บทที่ 2 หยิบยื่นความตาย
บทที่ 2 หยิบยื่นความตาย
ล่วงเวลามาจนยามเย็น เย่จิ้นหยางก็กลับมาที่จวนอ๋อง เขาตรงมาหาจางเสวี่ยฮุ่ยที่เรือนใหญ่ในทันที จางเสวี่ยฮุ่ยที่เห็นเช่นนั้นก็ดูแลปรนนิบัติเขาเป็นอย่างดี เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว นางจึงเอ่ยกับเย่จิ้นหยางอย่างอ่อนโยน
"ท่านอ๋องเพคะ นางมาแล้วเพคะ หม่อมฉันจัดให้นางอยู่ที่เรือนเล็กที่ท่านอ๋องเตรียมไว้ให้แล้วเพคะ"
เย่จิ้นหยางที่ได้ยินเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะหันมาเอ่ยถามจางเสวี่ยฮุ่ยด้วยความสงสัย
"เสวี่ยเอ๋อร์ นางที่เจ้าหมายถึงคือผู้ใดกัน?"
จางเสวี่ยฮุ่ยที่ได้ยินเช่นนั้น จึงยิ้มให้เขาคราหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตอบ
"ฟางเมี่ยวอย่างไรเล่าเพคะ นางมาถึงตั้งแต่ยามเช้าแล้ว"
เย่จิ้นหยางที่ได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าที่อ่อนโยนเมื่อครู่นี้ ก็แปรเปลี่ยนเป็นความเย็นชาขึ้นมาหลายส่วน เขาลืมไปเสียสนิทเลยว่านางจะต้องเข้าจวนอ๋องวันนี้ เขาเพียงให้คนนำเกี้ยวไปรับนางอย่างส่งๆ ไม่ได้สนใจไยดีนางเลยแม้แต่น้อย นางจะมาเช่นไร จะทนอยู่ได้หรือไม่ เขาไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย เขาเกลียดนางยิ่งนัก!!
เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาจึงยื่นมือของตนไปจับมือของจางเสวี่ยฮุ่ยเอาไว้
"เสวี่ยเอ๋อร์ ข้าทำให้เจ้าลำบากใจใช่หรือไม่?"
จางเสวี่ยฮุ่ยที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มให้เขา พลางส่ายหน้าไปมา
"ไม่เลยเพคะ การมีภรรยาหลายคนย่อมเป็นเรื่องธรรมดา ท่านอ๋องอย่าทรงตำหนิตนเองเลยนะเพคะ"
"เจ้าช่างดียิ่งนัก เสวี่ยเอ๋อร์ หากฟางเมี่ยวมาหาเรื่องเจ้า เจ้าก็จัดการสั่งสอนนางให้หลาบจำเสีย ข้าไม่สนใจหรอก หากนางกล้าทำร้ายเจ้า ข้าจะสั่งสอนนางเอง"
"ท่านอ๋อง นางจะทำอันใดหม่อมฉันได้กันเพคะ"
จางเสวี่ยฮุ่ยเอ่ยด้วยท่าทีขบขัน ก่อนจะให้สาวใช้นำน้ำอุ่นเข้ามาและปรนนิบัติเย่จิ้นหยางอาบน้ำ แล้วจึงทำเรื่องอย่างที่สามีภรรยาควรกระทำกันภายในห้องนอนของคนทั้งสอง
ด้านฟางเมี่ยวที่ส่งลู่ชิงไปสืบความ เมื่อได้ทราบว่าเย่จิ้นหยางยามนี้กำลังร่วมอภิรมย์กับจางเสวี่ยฮุ่ย นางก็โมโหจนพาลมาลงกับสาวใช้ในจวน ก่อนจะคิดแผนการบางอย่างขึ้นมาได้
"ลู่ชิง ไปแจ้งท่านอ๋อง ว่าข้าปวดท้องหนักมาก ให้เขามาหาข้า"
"แต่ว่าพระชายารองเพคะ!!!"
เพียะ!!!
"ฮือ พระชายารองเพคะ!!!"
"จำใส่หัวของเจ้าเอาไว้ อย่ามาเสนอหน้าถามข้า ข้าสั่งให้ไปทำสิ่งใดก็จงไปทำ ไสหัวไป!!!"
"เพคะ"
เย่จิ้นหยางที่ได้ยินลู่ชิงมาแจ้งว่าฟางเมี่ยวยามนี้กำลังปวดท้องหนักมาก ก็ไล่คนให้ไปตามหมอ แต่ทว่าลู่ชิงกลับหน้าด้านไม่ยอมไป จางเสวี่ยฮุ่ยเกรงว่าจะเกิดเรื่องใดขึ้นในจวน นางจึงโน้มน้าวให้เย่จิ้นหยางไปดูฟางเมี่ยวเสียหน่อย เขาจึงยอมทำตามแต่โดยดี
เมื่อเขามาถึงก็พบว่าฟางเมี่ยวกำลังนั่งจิบชาอย่างอารมณ์ดี เขาจึงรู้ได้ทันทีว่าสตรีนางนี้สร้างเรื่องเสแสร้งหลอกให้เขามาหานาง เย่จิ้นหยางจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
"หากเจ้าจะไปเสแสร้งก็จงไปที่อื่น ไสหัวไปซะ"
"ท่านอ๋อง!!! เมี่ยวเอ๋อร์รักพระองค์มากนะเพคะ รักมากเหลือเกิน"
ฟางเมี่ยวโผเข้ามาโอบกอดรอบเอวของเย่จิ้นหยางอย่างหน้าไม่อาย เย่จิ้นหยางขยะแขยงนางเต็มทน เขาจึงผลักนางจนล้มลงไปกองกับพื้น ฟางเมี่ยวเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองเขาทันที
"ท่านอ๋อง เหตุใดจึงทำเช่นนี้เพคะ หม่อมฉันก็เป็นภรรยาของพระองค์เช่นกันนะเพคะ!!"
"ข้าไม่เคยมองเจ้าเป็นชายารองของข้าเลยแม้แต่น้อย เจ้าก็แค่เศษสวะ เป็นเพียงปลิงที่คอยเกาะหวังจะกอบโกยอำนาจจากข้า เจ้ามันเจ้าเล่ห์ เสแสร้ง ไร้ยางอาย หน้าด้านหน้าทน!!!"
"ท่านอ๋อง!! หม่อมฉันไม่ดีตรงที่ใดเพคะ หม่อมฉันสู้นังหน้าขาวนั่นไม่ได้ที่ใดกัน"
"หุบปาก!!! อย่ามาเอ่ยถึงจางเสวี่ยเอ๋อร์เช่นนี้ นางดีกว่าเจ้ามากนัก ไม่ใช่สตรีที่ทำตัวไร้ยางอายไปวันๆ เช่นเจ้า"
"ท่านอ๋อง!!! กลับมานะเพคะ กลับมา!!!"
ฟางเมี่ยวกรีดร้องด้วยความโมโห นางร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น เหตุใดบุรุษที่นางรักจึงเอ่ยวาจาหยาบคายเช่นนี้กับนางกันนะ
ช่างใจร้ายนัก!!! คิดว่านางจะยอมแพ้หรือ ไม่มีทางเสียหรอก!!!
นับแต่นั้นมา ฟางเมี่ยวก็วางแผนการทำร้ายจางเสวี่ยฮุ่ยอยู่ตลอดเวลา แต่นางก็พ่ายแพ้ทุกคราไป หนักสุดคือนางลอบวางยาไม่ให้จางเสวี่ยฮุ่ยตั้งครรภ์ได้ นางจึงถูกเย่จิ้นหยางสั่งโบยจนล้มป่วย นางกินไม่ได้นอนไม่หลับ นางทรมานเหลือเกิน
เวลาล่วงเลยมาจนถึงวันที่ฮ่องเต้จะทรงเสด็จออกไปล่าสัตว์ที่นอกเมืองหลวงต้าอู๋ ครั้งนี้นางได้ตามเสด็จไปด้วย การได้ไปครั้งนี้ก็มาจากจางเสวี่ยฮุ่ยที่เกลี้ยกล่อมเย่จิ้นหยางให้พานางมาด้วย นางไม่ได้ซาบซึ้งเลยแม้แต่น้อย กลับเกลียดสตรีนางนั้นเข้ากระดูกดำ
เมื่อมาถึงเหล่าบ่าวไพร่ก็ช่วยกันจัดเตรียมที่พัก ต่างพักเอาแรงสองวัน จึงเริ่มออกไปล่าสัตว์
เมืองต้าอู๋เปิดกว้าง สตรีล้วนขี่ม้าฟันดาบได้ ฟางเมี่ยวเองก็ชื่นชอบการขี่ม้าเช่นกัน ซึ่งจางเสวี่ยฮุ่ยนั้นก็สามารถขี่ม้าได้เช่นเดียวกัน ทั้งสองค่อยๆ ควบม้าไปเรื่อยๆ จวบจนถึงจุดชมทิวทัศน์ที่หน้าผา
แต่ทว่ากลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อมีเหล่านักฆ่าชุดดำหลายคนปรากฏตัวขึ้น และเข้ามาล้อมนางเอาไว้ ฟางเมี่ยวมึนงงไปชั่วขณะ นางกระโดดลงมาจากหลังม้า พลางจ้องมองเย่จิ้นหยางที่วิ่งเข้ามาโอบกอดจางเสวี่ยฮุ่ยด้วยแววตาที่สับสน
"ท่านอ๋อง!!! ช่วยเมี่ยวเอ๋อร์ด้วยเพคะ"
ฟางเมี่ยวส่งเสียงร้องเรียกให้เย่จิ้นหยางช่วยเหลือ แต่ทว่าเขากลับยกยิ้มเย็นชา ก่อนจะเอ่ย
"ขออภัยด้วยนะฟางเมี่ยว ข้าจำเป็นต้องจัดการเจ้าเพื่อไม่ให้เจ้ามาสร้างความลำบากให้ข้าและเสวี่ยเอ๋อร์อีก หากเจ้าตายไปแล้ว ข้าจะดูแลบิดาและพี่ชายของเจ้าเอง ไม่ให้พวกเขาต้องทนลำบากใจเพราะมีบุตรีชั่วช้าเช่นเจ้า สังหารนางเสีย!!!"
ฟางเมี่ยวอ้าปากค้าง นางยังคงตั้งสติไม่ได้ แต่ทว่าเมื่อเรียบเรียงความคิดได้แล้ว นางก็ส่งเสียงเหอะออกมาคราหนึ่งพลางหัวเราะออกมาอย่างขมขื่น
นี่เขาเกลียดนางถึงกับต้องส่งคนมาฆ่านางเลยหรือ?
ยามนี้นางไร้อาวุธในมือที่จะป้องกันตนเองได้ เขาฉวยโอกาสตอนที่นางไม่ทันระวังตน นางมีวรยุทธ์ หากยามนี้นางมีอาวุธในมือย่อมไม่ตกเป็นรองเช่นนี้แน่นอน
จางเสวี่ยฮุ่ยตื่นตระหนกยิ่งนัก นางรีบเอ่ยกับเย่จิ้นหยางทันที
"ท่านอ๋อง!! จะไม่โหดร้ายไปหน่อยหรือเพคะ?"
เย่จิ้นหยางไม่ตอบ เขาโบกมือคราหนึ่ง นักฆ่าก็ยิงธนูเข้ามาทันที ธนูดอกหนึ่งปักทะลุกลางหน้าอกของฟางเมี่ยวอย่างรวดเร็ว นางไม่ทันได้ส่งเสียงร้องด้วยซ้ำ มีเพียงโลหิตที่ไหลซึมออกมาจากริมฝีปากบางสวยของนางอย่างช้าๆ
เรื่องราวเริ่มชุลมุนมากขึ้น เมื่อมีนักฆ่าอีกกลุ่มหนึ่งโผล่ออกมา เป้าหมายคือสังหารเย่จิ้นหยาง
เย่จิ้นหยางรีบคุ้มกันพาจางเสวี่ยเอ๋อร์หนีไปทันที ก่อนจะหันไปมองฟางเมี่ยวที่เดินโงนเงนไปที่หน้าผา นางหันมาจ้องมองเขาด้วยแววตาที่เจ็บปวดและตัดพ้อ ที่มุมปากมีโลหิตไหลเป็นทางยาว
"ฟางเมี่ยว!!!"
ไม่นานนักทหารองครักษ์ก็มาถึงและช่วยเหลือเย่จิ้นหยางและจางเสวี่ยฮุ่ยเอาไว้ได้ทัน ส่วนนักฆ่าที่สังหารฟางเมี่ยวซึ่งเป็นคนของเย่จิ้นหยางก็รีบแยกย้ายหนีหายไปทันที ยามนี้จึงเหลือเพียงนักฆ่าชุดดำกลุ่มใหม่ที่เพิ่งปรากฏตัวเพื่อหวังสังหารเย่จิ้นหยาง
ฟางเมี่ยวมองคนทั้งสองเดินจากไปด้วยแววตาที่สิ้นหวัง ก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย ร่างบางระหงร่วงตกลงไปที่หน้าผา แต่ยังไม่ทันที่นางจะร่วงตกลงไปในเหวลึก พลันมีมือของบุรุษผู้หนึ่งคว้าจับมือของนางเอาไว้ได้ทัน
"ฟางเมี่ยว!! เจ้าห้ามตายนะ ได้ยินหรือไม่ สตรีหน้าโง่ เจ้ามันชั่วช้า เสแสร้ง!!!"
ฟางเมี่ยวใช้แรงเฮือกสุดท้ายเงยหน้าขึ้นไปมองบุรุษผู้นั้น แววตาของนางวูบไหว ริมฝีปากของนางขยับอย่างเชื่องช้า
"หลี่เยี่ยนเฉิน"
ข้าขอโทษ หลี่เยี่ยนเฉิน ข้ารู้ดีชั่วแล้ว แต่มันสายเกินไป มันสายเกินไปเสียแล้ว หากมีชาติหน้า ข้าขอชดใช้คืนให้เจ้าทั้งหมด
ฟางเมี่ยวรู้สึกว่าร่างตนเองกำลังจะแตกละเอียด ภาพเบื้องหน้าพร่ามัวลงไปทุกขณะ นางกระอักโลหิตออกมาอีกครา ก่อนที่จะสิ้นใจตายต่อหน้าต่อตาหลี่เยี่ยนเฉิน
"ฟางเมี่ยว!!! ฟางเมี่ยว!!! อ๊ะ!!!"
หลี่เยี่ยนเฉินรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แผ่นหลัง เขาหันไปมองก่อนจะพบว่ามีนักฆ่าชุดดำผู้หนึ่งใช้ดาบยาวแทงมาที่ด้านหลังของเขา เขากระอักโลหิตออกมาคราหนึ่ง ก่อนที่เขาจะร่วงหล่นไปพร้อมกับฟางเมี่ยว ร่างของคนทั้งสองลอยละลิ่วลงไปสู่เบื้องล่างที่เวิ้งว้างไม่มีที่สิ้นสุด ใบหน้าหลี่เยี่ยนเฉินปรากฏรอยยิ้มสิ้นหวัง เขายอมรับโชคชะตาตนเองแล้วอย่างไรเสียเขาย่อมไม่รอด เมื่อคิดได้เช่นนั้นเขาจึงก้มลงไปมองฟางเมี่ยวที่สิ้นใจตายไปก่อนหน้านี้ เขาไม่ยอมปล่อยมือจากนางจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต เขาตระกองกอดนางเอาไว้พลางมองนางอีกคราด้วยแววตาที่เจ็บปวด
ชาตินี้เจ้าติดค้างข้า เจ้าหลอกข้า ทำร้ายจิตใจข้า ชาติหน้าข้าไม่ขอพบเจอเจ้าอีกแล้วฟางเมี่ยว!!!