บทที่ 8 เยี่ยมน้องสาว 2
“ถ้าพวกนายยังทำแบบนี้ฉันจะแจ้งความแล้วนะ”เจียงหลายพูดกับนักเลงที่อยู่ตรงหน้าด้วยความโมโห
“น้องสาว แจ้งความอะไรกัน เรามาเยี่ยมเยียนกิจการของเธอด้วยเฉพาะเลยนะ”ไอ้ลิงแห้งรูปร่างผอมแห้ง พูดกับเจียงหลายด้วยสายตาร้ายกาจ
ไอ้อ้วนอีกคนหนึ่งจึงหยิบไส้กรอกจากรถเข็นมาหนึ่งชิ้น แล้วกัดกินทันที พลางกล่าวว่า“น้องสาว ครอบครัวของเธอก็ทำอยู่ที่นี่มานานแล้วนะ หาเงินได้ไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ?ค่าคุ้มครองต้องจ่ายหน่อยแล้วล่ะ”
บนแขนของเจียงหลายยังสวมผ้าไว้อาลัยอยู่ เพราะพี่ชายของเธอตายเพราะช่วยเหลือคน เดิมทีสุขภาพของพ่อแม่ไม่ดีอยู่แล้ว การตายของพี่ชายจึงทำให้พวกท่านเสียใจจนสุขภาพแย่กว่าเดิมไปอีก เจียงเฉิงไม่ได้ทำงานพาร์ททามแล้ว เธอต้องช่วยพ่อแม่ขายของ เพื่อหาเงินเล็กน้อย
จะหาเงินรักษาพ่อแม่ยังไม่มีเลย ตอนนี้เธอมีเงินจ่ายค่าคุ้มครองที่ไหนกันล่ะ
สุดท้ายเธอพึ่งมาได้ไม่นานก็ต้องพบกับนักเลงสองคนเก็บค่าคุ้มครอง เธอไม่รู้จริงๆว่าจะต้องจัดการยังไง
เจียงหลายพูดอย่างโมโห“ฉันไม่มีเงินหรอกนะ พวกนายรีบไปซะ”
เมื่อนักเลงสองคนได้ยินว่าเจียงหลายไม่มีเงิน จึงมองตากันแวบหนึ่ง แล้วมองไปที่เจียงหลายด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย“ไม่มีเงินงั้นหรอ?ไม่มีเงินก็ได้ ดูเธอหน้าตาเกลี้ยงเกลา ไปนอนกับเราสักคืนสิ หลังจากนี้จะไม่เก็บค่าคุ้มครองของเธออีก เป็นยังไง?”
พูดจบนักเลงทั้งสองคนก็ล้อมเจียงหลายพลางยิ้มอย่างชั่วร้าย เจียงหลายตกใจจนก้าวถอยหลัง
ในตอนที่เจียงหลายก้าวถอยหลัง จู่ๆเธอก็รู้สึกว่ามีมืออันแข็งแรงพยุงไหล่ของเธอไว้ เธอหันกลับไปดูก็พบว่าคนที่ยืนอยู่ด้านหลังของเธอ ก็คือเจียงเฉิง
“พี่?”
ในตอนที่เจียงหลายเห็นเจียงเฉิง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเซอร์ไพรส์
“นี่!”
เจียงเฉิงตอบรับอย่างไม่รู้ตัว ในตอนที่เจียงหลายเห็นหน้าของเจียงเฉิงที่หันมา ก็พบว่าไม่ใช่พี่ชายของตนเอง อีกทั้งเธอก็นึกขึ้นมาได้ว่า พี่ชายของตนเองตายไปแล้ว
ใบหน้าของเจียงหลายเผยให้เห็นความเสียใจ เธอรีบกล่าวว่า“ขอโทษนะคะ ฉันจำคนผิด”
เจียงเฉิงรู้สึกเจ็บปวด เขาลืมไปว่าร่างกายของเขาไม่ใช่ร่างก่อนหน้านี้ เขายิ้มแล้วพยายามอยากทำให้เจียงหลายมีความสุขให้ได้มากที่สุด“ไม่เป็นไร ฉันทำงานโรงพยาบาลเดียวกับพี่ชายเธอ ชื่อเดียวกันด้วย จากนี้ไปให้คิดเสียว่าฉันก็เป็นพี่ชายของเธอคนหนึ่งก็แล้วกัน”
เมื่อได้ยินสิ่งที่เจียงเฉิงพูด เจียงหลายก็ฝืนยิ้มออกมา แต่เธอยิ้มไม่ออกจริงๆ
“ไอ้หนุ่ม ดูแกแล้ว คงอยากแส่มากใช่ไหม?”เมื่อไอ้ลิงแห้งเห็นว่ามีคนมาแส่เรื่องของตนเอง จึงรีบถามด้วยความไม่พอใจ
เมื่อเจียงเฉิงได้ยินดังนั้น จึงมองไปที่นักเลงสองคนด้วยสายตาดุดัน พลางกล่าวด้วยเสียงเยือกเย็นว่า“ไสหัวไป!”
เจียงเฉิงได้รับการถ่ายทอดแล้ว ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ฝึกฝนอะไร แต่ร่างกายของเขาก็แข็งแกร่งเหนือคนธรรมดาทั่วไป แน่นอนว่าไม่ต้องพูดถึงการต่อกรกับนักเลงกระจอกๆสองคนนี้
เมื่อเห็นสายตาดุดันอันเฉียบคมของเจียงเฉิง นักเลงทั้งสองก็ถึงกับตกใจกลัว แต่พวกเขาเห็นว่ารูปร่างของเจียงเฉิงไม่ได้สูงใหญ่อะไร อีกทั้งฝั่งตนมีคนตั้งสองคน ทั้งสองจึงไม่กลัว
ไอ้ลิงแห้งควักมีดปอกผลไม้ออกมา แล้วพูดอย่างเหี้ยมโหดว่า“นี่ไอ้หนุ่ม แกไม่เคยเห็นเลือดมาก่อนใช่ไหม”
สิ้นเสียงไอ้ลิงแห้งก็หันมีดแล้ววิ่งไปทางเจียงเฉิง
เมื่อเจียงเฉิงเห็นดังนั้นจึงยิ้มเยาะ แล้วยื่นมือจับมีดในมือของไอ้ลิงแห้งไว้ แล้วบิดเบาๆหนึ่งครั้ง ไอ้ลิงแห้งเจ็บจนคลายมีดในมือออก
เพียงแค่ถีบออกไป เจียงเฉิงก็ทำให้ไอ้ลิงแห้งกระเด็นออกไป ชนเข้ากับร่างของไอ้อ้วนที่อยู่ข้างหลัง
ไอ้ลิงแห้งรู้ว่าเจอเข้ากับยอดฝีมือแล้ว เขากุมหน้าแกที่เจ็บหนัก แล้วลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างหมดสภาพ“ไอ้หนุ่ม มึงรอกูก่อนนะ”
หลังจากที่ทิ้งคำพูดไว้ นักเลงทั้งสองคนก็หันหลังแล้ววิ่งหนีไป
“ทำให้น้องสาวฉันตกใจหมด คิดอยากจะหนีไปง่ายๆแบบนี้หรอห้ะ?”
เจียงเฉิงขยับเท้าเล็กน้อย ทันใดนั้นหินสองก้อนก็พุ่งออกไปราวกับกระสุน กระแทกเข้ากับน่องของนักเลงทั้งสองอย่างแม่นยำ ทั้งสองล้มลงกับพื้นกรีดร้องอย่างโหยหวน