บทที่ 2 ข้าหิวมาก 1
หลังจากที่จู่ ๆ ก็หายตัวออกจากห้องมืดมาได้ เฟิงเหยาก็ยอมรับกับตนเองไปแล้วว่า ต่อไปนี้เธอ...ไม่สิ นางจะต้องเป็นเฟิงเหยาที่มีชีวิตอยู่ในนิยาย ในเมื่อไม่ยอมสวมรอยรับเป็นตัวละครที่เสียงปริศนาเลือกให้ นางจะมีชีวิตเป็นของตนเอง นางจะกินอาหารให้มากที่สุดเพื่อชดเชยชาติที่แล้วที่ต้องอดอาหารอร่อยมาหลายสิบปี
นางเอก นางมาร พระเอก พระรองทั้งหลายนางจะหลีกหนีให้ห่างไม่เข้าไปใกล้ นางเอกมาทางซ้าย นางก็จะไปทางขวา เฟิงเหยาจำเหตุการณ์สำคัญหลาย ๆ เหตุการณ์ได้ นางไม่ต้องทำอะไรก็แค่หลีกเลี่ยงเหตุการณ์นั่นเสีย เพียงเท่านี้ นางก็ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขแล้ว
“เสี่ยวเสี่ยว...ข้าหิวมาก” เสียงหวานกล่าวบอกระบบ ปากนางซีดไปหมดแล้วเพราะความหิว เจ้าระบบบ้าดันพานางมาโผล่ที่ไหนก็ไม่รู้
ตอนนี้รู้แค่ว่าหิวมาก ๆ
[เตือน เตือน! นายหญิงจำเป็นต้องตรวจสอบ ‘ค่าความหิว’ ตลอดเวลา นี่คือพรที่ผู้สูงส่งมอบให้ แต่เนื่องจากท่านเลือกลบทิ้งครึ่งหนึ่ง พรจึงแสดงผลเพียงครึ่งเดียว]
ได้ยินเสียงของเสี่ยวเสี่ยว หรือก็คือชื่อที่นางตั้งให้ระบบ ก็ยิ่งรู้สึกหมดหวัง ตั้งแต่โผล่มาที่ป่าแห่งนี้นางก็ได้เห็นสิ่งที่เรียกว่า ‘ค่าความหิว’ ที่ระบบพูดถึง มันคือตัวเลขคล้าย ๆ กับหลอด HP ในเกม แต่เป็นสีฟ้า
[เตือน เตือน หากค่าความหิวลดลงเหลือห้าสิบแต้มท่านจะอ่อนแรง หากค่าความหิวลดลงถึงยี่สิบแต้มท่านจะหมดแรง หากค่าความหิวลดลงถึง สิบแต้มท่านจะเข้าสู่สถานะตาบอด]
“บัดซบ!” ไม่มีคำอื่นที่อธิบายอารมณ์ตอนนี้ได้ดีเท่าคำนี้แล้ว ตอนนี้ค่าความหิวของนางเหลือเพียงสามสิบแต้ม หากไม่กินอะไรต้องหมดแรง หากหมดแรงจะยิ่งหาอาหารกินได้ยากขึ้น
‘ทำยังไงดี ๆ ข้ายังไม่อยากตาย’
[แนะนำนายหญิง ค่าความหิวสามารถทดแทนพลังพิเศษของท่านได้ นายหญิงมีธาตุทั้งห้าอย่างเท่าเทียมเป็นตัวตนพิเศษเหนือคน สามารถใช้ค่าความหิวเสริมพลังได้]
‘พลัง? ธาตุ มันอะไรล่ะนั่น’ ขณะที่คิดอยู่นั้น อยู่ ๆ สายลมรอบตัวก็กรรโชก ขณะที่วิ่งไปเกาะต้นไม้แข็งแรงไว้ต้นที่อยู่ใกล้ตัวเอง ก็เห็นชายหนุ่มกลุ่มหนึ่งพุ่งผ่านไปเหนือหัว ราวกับพวกเขาเป็นเครื่องบินเจ็ทก็ไม่ปาน
“ซุปเปอร์แมน!!” เฟิงเหยาตบหน้าผากตนเอง นางลืมไปได้อย่างไรนะ โลกใบนี้คือโลกแห่งผู้ฝึกตน ซ้ำยังมีพลังอำนาจของเวทย์ที่คล้าย ๆ กับนิยายต่างโลก แต่พื้นหลังเป็นยุคจีนโบราณ และถูกเรียกพลังนั้นว่าพลังธาตุนั่นเอง
‘โถ่เอ้ย แต่ข้าไม่มีพลังธาตุอะไรนั่น ตอนนี้อยากดื่มน้ำบ้างก็ยังดี’ ขณะที่คิดค่าความหิวก็ลดลงอีกครั้ง
“ฮือ ๆ ข้าแค่หิว แค่หิวเท่านั้นเองอย่าลดลงได้หรือไม่ ”
[นายหญิงโปรดใจเย็น ข้าบอกแล้วว่าท่านสามารถใช้ค่าความหิวเพื่อใช้พลังธาตุได้โดยไม่ต้องใช้พลังธาตุในกาย หรือหากต้องการก็สามารถเสริมการใช้พลังให้แข็งแกร่งขึ้นได้]
‘หมายความว่ายังไงเสี่ยวเสี่ยว อธิบายมาให้หมด’
[เฮ้อ]
‘เอ๊ ทำไมระบบถึงถอนหายใจได้ล่ะ’
ขณะที่ผู้ถูกเรียกว่าเสี่ยวเสี่ยวรู้สึกอ่อนอกอ่อนใจกับผู้เป็นนายที่มันต้องนำทางในครั้งนี้ ต้องบอกว่าเป็นครั้งแรกที่มันเจอมนุษย์ไร้ปัญญาเช่นนี้
[ข้อแรกข้าไม่ใช่ระบบ ข้อสองข้าจะเซอร์วิสให้ท่านเป็นพิเศษ มอบความรู้เบื้องต้นการใช้ชีวิตในโลกนี้ให้เลยแล้วกัน...ข้าต้องกลับไปหาผู้สูงส่งแล้ว ขอให้โฮสต์โชคดี]
เอ๊… เฟิงเหยายืนงงอยู่ในดงป่าไม้ เมื่อครู่นางได้ยินผิดไปหรือไม่ ก่อนที่เด็กน้อยจะได้ถามอะไรความรู้สึกเจ็บแปลบก็แล่นเข้ามาในหัว นางทรุดตัวลงกับพื้นในทันที พื้นฐานการฝึกปราณ การใช้พลังปราณ รวมถึงเรื่องต่าง ๆ ที่เป็นพื้นฐานของโลกใบนี้ไหลเข้ามาในภูมิปัญญาของนาง
ผ่านไปเพียงครู่เดียวแต่กลับยาวนานราวตลอดกาล เด็กหญิงในวัยแปดขวบพยุงร่างตนเองขึ้นโดยใช้ต้นไม้ใหญ่ที่นางนั่งพิงอยู่เป็นหลัก
“เข้าใจแล้ว...ที่แท้เสี่ยวเสี่ยวก็ช่วยชำระล้างไขกระดูก ทำให้ข้าสามารถฝึกฝนได้ดียิ่งขึ้น นี่ถึงจะสมเป็นพรของผู้สูงส่งที่ว่า” เฟิงเหยายิ้มแฉ่งหน้าบาน นางแทบไม่สนค่าความหิวนั่น แต่ท้องก็ร้องดีเหลือเกิน
เด็กหญิงมองซ้ายมองขวา เห็นสมุนไพรชนิดหัว ประมวลผลจากความรู้ที่ได้รับมาหมาด ๆ แล้ว สมุนไพรชนิดนี้มีผลดีมากกว่าผลเสียจึงเข้าไปใกล้ ตอนนี้ค่าความหิวเหลืออยู่เพียงยี่สิบสอง อีกนิดเดียวก็หมดแรงแล้ว
นางยกมือขึ้นก่อนจะทาบมือน้อยขาวผ่องแต่เต็มไปด้วยเศษคราบเหม็นเหนียววางบนใบของสมุนไพร ถ่ายพลังปราณเล็กน้อยที่ตนเองมี พร้อมเสริมค่าความหิวไปด้วยหนึ่งแต้ม
ต้นสมุนไพรน้อยมีแสงสีเขียวปรากฎออกมา ก่อนจะค่อย ๆ เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งมีลำต้นสูงถึงหนึ่งเมตร หญิงสาวจึงเลิกถ่ายพลังลงไป
ใบหน้าของนางซีดเซียว ตอนนี้ค่าความหิวเหลือเพียงสิบห้า เพราะใช้ไปกับการเสริมพลังเพื่อเร่งให้พืชเติบโตโดยใช้ธาตุไม้ นางฝืนใช้ค่าความหิวอีกหนึ่งแต้มเพื่อเสริมกำลังกาย ขุดเอาหัวสมุนไพรขึ้นมาอย่างสมประกอบ
ที่แท้ต้นนี้ก็คือโสม ซ้ำตอนนี้ยังกลายเป็นโสมคนอายุพันปี แม้จะไม่ดีต่อร่างกายเล็ก ๆ นี่เท่าใดนัก แต่ตอนนี้ความหิวโหยชนะทุกสิ่ง
ด้วยร่างกายที่ถูกเสี่ยวเสี่ยวช่วยชำระล้างไขกระดูกให้ ย่อมสามารถรองรับพลังของโสมอายุพันปีได้แน่นอน แต่ความจริงนางกลับไม่คิดอะไรเลยนอกจากความหิวจนหน้ามืดตามัว เพียงเช็ดดินออกก็เริ่มกัดแทะรากโสมทันที
กลิ่นเหม็นและขมเฝื่อนของโสมอบอวลในปาก แต่ก็ยังคงฝืนกลืนลงคอไป เพียงไม่นานค่าความหิวก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น จากสิบเป็นหนึ่งร้อยแต้ม ก่อนจะหยุดลงที่หนึ่งร้อยห้าสิบแต้ม