บทที่ 16 คนที่ไม่ควรล่วงเกิน 2
“ใช่แล้วยังไง?ไม่ใช่แล้วยังไง?”เจียงเฉิงกล่าวอย่างเรียบเฉย
เมื่อพี่เป้าได้ก็ถึงกับตกตะลึง แล้วหัวเราะไปด้วยพูดไปด้วยว่า“แม่งเอ้ย มึงกล้ามากนะ!”
ระหว่างที่พี่เป้าพูดก็แกว่งมีดไปด้วย แล้วพูดด้วยเสียงเย็นชา“ฉันจะบอกอะไรแกให้นะ วันนี้ฉันจะให้แกเลือกสองทาง แกต้องคืนเงินที่เอาไปสิบเท่าให้ฉัน ไม่อย่างงั้น แกก็เอาผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังของแกมาให้ฉันได้เชยชมหน่อย เป็นไง?”
พี่เป้าเห็นสวี่ฉิงสะดุดตา ใบหน้าเล็กขาวนวลเนียน สามารถบีบแก้มออกมาเป็นน้ำได้เลยก็ว่าได้ ยังมีหน้าอกที่อวบอิ่มนั่นอีก ถ้าได้นอนเกลือกกลิ้งบนเตียงสักครั้ง คงจะได้ขึ้นสวรรค์
เมื่อได้ยินคำพูดของพี่เป้า สายตาของสวี่ฉิงก็เย็นยะเยือกขึ้นมาทันที เธอเป็นคนเย่อหยิ่ง ไม่เคยถูกใครดูถูกเหยียดหยามมาก่อนในชีวิต
ไม่รอให้สวี่ฉิงได้เคลื่อนไหว ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงเย็นชาของเจียงเฉิงกล่าวว่า“ถ้าแกด่าฉัน ฉันยังพออ่อนให้แกได้บ้าง แต่พวกแกเหยียดหยามเมียฉัน งั้นก็ต้องขอโทษด้วย”
“บัดซบ จะตายแล้วยังตอแหลอยู่อีก!”พี่เป้าลูบหัวไปมาอย่างรำคาญ แล้วตะคอกด้วยความโกรธ“จัดการมันซะ”
ลูกน้องของพี่เป้าที่ถืออาวุธมีดอยู่ในมือ พุ่งตัวเข้าหาเจียงเฉิงทันที มีดอีโต้ของหนึ่งในนั้นฟันไปที่ไหล่ของเจียงเฉิง
เผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่อันตรายขนาดนี้ สวี่ฉิงตกใจจนหลับตาปี๋ แต่เจียงเฉิงยังคงยืนนิ่งกับที่ไม่ขยับ
“ไปตายซะ!”ลูกสมุนคนนั้นเมื่อเห็นได้จังหวะ จึงคำรามด้วยความเดือดดาล
ในขณะที่มีดอีโต้จะฟันลงไปที่เจียงเฉิงนั้น เจียงเฉิงก็เริ่มขยับตัว ออกหมัดรวดเร็วดุจสายฟ้า ต่อยเข้าไปที่ท้องของลูกสมุนของเขา
ปึ้ง!
ทันใดนั้นลูกสมุนก็ถูกต่อยกระเด็นออกไป ตัวกระแทกกับพื้นอย่างแรง เขากุมท้องร้องโหยหวนอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวด มีดอีโต้หมุนเคว้งอยู่บนอากาศหลายรอย จากนั้นก็อยู่ในมือของเจียงเฉิง
“เร็วมาก!”
พี่เป้ายังไม่ทันได้เห็นเจียงเฉิงลงมือทำอะไร ลูกสมุนของเขาก็ถูกต่อยกระเด็นออกมาแล้ว
“บัดซบ ลุยพร้อมกันเดี๋ยวนี้!”พี่เป้าถือมีดอีโต้แล้ววิ่งตรงเข้าไป
สายตาของเจียงเฉิงเย็นเหยียบ เขาหายวับไปทันที ราวกับล่องหน พุ่งเข้าไปที่ตรงกลางของคนเหล่านั้น ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องโหยหวนดังขึ้น ทุกคนถูกเตะต่อยจนกระเด็นออกไปคนละทิศละทาง
กระทั่งพวกเขายังไม่ได้แตะต้องแม้แต่เสื้อของเจียงเฉิง ก็กระเด็นออกไปแล้ว พี่เป้าที่ล้มอยู่บนพื้นมองไปที่เจียงเฉิงด้วยสายตาหวาดกลัว นี่มันยอดฝีมือนี่นา น่ากลัวเกินไปแล้ว
สวี่ฉิงได้ยินเสียงปิดปกติ ในตอนที่เธอลืมตาขึ้นมานั้น ก็พบว่าเจียงเฉิงไม่เป็นอะไรแม้แต่น้อย แต่คนพวกนั้นกลับล้มอยู่บนพื้นร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด สวี่ฉิงมองไปที่เจียงเฉิงด้วยสายตาตะลึงงัน
เจียงเฉิงก้าวเข้าไปหาพี่เป้าทีละก้าว พี่เป้าพยายามขยับถอยไปด้านหลังด้วยสีหน้าหวาดกลัว ปากของเขาพูดขอร้องอ้อนวอนไม่หยุด“พี่ใหญ่ครับ ผมขอโทษ ผมไม่ควรล่วงเกินพี่ ผมผิดไปแล้ว”
“จากนี้ขืนยังกล้าคิดไม่ดีกับเมียของฉันล่ะก็ ฉันจะทำให้แกไม่ได้เป็นผู้ชายอีก!”
เจียงเฉิงพูดทิ้งท้ายเอาไว้ด้วยความเย็นชา เขาโยนมีดอีโต้ขึ้นบนฟ้าเบาๆ ทันใดนั้นก็มีดก็เสียบเข้าระหว่างขาของพี่เป้า
พี่เป้ารู้สึกว่ามีดคมนั้นแทบจะแนบชิดกับน้องชายของเขา ห่างแค่เพียงหนึ่งมิลลิเมตรเท่านั้น ตนเกือบจะไม่ได้เป็นชายอีกต่อไป
ฝีมือของเจียงเฉิง ทำให้พี่เป้าตกใจจนเหงื่อตก ร่างกายของเขาเริ่มสั่นเทาขึ้นมาทันที เขาพูดพึมพำไม่หยุด“ผมไม่กล้าอีกแล้วครับ ผมไม่กล้าอีกแล้ว”
ไอ้ลิงแห้งที่ล้มอยู่ข้างๆ ตกใจจนไม่กล้าเงยหน้า เขารู้สึกเสียใจมาก เพราะตนไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีกล้าล่วงเกินบุคคลที่น่ากลับขนาดนี้?
สวี่ฉิงตามเจียงเฉิงขึ้นรถแล้วขับรถออกไป ไอ้ลิงแห้งเงยหน้าขึ้นมา แล้วฝืนพูดกับพี่เป้าด้วยความเจ็บปวด“พี่เป้า ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?”
พี่เป้าถลึงตาใส่ไอ้ลิงแห้ง แล้วก่นด่า“บัดซบเอ้ย มึงไปล่วงเกินตัวซวยที่ไหนมาวะ”
“ตัดแขนมันเดี๋ยวนี้!”พี่เป้าคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว ตนแทบจะต้องเสียความเป็นชายเพราะเงินแค่หนึ่งพันหยวนนั้นแล้ว
ไอ้ลิงแห้งรีบขอร้องอ้อนวอน แต่พี่เป้าแค่อยากระบายความโกรธของตัวเองเท่านั้น จึงได้ตัดแขนของไอ้ลิงแห้งข้างหนึ่ง ทันใดนั้นไอ้ลิงแห้งก็ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดไปทั่วทั้งโรงจอดรถ
เขาเสียใจจริงๆ เขาไม่ควรไปล่วงเกินไอ้ตัวอันตรายนั่นเลย
“เมื่อกี้ ขอบคุณนะ”สวี่ฉิงขับรถไปด้วย พูดเสียงเบาๆไปด้วย
“ขอบคุณอะไรกันครับ?”
“เมื่อกี้นายเสี่ยงอันตรายขนาดนั้นเพื่อปกป้องฉัน ไม่ควรขอบคุณนายรึไง?”
เมื่อเจียงเฉิงได้ยินแบบนั้น จึงพูดอย่างยิ้มๆว่า“คุณคือภรรยาของผม ผมปกป้องคุณมันเป็นเรื่องที่สมควรทำอยู่แล้วหนิครับ”
สวี่ฉิงได้ยินคำพูดของสวี่ฉิง ก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจ แต่เธอยังคงไม่แสดงสีหน้าท่าทางอะไร
ณ โรงแรมไข่ก้วน
พอสวี่ฉิงพาเจียงเฉิงมาถึงที่โรงแรม ก็มีพนักงานมาต้อนรับทั้งสองทันที และพาทั้งสองเข้าไปยังห้องวีไอพีที่อยู่ในชั้นสอง
หลังจากเข้าประตูมา เจียงเฉืงก็เห็นว่าด้านในมีผู้ชายสามคนและผู้หญิงสองคนนั่งอยู่ด้านใน หนึ่งในนั้นมีชายสองหญิงสองทั้งสี่เป็นคู่รักกัน มีเพียงชายที่สวมชุดสูทสีขาวที่โสดอยู่คนเดียว พวกเขาทุกคนสวมชุดแต่งกายอย่างหรูหรา ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป
“โอ้โห ในที่สุดสวี่ฉิงดาวมหาลัยของเขามาแล้ว”ชายสวมชุดสูทสีขาวพูดไปด้วยยิ้มไปด้วย
แต่ในตอนที่เขาเห็นมือของสวี่ฉิง ควงแขนของเจียงเฉิงอยู่นั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง