทันทีว่านี่คือคุณเล็กหรือประพาพร ด้วยการแต่งกายที่เหมือนจะให้สวยอยู่เสมอตามสมัยนิยม ผมดัดลอนชะโลมน้ำมันวาววับ ครอบด้วยที่คาดผมสีม่วงอ่อน ปากเคลือบสีแดงจัดสร้อยมุกยาวสองทบที่ยาวลงมาเกือบถึงบั้นเอวกับ เสื้อสีชมพูอ่อนผูกโบว์ใหญ่ที่ชายเสื้อ รับกับผ้าถุงสำเร็จยาวแค่เข่าลายสีแดงคาดเด่นที่ชายผ้าถุงสวมถุงน่องยาวสีขาว แขนสองข้างสวมกำไลมุกและทองประดับด้วยทับทิมสีแดงสด
“เจ้าค่ะสิจิก”หอมกระซิบเบาๆ
“เจ้าค่ะ”
“กว่าจะเสด็จได้ แม่นี่ลีลาเยอะเกินงามเห็นว่าเป็นคนสำคัญกระนั้นหรือ ฉันหรืออุตส่าห์ให้มาอยู่รับใช้ที่บ้านนี่แต่ก็ดันป่วยไข้ ไปเลยรีบมาม้วนผมให้ฉัน จะบ่ายแล้วอีกประเดี๋ยวคุณพี่จะขับรถมารับ ป่านนี้ยังหาเสื้อสีม่วงที่ชอบไม่เห็นแกเอาไปไว้ไหน ให้นางพวกนี้ช่วยหาก็ไม่เจอไม่ได้เรื่องสักคน”
แผดเสียงก้อง คุณหญิงละม้ายส่ายหน้าไปมา รีบหลบไปเสียด้วยไม่ชอบกิริยาของสะใภ้คนโต
มุจรินทร์รีบก้าวขึ้นไปบนบันได