4 ทุกอย่างล้วนแล้วต้องส่งคืน
ซูจื่อถิงแสร้งเป็นท่านหญิงที่ล้มป่วยจนความจำเสื่อม นางจำไม่ได้ว่าพี่สาวทั้งสองมีความสำคัญอย่างไรกับเจ้าของร่างนี้ แต่ดูจากการกระทำในหลาย ๆ วันที่ผ่านมา ทั้งพี่เสี่ยวซานและพี่เสี่ยวไป๋น่าจะรักใคร่และเอ็นดูซูจื่อถิงอยู่ไม่น้อย ความทรงจำจากนิยายรายสัปดาห์ที่เคยอ่านมานั้น เค้าลางที่จำได้ พวกนางทั้งสองจะจากไปหลังจากที่ท่านหญิงถิงถูกสังหาร แต่จากไปแบบไหนนั้นซูจื่อถิงมิอาจจำได้
พี่สาวทั้งสองคนปฏิบัติต่อนางอย่างใจดี ทั้งยังเป็นการแสดงออกว่ารักและห่วงใยเจ้าของร่างด้วยความจริงใจ แถมยังรู้สึกว่าจะรักใคร่เอ็นดูมากกว่าบิดาของนางเสียอีกและยิ่งซูจื่อถิงแสดงตนชัดเจนว่าความจำเสื่อมพี่สาวทั้งสอง จึงยิ่งประคบประหงมดูแลราวกับไข่ในหิน
นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว แต่นางยังไม่เห็นหน้าบุรุษที่ขึ้นชื่อว่าเป็นบิดาของนางเลยสักครั้ง จากบทบรรยายในนิยาย ก่อนที่จะพบกับฉีเยว่อี้ ซูชินอ๋องเองก็ไม่ได้แสดงออกว่ารัก แต่ก็ไม่เคยปล่อยให้ท่านหญิงถิงได้รับความลำบาก ออกจะตามใจอยู่ด้วยซ้ำ ซึ่งสตรีที่ถูกตามใจจนเคยชินอาจจะมีนิสัยที่ไม่น่าเอ็นดู ก็ต้องโทษผู้เป็นบิดามารดาที่เลี้ยงดูมาต่างหากที่ตามใจจนเสียนิสัย
“พี่เสี่ยวไป๋ นับจากวันที่ข้าล้มป่วยรวมเป็นเวลากี่วันแล้วที่ข้าไม่ได้พบหน้าท่านอ๋อง”
“ท่านอ๋อง!! เหตุใดท่านหญิงจึงไม่เรียกเสด็จพ่อละเพคะ” เสี่ยวไป๋สีหน้าไม่สู้ดีนัก
“ก็ข้าได้ยินพวกสาวใช้ ที่อยู่เรือนด้านนอกที่มักจะแวะมาที่เรือนนี้ เป็นครั้งคราว กล่าวว่าข้ามิใช่บุตรสาวของซูชินอ๋อง จะให้เรียกท่านอ๋องว่าพ่อ ก็ยังไงอยู่”
“โธ่ ท่านหญิง” ยิ่งได้ยินสิ่งที่นางกล่าวออกมาได้หน้าตาเฉย เสี่ยวไป๋ก็อยากจะร้องไห้อีกครั้ง โชคดีที่ทั้งความรักและความโศกเศร้า ถูกนางลืมเลือนไปจนหมดสิ้น
‘ดีแล้ว ดีมาก ๆ แล้ว อย่าได้หวนคิดถึงความทรงจำพวกนั้นอีกเลย’
“พี่เสี่ยวไป๋ อย่าร้องไห้เลยเจ้าค่ะ ได้โปรดตอบคำถามข้าก่อน”
เสี่ยวไป๋สะอึกสะอื้นใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตาและเริ่มตอบคำถาม
“ตั้งแต่วันที่ตกจากหลังม้า ท่านหญิงก็สลบไปราวสองสัปดาห์เพคะ ตอนแรกหม่อมฉันคาดเอาไว้ว่า ท่านอ๋องพระองค์คงจะยุ่งกับเรื่องงานพิธีปักปิ่นของท่านหญิงอี้เลยมาเยี่ยมท่านไม่ได้ หากพระองค์เสร็จธุระเมื่อไหร่ก็คงจะมาเยี่ยมท่านหญิงบ้าง แต่กลายเป็นว่าหลังจากเสร็จงานก็แล้ว ท่านหญิงฟื้นก็แล้วท่านอ๋องก็ไม่ได้เสด็จมาที่นี่เลย นี่ก็เป็นเวลาเดือนกว่าแล้วเพคะ”
เห้อ!! เมื่อได้ยินความจริง หญิงสาวก็ถอนหายใจเล็กน้อย ซูจื่อถิงเผื่อใจเอาไว้อยู่แล้วว่าซูชินอ๋องใจร้าย แต่ไม่คิดว่าจะใจร้ายกับนางเช่นนี้ ทำไมกันนะก็เมื่อในอดีต ก่อนที่เขาจะรู้ว่านางมิใช่บุตรที่แท้จริงของตน ซูชินอ๋องก็ยังรักยังเอ็นดูเด็กคนนี้จะตาย แถมยังเอาอกเอาใจ ถึงจะมิเคยแสดงออกว่ารัก แต่หากนางอยากได้อะไรเขาก็จะหามาให้ หญิงสาวพยายามประมวลผลเรื่องราว คนเราเปลี่ยนกันไปได้ขนาดนั้นเชียวหรือ
เขาเคยพาซูจื่อถิงเดินเล่น ขี่ม้า เล่นหมากล้อม ความทรงจำช่วงเวลาวัยเด็กสาดซัดเข้ามาเป็นระลอกคลื่น คนเราสามารถตัดขาดกันง่ายดายขนาดนั้นเชียวหรือ
--------------------------------------------
ร่างกายที่บาดเจ็บจากการตกม้าเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าเพิ่งผ่านพิธีปักปิ่นของฉีเยว่อี้ไป นั่นก็เท่ากับว่าเหลือเวลาอีกราว ๆ 2 ปีที่นางจะถูกพระเอกของเรื่องสังหาร แต่น่าเสียดายที่ซูจื่อถิงมิอาจเปลี่ยนบทได้แล้ว เพราะนางได้กลายมาเป็นนางร้ายอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อน ตั้งแต่ที่ฉีเยว่อี้ปรากฏตัว นี่ก็นับว่าเกินครึ่งเรื่องมาแล้ว จึงทำได้แค่เพียงประคับประคองตนเองให้มีชีวิตอยู่ไปเรื่อย ๆ ไม่สร้างศัตรูเพิ่มน่าจะเพียงพอในระดับหนึ่ง จากนั้นค่อยคิดหาหนทางออกไปจากจวนอ๋อง
ทั้ง ๆ ที่บทปูมาให้นางเป็นนางเอกแท้ ๆ แต่ไฉนเลยคุณนักเขียนถึงได้เปลี่ยนม้ากลางศึก ผลักให้ซูจื่อถิงกลายเป็นนางร้ายกันเล่า
เช้าวันนี้อากาศดี เริ่มมีแสงแดดอ่อน ๆ หิมะหยุดตกแล้ว นางจึงขอให้พี่สาวทั้งสองช่วยพาตนนั้นออกมาเดินเล่นด้านนอกเสียหน่อย หากอุดอู้อยู่ในเรือนของตนคงแห้งเหี่ยวตายกันพอดี และหากสมองแจ่มใส นางก็จะได้คิดกลอุบายในการเอาชีวิตรอดได้บ้าง
เสื้อคลุมสีแดงซีด ๆ ถูกใช้ห่อหุ้มร่างเล็กแบบบางของซูจื่อถิง ดูท่าน่าจะเป็นของเก่าเก็บจากเมื่อหลายปีก่อน ร่างกายของซูจื่อถิงน่าจะสูงขึ้นมากดูจากเสื้อคลุมที่สั้นเต่อ
เสี่ยวซานเห็นแล้วสะเทือนใจนัก นางพยายามหาเศษผ้าเหลือ ๆ จากเรือนอื่นมาต่อชายของชุดแล้ว แต่คงเป็นเพราะท่านหญิงของนางเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ความยาวของชายผ้าดูสั้นเต่อจนเผยให้เห็นข้อเท้าเล็กบางของหญิงสาว
“น่าเสียดายจริง ๆ ชุดนี้มันเป็นของขวัญวันเกิดของท่านหญิงเมื่อหลายปีก่อน ท่านอ๋องทรงหาช่างตัดเย็บมาตัดให้เข้ากับท่านหญิงโดยเฉพาะ แต่นับตั้งแต่ท่านหญิงอี้เข้ามาอยู่ที่นี่ ท่านหญิงถิงก็ไม่เคยได้รับของขวัญวันเกิดจากท่านอ๋องอีกเลย” เสี่ยวซานบ่น
“งั้นเหรอ” ซูจื่อถิงรับคำเสียงเรียบ ชาติภพก่อนนางก็มิเคยได้รับของขวัญวันเกิดเช่นกัน ถ้าไม่ใช่เพราะเพื่อนสนิทเธอก็คงไม่รู้ว่ารสชาติของเค้กวันเกิดเป็นอย่างไร “แล้วข้าเกิดวันไหนกันนะ” หญิงสาวหันไปถามพี่เลี้ยงทั้งสอง
เมื่อเจ้านายของพวกนางถามถึงวันเกิด สีหน้าของทั้งคู่ก็สลดไปอีกขั้น
“เดิมทีทุก ๆ ปี ท่านและท่านอ๋องจะฉลองวันเกิดกันทุกวันที่ 15 เดือน 12 แต่ว่าหลังจากท่านหญิงอี้เข้ามาอยู่ที่นี่ ท่านก็ต้องคืนวันเกิดให้กับนาง วันเกิดของท่านหญิงถิงจึงคลุมเครือไม่ชัดเจนว่าเป็นวันใดกันแน่”
“....” เจ้าของใบหน้างดงามสลดลง
ถึงตอนนี้นางเริ่มไม่แปลกใจแล้วว่า เหตุใดซูจื่อถิงจึงเริ่มมีนิสัยร้ายกาจ บิดา มารดา คนรัก หรือแม้กระทั่งวันเกิดก็ถูกฉีเยว่อี้แย่งชิงเอาไปเสียหมด นางเคยเป็นสตรีที่เพียบพร้อม มีครบทุกสิ่งทุกอย่าง ก่อนที่สุดท้ายจะมลายหายไปราวกับหมอกควัน สุดท้ายก็ไม่เหลือแม้กระทั่งชีวิต