บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม 3

เฟิงเหยาไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมนางถึงรู้ เหมือนว่าความรู้พื้นฐานที่เสี่ยวเสี่ยวมอบให้จะกว้างขวางกว่าที่คิด

ชายชรามองตามหลังเด็กหญิงไป มือหยาบอย่างคนถืออาวุธมาทั้งชีวิตแตะหยกขาวตรงหน้ามันก็สลายหายไปทันที เขาเงยหน้าขึ้นมองตามเด็กหญิงอีกครั้งแต่พบว่านางหายไปจากสายตาแล้ว

ฟู่ว…ชายชราถอนหายใจออกมาเป็นควันสีขาว ก่อนร่างของเขาจะค่อย ๆ เลือนหายไปในตรอกมืดด้านหลังอย่างเงียบ ๆ

เฟิงเหยาเดินไปเรื่อย ๆ เพื่อสำรวจราคาสินค้าในตลาด ดูเหมือนในโลกนิยายมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องการรวมสามดินแดนเข้าด้วยกัน เมื่อเป็นอย่างนี้ก็ยิ่งต้องระมัดระวัง เพราะแสดงว่ามีเซียนผู้แข็งแกร่งอยู่ในโลกนี้ โลกที่ผู้แข็งแกร่งกลืนกินผู้อ่อนแอ มันเพิ่มอันตรายขึ้นเป็นเท่าตัว

“เฮ่ย! หยุดนะ หยุดเดี๋ยวนี้นะเจ้าโจรชั่ว หลอกขายสมุนไพรให้ข้า เจ้าอย่าให้ข้าจับได้นะ!” เสียงโหวกเหวกดังขึ้นบนถนน เฟิงเหยาหันไปมองและเห็นคนวิ่งผ่านไปไกลลิบ ๆ ขณะที่เด็กหนุ่มอีกคนวิ่งตามดูเหนื่อยแทบขาดใจหอบแฮ่ก ๆ ราวกับสุนัขขาดน้ำ

“หยุดนะ…แฮ่ก บ้าจริง แล้วข้าจะทำยังไงล่ะเนี่ย ถ้าท่านปู่พบว่าข้าโดนหลอกขายห่อซิ่วโอขาดไปร้อยปี ข้าจะทำยังไงดี โถ่เว้ย!” ดูเหมือนเด็กหนุ่มจะถอดใจเพราะตามหัวขโมยไม่ทัน สุดท้ายก็บ่นกระปอดประแปด

ทหารยามวิ่งเข้ามาจับตัวเขาอย่างรวดเร็ว เมื่อสอบถามได้ความว่าเกิดอะไรขึ้น ก็วิ่งตามไปในทิศทางที่คนร้ายหนีไป แต่มาช้าขนาดนี้…สมแล้วที่เป็นผู้รักษาความสงบเรียบร้อย เป็นเหมือนกันทุกที่สินะ มาช้าตลอด!

“บ้าจริง ตั้งสองพันหยกขาว แต่ข้ากลับโดนหลอกขายห่อซิ่วโอวอายุสี่ร้อยปีมาเนี่ยนะ ท่านปู่ต้องตีข้าตายแน่ ๆ ”

เฟิงเหยาที่ตั้งใจจะเดินผ่านไป เพราะไม่อยากเป็นจุดเด่นเลยเลือกยืนมองนิ่ง ๆ กลมกลืนกับธรรมชาติ แต่พอได้ยินเด็กหนุ่มคนนั้นพูดถึงเงินจำนวนมหาศาล หูนางก็ผึ่งขึ้นมา

โครก~ เสียงท้องร้องเบา ๆ ของเด็กหญิงทำให้ชาวบ้านรอบด้านหันมามองแล้วหัวเราะด้วยความขบขันปนเอ็นดู เฟิงเหยาที่ยังไม่ชินหน้าแดงก่ำเล็กน้อย ก่อนตัดสินใจเด็ดขาด

‘เป็นไงเป็นกัน ยังไงเราก็ไม่มีวิธีหาเงินวิธีอื่นแล้ว พี่ชายคนนั้นก็ดูเหมือนจะเป็นคนดี หาเงินสักหน่อยให้พอได้กินข้าวสักมื้อก็ยังดี’

คิดแล้วเท้าเล็กก็พาเดินเข้าไปหาเด็กหนุ่มที่นั่งเครียดอยู่หน้าร้านซาลาเปา นางเงยหน้าขึ้นมองหน้าร้าน

‘ซาลาเปาหงเมิ่ง ดูน่ากินเหมือนกันนะ กลิ่นหอมแบบนี้ต้องอร่อยแน่ ๆ เดี๋ยว ๆ นี่ไม่ใช่เวลามาหิว!’ ตึงสติตัวเองแล้วก็หันกลับมาที่เด็กหนุ่ม เขาดูเหมือนคุณชายบัณฑิตน้อยท่าทางสะอาดสะอ้าน ดูแล้วอายุน่าจะราวสิบสามสิบสี่หนาว

“พี่ชาย ข้าสามารถช่วยเพิ่มอายุสมุนไพรของท่านได้ด้วยธาตุไม้”เสียงของเด็กน้อยไม่ดัง แต่ก็ไม่เบา เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองเห็นเด็กน้อยอายุราวแปดหนาวยืนอยู่ตรงหน้า เขาขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้เมื่อเห็นเสื้อผ้าสกปรกของนาง

“เจ้าจะทำอะไรได้ ธาตุไม้หรือ มันจะเพิ่มได้สักกี่ปีเชียว ท่านปู่ของข้านอนกลางวันอีกไม่นานก็จะตื่นแล้ว ข้าต้องโดนตีตายแน่ ๆ ”

“แต่ข้าทำได้จริง ๆ นะ…หนึ่งร้อยปี” เฟิงเหยาไม่ได้อยากเด่น นางเลยเลือกที่จะกระซิบบอกเด็กหนุ่มในประโยคหลัง

“เด็กน้อย เจ้าอย่าขี้โม้ไปหน่อยเลย คงมีแต่ท่านเซียนเท่านั้นที่สามารถทำให้สมุนไพรเติบโตได้ในพริบตา ไป ๆ ไปไกล ๆ คุณชายน้อย ข้าขอทางให้คนเข้าร้านได้หรือไม่” ลุงเจ้าของร้านซาลาเปาเดินออกมาไล่คนทั้งสอง แต่ปฏิบัติอย่างต่างกันสุดขั้วจนเฟิงเหยาที่ยังเป็นเพียงเด็กน้อยหน้าแดงแก้มป่องด้วยความโกรธ

‘ฮึ คอยดูเถอะตาลุงนี่ ถ้าข้ามีเงินเมื่อไหร่จะมาเหมาซื้อซาลาเปาในร้านจนต้องยกย่องข้าเป็นบรรพบุรุษแน่ ๆ ’ เฟิงเหยาสูดจมูกด้วยท่าทางยืด ๆ ก่อนจะจับแขนเสื้อของเด็กหนุ่มอย่างถือวิสาสะ

“พี่ชายถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ ดีกว่าไม่ทำอะไรเลยไม่ใช่หรือ มาเถอะท่านเห็นท่าทางของข้าหรือยัง ข้าดูเร่งรีบใช้เงินท่านไม่เห็นหรือว่าข้าหิวมาก ดังนั้นข้าไม่โกหกท่านแน่นอน”

“เจ้า…” เด็กหนุ่มไม่รู้จะโต้ตอบ หรือพูดอะไรก่อนดี เขาอยากจะสะบัดแขนเสื้อออกแต่เด็กน้อยกลับจับไว้แน่นมากจนเด็กหนุ่มสู้แรงไม่ได้ สุดท้ายเขาจึงต้องยอมพานางกลับมาที่ร้านด้วยทั้งอย่างนั้น

“...” มองเด็กน้อยที่ดูเหมือนจะหิวมากจริง ๆ เด็กหนุ่มก็หันไปพูดกับเจ้าของร้านซาลาเปา

“ท่านลุงเอาซาลาเปาเนื้อสองลูก”

“ได้เลยขอรับคุณชายน้อย นี่ซาลาเปาของท่าน”

เฟิงเหยาได้ยินอย่างนั้นก็รีบเก็บท่าทีไม่ให้แสดงออกว่าอยากลองชิมซาลาเปานั่น เดินตามเขากลับมาถึงร้านสมุนไพรเล็ก ๆ นางไม่ได้คาดหวังว่าหนึ่งในสองลูกนั้นเขาจะให้ตนเลย…จริง ๆ นะ!

คิดแล้วก็แอบเหลือบมองซาลาเปาทีหนึ่งก่อนจะลอบมองหน้าเด็กหนุ่มที่เดินนำหน้าเล็กน้อย แต่เขายังเดินถือซาลาเปาไปจนกระทั่งมาถึงร้านสมุนไพร

“อ่ะ เจ้ากินนี่ก่อน ข้าจะไปเอาสมุนไพรนั้นออกมา เด็กน้อยถ้าเจ้า…” เด็กหนุ่มคิดจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อเห็นเด็กน้อยถือซาลาเปาไว้นิ่ง ไม่ได้รีบกินอย่างตะกละตะกรามเหมือนกับเหล่าขอทานน้อยที่เขาเคยช่วยเหลือ ก็ตัดสินใจว่าไว้ค่อยคุยกับนางทีหลังก็ได้

“รออยู่นี่ ถ้ามีคนเข้ามาก็บอกให้รอก่อน” มองจากเสื้อผ้าแล้วนี่ควรจะเป็นคุณหนูน้อยผู้หนึ่งที่ตกต่ำลงมา เขาจึงคิดว่านางอับอายเลยเลือกจะปลีกตัวไปชั่วคราวให้เวลาอีกฝ่ายกินข้าว

ร้านสมุนไพรเล็ก ๆ แห่งนี้ตั้งอยู่ในซอกหลืบ แม้จะเป็นอย่างนั้นแต่สมุนไพรในชั้นก็ล้วนแต่ล้ำค่า น่าแปลกที่ร้านเล็ก ๆ แห่งนี้ไม่เติบโตไปมากกว่านี้ เชื่อว่าแค่ขายสมุนไพรล้ำค่าเหล่านั้นสักต้นก็น่าจะเพียงพอสำหรับซื้อตึกใจกลางเมืองม่านหมอกได้แลว

“รอนานไหม เอ๊ะ รอก่อนนะเด็กน้อย เข้ามาเลยท่านป้า วันนี้ท่านมาสายนะขอรับ” เด็กหนุ่มเดินเอาสมุนไพรที่ห่อผ้า มาวางไว้บนโต๊ะที่เฟิงเหยานั่งอยู่ ก่อนจะรีบเดินออกไปช่วยยกตะกร้าสะพายหลังขนาดใหญ่ ของหญิงวัยกลางคนซึ่งจูงเด็กเดินเข้ามาในร้าน

“ท่านป้า วันนี้ได้สมุนไพรมาไม่น้อย แต่ยังติดหญ้ามาบ้าง เดี๋ยวข้าจะช่วยคัดแยกรอสักครู่”

เฟิงเหยาที่เพิ่งแอบกินซาลาเปาเนื้อสองก้อนนั้นหมด เดินไปดูสมุนไพรในตะกร้าที่เด็กหนุ่มกำลังแยก ต้องบอกว่าทั้งหมดนี้มีสมุนไพรอยู่แค่สิบต้น ที่เหลือมีแต่พืชอื่น ๆ และหญ้าทั้งนั้น

หญิงสาวเห็นเด็กน้อยดูเหมือนจะขาดสารอาหาร ส่วนท่านป้าก็ผอมจนหนังติดกระดูก ก็รู้สึกเวทนาเหลือเกิน นางอดไม่ได้ที่จะยื่นมือเข้าไป

“พี่ชาย พวกนี้ท่านทิ้งทั้งหมดหรือ”

เด็กหนุ่มมองตามมือของเด็กน้อย นั่นเป็นกองหญ้าที่เขาแยกออกจากสมุนไพรนั่นเอง

“ใช่…ชาวบ้านไม่ค่อยมีความรู้ ส่วนมากมักจะหยิบมาผิดคิดว่าเป็นสมุนไพร แต่ไม่ใช่…”

เฟิงเหยามองต้นสมุนไพรที่ถูกแยกออกมา นอกจากจะเหี่ยวเฉาเร็วเพราะเก็บมาผิดวิธีแล้ว พลังชีวิตก็เหลือน้อยจนแทบไม่ฟื้น บ้างเล็กเกินไปทั้งยังไม่มีสรรพคุณทางยา แต่ชายหนุ่มก็เก็บไว้อย่างระมัดระวัง

‘มิน่า ที่นี่ถึงไม่รวยเสียที เพราะเงินที่มีก็กระจายออกไปให้ชาวบ้านยากจนนี่เอง’ ดูจากที่เด็กหนุ่มอุตส่าห์ซื้อซาลาเปาให้นางฟรี ๆ สองก้อนเพียงเพราะเห็นว่านางหิว ก็ทำให้สามารถรู้นิสัยเจ้าของร้านนี้ได้แล้ว

“ถ้าเช่นนั้นข้าขอนะ พี่ชายข้าได้กลิ่นน้ำมัน ด้านหลังนั้นมีห้องครัวใช่ไหม”

“ใช่ เจ้าจะทำอะไร”

“ข้าขอยืมครัวท่านทำอาหารสักหน่อยได้หรือไม่”

“หะ!” เด็กหนุ่มรู้สึกสับสนจนต้องร้องฮะ

“พวกนี้คือผักป่า กินได้ ข้าจึงอยากทำมาให้ท่านป้าและน้องเล็กกินสักจาน พวกเขาดูหิวกว่าข้าก่อนหน้านี้เสียอีก”

เมื่อพูดอย่างนั้นก็มองไปทางสองแม่ลูก ซึ่งเด็กหนุ่มเองก็เพิ่งสังเหตเห็นว่าทั้งคู่หิวจนจะเป็นลมแล้ว ดูสภาพแย่กว่าที่เคยมาคราวก่อนซะอีก

“เอาล่ะ ในนั้นมีข้าวหุงเอาไว้หม้อหนึ่ง ตักมาให้ท่านป้าด้วย”

“...” เฟิงเหยายิ้มแป้น นางมองคนไม่ผิดจริง ๆ พี่ชายร้านนี้ใจดีมาก ๆ แบบนี้ค่อยเหมาะจะเปิดเผยความลับและทำงานด้วยซะหน่อย

เด็กน้อยเก็บผักป่าขึ้นมา จากนั้นก็แยกเป็นสองจาน จานหนึ่งมีรสขมเล็กน้อยแต่ผู้ใหญ่สามารถกินได้ อีกจานมีความหวานกว่าเหมาะสำหรับให้เด็กน้อยลองกินดู

ในครัวไม่ได้มีน้ำมันเยอะ มีแค่น้ำมันหมูที่เจ้าของเจียวใส่ไหเอาไว้ใช้ในครัวเรือนแสดงว่าบ้านนี้ทำกับข้าวเป็น นางใช้น้ำมันหมูพร้อมกากเจียวเล็กน้อยผัดผักทั้งสองจาน ปรุงด้วยเกลือเล็กน้อยเท่านั้น ก่อนจะตักข้าวออกมาหนึ่งจาน

“ท่านป้า ท่านมาเหนื่อย ๆ มาลองทานข้าวก่อนเถอะ”

“คุณหนูน้อย นี่ไม่เหมาะสม ข้ากับลูกชายแค่นำสมุนไพรมาขายเท่านั้น”

“นี่เป็นผักป่าที่พวกท่านเก็บมาเอง ลองกินดูสิเจ้าคะ นี่ข้าเหลือตัวอย่างเอาไว้ด้วย คราวหน้าหากท่านต้องการกินอีกก็สามารถเก็บผักป่าเหล่านี้มากินได้ด้วยตนเอง จะได้ไม่ต้องมาเสียเปล่าเพราะถูกคัดทิ้งเช่นนี้”

“จริงหรือเจ้าคะ” ท่านป้านางดูเหมือนจะไม่ค่อยเชื่อ แต่เมื่อลองกินดู ผัดผักในจานก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยด้วยฝีมือของสองแม่ลูก พวกนางยังรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่เพราะไม่ได้กินอาหารดี ๆ มาหลายวันแล้วเมื่อได้กลิ่นมันหมูจึงอดใจไม่ได้

“ขออภัยคุณหนู ข้าเผลอกินหมด ลืมแบ่งท่านเสียแล้ว”

“ท่านป้าอย่าได้เกรงใจไป ข้าวนี้เป็นของร้านนี้ เจ้าของร้านเป็นคนใจดีแบ่งข้าวออกมาให้ท่านลองชิมกับผัดผัก ต้องขอบคุณเจ้าของร้าน”

“ขอบคุณคุณชายน้อย และนายท่านผู้เฒ่า พวกท่านช่วยเหลือชาวบ้านอย่างเรามาโดยตลอด ขอบคุณจริง ๆ เจ้าค่ะ” ท่านป้ากล่าวด้วยความจริงใจ

“ท่านป้าอย่าคิดมาก นี่ค่าสมุนไพรวันนี้” เด็กหนุ่มร้านขายยามอบถุงเงินให้นาง เฟิงเหยาเห็นอย่างนั้นก็เดินไปพูดกับท่านป้าต่อ

“ท่านป้า สมุนไพรที่ท่านนำมาขายนั้นดูเหมือนจะถูกเก็บมาอย่างผิด ๆ คราวหน้าท่านลองใช้กิ่งไม้ขุดห่างออกจากตัวต้นสัก2-3ชุ่น รอบ ๆ ต้นสมุนไพรจากนั้นค่อยใช้ไม้ดันดินใต้ต้นสมุนไพรขึ้นมา แค่นี้สมุนไพรก็จะไม่ตาย ขายได้ราคาดีกว่า”

“ขอบคุณคุณหนูที่ชี้แนะ คุณหนูเป็นผู้มีพระคุณของเราแม่ลูกจริง ๆ เจ้าค่ะ” หญิงวัยกลางคนก้มหัวให้เด็กหญิงตรงหน้าด้วยความตื้นตันใจอย่างแท้จริง

เด็กหนุ่มมองหญิงวัยกลางคนจูงมือลูกเดินออกจากร้านไป เขาหันกลับมามองเด็กน้อยตั้งใจจะอ้าปากถาม แต่กลับเห็นนางกำลังใช้พลังธาตุไม้เพื่อเร่งการเติบโตของสมุนไพรในห่อ ก็ไม่กล้าที่จะรบกวน

เด็กหนุ่มไม่แน่ใจ แต่เมื่อเห็นดวงตาของเด็กหญิง เขารู้สึกว่าสิ่งที่นางพูดเป็นความจริง และนางไม่ได้โกหก ดังนั้นแม้จะเป็นสมุนไพรราคาสองพันหยกขาว เขาก็พร้อมที่จะนำมาเสี่ยง

เป็นความรู้สึกที่แปลกจริง ๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel