บทย่อ
ไม่มีอีกแล้วหุ่นเชิดผู้โง่เขลาบูชารักดั่งตามืดบอด หวนคืนมาครั้งนี้ ข้าจะร้ายให้พวกเจ้าจดจำจนตาย ไม่สนวิธีถูก-ผิด ต่อให้ต้องร่วมมือกับทรราชผู้นั้นก็ตาม ทว่าเขากลับตามคลั่งรักข้า! ผะ...ผิดแผนเสียแล้ว!
บทนำ เจ้าสาวที่ร่วงหล่นจากฝันหวาน
บทนำ
เจ้าสาวที่ร่วงหล่นจากฝันหวาน
เป็นได้แค่ตัวแทน
ตึก! ตึก! ตึก!
หัวใจเต้นระรัวจนแทบจับจังหวะไม่ได้ มือเรียวเล็กชื้นเหงื่อผสานเข้าหากันบริเวณหน้าตัก ใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยแป้งขาวนวลผุดผาด ริมฝีปากทาด้วยชาดแดงสีสดเย้ายวน แค่เพียงเจ้าสาวกะพริบเปลือกตาน้อยๆ แพขนตางามงอนก็ขยับไหวยิ่งส่งให้งดงามดั่งภาพวาดที่ไม่มีอยู่จริง
‘ฟ่านลู่เสียน’ อยู่ในชุดวิวาห์สีแดงมงคลที่ปักประดับด้วยไหมทองคำเลอค่า ยามขยับเขยื้อนเยื้องกรายเส้นไหมทองคำกระทบแสงจากดวงอาทิตย์ที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่างจนดวงตาถึงกับพร่าพราย
นางยอบกายลงนั่งเบื้องหน้าโต๊ะเครื่องแป้งที่ทำจากไม้เนื้อแข็งขัดเงาสลักลายดอกมู่ตานชดช้อย เหลือบมองผู้ช่วยหวงตงหลิงที่บรรจงหยิบปิ่นทองคำรูปหงส์ฟ้าออกจากกล่องไม้บุกำมะหยี่ ค่อยๆ ประดับลงบนเรือนผมของนางอย่างเบามือ
“ข้าไม่อยากจะเชื่อเลย ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ”
ประกายตาของเจ้าสาวแสนสวยไหววับไปด้วยความตื่นเต้น บนใบหน้าหวานเจือระเรื่อไปด้วยความสุขสมหวังดั่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายในห้าปีมานี้เป็นเพียงความฝันแสนหวาน
“มันคือความจริงเจ้าค่ะคุณหนู”
ผู้ช่วยหวงเอ่ยเสียงราบเรียบ ก่อนจะเดินไปทางด้านหลังเมื่อเห็นองครักษ์อวิ๋นก้าวเข้ามาอย่างเงียบเชียบ ชายหนุ่มร่างสูงกระซิบบอกเล่าอะไรบางอย่างแก่ผู้ช่วยสาวด้วยท่าทางลิงโลดใจ
หวงตงหลิงได้ยินข่าวดีก็ถึงกับฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจ ดั่งว่าความทุกข์โศกที่นางแบกอยู่บนบ่าทั้งสองข้างได้ถูกปลดเปลื้องลงเสียที นางหันไปโบกมือสั่งให้สาวใช้ทั้งหมดในห้องออกไป ก่อนจะเดินไปที่กาน้ำร้อนแล้วเริ่มชงชาอย่างระมัดระวัง
ฟ่านลู่เสียนไม่ได้สนใจว่าผู้ช่วยหวงและองครักษ์ส่วนตัวของนางกำลังพูดคุยอะไรกัน เพราะดวงตายังคงจับจ้องมองเงาสะท้อนของตนเองในกระจก
เวลานี้นางไม่ใช่ ‘ฟ่านลู่เสียน’ บุตรพ่อค้าผ้าในตลาด แต่เป็น ‘คุณหนูเถาเหลียวเกอ’ ผู้ที่กำลังจะเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับองค์รัชทายาทรูปงามในอีกไม่กี่อึดใจนี้แล้ว
นางใช้ชีวิตในฐานะคนอื่นมากว่าห้าปี ชีวิตที่ราวกับเหยียบย่างอยู่บนกลีบเหมยฮวาแสนหวาน มีผู้คนรายล้อมนบนอบดั่งเป็นมือเป็นเท้า มีเงินทอง ข้าวของ บริวารมากมาย ใช้ชีวิตที่ราวกับกำลังฝันไป
“ข้ากลัวจะตื่นจากความฝันเสียจริง”
หญิงสาวยกมือขึ้นกุมแก้มตนเองแผ่วเบา ก่อนจะหวนคิดถึงสัมผัสอ่อนโยนขององค์รัชทายาทผู้เป็นคนรัก เขาจูบนางแผ่วเบาที่แก้มและริมฝีปาก บอกรักนางด้วยถ้อยคำแสนหวาน จับจูงนางออกงานสังคมไม่ว่างเว้นราวกับต้องการประกาศถึงความสัมพันธ์ที่แนบแน่น
นางเคยรู้สึกเจ็บปวด ด้วยคิดว่าผู้ที่หวงไท่จื่อรักคือ ‘เถาเหลียวเกอ’ ตัวจริง แต่การที่นางใช้ชีวิตเป็น ‘ตัวแทน’ ก็ไม่ได้ทำให้นางทุกข์ร้อนอะไร ในเมื่อตัวจริงได้เสียชีวิตไปนานแล้ว นางจึงขอใช้ชีวิตที่เหลือนี้ดั่งเงาของคุณหนูเถาด้วยความสุขตลอดไป
จนเมื่อนางได้รู้ความจริงจากผู้ช่วยหวง ว่าคุณหนูเถาและหวงไท่จื่อไม่เคยพบปะกันมาก่อน ด้วยเป็นการหมั้นหมายพระราชทานจากองค์ฮ่องเต้ ยังไม่ทันได้พบหน้าคร่าตาคุณหนูเถาก็มาด่วนจากไปก่อนวัยอันควรเสียก่อน
‘เช่นนั้นข้าหวังได้ใช่หรือไม่ ว่าคนที่หวงไท่จื่อรักก็คือข้า เขารักข้าที่เป็นข้า และเราทั้งสองกำลังจะแต่งงานครองคู่กันอย่างมีความสุข...’
ฟ่านลู่เสียนอมยิ้มกับตนเองในกระจก มีความสุขล้นจนหัวใจฟูฟ่องคับอบเมื่อคิดถึงบุรุษผู้เป็นที่รัก
“คุณหนูดื่มชาร้อนๆ สักแก้วก่อนเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวพอขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวเดินทางไปถึงวังจันทรา ต้องเข้าร่วมพิธีมากมายจนไม่ได้ดื่มน้ำสักหยดเป็นแน่”
ผู้ช่วยหวงถือแก้วชาร้อนมาวางไว้ตรงหน้าหญิงสาว ด้วยท่าทางอารมณ์ดี ริมฝีปากที่นิ่งสนิทเป็นเส้นตรงอยู่เสมอถึงกับยกยิ้มจนดูแปลกตา แตกต่างจากเมื่อครู่ที่ราวกับไร้ความรู้สึกโดยสิ้นเชิง
ฟ่านลู่เสียนเห็นผู้ช่วยสาวอารมณ์ดี ตนเองก็ยิ่งอารมณ์ดีไปด้วย เพราะปกติแล้วผู้ช่วยมักจะไม่แสดงสีหน้า อีกทั้งยังเจ้าระเบียบ คอยขนาบนางให้กลายเป็นคุณหนูเถาผู้เพียบพร้อมอยู่ตลอดเวลา ห้ามมีสิ่งใดผิดพลาด ห้ามทำให้ตระกูลเถาและคุณหนูเถาเสียชื่อเสียงเป็นอันขาด
ลู่เสียนไม่ค่อยเข้าใจนัก ในเมื่อนางใช้ชีวิตแทนคนที่ตายไปแล้ว เหตุใดนางจึงต้องรักษาชื่อเสียงของคนที่จากไปอยู่ตลอดเวลา แต่มาวันนี้นางเข้าใจแล้วว่าผู้ช่วยหวงและทุกๆ คนคงอยากให้นางเป็นสตรีที่เพียบพร้อมทั้งกาย วาจา และใจนั่นเองเฉกเช่นที่คุณหนูเถาเคยเป็นมาโดยตลอด